ด/ล ชุด“English for Everyday Activities”
**********
วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554
[1720] เรียนภาษาอังกฤษจากภาพ (อีกครั้ง)
สวัสดีครับ
วันก่อนผมพูดเรื่อง
“เรียนภาษาอังกฤษจากรูปภาพ ดีกว่าการท่องจำ” รู้สึกยังไม่จุใจ
วันนี้จึงรวบรวมเว็บที่ช่วยเพิ่มการจำคำศัพท์ โดยใช้ ภาพ – เสียง – วีดิโอ – test เข้ามาช่วย
ผมหวังว่าท่านผู้อ่านคงชอบ
www.languageguide.org/english
http://www.learnamericanenglishonline.com/Vocabulary.html
http://www.learnenglish.de/pictures.htm
http://www.learnenglish.de/vocabpage.htm
http://iteslj.org/v/ei/
http://www.manythings.org/lulu/
http://www.my-english-dictionary.com/
englishteststore.net
http://www.giveawayoftheday.com/2.learn+vocabulary+by+pictures+1.6/
http://www.enchantedlearning.com/Dictionary.html
ศึกษาเพิ่มเติม
http://freeenglishstudy.blogspot.com/2007/05/blog-post_70.html
http://www.tolearnenglish.com/
http://www.learnenglish-a-z.com/basic-english-vocabulary.html
http://thankiu.com/
http://www.tutornext.com/help/learn-vocabulary-by-picture
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันก่อนผมพูดเรื่อง
“เรียนภาษาอังกฤษจากรูปภาพ ดีกว่าการท่องจำ” รู้สึกยังไม่จุใจ
วันนี้จึงรวบรวมเว็บที่ช่วยเพิ่มการจำคำศัพท์ โดยใช้ ภาพ – เสียง – วีดิโอ – test เข้ามาช่วย
ผมหวังว่าท่านผู้อ่านคงชอบ
www.languageguide.org/english
http://www.learnamericanenglishonline.com/Vocabulary.html
http://www.learnenglish.de/pictures.htm
http://www.learnenglish.de/vocabpage.htm
http://iteslj.org/v/ei/
http://www.manythings.org/lulu/
http://www.my-english-dictionary.com/
englishteststore.net
http://www.giveawayoftheday.com/2.learn+vocabulary+by+pictures+1.6/
http://www.enchantedlearning.com/Dictionary.html
ศึกษาเพิ่มเติม
http://freeenglishstudy.blogspot.com/2007/05/blog-post_70.html
http://www.tolearnenglish.com/
http://www.learnenglish-a-z.com/basic-english-vocabulary.html
http://thankiu.com/
http://www.tutornext.com/help/learn-vocabulary-by-picture
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันเสาร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2554
[1719] เรียน 100 บทสนทนากับ goethe-verlag.com
สวัสดีครับ
เว็บ http://www.goethe-verlag.com/ มีบทสนทนาในสถานการณ์ต่าง ๆ ให้ท่านฝึกฟัง, ฝึกนึกตาม, ฝึกพูดตาม, ฝึกเขียนตาม ประกอบด้วยศัพท์ง่าย ๆ และประโยคสั้น ๆ ท่านสามารถเรียนและฝึกพูดให้คล่องวันละ 1 บท พอเริ่มวันใหม่ ก็ทบทวนบทเก่าก่อนเริ่มบทใหม่
บทเรียนนี้มี แปลระหว่างภาษาไทยและภาษาอื่น ๆ กว่า 40 ภาษา
http://www.book2.eu/members/TH/index.php
ส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษกับภาษาไทย อยู่ที่ลิงค์นี้
http://www.book2.eu/members/TH/THEN/THEN002.php
ถ้าท่านต้องการดู script mp3 ภาษาอังกฤษ ต้อง Sign up ก่อน
http://www.book2.eu/amember/signup.php
และกลับไปยัง email ที่ท่านให้ไว้ เพื่อคลิก activate และ Log in
ส่วนในการ Log in ครั้งหลัง ไปที่นี่
http://www.book2.eu/members/TH/THEN/THEN002.php
คลิกบทเรียน. คลิก Log in
การ activate ครั้งหนึ่งใช้ได้ฟรี 2 วัน (เลือก Bronze Membership)หลังจากนี้ด้อง Sign up ใหม่ โดยใช้ email ใหม่ หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องสมัครเป็นสมาชิกแบบเสียเงิน
แต่ถ้าท่านคิดว่า ฟัง mp3 ภาษาอังกฤษรู้เรื่องโดยไม่จำเป็นต้องดู Script ก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปเลยก็ได้
เมื่อเข้าไปที่หน้าแรก ซึ่งแสดงชื่อบทเรียนเป็นภาษาไทยแล้ว
http://www.goethe-verlag.com/book2/TH/THEN/THEN002.HTM
ให้คลิกฝึกไปทีละบท โดยผมขอแนะนำว่า ท่านสามารถฝึกได้ 2 วิธี
วิธีที่ 1
-ท่านอ่านประโยคภาษาไทยก่อน
-แล้วนึกว่า ภาษาอังกฤษมันควรจะเป็นอะไร,
-(ถ้าท่าน Sign in ตามข้างบนแล้ว หลังจากนึก {+เขียนลงกระดาษ}ประโยคภาษาอังกฤษแล้ว ก็คลิกที่แต่ละประโยคเพื่อดูเฉลยได้เลย)
-คลิกไอคอนลำโพงเพื่อฟังเสียง
-ฝึกพูดตาม
วิธีที่ 2
-คลิกไอคอนลำโพงเพื่อฟังเสียง
-ฝึกพูดตาม
-(ถ้าท่าน Sign in ตามข้างบนแล้ว ก็คลิกที่แต่ละประโยคเพื่อดูได้เลยว่า ตามที่ท่านได้ยินและออกเสียงตามนั้น มันใช่หรือเปล่า)
-ดู script แล้ว ฝึกพูดตามอีกครั้ง
ทำไปจบครบทุกประโยค
ถ้าต้องการดาวน์โหลดไฟล์ mp3 ก็เชิญได้ครับ
ดาวน์โหลดทั้ง 100 บท ประมาณ 90 MB คลิก
http://www.linguafree.com/book2/TH/THEN/THEN-all.zip
แต่ถ้าเน็ตช้า จะดาวน์โหลดทีละ 10 บท ก็คลิกข้างล่างนี้
บทที่:1-10-11-20-21-30-31-40-41-50-51-60-61-70-71-80-81-90-91-100
ผมเชื่อว่าทั้ง 100 บทเรียนนี้จะเป็นประโยชน์มากพอสมควรต่อท่านที่ต้องการฝึกพูดในระดับเริ่มต้น
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com.
เว็บ http://www.goethe-verlag.com/ มีบทสนทนาในสถานการณ์ต่าง ๆ ให้ท่านฝึกฟัง, ฝึกนึกตาม, ฝึกพูดตาม, ฝึกเขียนตาม ประกอบด้วยศัพท์ง่าย ๆ และประโยคสั้น ๆ ท่านสามารถเรียนและฝึกพูดให้คล่องวันละ 1 บท พอเริ่มวันใหม่ ก็ทบทวนบทเก่าก่อนเริ่มบทใหม่
บทเรียนนี้มี แปลระหว่างภาษาไทยและภาษาอื่น ๆ กว่า 40 ภาษา
http://www.book2.eu/members/TH/index.php
ส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษกับภาษาไทย อยู่ที่ลิงค์นี้
http://www.book2.eu/members/TH/THEN/THEN002.php
ถ้าท่านต้องการดู script mp3 ภาษาอังกฤษ ต้อง Sign up ก่อน
http://www.book2.eu/amember/signup.php
และกลับไปยัง email ที่ท่านให้ไว้ เพื่อคลิก activate และ Log in
ส่วนในการ Log in ครั้งหลัง ไปที่นี่
http://www.book2.eu/members/TH/THEN/THEN002.php
คลิกบทเรียน. คลิก Log in
การ activate ครั้งหนึ่งใช้ได้ฟรี 2 วัน (เลือก Bronze Membership)หลังจากนี้ด้อง Sign up ใหม่ โดยใช้ email ใหม่ หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องสมัครเป็นสมาชิกแบบเสียเงิน
แต่ถ้าท่านคิดว่า ฟัง mp3 ภาษาอังกฤษรู้เรื่องโดยไม่จำเป็นต้องดู Script ก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปเลยก็ได้
เมื่อเข้าไปที่หน้าแรก ซึ่งแสดงชื่อบทเรียนเป็นภาษาไทยแล้ว
http://www.goethe-verlag.com/book2/TH/THEN/THEN002.HTM
ให้คลิกฝึกไปทีละบท โดยผมขอแนะนำว่า ท่านสามารถฝึกได้ 2 วิธี
วิธีที่ 1
-ท่านอ่านประโยคภาษาไทยก่อน
-แล้วนึกว่า ภาษาอังกฤษมันควรจะเป็นอะไร,
-(ถ้าท่าน Sign in ตามข้างบนแล้ว หลังจากนึก {+เขียนลงกระดาษ}ประโยคภาษาอังกฤษแล้ว ก็คลิกที่แต่ละประโยคเพื่อดูเฉลยได้เลย)
-คลิกไอคอนลำโพงเพื่อฟังเสียง
-ฝึกพูดตาม
วิธีที่ 2
-คลิกไอคอนลำโพงเพื่อฟังเสียง
-ฝึกพูดตาม
-(ถ้าท่าน Sign in ตามข้างบนแล้ว ก็คลิกที่แต่ละประโยคเพื่อดูได้เลยว่า ตามที่ท่านได้ยินและออกเสียงตามนั้น มันใช่หรือเปล่า)
-ดู script แล้ว ฝึกพูดตามอีกครั้ง
ทำไปจบครบทุกประโยค
ถ้าต้องการดาวน์โหลดไฟล์ mp3 ก็เชิญได้ครับ
ดาวน์โหลดทั้ง 100 บท ประมาณ 90 MB คลิก
http://www.linguafree.com/book2/TH/THEN/THEN-all.zip
แต่ถ้าเน็ตช้า จะดาวน์โหลดทีละ 10 บท ก็คลิกข้างล่างนี้
บทที่:1-10-11-20-21-30-31-40-41-50-51-60-61-70-71-80-81-90-91-100
ผมเชื่อว่าทั้ง 100 บทเรียนนี้จะเป็นประโยชน์มากพอสมควรต่อท่านที่ต้องการฝึกพูดในระดับเริ่มต้น
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com.
[1718] “เรียนภาษาอังกฤษจากรูปภาพ ดีกว่าการท่องจำ”
สวัสดีครับ
Webmaster ของ weplearn.com ได้แนะนำเว็บของท่าน ที่นี่
www.programcalculator.com/photoenglish.php
ผมดูแล้ว เป็นเว็บที่น่าสนใจมาก ๆ ในการช่วยคนไทยเราเพิ่มคำศัพท์ได้อย่างสนุกสนาน คือจำได้เร็วและแม่น โดยสโลแกนของเว็บ คือ...
Learn English from photo is better.
เรียนภาษาอังฤษจากรูปภาพ ดีกว่าการท่องจำ
เว็บจะให้ภาพมาชุดหนึ่ง และคำศัพท์ 4 คำ หน้าที่ของท่านคือคลิกคำที่สอดคล้องกับภาพ เมื่อคลิกถูกแล้วก็คลิกเพื่อทำชุดใหม่ต่อไป เว็บจะยกภาพและศัพท์มาให้ทำแบบสุ่มหรือ random จึงเล่นได้อย่างสนุกไม่เบื่อเลย
ขอบคุณ webmaster www.weplearn.com มาก ๆ เลยครับ
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
Webmaster ของ weplearn.com ได้แนะนำเว็บของท่าน ที่นี่
www.programcalculator.com/photoenglish.php
ผมดูแล้ว เป็นเว็บที่น่าสนใจมาก ๆ ในการช่วยคนไทยเราเพิ่มคำศัพท์ได้อย่างสนุกสนาน คือจำได้เร็วและแม่น โดยสโลแกนของเว็บ คือ...
Learn English from photo is better.
เรียนภาษาอังฤษจากรูปภาพ ดีกว่าการท่องจำ
เว็บจะให้ภาพมาชุดหนึ่ง และคำศัพท์ 4 คำ หน้าที่ของท่านคือคลิกคำที่สอดคล้องกับภาพ เมื่อคลิกถูกแล้วก็คลิกเพื่อทำชุดใหม่ต่อไป เว็บจะยกภาพและศัพท์มาให้ทำแบบสุ่มหรือ random จึงเล่นได้อย่างสนุกไม่เบื่อเลย
ขอบคุณ webmaster www.weplearn.com มาก ๆ เลยครับ
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554
[1717] ภาษาอังกฤษกับแท็กซี่
เพิ่ม 11 มีนาคม 2555
ภาษาอังกฤษกับแท็กซี่ - ค้นโดย Google
สวัสดีครับ
ผมพยายามรวบรวมลิงค์การใช้ภาษาอังกฤษกับแท็กซี่ ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับบุคคล 2 ฝ่าย คือ
- คนขับรถแท็กซี่ในเมืองไทย ซึ่งรับผู้โดยสารเป็นคนต่างชาติ จึงต้องพูดภาษาอังกฤษ
- คนไทยที่ไปขึ้นรถแท็กซี่เมืองนอก และต้องพูดกับคนขับต่างชาติเป็นภาษาอังกฤษ
ลิงค์ข้างล่างนี้ไม่ค่อยสมบูรณ์นักหรอกครับ แต่ก็น่าจะมีประโยชน์อยู่บ้าง สำหรับโช่เฟอร์แท็กซี่ชาวไทยในเมืองไทย และผู้โดยสารชาวไทยในเมืองนอก
http://www.goethe-verlag.com/book2/TH/THEN/THEN040.HTM http://elearning.thaibizcenter.com/?txtLesson_ID=170 http://thai.langhub.com/content/view/176/45/lang,thai/ http://www.speakenglish.co.uk/phrases/travelling_by_taxi?lang=th http://www.englishfirst.co.th/community/Channels/article.aspx?articleName=taxi http://talking-eng.blogspot.com/2009/07/blog-post_27.html http://www.krukeng.info/forum/viewthread.php?tid=3314 http://www.ipecp.ac.th/cgi-binn/webeng/unit5/transport1.html ท่านใดพบลิงค์อื่น ช่วยแจ้งด้วยนะครับ จะได้นำมารวมไว้ที่เดียวกัน
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
ภาษาอังกฤษกับแท็กซี่ - ค้นโดย Google
สวัสดีครับ
ผมพยายามรวบรวมลิงค์การใช้ภาษาอังกฤษกับแท็กซี่ ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับบุคคล 2 ฝ่าย คือ
- คนขับรถแท็กซี่ในเมืองไทย ซึ่งรับผู้โดยสารเป็นคนต่างชาติ จึงต้องพูดภาษาอังกฤษ
- คนไทยที่ไปขึ้นรถแท็กซี่เมืองนอก และต้องพูดกับคนขับต่างชาติเป็นภาษาอังกฤษ
ลิงค์ข้างล่างนี้ไม่ค่อยสมบูรณ์นักหรอกครับ แต่ก็น่าจะมีประโยชน์อยู่บ้าง สำหรับโช่เฟอร์แท็กซี่ชาวไทยในเมืองไทย และผู้โดยสารชาวไทยในเมืองนอก
http://www.goethe-verlag.com/book2/TH/THEN/THEN040.HTM http://elearning.thaibizcenter.com/?txtLesson_ID=170 http://thai.langhub.com/content/view/176/45/lang,thai/ http://www.speakenglish.co.uk/phrases/travelling_by_taxi?lang=th http://www.englishfirst.co.th/community/Channels/article.aspx?articleName=taxi http://talking-eng.blogspot.com/2009/07/blog-post_27.html http://www.krukeng.info/forum/viewthread.php?tid=3314 http://www.ipecp.ac.th/cgi-binn/webeng/unit5/transport1.html ท่านใดพบลิงค์อื่น ช่วยแจ้งด้วยนะครับ จะได้นำมารวมไว้ที่เดียวกัน
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554
[1716]ที่นี่มีศัพท์ทุกคำ ที่ท่านต้องการหาความหมาย
สวัสดีครับ
ผมตั้งชื่อบทความวันนี้ว่า ที่นี่มีศัพท์ทุกคำ ที่ท่านต้องการค้นหาความหมาย และต่อไปนี้คือดิกชันนารี ที่ให้ท่านคลิกเข้าไปค้นหาความหมายของศัพท์ ที่ท่านสงสัย
[1] ดิกชันนารี ที่มีฐานข้อมูลเป็นพัน ๆ แหล่ง มีศัพท์ทางวิชาการมากมายหลายสาขา
www.onelook.com
www.yourdictionary.com
dictionary.reference.com
[2] ดิกชันนารี ที่สามารถค้นหาศัพท์เฉพาะ เช่น ชื่อคน สถานที่ ยี่ห้อสินค้า ฯลฯ
2.1 www.google.com
พิมพ์ define:ศัพท์, และคลิกที่ลิงค์ใต้ความหมายเพื่อดูรายละเอียด
ตัวอย่าง
dfine:yahoo
define:estee lauder
define:prada
define:louis Vuitton
define:Clinique
define:Carrefour
define:ipod
2.2 http://dictionary.babylon.com/encyclopedia/wikipedia-english/
คลิกดูตัวอย่าง
ชื่อคน albert einstein, confucius ขงจื๊อ, Obama, abhisit นายอภิสิทธิ์, Hun Sen นายกฮุนเซ็น
ชื่อสถานที่ rayong จังหวัดระยอง, bangkok, peking กรุงปักกิ่ง, kunming เมืองคุณหมิงของจีน
ชื่อยี่ห้อ pepsi,7-eleven, casio, honda, sunsilk, colgate คอลเกต, นาฬิกา Tag Heuer, nokia
[3] เว็บดิกชันนารี ที่เปิดโอกาสให้คนอ่านได้เข้าไปให้ความหมายของศัพท์ต่าง ๆ เรียกว่าเป็น open dictionary หลายคำไม่มีอยู่ในดิกชันนารีฉบับมาตรฐาน
3.1 ใช้ SEARCH ENTRIES ที่ด้านล่างเพื่อ Search
http://www3.merriam-webster.com/opendictionary/
3.2 ไม่มี Search ให้ค้น, ต้องคลิกดูแต่ละคำไป - ทีละหน้า
http://www.macmillandictionary.com/open-dictionary/index-alphabetical-order_page-1.htm
3.3 http://open-dictionary.com/
ผมหวังว่า ชื่อบทความที่ตั้งว่า ที่นี่มีศัพท์ทุกคำ ที่ท่านต้องการหาความหมาย เป็นอย่างนี้จริง ๆ
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
ผมตั้งชื่อบทความวันนี้ว่า ที่นี่มีศัพท์ทุกคำ ที่ท่านต้องการค้นหาความหมาย และต่อไปนี้คือดิกชันนารี ที่ให้ท่านคลิกเข้าไปค้นหาความหมายของศัพท์ ที่ท่านสงสัย
[1] ดิกชันนารี ที่มีฐานข้อมูลเป็นพัน ๆ แหล่ง มีศัพท์ทางวิชาการมากมายหลายสาขา
www.onelook.com
www.yourdictionary.com
dictionary.reference.com
[2] ดิกชันนารี ที่สามารถค้นหาศัพท์เฉพาะ เช่น ชื่อคน สถานที่ ยี่ห้อสินค้า ฯลฯ
2.1 www.google.com
พิมพ์ define:ศัพท์, และคลิกที่ลิงค์ใต้ความหมายเพื่อดูรายละเอียด
ตัวอย่าง
dfine:yahoo
define:estee lauder
define:prada
define:louis Vuitton
define:Clinique
define:Carrefour
define:ipod
2.2 http://dictionary.babylon.com/encyclopedia/wikipedia-english/
คลิกดูตัวอย่าง
ชื่อคน albert einstein, confucius ขงจื๊อ, Obama, abhisit นายอภิสิทธิ์, Hun Sen นายกฮุนเซ็น
ชื่อสถานที่ rayong จังหวัดระยอง, bangkok, peking กรุงปักกิ่ง, kunming เมืองคุณหมิงของจีน
ชื่อยี่ห้อ pepsi,7-eleven, casio, honda, sunsilk, colgate คอลเกต, นาฬิกา Tag Heuer, nokia
[3] เว็บดิกชันนารี ที่เปิดโอกาสให้คนอ่านได้เข้าไปให้ความหมายของศัพท์ต่าง ๆ เรียกว่าเป็น open dictionary หลายคำไม่มีอยู่ในดิกชันนารีฉบับมาตรฐาน
3.1 ใช้ SEARCH ENTRIES ที่ด้านล่างเพื่อ Search
http://www3.merriam-webster.com/opendictionary/
3.2 ไม่มี Search ให้ค้น, ต้องคลิกดูแต่ละคำไป - ทีละหน้า
http://www.macmillandictionary.com/open-dictionary/index-alphabetical-order_page-1.htm
3.3 http://open-dictionary.com/
ผมหวังว่า ชื่อบทความที่ตั้งว่า ที่นี่มีศัพท์ทุกคำ ที่ท่านต้องการหาความหมาย เป็นอย่างนี้จริง ๆ
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554
[1715] วีดิโอเรียนภาษาอังกฤษจากเว็บ manythings.org
สวัสดีครับ
เว็บ http://www.manythings.org/ เป็นเว็บเรียนภาษาอังกฤษที่ดีมาก ๆ, มากจนได้รับ PageRank จาก Google=7 ซึ่งถือว่าสูงมาก และดูเหมือนว่าทุกสิ่งที่ manythings.org จัดไว้ให้เพื่อการเรียนภาษาอังกฤษได้รับการ design มาเป็นอย่างดีแล้ว เรียนภาษาอังกฤษจากเว็บนี้จึงทั้งสนุกและได้ผล
ผมขอแนะนำให้ท่านเข้าไปสำรวจทุกปุ่มในเว็บนี้ และจะพบว่าน่าสนใจและมีประโยชน์ในการเรียนภาษาอังกฤษมากจริง ๆ
และวันนี้ลิงค์ในเว็บนี้ที่ผมต้องการแนะนำเป็นพิเศษ คือ วีดิโอ
ที่ลิงค์นี้ครับ http://www.manythings.org/b/e/
ที่คอลัมน์ขวามือ ใต้ Categories ท่านสามารถคลิกหัวข้อวีดิโอที่ท่านสนใจ
และเมื่อเข้าไปในหัวข้อหัวข้อหนึ่งแล้ว ถ้าตอนล่างของหน้ามีคำว่า
Older หรือ Newer ก็ให้คลิกที่นั่นด้วย
ถ้าต้องการดูเรื่องเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ ก็คลิกที่ tag นั้น ๆ ที่ลิงค์นี้ครับ
http://www.manythings.org/b/e/tags
ศึกษาเพิ่มเติม
PageRank จาก Google=7
http://grammar.ccc.commnet.edu/grammar/
http://www.learnersdictionary.com/
http://www.ldoceonline.com/
PageRank จาก Google=8
http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/
http://dictionary.cambridge.org/
http://www.merriam-webster.com/
http://www.eslcafe.com/ (คลิกใต้หัวข้อ STUFF FOR STUDENTS ที่คอลัมน์ซ้ายมือ)
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
เว็บ http://www.manythings.org/ เป็นเว็บเรียนภาษาอังกฤษที่ดีมาก ๆ, มากจนได้รับ PageRank จาก Google=7 ซึ่งถือว่าสูงมาก และดูเหมือนว่าทุกสิ่งที่ manythings.org จัดไว้ให้เพื่อการเรียนภาษาอังกฤษได้รับการ design มาเป็นอย่างดีแล้ว เรียนภาษาอังกฤษจากเว็บนี้จึงทั้งสนุกและได้ผล
ผมขอแนะนำให้ท่านเข้าไปสำรวจทุกปุ่มในเว็บนี้ และจะพบว่าน่าสนใจและมีประโยชน์ในการเรียนภาษาอังกฤษมากจริง ๆ
และวันนี้ลิงค์ในเว็บนี้ที่ผมต้องการแนะนำเป็นพิเศษ คือ วีดิโอ
ที่ลิงค์นี้ครับ http://www.manythings.org/b/e/
ที่คอลัมน์ขวามือ ใต้ Categories ท่านสามารถคลิกหัวข้อวีดิโอที่ท่านสนใจ
และเมื่อเข้าไปในหัวข้อหัวข้อหนึ่งแล้ว ถ้าตอนล่างของหน้ามีคำว่า
Older หรือ Newer ก็ให้คลิกที่นั่นด้วย
ถ้าต้องการดูเรื่องเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ ก็คลิกที่ tag นั้น ๆ ที่ลิงค์นี้ครับ
http://www.manythings.org/b/e/tags
ศึกษาเพิ่มเติม
PageRank จาก Google=7
http://grammar.ccc.commnet.edu/grammar/
http://www.learnersdictionary.com/
http://www.ldoceonline.com/
PageRank จาก Google=8
http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/
http://dictionary.cambridge.org/
http://www.merriam-webster.com/
http://www.eslcafe.com/ (คลิกใต้หัวข้อ STUFF FOR STUDENTS ที่คอลัมน์ซ้ายมือ)
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
[1714] “ชีวิตคือกาแฟถ้วยหนึ่ง” และเรื่องอื่น ๆ
สวัสดีครับ
ผมชอบเข้าไปที่เว็บ http://www.youtube.com/ เพราะรู้สึกว่า นอกจากจะเป็นแหล่งของ Multimedia ที่ให้เราหยิบเอามาใช้เรียนภาษาอังกฤษอย่างได้ผลและสนุกสนานแล้ว ยังมีอะไรอีกมากมายให้เรียนรู้ได้ไม่จบสิ้น
อย่างเช่นวีดิโอที่ให้แนวทาง สติ กำลังใจ ในการใช้ชีวิต Key word ภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยก็คือ positive thinking, motivation และ inspiration เป็นต้น โดยเขาจะนำเนื้อเรื่องหรือถ้อยคำที่กินใจ ภาพสวย ๆ และดนตรีประกอบที่ฟังแล้วใจร่าเริง มาให้ฟังและชม เรียกว่าเอาทุกอย่างมารวมกันเป็น “ศิลปะเพื่อชีวิต” ผมใช้คำนี้คงไม่ผิดนะครับ
อย่างเช่นวันนี้ผมไปเจอคลิปวีดิโอ เรื่อง Life Is Like A Cup of Coffee – ชีวิต คือ กาแฟถ้วยหนึ่ง ท่านลองคลิกชมดูซีครับ ทั้งเรื่องราว ถ้อยคำ ภาพ และเสียง น่าติดตามและคิดตามอย่างยิ่ง
Life Is Like A Cup of Coffee - Inspirational Video Movie
คลิก
สำหรับท่านที่ต้องการอ่าน script ของคลิปวีดิโอ ที่เป็นต้นฉบับภาษาอังกฤษ และภาษาไทยที่ผมแปล คลิกที่นี่ครับ
คลิก
ผมยังมีอีก 5 – 6 เรื่องให้ท่านชมข้างล่างนี้ เชิญครับ
A Fathers Love The Most Inspirational Video EVER!
The Goodness of Life
All A Blessing
Right Now
Your Own Goodness
Wonder of it All by Ralph Marston
Desiderata by Max Ehrmann
ศึกษาเพิ่มเติม
http://www.spiritual-short-stories.com/index.html
http://www.spiritual-short-stories.com/spiritual-short-stories-1-Original+Stories.html
http://www.spiritual-short-stories.com/spiritual-short-stories-1-Parables.html
http://www.spiritual-short-stories.com/spiritual-short-stories-2-Parables.html
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
ผมชอบเข้าไปที่เว็บ http://www.youtube.com/ เพราะรู้สึกว่า นอกจากจะเป็นแหล่งของ Multimedia ที่ให้เราหยิบเอามาใช้เรียนภาษาอังกฤษอย่างได้ผลและสนุกสนานแล้ว ยังมีอะไรอีกมากมายให้เรียนรู้ได้ไม่จบสิ้น
อย่างเช่นวีดิโอที่ให้แนวทาง สติ กำลังใจ ในการใช้ชีวิต Key word ภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยก็คือ positive thinking, motivation และ inspiration เป็นต้น โดยเขาจะนำเนื้อเรื่องหรือถ้อยคำที่กินใจ ภาพสวย ๆ และดนตรีประกอบที่ฟังแล้วใจร่าเริง มาให้ฟังและชม เรียกว่าเอาทุกอย่างมารวมกันเป็น “ศิลปะเพื่อชีวิต” ผมใช้คำนี้คงไม่ผิดนะครับ
อย่างเช่นวันนี้ผมไปเจอคลิปวีดิโอ เรื่อง Life Is Like A Cup of Coffee – ชีวิต คือ กาแฟถ้วยหนึ่ง ท่านลองคลิกชมดูซีครับ ทั้งเรื่องราว ถ้อยคำ ภาพ และเสียง น่าติดตามและคิดตามอย่างยิ่ง
Life Is Like A Cup of Coffee - Inspirational Video Movie
คลิก
สำหรับท่านที่ต้องการอ่าน script ของคลิปวีดิโอ ที่เป็นต้นฉบับภาษาอังกฤษ และภาษาไทยที่ผมแปล คลิกที่นี่ครับ
คลิก
ผมยังมีอีก 5 – 6 เรื่องให้ท่านชมข้างล่างนี้ เชิญครับ
A Fathers Love The Most Inspirational Video EVER!
The Goodness of Life
All A Blessing
Right Now
Your Own Goodness
Wonder of it All by Ralph Marston
Desiderata by Max Ehrmann
ศึกษาเพิ่มเติม
http://www.spiritual-short-stories.com/index.html
http://www.spiritual-short-stories.com/spiritual-short-stories-1-Original+Stories.html
http://www.spiritual-short-stories.com/spiritual-short-stories-1-Parables.html
http://www.spiritual-short-stories.com/spiritual-short-stories-2-Parables.html
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2554
[1713] เตรียมตัวไปสอบ Listening
สวัสดีครับ
จากปรสบการณ์ทั้งของตัวเองและของเพื่อน ๆ ที่เคยไปสอบภาษาอังกฤษเพื่อชิงทุนไปดูงานหรือฝึกอบรมระยะสั้นในต่างประเทศ คนอย่างพวกเราที่ไม่เคยไปใช้ชีวิตหรือเรียนที่เมืองนอก หรือแม้เรียนในเมืองไทยก็ไม่เคยเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษหรือโรงเรียนนานาชาติ การสอบภาษาอังกฤษ part Listening จึงทำให้พวกเรากังวล
เหตุที่ทำให้กังวลก็สั้นนิดเดียว คือฟังไม่รู้เรื่องและทำข้อสอบไม่ได้ ข้อสอบที่ทำมักจะคล้ายกัน คือให้ฟังข้อความสั้นบ้างยาวบ้าง และเลือกข้อ A, B, C, D ในกระดาษคำตอบ และบ่อยครั้งที่เกิดอาการงงสะสม คือ ทำข้อแรกเสร็จแล้วยังไม่หายงง ข้อ 2 และ 3 ก็ตามมาให้ฟังอีกแล้ว ยิ่งงงใหญ่ พอสอบ part Listening เสร็จ เขาจะให้พักเดี๋ยวนึง ไปเข้าห้องน้ำและสะบัดหน้าให้หายงง และเข้าห้องสอบอีกครั้งเพื่อสอบ part Reading, Structure หรือ Writing แต่ถ้าใจฟ่อมาจาก Part Listening พอเข้าห้องสอบอีกครั้งใจก็ชักท้อ ทำไปทำมาก็อาจจะแย่ไปทุก part
ท่านผู้อ่านที่เคยไปสอบ และทำ part Listening ไม่ค่อยได้เหมือนผมตอนนั้น อาจจะมีความรู้สึกร่วมอย่างนี้
แต่มาถึงยุคนี้ซึ่งมีอินเทอร์เน็ตใช้ ผมเห็นว่ามันง่ายขึ้นมาก ทั้งการ train และ test ตัวเองก่อนไปสอบ Listening
เรื่องการ train ผมรวบรวมเว็บต่าง ๆ ไว้ที่ลิงค์นี้ ให้ท่านเข้าไปฝึกฟังได้
listening
ส่วนในเรื่องการ test (และ train) ท่านสามารถให้ Google ช่วยหาเว็บได้อย่างง่าย ๆ ท่านเข้าไปคลิกเลือกได้เลยครับ
ระดับ Basic
ระดับ Intermediate
ระดับ Advanced
แต่จะบกว่าระดับไหน ง่าย ปานกลาง ยาก มันก็พูดยากครับ เพราะมันขึ้นอยู่กับทักษะดั้งเดิมของเราด้วยว่าแก่อ่อนปานใด
วันนี้ ผมดึงเว็บเกี่ยวเรื่อง Listening มาให้ท่านฝึก train และ test ตัวเอง 3 เว็บ พอเป็นตัวอย่าง
เว็บที่ 1: http://englishteststore.net/listening/
มี 6 ส่วนให้เลือกฝึก จากง่ายไปยาก
• English Pronunciation
• English Stress
สำหรับ 4 ส่วนข้างล่างนี้ ท่านสามารถคลิอที่ปุ่ม Note ที่แถบสีเขียว เพื่อดู script ของเสียงได้ (แต่ตอนฝึกไม่ควรดู)
• Same Meaning Sentences
• Short Conversation
• Long Conversation
• Lectures in English
เว็บที่ 2: http://www.examenglish.com/
เลือกคลิกส่วนที่เป็น Listening ที่ต้องการฝึกใต้คอลัมน์ Free Test กลางหน้า
เว็บที่ 3: http://www.esl-lab.com/
มีหลายประเภทให้ฝึกทำ คือ
General Listening Quizzes
Basic Listening Quizzes
Listening Quizzes for Academic Purposes
20-Minute ESL Vocabulary Lessons
Language Learning and Life Tips
Long Conversations with RealVideo
และในแต่ละประเภทยังแบ่งระดับเป็น
Easy, medium, difficult, very difficult
ให้เลือกทำ
ท่านสามารถเข้าไปฝึกและศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บที่ผมให้ไว้ข้างต้นครับ
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
จากปรสบการณ์ทั้งของตัวเองและของเพื่อน ๆ ที่เคยไปสอบภาษาอังกฤษเพื่อชิงทุนไปดูงานหรือฝึกอบรมระยะสั้นในต่างประเทศ คนอย่างพวกเราที่ไม่เคยไปใช้ชีวิตหรือเรียนที่เมืองนอก หรือแม้เรียนในเมืองไทยก็ไม่เคยเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษหรือโรงเรียนนานาชาติ การสอบภาษาอังกฤษ part Listening จึงทำให้พวกเรากังวล
เหตุที่ทำให้กังวลก็สั้นนิดเดียว คือฟังไม่รู้เรื่องและทำข้อสอบไม่ได้ ข้อสอบที่ทำมักจะคล้ายกัน คือให้ฟังข้อความสั้นบ้างยาวบ้าง และเลือกข้อ A, B, C, D ในกระดาษคำตอบ และบ่อยครั้งที่เกิดอาการงงสะสม คือ ทำข้อแรกเสร็จแล้วยังไม่หายงง ข้อ 2 และ 3 ก็ตามมาให้ฟังอีกแล้ว ยิ่งงงใหญ่ พอสอบ part Listening เสร็จ เขาจะให้พักเดี๋ยวนึง ไปเข้าห้องน้ำและสะบัดหน้าให้หายงง และเข้าห้องสอบอีกครั้งเพื่อสอบ part Reading, Structure หรือ Writing แต่ถ้าใจฟ่อมาจาก Part Listening พอเข้าห้องสอบอีกครั้งใจก็ชักท้อ ทำไปทำมาก็อาจจะแย่ไปทุก part
ท่านผู้อ่านที่เคยไปสอบ และทำ part Listening ไม่ค่อยได้เหมือนผมตอนนั้น อาจจะมีความรู้สึกร่วมอย่างนี้
แต่มาถึงยุคนี้ซึ่งมีอินเทอร์เน็ตใช้ ผมเห็นว่ามันง่ายขึ้นมาก ทั้งการ train และ test ตัวเองก่อนไปสอบ Listening
เรื่องการ train ผมรวบรวมเว็บต่าง ๆ ไว้ที่ลิงค์นี้ ให้ท่านเข้าไปฝึกฟังได้
listening
ส่วนในเรื่องการ test (และ train) ท่านสามารถให้ Google ช่วยหาเว็บได้อย่างง่าย ๆ ท่านเข้าไปคลิกเลือกได้เลยครับ
ระดับ Basic
ระดับ Intermediate
ระดับ Advanced
แต่จะบกว่าระดับไหน ง่าย ปานกลาง ยาก มันก็พูดยากครับ เพราะมันขึ้นอยู่กับทักษะดั้งเดิมของเราด้วยว่าแก่อ่อนปานใด
วันนี้ ผมดึงเว็บเกี่ยวเรื่อง Listening มาให้ท่านฝึก train และ test ตัวเอง 3 เว็บ พอเป็นตัวอย่าง
เว็บที่ 1: http://englishteststore.net/listening/
มี 6 ส่วนให้เลือกฝึก จากง่ายไปยาก
• English Pronunciation
• English Stress
สำหรับ 4 ส่วนข้างล่างนี้ ท่านสามารถคลิอที่ปุ่ม Note ที่แถบสีเขียว เพื่อดู script ของเสียงได้ (แต่ตอนฝึกไม่ควรดู)
• Same Meaning Sentences
• Short Conversation
• Long Conversation
• Lectures in English
เว็บที่ 2: http://www.examenglish.com/
เลือกคลิกส่วนที่เป็น Listening ที่ต้องการฝึกใต้คอลัมน์ Free Test กลางหน้า
เว็บที่ 3: http://www.esl-lab.com/
มีหลายประเภทให้ฝึกทำ คือ
General Listening Quizzes
Basic Listening Quizzes
Listening Quizzes for Academic Purposes
20-Minute ESL Vocabulary Lessons
Language Learning and Life Tips
Long Conversations with RealVideo
และในแต่ละประเภทยังแบ่งระดับเป็น
Easy, medium, difficult, very difficult
ให้เลือกทำ
ท่านสามารถเข้าไปฝึกและศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บที่ผมให้ไว้ข้างต้นครับ
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
[1712] เล่นจำศัพท์กับ flashcards.dictionary.com
สวัสดีครับ
เว็บนี้: http://flashcards.dictionary.com/
เป็นเว็บ dictionary และเขามีกิจกรรมให้เราเล่นเพื่อจะได้จำศัพท์ได้ง่าย ๆ และสนุก โดยใช้ flashcard ถ้าท่านสงสัยว่าเรื่องนี้เป็นยังไงก็ลองเข้าไปเล่นดูแล้วกันครับ โดยที่คอลัมน์ซ้ายมือของหน้ามีหลายเรื่องให้เล่น ผมเลือกมาบางอย่างข้างล่างนี้ครับ
Grade Levels
มีตั้งแต่ระดับ Kindergarten ไปจนถึง Grade 12
เมื่อคลิกเลือก Grade ที่จะเล่นแล้ว ให้ใช้เมาส์ลากสี่เหลี่ยมด้านซ้ายมือ มาวางไว้ที่ด้านขวามือ, คลิก BEGIN เพื่อเริ่มเล่น
Grade - kindergarten
Grade - 1
Grade-2
Grade-3
Grade-4
Grade-5
Grade-6
Grade-7
Grade-8
Grade-9
Grade-10
Grade-11
Grade-12
TOEFL
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
เว็บนี้: http://flashcards.dictionary.com/
เป็นเว็บ dictionary และเขามีกิจกรรมให้เราเล่นเพื่อจะได้จำศัพท์ได้ง่าย ๆ และสนุก โดยใช้ flashcard ถ้าท่านสงสัยว่าเรื่องนี้เป็นยังไงก็ลองเข้าไปเล่นดูแล้วกันครับ โดยที่คอลัมน์ซ้ายมือของหน้ามีหลายเรื่องให้เล่น ผมเลือกมาบางอย่างข้างล่างนี้ครับ
Grade Levels
มีตั้งแต่ระดับ Kindergarten ไปจนถึง Grade 12
เมื่อคลิกเลือก Grade ที่จะเล่นแล้ว ให้ใช้เมาส์ลากสี่เหลี่ยมด้านซ้ายมือ มาวางไว้ที่ด้านขวามือ, คลิก BEGIN เพื่อเริ่มเล่น
Grade - kindergarten
Grade - 1
Grade-2
Grade-3
Grade-4
Grade-5
Grade-6
Grade-7
Grade-8
Grade-9
Grade-10
Grade-11
Grade-12
TOEFL
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
[1711]เรียนภาษาอังกฤษจากเว็บประเภท “How-to”
สวัสดีครับ
ผมชอบเว็บประเภท How-to เพราะเขาจะแนะนำวิธีการทำสิ่งนั้นสิ่งนี้สารพัดอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ฆ้อนตอกตะปู การจำศัพท์ การฟอร์แม็ตเครื่องคอมพิวเตอร์ การลดน้ำหนัก การเลิกบุหรี่ และอีกมากมายสารพัดเรื่อง มีทั้งบทความให้อ่าน และคลิปวีดิโอให้ดู เมื่อเข้าไปในเว็บก็เพียงพิมพ์ key word ที่ต้องการค้นเรื่องลงไป ผมหามาได้ประมาณ 10 เว็บ
แต่เว็บที่ชอบใจมากที่สุดก็คือเว็บ ehow.com
เมื่อท่านพิมพ์คำค้นลงไปแล้ว และ Enter
-ถ้าต้องการฝึกการฟังภาษาอังกฤษ ก็ให้คลิกที่ Video ที่คอลัมน์ซ้ายมือ, หลังจากนี้ก็เลือกคลิกคลิปวีดิโอที่ลิงค์กลางหน้า
-ถ้าต้องการอ่านข้อความบทพูดในวีดิโอ ก็ให้คลิก View Transcript ที่มุมล่างขวาของจอวีดิโอ [ตรงนี้ดีมากครับ!!]
-ถ้าต้องการดาวน์โหลดวีดิโอ อ่านคำแนะนำที่นี่ครับ คลิก
เชิญครับ http://www.ehow.com/
และยังมีเว็บ How – to อีกหลายเว็บที่น่าเข้าไปสำรวจ ได้ทั้งความรู้ ทักษะ และฝึกภาษาอังกฤษไปพร้อมกัน ข้างล่างนี้ครับ
http://www.howstuffworks.com/
http://www.howtodothings.com/
http://www.wikihow.com/
http://www.instructables.com/
http://www.wonderhowto.com/
http://www.videojug.com/
http://www.howcast.com/
http://www.soyouwanna.com/
http://www.5min.com/
อันที่จริงเว็บ วีดิโอของ Google ก็ใช้ได้
http://video.google.com/
ผมแนะนำให้ท่านพิมพ์คำว่า how to และต่อด้วย Key word ที่ต้องการค้น เช่น how to speak English well
ก็จะได้ชมวีดิโอ How to ตามที่ต้องการ
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
ผมชอบเว็บประเภท How-to เพราะเขาจะแนะนำวิธีการทำสิ่งนั้นสิ่งนี้สารพัดอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ฆ้อนตอกตะปู การจำศัพท์ การฟอร์แม็ตเครื่องคอมพิวเตอร์ การลดน้ำหนัก การเลิกบุหรี่ และอีกมากมายสารพัดเรื่อง มีทั้งบทความให้อ่าน และคลิปวีดิโอให้ดู เมื่อเข้าไปในเว็บก็เพียงพิมพ์ key word ที่ต้องการค้นเรื่องลงไป ผมหามาได้ประมาณ 10 เว็บ
แต่เว็บที่ชอบใจมากที่สุดก็คือเว็บ ehow.com
เมื่อท่านพิมพ์คำค้นลงไปแล้ว และ Enter
-ถ้าต้องการฝึกการฟังภาษาอังกฤษ ก็ให้คลิกที่ Video ที่คอลัมน์ซ้ายมือ, หลังจากนี้ก็เลือกคลิกคลิปวีดิโอที่ลิงค์กลางหน้า
-ถ้าต้องการอ่านข้อความบทพูดในวีดิโอ ก็ให้คลิก View Transcript ที่มุมล่างขวาของจอวีดิโอ [ตรงนี้ดีมากครับ!!]
-ถ้าต้องการดาวน์โหลดวีดิโอ อ่านคำแนะนำที่นี่ครับ คลิก
เชิญครับ http://www.ehow.com/
และยังมีเว็บ How – to อีกหลายเว็บที่น่าเข้าไปสำรวจ ได้ทั้งความรู้ ทักษะ และฝึกภาษาอังกฤษไปพร้อมกัน ข้างล่างนี้ครับ
http://www.howstuffworks.com/
http://www.howtodothings.com/
http://www.wikihow.com/
http://www.instructables.com/
http://www.wonderhowto.com/
http://www.videojug.com/
http://www.howcast.com/
http://www.soyouwanna.com/
http://www.5min.com/
อันที่จริงเว็บ วีดิโอของ Google ก็ใช้ได้
http://video.google.com/
ผมแนะนำให้ท่านพิมพ์คำว่า how to และต่อด้วย Key word ที่ต้องการค้น เช่น how to speak English well
ก็จะได้ชมวีดิโอ How to ตามที่ต้องการ
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554
[1710] random word generator
สวัสดีครับ
วันนี้ขอแนะนำ 2 เว็บที่เป็น random word generator ซึ่งเป็นการเล่นเพื่อเพิ่มคำศัพท์
เมื่อคลิก Refresh ก็จะเป็นคำใหม่
เว็บที่ 1: ศัพท์ + ความหมาย + ภาพ
http://www.randomword.net/
เว็บที่ 2: ศัพท์ + ความหมาย +ประโยคตัวอย่าง
RANDOM WORD GENERATOR
http://www.world-english.org/tests.htm
แถม:
RANDOM PHRASAL VERB GENERATOR
http://www.anglik.net/konkurs.htm
RANDOM ENGLISH SLANG GENERATOR
http://www.world-english.org/slang.htm
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันนี้ขอแนะนำ 2 เว็บที่เป็น random word generator ซึ่งเป็นการเล่นเพื่อเพิ่มคำศัพท์
เมื่อคลิก Refresh ก็จะเป็นคำใหม่
เว็บที่ 1: ศัพท์ + ความหมาย + ภาพ
http://www.randomword.net/
เว็บที่ 2: ศัพท์ + ความหมาย +ประโยคตัวอย่าง
RANDOM WORD GENERATOR
http://www.world-english.org/tests.htm
แถม:
RANDOM PHRASAL VERB GENERATOR
http://www.anglik.net/konkurs.htm
RANDOM ENGLISH SLANG GENERATOR
http://www.world-english.org/slang.htm
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554
[1709] ทดสอบความเข้าใจในการอ่าน
เพิ่มเติม 15 มกราคม 2555:
สวัสดีครับ
ข้อสอบภาษาอังกฤษที่เราต้องเจอตอนสอบเรียนต่อ สอบชิงทุน สอบไปดูงานต่างประเทศ หรือสอบเข้าทำงานหรือเลื่อนตำแหน่ง มักมี part Reading ให้ทำเสมอ คนที่จะทำได้ต้องอ่านรู้เรื่องและอ่านเร็ว และไม่งงเมื่อเขาตั้งคำถามหรอก
ถ้าถามว่า จะอ่านรู้เรื่องต้องรู้อะไรบ้าง ผมขอตอบง่าย ๆ ว่า ต้องรู้อย่างน้อย 3 อย่าง คือ 1)รู้ศัพท์ 2)รู้โครงสร้างประโยค และ 3)ตีโจทย์แตกเมื่อถูกถาม และการรู้ทั้ง 3 สิ่งนี้ ย่อมได้มาด้วยการฝึกอ่านบ่อย ๆ ยิ่งฝึกอ่านบ่อยเท่าไรก็จะอ่านเก่งมากชึ้นเท่านั้น
แต่มีอีกอย่างหนึ่งที่น่าจะฝึกไปพร้อม ๆ กับการอ่าน ก็คือฝึกทำ test ความเข้าใจของตัวเองในการอ่าน การทำ test มีประโยชน์หลายอย่าง เช่น...
1)เป็นการบังคับให้เรามีสมาธิมากขึ้นขณะที่อ่าน เพราะต้องอ่านให้รู้เรื่อง จับประเด็นให้ได้
2)ทำให้รู้ว่า เรามีจุดบกพร่องอย่างไรในการอ่าน จะได้แก้ไขและฝึกฝนได้ถูกจุด เช่น
-ไม่รู้ศัพท์ หรือเดาศัพท์ไม่ออก ทำให้แปลไม่รู้เรื่อง
-รู้ศัพท์ แต่ไม่รู้โครงสร้างประโยค ทำให้เข้าใจไม่กระจ่าง
-รู้ทั้งศัพท์และโครงสร้างประโยค และอ่านเข้าใจ แต่อ่านได้ช้าเกินไป ทำข้อสอบ Reading ทีไรไม่ทันเวลาสักที อย่างนี้ก็ต้องปรับปรุงเช่นกัน
-ฯลฯ
วันนี้ผมได้รวมรวมเว็บ Reading ที่มี test ให้ทำเมื่ออ่านจบพร้อมดูเฉลย ท่านลองทำเล่นเป็นระยะ ๆ ซีครับ สนุกเครับ
http://www.5minuteenglish.com/reading.htm
http://www.examenglish.com/IELTS_reading.htm
http://www.pearsonlongman.com/ae/marketing/sfesl/practicereading.html
http://www.shafston.edu/component/option,com_facileforms/Itemid,475/
http://www.englishclub.com/reading/
ระดับ Basic
http://www.englishclub.com/reading/test.htm
http://www.world-english.org/english_reading.htm
http://www.learnenglish.de/englishtestspage.html#Reading
http://www.bbc.co.uk/schools/ks3bitesize/english/reading/
ระดับ Basic เว็บอื่น ๆ คลิก
จาก ง่าย ไป ยาก
http://web2.uvcs.uvic.ca/courses/elc/studyzone/200/reading/
http://web2.uvcs.uvic.ca/courses/elc/studyzone/330/reading/
http://web2.uvcs.uvic.ca/courses/elc/studyzone/410/reading/
http://web2.uvcs.uvic.ca/courses/elc/studyzone/490/reading/
http://web2.uvcs.uvic.ca/elc/studyzone/570/pulp/hemp3.htm
http://www.englishlearner.com/tests/beginner_reading_1.shtml
http://www.englishlearner.com/tests/intermediate_reading_test_1.shtml
ระดับ Intermediate
ระดับ Advanced
คลิกเข้า ห้องอ่านหนังสือ
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554
[1708] แนะนำ ทดสอบศัพท์ อังกฤษ < - > ไทย หลายเว็บ
สวัสดีครับ
วันนี้ผมมีการทดสอบศัพท์ อังกฤษ < - > ไทย หลายเว็บ มาแนะนำ
สนุก น่าสนใจ และท้าทายดีครับ
ภาษาอังกฤษ (เบื้องต้น)
1. หาความหมายจากประโยค
http://www.thaiall.com/quiz/test10.php?subj=engl101
เมื่อคลิก Refresh จะได้ข้อสอบชุดใหม่
2. เติมคำให้ประโยคสมบูรณ์
http://www.thaiall.com/quiz/test10.php?subj=engl102
เมื่อคลิก Refresh จะได้ข้อสอบชุดใหม่
3. หาความหมายจากประโยค
http://www.thaiall.com/quiz/test10.php?subj=engl103
เมื่อคลิก Refresh จะได้ข้อสอบชุดใหม่
แบบทดสอบศัพท์ภาษาอังกฤษ ระดับต้น
1.(Perl ตรวจหลังทำเสร็จ 5 ข้อ)
http://www.thaiall.com/cgi/quiz.pl?englishbasic&5
เมื่อคลิก Refresh จะได้ข้อสอบชุดใหม่
2.(Perl ตรวจหลังทำเสร็จ 30 ข้อ)
http://www.thaiall.com/cgi/quiz.pl?englishbasic&30
เมื่อคลิก Refresh จะได้ข้อสอบชุดใหม่
3.(Javascript เฉลยทันที 5 ข้อ)
http://www.thaiall.com/cgi/quizjava.pl?englishbasic&5
เมื่อคลิก Refresh จะได้ข้อสอบชุดใหม่
4.(Javascript เฉลยทันที 30 ข้อ)
http://www.thaiall.com/cgi/quizjava.pl?englishbasic&30
เมื่อคลิก Refresh จะได้ข้อสอบชุดใหม่
แบบทดสอบศัพท์ภาษาอังกฤษ (ศัพท์ยาก)
ระดับ TOEFL, GMAT, GRE และ ENTRANCE
ข้อสอบชุดนี้ ท่านจะไม่เบื่อ เพราะสุ่มทั้งคำถาม และตัวเลือก จากศัพท์ 9000 คำ
1.ทำข้อสอบ 5 ข้อ เหมาะกับผู้รีบเร่ง
เมื่อคลิก Refresh จะได้ข้อสอบชุดใหม่
อังกฤษ - ไทย
http://www.thaiall.com/cgi/qvoch.pl?5&E
ไทย - อังกฤษ
http://www.thaiall.com/cgi/qvoch.pl?5&T
2. ทำข้อสอบ 30 ข้อ เหมาะกับผู้ต้องการเรียนรู้อะไรแปลกใหม่
เมื่อคลิก Refresh จะได้ข้อสอบชุดใหม่
อังกฤษ - ไทย
http://www.thaiall.com/cgi/qvoch.pl?30&E
ไทย - อังกฤษ
http://www.thaiall.com/cgi/qvoch.pl?30&T
3.ทำข้อสอบ 60 ข้อ เหมาะกับผู้ที่ต้องการทดสอบความรู้ของตน
เมื่อคลิก Refresh จะได้ข้อสอบชุดใหม่
อังกฤษ - ไทย
http://www.thaiall.com/cgi/qvoch.pl?60&E
ไทย - อังกฤษ
http://www.thaiall.com/cgi/qvoch.pl?60&T
ทดสอบศัพท์ อังกฤษ - ไทย
http://iteslj.org/v/th/
ทดสอบภาษาอังกฤษ
http://www.engtest.net/
แถม: ภาษาอังกฤษสำหรับด็กเล็ก ๆ
http://www.karn.tv/english.aspx
http://www.lovekid.com/html/englishalphabet/main_engalphabet.htm
http://202.143.162.220/httpdocs/project/B5.html
http://forum.khonkaenlink.info/index.php?topic=85291.0
http://www.mediafire.com/?ztdmnjyydjj
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันนี้ผมมีการทดสอบศัพท์ อังกฤษ < - > ไทย หลายเว็บ มาแนะนำ
สนุก น่าสนใจ และท้าทายดีครับ
ภาษาอังกฤษ (เบื้องต้น)
1. หาความหมายจากประโยค
http://www.thaiall.com/quiz/test10.php?subj=engl101
เมื่อคลิก Refresh จะได้ข้อสอบชุดใหม่
2. เติมคำให้ประโยคสมบูรณ์
http://www.thaiall.com/quiz/test10.php?subj=engl102
เมื่อคลิก Refresh จะได้ข้อสอบชุดใหม่
3. หาความหมายจากประโยค
http://www.thaiall.com/quiz/test10.php?subj=engl103
เมื่อคลิก Refresh จะได้ข้อสอบชุดใหม่
แบบทดสอบศัพท์ภาษาอังกฤษ ระดับต้น
1.(Perl ตรวจหลังทำเสร็จ 5 ข้อ)
http://www.thaiall.com/cgi/quiz.pl?englishbasic&5
เมื่อคลิก Refresh จะได้ข้อสอบชุดใหม่
2.(Perl ตรวจหลังทำเสร็จ 30 ข้อ)
http://www.thaiall.com/cgi/quiz.pl?englishbasic&30
เมื่อคลิก Refresh จะได้ข้อสอบชุดใหม่
3.(Javascript เฉลยทันที 5 ข้อ)
http://www.thaiall.com/cgi/quizjava.pl?englishbasic&5
เมื่อคลิก Refresh จะได้ข้อสอบชุดใหม่
4.(Javascript เฉลยทันที 30 ข้อ)
http://www.thaiall.com/cgi/quizjava.pl?englishbasic&30
เมื่อคลิก Refresh จะได้ข้อสอบชุดใหม่
แบบทดสอบศัพท์ภาษาอังกฤษ (ศัพท์ยาก)
ระดับ TOEFL, GMAT, GRE และ ENTRANCE
ข้อสอบชุดนี้ ท่านจะไม่เบื่อ เพราะสุ่มทั้งคำถาม และตัวเลือก จากศัพท์ 9000 คำ
1.ทำข้อสอบ 5 ข้อ เหมาะกับผู้รีบเร่ง
เมื่อคลิก Refresh จะได้ข้อสอบชุดใหม่
อังกฤษ - ไทย
http://www.thaiall.com/cgi/qvoch.pl?5&E
ไทย - อังกฤษ
http://www.thaiall.com/cgi/qvoch.pl?5&T
2. ทำข้อสอบ 30 ข้อ เหมาะกับผู้ต้องการเรียนรู้อะไรแปลกใหม่
เมื่อคลิก Refresh จะได้ข้อสอบชุดใหม่
อังกฤษ - ไทย
http://www.thaiall.com/cgi/qvoch.pl?30&E
ไทย - อังกฤษ
http://www.thaiall.com/cgi/qvoch.pl?30&T
3.ทำข้อสอบ 60 ข้อ เหมาะกับผู้ที่ต้องการทดสอบความรู้ของตน
เมื่อคลิก Refresh จะได้ข้อสอบชุดใหม่
อังกฤษ - ไทย
http://www.thaiall.com/cgi/qvoch.pl?60&E
ไทย - อังกฤษ
http://www.thaiall.com/cgi/qvoch.pl?60&T
ทดสอบศัพท์ อังกฤษ - ไทย
http://iteslj.org/v/th/
ทดสอบภาษาอังกฤษ
http://www.engtest.net/
แถม: ภาษาอังกฤษสำหรับด็กเล็ก ๆ
http://www.karn.tv/english.aspx
http://www.lovekid.com/html/englishalphabet/main_engalphabet.htm
http://202.143.162.220/httpdocs/project/B5.html
http://forum.khonkaenlink.info/index.php?topic=85291.0
http://www.mediafire.com/?ztdmnjyydjj
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554
[1707] แนะนำ The Complete English Grammar Series
สวัสดีครับ
คลิปวีดิโอที่นำมาแนะนำวันนี้ ท่านที่ไม่ชอบแกรมมาร์อาจจะไม่ชอบ เพราะมันเป็นการบรรยายแกรมมาร์โดยฝรั่ง ชื่อชุด The Complete English Grammar Series มีทั้งหมด 10 ตอน ๆ ละชั่วโมงกว่า ๆ ผมเองลองชมดูแล้วก็รู้สึกว่าเป็นการสอนแบบโบราณ ไม่น่าสนใจเหมือนหลายคลิปที่เคยดู แต่อย่างไรก็ตาม วีดิโอชุดนี้อาจจะมีประโยชน์อยู่บ้าง เช่น
-สำหรับครูที่ต้องสอนเด็ก อาจได้ไอเดียอะไรบางอย่าง
-สำหรับท่านที่ศึกษาภาษาอังกฤษ ถ้าท่านบ่นว่าเกิดมาไม่เคยเรียนกับครูฝรั่งเลย ลองชมวีดิโอชุดนี้ดูซีครับ แล้วจะรู้ว่า ไม่ว่าครูชาติไหนก็มีพรสวรรค์สามารถสอนแกรมมาร์ได้น่าเบื่อเท่าเทียมกันหมด
ถ้าท่านรู้สึกและเห็นด้วยตามประโยคตัวเอนข้างบนนี้ ผมก็อยากจะบอกว่า อย่าไปรู้สึกอย่างนั้นเลยครับ เพราะจริง ๆ แล้วแกรมมาร์ก็มีอะไรที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย และการเข้าใจและใช้แกรมมาร์ได้ถูกต้องเมื่อพูดและเขียน ก็จะทำให้ภาษาที่เราใช้ชัดเจน น่าสนใจ มีประสิทธิภาพ และมีพลัง
วีดิโอชุด The Complete English Grammar Series ผมได้มาจากลิงค์นี้
http://www.soku.com/search_video/q_english+grammar+series_orderby_1
มี 10 ตอนดังนี้ครับ เชิญคลิกชมได้เลย
01 - Sentence Structure
http://v.youku.com/v_show/id_XODU5MDk5NzI=.html
02 - Parts of Speech
http://v.youku.com/v_show/id_XODU5MDgzODg=.html
03 - Sentence Complements
http://v.youku.com/v_show/id_XMTU1ODA1MTU2.html
04 - Verbs
http://v.youku.com/v_show/id_XMTU1ODA1MjEy.html
05 – Pronouns
http://v.youku.com/v_show/id_XMTU1ODA1MzUy.html
06 - Agreement
http://v.youku.com/v_show/id_XMTU1ODA1NDg0.html
07 – Modifiers
http://v.youku.com/v_show/id_XMTU1ODA1NTIw.html
08 – Parallel Structure
http://v.youku.com/v_show/id_XMTU1ODA1NTgw.html
09 – Punctuation
http://v.youku.com/v_show/id_XMTU1ODA1NjIw.html
10 – Spelling & Capitalization
http://v.youku.com/v_show/id_XMTU1ODA1NzI0.html
สำหรับท่านที่ต้องการดาวน์โหลดคลิปวีดิโอ
1.เข้าไปที่เว็บนี้ http://clipnabber.com/
2.นำ url ของวีดิโอที่ต้องการดาวน์โหลด ไป paste ในช่องของเว็บนี้, Enter, รอสักครู่
3.เว็บจะแตกวีดิโอออกเป็นหลาย ๆ Part ให้ท่านดาวน์โหลดทีละ Part โดยคลิกขวาที่ Part…, และคลิกซ้าย Save Target As… และหาที่ Save ในเครื่องคอมฯ ของท่าน
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
คลิปวีดิโอที่นำมาแนะนำวันนี้ ท่านที่ไม่ชอบแกรมมาร์อาจจะไม่ชอบ เพราะมันเป็นการบรรยายแกรมมาร์โดยฝรั่ง ชื่อชุด The Complete English Grammar Series มีทั้งหมด 10 ตอน ๆ ละชั่วโมงกว่า ๆ ผมเองลองชมดูแล้วก็รู้สึกว่าเป็นการสอนแบบโบราณ ไม่น่าสนใจเหมือนหลายคลิปที่เคยดู แต่อย่างไรก็ตาม วีดิโอชุดนี้อาจจะมีประโยชน์อยู่บ้าง เช่น
-สำหรับครูที่ต้องสอนเด็ก อาจได้ไอเดียอะไรบางอย่าง
-สำหรับท่านที่ศึกษาภาษาอังกฤษ ถ้าท่านบ่นว่าเกิดมาไม่เคยเรียนกับครูฝรั่งเลย ลองชมวีดิโอชุดนี้ดูซีครับ แล้วจะรู้ว่า ไม่ว่าครูชาติไหนก็มีพรสวรรค์สามารถสอนแกรมมาร์ได้น่าเบื่อเท่าเทียมกันหมด
ถ้าท่านรู้สึกและเห็นด้วยตามประโยคตัวเอนข้างบนนี้ ผมก็อยากจะบอกว่า อย่าไปรู้สึกอย่างนั้นเลยครับ เพราะจริง ๆ แล้วแกรมมาร์ก็มีอะไรที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย และการเข้าใจและใช้แกรมมาร์ได้ถูกต้องเมื่อพูดและเขียน ก็จะทำให้ภาษาที่เราใช้ชัดเจน น่าสนใจ มีประสิทธิภาพ และมีพลัง
วีดิโอชุด The Complete English Grammar Series ผมได้มาจากลิงค์นี้
http://www.soku.com/search_video/q_english+grammar+series_orderby_1
มี 10 ตอนดังนี้ครับ เชิญคลิกชมได้เลย
01 - Sentence Structure
http://v.youku.com/v_show/id_XODU5MDk5NzI=.html
02 - Parts of Speech
http://v.youku.com/v_show/id_XODU5MDgzODg=.html
03 - Sentence Complements
http://v.youku.com/v_show/id_XMTU1ODA1MTU2.html
04 - Verbs
http://v.youku.com/v_show/id_XMTU1ODA1MjEy.html
05 – Pronouns
http://v.youku.com/v_show/id_XMTU1ODA1MzUy.html
06 - Agreement
http://v.youku.com/v_show/id_XMTU1ODA1NDg0.html
07 – Modifiers
http://v.youku.com/v_show/id_XMTU1ODA1NTIw.html
08 – Parallel Structure
http://v.youku.com/v_show/id_XMTU1ODA1NTgw.html
09 – Punctuation
http://v.youku.com/v_show/id_XMTU1ODA1NjIw.html
10 – Spelling & Capitalization
http://v.youku.com/v_show/id_XMTU1ODA1NzI0.html
สำหรับท่านที่ต้องการดาวน์โหลดคลิปวีดิโอ
1.เข้าไปที่เว็บนี้ http://clipnabber.com/
2.นำ url ของวีดิโอที่ต้องการดาวน์โหลด ไป paste ในช่องของเว็บนี้, Enter, รอสักครู่
3.เว็บจะแตกวีดิโอออกเป็นหลาย ๆ Part ให้ท่านดาวน์โหลดทีละ Part โดยคลิกขวาที่ Part…, และคลิกซ้าย Save Target As… และหาที่ Save ในเครื่องคอมฯ ของท่าน
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2554
[1706]คำตอบคือใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน(ผ่านการดูวีดิโอ)
สวัสดีครับ
ในฐานะที่เรียนจบและทำงานแล้ว ผมมักได้ยินคนที่ทำงานด้วยกันพูดเสมอว่า ภาษาอังกฤษที่ร่ำเรียนมา ถ้างานที่ทำไม่มีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษ ไม่นานก็ลืม และถ้าลืมไปนานเพียงใด ความยากที่จะรื้อฟื้นก็มากเพียงนั้น เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ได้ทำงานที่ใช้ภาษาอังกฤษ จะมากะเกณฑ์ให้ฉันเก่งภาษาอังกฤษได้ยังไง?
การพูดเช่นนี้เหมือนกับโยนความผิดไปให้งาน เพราะงานทำให้เราไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ เราก็เลยลืมมัน ฟังดูก็เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้น แต่ก็ฟังไม่ขึ้น เพราะว่า โลกทุกวันนี้แคบลง การติดต่อด้วยภาษาอังกฤษกับคนต่างชาติมีมากขึ้น และแม้ว่าเราจะไม่ได้ติดต่อทุกวัน หรือนาน ๆ จะติดต่อสักครั้ง เมื่อถึงเวลาที่ต้องติดต่อ ไม่ว่าเราจะเป็นนายจ้างหรือลูกจ้าง มันก็จำเป็นที่เราต้องสามารถสื่อสารกับเขาให้ได้ สมัยก่อน ๆ ในหน่วยงานอาจจะมีหน่วยงานเฉพาะที่ติดต่อกับต่างประเทศ แต่ทุกวันนี้ผมเชื่อว่าทุกแผนกต้องมีเจ้าหน้าที่ของตัวเองอย่างน้อย 1 หรือ 2 คนที่พูดภาษาอังกฤษได้
และเมื่อย้อนกลับไปคำถามเก่า คือ ในเมื่อเราไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน ทำอย่างไรเราจึงจะมีทักษะภาษาอังกฤษให้เพียงพอต่อการใช้งานอยู่เสมอ ซึ่งก็ยากอยู่เหมือนกัน มันไม่เหมือนกับเราซื้อมีดมา 1 เล่ม ถ้าไม่มีงานให้ใช้ก็เก็บไว้ พอถึงเวลาต้องใช้ก็ดึงออกมาใช้ได้ทันที แต่ทักษะภาษาอังกฤษไม่ได้เป็นอย่างนี้ ถ้าไม่ได้ใช้มัน – มันจะค่อย ๆ หายไป
เพราะฉะนั้น ในเมื่อคำตอบคือ...ใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน เราจะใช้ยังไง?
ผมขอให้ท่านมองอย่างนี้ครับ ตอนที่เราเรียนหนังสือ เราเรียนภาษาอังกฤษเป็นวิชา ๆ ไป แต่ตอนที่เราทำงาน งาน 1 ชิ้นอาจจะต้องดึงทักษะจากหลายวิชาที่เราเคยเรียนมา เช่น ถ้าต้องเขียนจดหมายภาษาอังกฤษ ก็ต้องรู้ทั้งเรื่องแกรมมาร์ การใช้ศัพท์ และสไตล์การเขียนจดหมายธุรกิจ ถ้าต้องพูดในที่ประชุมกับชาวต่างชาติ ก็ต้องมีทักษะด้านการฟังและการพูด เป็นต้น
ท่านผู้อ่านที่เป็นแฟนบล็อกนี้คงจะสังเกตได้ว่า ผมมักจะแนะว่า ในแต่ละวันให้ทำอะไรก็ได้ที่ช่วยให้เราได้ใช้ภาษาอังกฤษบ้าง เช่น อ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ, เล่นเกม Crossword, Scrabble หรือ Hangman, มีนิทานหรือนิยายง่าย ๆ พกติดตัวไว้ สามารถหยิบขึ้นมาอ่านเมื่อนั่งรอหรือยืนรอ, ฟังไฟล์ mp3 ภาษาอังกฤษขณะดินทางในรถ, เขียนไดอะรี่ของตัวเองหรือโต้ตอบอีเมลกับเพื่อนเป็นภาษาอังกฤษ, อ่านออกเสียงวันละครึ่งหน้า หรืออะไรก็ได้ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ แต่ถ้าจะให้ดีควรใช้งานทั้ง 4 อวัยวะให้ครบ คือ ตา-ดูและอ่าน, หู-ฟัง, มือ-เขียน, และ ปาก-พูด ถ้าไม่มีคนพูดด้วย -พูดคนเดียวก็ได้
สำหรับวันนี้ ผมอยากจะแนะนำสื่อจากเน็ตที่หยิบมาใช้ง่าย ๆ คือ Google Video
วิธีใช้ก็ง่าย ๆ ครับ คือให้ท่าน
-เข้าไปที่ www.google.com
-พิมพ์คำภาษาอังกฤษที่ท่านสนใจลงไป, Enter,
-คลิกคำว่า Videos ที่คอลัมน์ซ้ายมือ,
-นอกจากนี้ที่คอลัมน์ซ้ายมือนี้ ท่านยังสามารถคลิกเลือกคลิปวีดิโอตาม duration, time, Sort, quality, captions, และ source ซึ่งมาจากมากมายหลายแหล่ง มากจริง ๆ เพราะการค้นหาวีดิโอผ่าน google.com นอกจาก เว็บ YouTube แล้ว ยังมีเว็บวีดิโออีกมากมายที่ Google เข้าไปหาวีดิโอมาให้เรา
เท่านี้แหละครับท่านก็จะได้ชมวีดิโอที่ท่านต้องการ
ถ้าท่านถามว่า ทำไมผมจึงสนใจเป็นพิเศษเรื่องการฝึกภาษาอังกฤษผ่านวีดิโอ เหตุผลก็เพราะว่า จากแบบสอบถามที่ท่านผู้อ่านตอบในบล็อกนี้ จำนวนมากต้องการฝึกทักษะการพูด เรื่องของเรื่องก็คือว่า สำหรับเราคนไทยที่ไม่ได้ไปอยู่หรือไปเรียนในต่างประเทศ โอกาสที่เราจะพูดนั้นมีน้อย แต่ถ้าถามว่า การฝึกอ่านเยอะ ๆ กับการฝึกฟังเยอะ ๆ อย่างไหนช่วยปูพื้นในการพูดมากกว่ากัน ก็เห็นได้ชัดว่าคือการฟัง แต่การฟังเฉย ๆ (mp3) อาจจะไม่น่าสนใจเท่ากับการฟังพร้อมเห็นภาพ วีดิโอจึงเข้ามาช่วยตรงนี้ได้เป็นอย่างดี
เอาเป็นว่า เมื่อท่านลงนั่งหน้าคอมฯ ที่ต่อเน็ต ถ้านึกไม่ออกว่าวันนี้ควรจะฝึกภาษาอังกฤษอย่างไรดี ก็ฝึกกับวีดิโอตามที่ผมแนะนำนี่แหละครับ พยายามหาคลิปที่มีบทพูดเยอะ ๆ และพยายามเงี่ยหูฟัง วิธีทดสอบง่าย ๆ ก็คือ ในเที่ยวที่สองให้ฟังซ้ำโดยหลับตาหรือไม่มองจอ ถ้าเข้าใจได้เยอะเหมือนเที่ยวแรกก็แสดงความทักษะการฟังของเราใช้ได้ เพราะอย่าลืมว่า แม้เราจะฝึกภาษาอังกฤษกับวีดิโอโดยใช้ทั้งตาดูและหูฟัง แต่ในท้ายที่สุดทักษะที่เราต้องการฝึกก็คือ listening skill ซึ่งใช้หู
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
ในฐานะที่เรียนจบและทำงานแล้ว ผมมักได้ยินคนที่ทำงานด้วยกันพูดเสมอว่า ภาษาอังกฤษที่ร่ำเรียนมา ถ้างานที่ทำไม่มีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษ ไม่นานก็ลืม และถ้าลืมไปนานเพียงใด ความยากที่จะรื้อฟื้นก็มากเพียงนั้น เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ได้ทำงานที่ใช้ภาษาอังกฤษ จะมากะเกณฑ์ให้ฉันเก่งภาษาอังกฤษได้ยังไง?
การพูดเช่นนี้เหมือนกับโยนความผิดไปให้งาน เพราะงานทำให้เราไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ เราก็เลยลืมมัน ฟังดูก็เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้น แต่ก็ฟังไม่ขึ้น เพราะว่า โลกทุกวันนี้แคบลง การติดต่อด้วยภาษาอังกฤษกับคนต่างชาติมีมากขึ้น และแม้ว่าเราจะไม่ได้ติดต่อทุกวัน หรือนาน ๆ จะติดต่อสักครั้ง เมื่อถึงเวลาที่ต้องติดต่อ ไม่ว่าเราจะเป็นนายจ้างหรือลูกจ้าง มันก็จำเป็นที่เราต้องสามารถสื่อสารกับเขาให้ได้ สมัยก่อน ๆ ในหน่วยงานอาจจะมีหน่วยงานเฉพาะที่ติดต่อกับต่างประเทศ แต่ทุกวันนี้ผมเชื่อว่าทุกแผนกต้องมีเจ้าหน้าที่ของตัวเองอย่างน้อย 1 หรือ 2 คนที่พูดภาษาอังกฤษได้
และเมื่อย้อนกลับไปคำถามเก่า คือ ในเมื่อเราไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน ทำอย่างไรเราจึงจะมีทักษะภาษาอังกฤษให้เพียงพอต่อการใช้งานอยู่เสมอ ซึ่งก็ยากอยู่เหมือนกัน มันไม่เหมือนกับเราซื้อมีดมา 1 เล่ม ถ้าไม่มีงานให้ใช้ก็เก็บไว้ พอถึงเวลาต้องใช้ก็ดึงออกมาใช้ได้ทันที แต่ทักษะภาษาอังกฤษไม่ได้เป็นอย่างนี้ ถ้าไม่ได้ใช้มัน – มันจะค่อย ๆ หายไป
เพราะฉะนั้น ในเมื่อคำตอบคือ...ใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน เราจะใช้ยังไง?
ผมขอให้ท่านมองอย่างนี้ครับ ตอนที่เราเรียนหนังสือ เราเรียนภาษาอังกฤษเป็นวิชา ๆ ไป แต่ตอนที่เราทำงาน งาน 1 ชิ้นอาจจะต้องดึงทักษะจากหลายวิชาที่เราเคยเรียนมา เช่น ถ้าต้องเขียนจดหมายภาษาอังกฤษ ก็ต้องรู้ทั้งเรื่องแกรมมาร์ การใช้ศัพท์ และสไตล์การเขียนจดหมายธุรกิจ ถ้าต้องพูดในที่ประชุมกับชาวต่างชาติ ก็ต้องมีทักษะด้านการฟังและการพูด เป็นต้น
ท่านผู้อ่านที่เป็นแฟนบล็อกนี้คงจะสังเกตได้ว่า ผมมักจะแนะว่า ในแต่ละวันให้ทำอะไรก็ได้ที่ช่วยให้เราได้ใช้ภาษาอังกฤษบ้าง เช่น อ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ, เล่นเกม Crossword, Scrabble หรือ Hangman, มีนิทานหรือนิยายง่าย ๆ พกติดตัวไว้ สามารถหยิบขึ้นมาอ่านเมื่อนั่งรอหรือยืนรอ, ฟังไฟล์ mp3 ภาษาอังกฤษขณะดินทางในรถ, เขียนไดอะรี่ของตัวเองหรือโต้ตอบอีเมลกับเพื่อนเป็นภาษาอังกฤษ, อ่านออกเสียงวันละครึ่งหน้า หรืออะไรก็ได้ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ แต่ถ้าจะให้ดีควรใช้งานทั้ง 4 อวัยวะให้ครบ คือ ตา-ดูและอ่าน, หู-ฟัง, มือ-เขียน, และ ปาก-พูด ถ้าไม่มีคนพูดด้วย -พูดคนเดียวก็ได้
สำหรับวันนี้ ผมอยากจะแนะนำสื่อจากเน็ตที่หยิบมาใช้ง่าย ๆ คือ Google Video
วิธีใช้ก็ง่าย ๆ ครับ คือให้ท่าน
-เข้าไปที่ www.google.com
-พิมพ์คำภาษาอังกฤษที่ท่านสนใจลงไป, Enter,
-คลิกคำว่า Videos ที่คอลัมน์ซ้ายมือ,
-นอกจากนี้ที่คอลัมน์ซ้ายมือนี้ ท่านยังสามารถคลิกเลือกคลิปวีดิโอตาม duration, time, Sort, quality, captions, และ source ซึ่งมาจากมากมายหลายแหล่ง มากจริง ๆ เพราะการค้นหาวีดิโอผ่าน google.com นอกจาก เว็บ YouTube แล้ว ยังมีเว็บวีดิโออีกมากมายที่ Google เข้าไปหาวีดิโอมาให้เรา
เท่านี้แหละครับท่านก็จะได้ชมวีดิโอที่ท่านต้องการ
ถ้าท่านถามว่า ทำไมผมจึงสนใจเป็นพิเศษเรื่องการฝึกภาษาอังกฤษผ่านวีดิโอ เหตุผลก็เพราะว่า จากแบบสอบถามที่ท่านผู้อ่านตอบในบล็อกนี้ จำนวนมากต้องการฝึกทักษะการพูด เรื่องของเรื่องก็คือว่า สำหรับเราคนไทยที่ไม่ได้ไปอยู่หรือไปเรียนในต่างประเทศ โอกาสที่เราจะพูดนั้นมีน้อย แต่ถ้าถามว่า การฝึกอ่านเยอะ ๆ กับการฝึกฟังเยอะ ๆ อย่างไหนช่วยปูพื้นในการพูดมากกว่ากัน ก็เห็นได้ชัดว่าคือการฟัง แต่การฟังเฉย ๆ (mp3) อาจจะไม่น่าสนใจเท่ากับการฟังพร้อมเห็นภาพ วีดิโอจึงเข้ามาช่วยตรงนี้ได้เป็นอย่างดี
เอาเป็นว่า เมื่อท่านลงนั่งหน้าคอมฯ ที่ต่อเน็ต ถ้านึกไม่ออกว่าวันนี้ควรจะฝึกภาษาอังกฤษอย่างไรดี ก็ฝึกกับวีดิโอตามที่ผมแนะนำนี่แหละครับ พยายามหาคลิปที่มีบทพูดเยอะ ๆ และพยายามเงี่ยหูฟัง วิธีทดสอบง่าย ๆ ก็คือ ในเที่ยวที่สองให้ฟังซ้ำโดยหลับตาหรือไม่มองจอ ถ้าเข้าใจได้เยอะเหมือนเที่ยวแรกก็แสดงความทักษะการฟังของเราใช้ได้ เพราะอย่าลืมว่า แม้เราจะฝึกภาษาอังกฤษกับวีดิโอโดยใช้ทั้งตาดูและหูฟัง แต่ในท้ายที่สุดทักษะที่เราต้องการฝึกก็คือ listening skill ซึ่งใช้หู
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554
[1705] ใช้ Google หาเพลงให้ฟัง
สวัสดีครับ
โดยปกติ Google ไม่ได้มีปุ่มโดยเฉพาะให้กดหา mp 3 เพื่อฟังเพลง แต่มีคนเขาเอา Google Search ไปดัดแปลง ให้หาได้
ไปที่นี่ครับ
http://www.smacki.com/mp3%20search%20using%20google
และพิมพ์ชื่อเพลง หรือ ชื่อนักร้อง ลงไป ถ้าโชคดีก็จะได้เพลงที่ต้องการมาฟังง่าย ๆ แถมอาจจะสามารถดาวน์โหลดเก็บไว้ฟังก็ยังได้
แหล่งหาเพิ่มเติม
http://mp3bear.com/
http://www.youtube.com/
http://www.4shared.com/
http://www.playaudiovideo.com/
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
โดยปกติ Google ไม่ได้มีปุ่มโดยเฉพาะให้กดหา mp 3 เพื่อฟังเพลง แต่มีคนเขาเอา Google Search ไปดัดแปลง ให้หาได้
ไปที่นี่ครับ
http://www.smacki.com/mp3%20search%20using%20google
และพิมพ์ชื่อเพลง หรือ ชื่อนักร้อง ลงไป ถ้าโชคดีก็จะได้เพลงที่ต้องการมาฟังง่าย ๆ แถมอาจจะสามารถดาวน์โหลดเก็บไว้ฟังก็ยังได้
แหล่งหาเพิ่มเติม
http://mp3bear.com/
http://www.youtube.com/
http://www.4shared.com/
http://www.playaudiovideo.com/
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันศุกร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2554
[1704]ฝึกฟังข่าว story บทความ ง่าย - ช้า – สั้น
สวัสดีครับ
การพัฒนา listening skill โดยการฝึกฟังข่าว-story-บทความ ที่ ง่าย-ช้า–สั้น น่าจะได้ผลดีและไม่เบื่อ ผมรวบรวมมาไว้ข้างล่างนี้ ส่วนใหญ่จะมี script ให้ดู บางเว็บมีแบบฝึกหัดให้ทำด้วย
Short Stories
VOA Special English
http://www.voanews.com/learningenglish/home/
http://www.manythings.org/podcasts/specialenglish/
Breaking News English
http://www.breakingnewsenglish.com/index.html
Simple English Simple English News
http://www.simpleenglishnews.com/index.shtml
http://www.simpleenglishnews.com/archives/stories/category/words-in-the-news
http://www.simpleenglishnews.com/archives/stories/category/world-news
http://www.simpleenglishnews.com/archives/stories/category/unusual-news
http://www.listenaminute.com/
http://www.newsenglishlessons.com/
Monthly News Digest Online for ESL Learners
http://www.englishclub.com/listening/news.htm
http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/
http://learnenglish.britishcouncil.org/en/
http://www.bangkokpost.com/learning/
http://www.bangkokpost.com/learning/easier-stuff
เว็บนี้อาจฟังไม่ง่ายนักแต่ก็น่าฝึกฟัง
เมื่อเข้าไปแล้ว หาให้พบบรรทัดข้างล่างนี้เพื่อคลิกฟัง
Click button to listen to ... and rightclick to download
พิพัฒน์
www.facebook.com/e4thai
การพัฒนา listening skill โดยการฝึกฟังข่าว-story-บทความ ที่ ง่าย-ช้า–สั้น น่าจะได้ผลดีและไม่เบื่อ ผมรวบรวมมาไว้ข้างล่างนี้ ส่วนใหญ่จะมี script ให้ดู บางเว็บมีแบบฝึกหัดให้ทำด้วย
Short Stories
-English for Children (1) -- 100 easy short stories for kids who have just started to learn English
-English for Children (2) -- 125 Short Stories + Audio & Exercises
-English for ESL/EFL Beginners (Simple Present Tense) -- 30 New Short Stories, 50 Words Long
-English for ESL/EFL Beginners (1) -- 200 Short Stories + Audio & Exercises
-English for ESL/EFL Beginners (2) -- 200 Short Stories + Audio & Exercises
-English for Children (2) -- 125 Short Stories + Audio & Exercises
-English for ESL/EFL Beginners (Simple Present Tense) -- 30 New Short Stories, 50 Words Long
-English for ESL/EFL Beginners (1) -- 200 Short Stories + Audio & Exercises
-English for ESL/EFL Beginners (2) -- 200 Short Stories + Audio & Exercises
-English for ESL/EFL Intermediate Learners (1) -- 265 Short Stories + Audio & Exercises
-English for ESL/EFL Intermediate Learners (2) -- 100 Short Stories + Audio & Exercises + 53 Extra Stories
-English for ESL/EFL Intermediate Learners (2) -- 100 Short Stories + Audio & Exercises + 53 Extra Stories
-Short Stories from New York City -- 100+ stories (150 words each) + Audio
VOA Special English
http://www.voanews.com/learningenglish/home/
http://www.manythings.org/podcasts/specialenglish/
Breaking News English
http://www.breakingnewsenglish.com/index.html
Simple English Simple English News
http://www.simpleenglishnews.com/index.shtml
http://www.simpleenglishnews.com/archives/stories/category/words-in-the-news
http://www.simpleenglishnews.com/archives/stories/category/world-news
http://www.simpleenglishnews.com/archives/stories/category/unusual-news
http://www.listenaminute.com/
http://www.newsenglishlessons.com/
Monthly News Digest Online for ESL Learners
http://www.englishclub.com/listening/news.htm
http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/
http://learnenglish.britishcouncil.org/en/
http://www.bangkokpost.com/learning/
http://www.bangkokpost.com/learning/easier-stuff
เว็บนี้อาจฟังไม่ง่ายนักแต่ก็น่าฝึกฟัง
เมื่อเข้าไปแล้ว หาให้พบบรรทัดข้างล่างนี้เพื่อคลิกฟัง
Click button to listen to ... and rightclick to download
พิพัฒน์
www.facebook.com/e4thai
วันพุธที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554
[1703] ท่องศัพท์ กับตอกตะปู ไม่ต่างกันเลยครับ
สวัสดีครับ
ผมเชื่อว่าทุกคนที่เรียนภาษาอังกฤษมีความเห็นพ้องต้องกันว่า ศัพท์เป็นสิ่งสำคัญ ถ้ารู้ศัพท์อย่างเดียวก็ง่ายไปอีกหลายอย่าง เพราะไม่ว่าเราจะฟัง พูด อ่าน หรือเขียน เราต้องเอาศัพท์ไปใช้ทั้งนั้น
คำถามก็คือ ทำยังไงจึงจะจำศัพท์ได้เยอะ ๆ จำได้เร็ว และจำได้นาน ผมคิดว่าคำถามนี้มีหลายคำตอบที่แต่ละคนอาจจะใช้ได้ผลต่างกัน วันนี้ผมขอเล่าวิธีที่ผมใช้ได้ผล เผื่อบางทีท่านอาจจะเอาไปใช้ได้บ้าง
เมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนใกล้ชิดสนิทสนม ผมค่อนข้างจะ (...ขอโม้นิดนะครับ...) จำศัพท์ได้มากกว่าเพื่อนบางคน ถ้าถามว่าผมจำได้ดีด้วยวิธีใด เมื่อพิจารณาทบทวนความประพฤติของตนแต่หนหลังก็ต้องบอกว่า ผมก็ลองใช้มาทุกวิธีนั่นแหละครับ แต่วิธีที่ใช้บ่อยมากที่สุด คือใช้แบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องคิด ก็คือวิธีท่องศัพท์และทบทวนศัพท์ที่ท่อง
ผมมีนิสัยอย่างนี้ตั้งแต่เด็ก คือผมจะมีสมุดจดศัพท์ส่วนตัว จะตีเส้นแบ่งครึ่งหน้า ด้านซ้ายจดคำศัพท์ ด้านขวาจดคำแปล จดศัพท์และท่องมากบ้างน้อยบ้างตามเวลาและความขยันอำนวย พอถึงเวลาทวนก็จะทำ 2 แบบ คือ
1)เปิดคำศัพท์-ปิดคำแปล-และนึกคำแปลที่เคยท่องไว้
หรือ 2)เปิดคำแปล-ปิดคำศัพท์-และนึกถึงคำศัพท์ที่เคยท่องไว้
ทำอย่างนี้มานานตั้งแต่อยู่ชั้นประถมจนจบมหาวิทยาลัย เมื่อมานึกดูและให้ความเป็นธรรมกับทุกวิธีที่เคยใช้จำศัพท์ ก็ต้องบอกว่าทุกวิธีมีความขลังทั้งนั้นแหละครับ เช่น
-พยายามเดาและจำศัพท์ไปพร้อม ๆ กับที่อ่าน เช่น อ่าน Student Weekly, อ่าน หนังสือ Story ภาษาอังกฤษนอกเวลา, อ่าน Bangkok Post หรือ The Nation และในยุคหลังนี้ก็คือ อ่านข่าว ความรู้ บทความภาษาอังกฤษจากเน็ต
-ฟังภาษาอังกฤษบ่อย ๆ ฟังไปทั้ง ๆ ที่ไม่ค่อยรู้เรื่องนี่แหละครับ ฟังด้วย motto ประจำใจว่า ถึง “ไม่ค่อยรู้เรื่อง” ก็ “ได้เรื่อง” แน่ ๆ
-เขียนและพูด: นี่อาจจะเป็นการจับคู่ที่ดูแปลก ๆ เพราะโดยทั่วไปการฝึกพูดควรจะคู่กับการฟัง แต่เรื่องของเรื่องก็คือว่า ทั้ง ๆ ที่ผมอยากจะมีคนต่างชาติเพื่อฝึกพูดด้วยใจแทบขาด แต่เขาเหล่านั้นก็มักไม่ค่อยโผล่ศีรษะมาให้เห็น ผมก็เลยใช้วิธีเขียนไดอะรี่ประจำวันบันทึกเหตุการณ์ที่เจอตั้งแต่เช้ายันเย็น ความรู้สึกนึกคิดที่เกิดขึ้น และถ้าขยันก็อาจจะเอาข่าวเด่นที่อ่านพบในหนังสือพิมพ์ที่รู้สึกติดใจมาสรุปสั้น ๆ เขียนลงในหน้าไดอะรี่ด้วย
การเขียนไดอะรี่ทำให้ต้องนึกถึงคำศัพท์ และเอาศัพท์ที่นึกหรือค้นได้มาผูกเป็นวลีหรือประโยค และถ้าไม่เมื่อยปากมากเกินไปก็จะเปล่งประโยคที่เขียนเองออกมาด้วย
ผมมาได้ข้อสรุปที่น่าพอใจว่า อีกหลายปีทีเดียวต่อจากนี้ซึ่งผมมีโอกาสมากขึ้นในการพูดกับคนเป็น ๆ ในงานที่รับผิดชอบ การเขียน – พูด – เปล่งประโยค จากไดอะรี่ที่ฝึกมา ช่วยให้ผมไม่รู้สึกทุรกันดารมากนักเมื่อต้องสนทนาภาษาอังกฤษ มันเป็นพื้นที่ดีที่เราปูมาโดยไม่รู้ตัว
และทั้งหมดนี้ คือ อ่าน ฟัง เขียน เปล่งเสียง ล้วนช่วยให้ผมจำศัพท์ได้ ทีละน้อย ๆ ทีละคำ ทีละครึ่งคำ อย่างไรก็ตาม การจำศัพท์ได้ไปพร้อมกับการใช้ศัพท์แบบนี้ ถ้าไม่เติมน้ำยาหัวเชื้อ คือการโด๊พด้วยการท่องและทบทวนศัพท์ จำนวนศัพท์ที่จะเอาไปใช้ในการ ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ก็คงจำได้ไม่พอใช้ เพราะฉะนั้น การท่องและทบทวนศัพท์จึงเป็นสิ่งสมควรและจำเป็น
อย่างไรก็ตาม การจำศัพท์โดยการท่องอัด data เข้าไปในสมอง อาจจะเป็นวิธีที่ดิบเกินไป ถ้าทำไม่ดีอาจไม่ได้ผลและเสียเวลาเปล่า จึงต้องทำให้ดี ทำอย่างไรล่ะ?
ผมคิดว่า การจะอธิบายวิธีการจำศัพท์ด้วยการท่อง-ทบทวน ขอให้ผมเล่าเรื่องการตอกตะปูประกอบการอธิบายดีกว่า น่าจะช่วยทำให้เห็นภาพได้ชัด
เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ....
สมัยเป็นเด็กตอนอยู่ชั้นประถม พ่อแม่ผมจ้างช่างมาสร้างบ้านใหม่ต่อเติมจากบ้านหลังเก่าซึ่งเป็นบ้านไม้ และตามประสาเด็กผู้ชายผมก็อดไม่ได้ที่จะเอาเศษไม้มาเลื่อย ไส และตอกตะปูเล่น จำได้ว่าเคยต่อโต๊ะได้ตัวหนึ่ง รูปร่างดูไม่ได้เลยแต่ก็ภูมิใจที่ทำได้เอง
ตอนที่กำลังง่วนอยู่กับของเล่นชิ้นใหม่นี้ สิ่งหนึ่งที่ท้าทายผมมากก็คือการตอกตะปูตีไม้เข้าด้วยกัน จำได้ว่าถ้าเป็นไม้ยาง ไม้สัก ไม้ฉำฉา หรือไม้เนื้ออ่อนอย่างอื่น จะตอกตะปูได้ง่าย คือตอกได้สุดตัวตะปูโดยตะปูไม่งอเสียก่อน แต่ถ้าเป็นไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้เต็ง ไม้ตะเคียน ผมตอกทีไรก็งอทีนั้น ตอกไม่เคยสำเร็จเลย
ผมนั่งดูช่างเขาตอกบ้าง ดูเขาก็ตอกได้ง่าย ๆ และไม่งอ แต่พอผมตอกเองทีไรก็งอทุกที ผมถามพี่เค้าว่าตอกยังไงตะปูไม่งอ เขาก็ทำให้ดูโดยอธิบายว่า การตอกตะปูลงไม้เนื้อแข็งให้ไม่งอ นอกจากใช้ฆ้อนคุณภาพดี (เช่น หน้าฆ้อนเรียบไม่ยู่) และตะปูคุณภาพดี (เช่น ไม่เอาตะปูที่ทำด้วยเหล็กคุณภาพแย่มาใช้) คนตอกตะปูจะต้องตอกให้ดีด้วย โดยทำอย่างนี้
-อย่าคิดว่าจะตอกทีเดียวให้มิดตะปูเลย อาจจะต้องตอกหลาย ๆ ครั้งถ้าไม้มันแข็ง
-ถ้าไม้เนื้ออ่อน การตอกตะปูจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าเป็นไม้เนื้อแข็ง ต้องกะแรงตอกให้พอเหมาะ การตอกเบาเกินไปตะปูก็จะไม่กินเข้าไปในไม้และงอเสียก่อน แต่ถ้าตอกแรงเกินไปตะปูอาจงอทันที เลยตอกไม่สำเร็จทั้งคู่
-ตั้งหน้าฆ้อนและหัวตะปูให้ตรงกัน ถ้าตั้งหน้าฆ้อนเฉ ก็ง่ายที่ตะปูจะงอ
เพราะฉะนั้น จะต้องตั้งใจให้ดี และอดทน และถึงแม้จะรู้วิธีตอกแต่ไม่ฝึกตอกตามวิธีที่รู้ ก็คงตอกไม่เป็นและทำให้ตะปูทะลุไม้ไม่ได้
หลังจากทำบ้านเสร็จและง่วนอยู่กับช่างมาหลายวัน ผมก็ตอกตะปูให้ทะลุไม้เนื้อแข็งได้... บ้าง แต่ไม่ชำนาญ
เมื่อมานั่งคิดดู การท่องศัพท์ให้จำได้ กับตอกให้ตะปูทะลุไม้ 2 อย่างนี้ไม่ต่างกันเลย
เพราะว่า...
-ยิ่งไม้เนื้อแข็งมากยิ่งตอกตะปูยาก... ยิ่งศัพท์ยากยิ่งจำยาก
-ไม้เนื้อแข็งมากก็ต้องตอกกันหลายครั้ง ไม่ใช่ตอกทีเดียวตะปูจะฝังมิดเนื้อไม้... ศัพท์ยากก็ต้องท่อง-ทวน กันหลายครั้ง ไม่ใช่ท่องครั้งเดียวจะจำได้ฝังใจ
-ต้องตั้งหน้าฆ้อนให้ตรง ตอกตรง ๆ ตะปูจึงจะลงไปในเนื้อไม้ได้... ต้องตั้งใจให้นิ่ง-ให้ตรง คำศัพท์จึงจะลงไปให้สมองได้ ถ้าไม่ทำอย่างนี้ ตะปูจะงอเสียก่อน และคำศัพท์จะลืมเสียก่อน ทั้ง ๆ ที่ยังจำได้ไม่ค่อยดี
ในบล็อกนี้ ที่ลิงค์นี้
ศัพท์
ผมพยายามหาอะไรต่ออะไรหลาย ๆ อย่างมาช่วยให้ท่านจำศัพท์ได้เร็ว... และจำได้นาน แต่ที่ผมอยากแนะนำเป็นพิเศษก็คือ การท่องและทบทวนศัพท์กับคำศัพท์พื้นฐานตาม word list ที่ใช้บ่อย ข้างล่างนี้ครับ
The Longman Defining Vocabulary
Webster's Learner's Dictionary
The Oxford 3000 wordlist
VOA Special English Word Book
และวันนี้ผมขอเพิ่มเติมอีก 1 เว็บเป็นของ Longman ที่ 3 ลิงค์นี้ครับ เมื่อเข้าไปแล้ว
• Vocabulary Simplified by McWhorter
• Building an Active Vocabulary by Licklider
• Developing Vocabulary for College Thinking by Nist/Simpson
Step 1: เลือกบทที่ต้องการฝึก
Step 2: คลิกเลือก
Term = ดูคำศัพท์ ปิดคำแปล
Definition = เปิดคำแปล ปิดคำศัพท์
Step 3: คลิก GO
และคลิก Flip Card Over เพื่อดูข้อความที่ปิด, คลิก Next,
เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้ ถ้าท่านใดต้องการใช้ประโยชน์จากภาษาอังกฤษแต่รู้สึกติดขัดว่ามันยากที่ศัพท์ ผมอยากจะบอกว่า...
การท่องศัพท์ กับตอกตะปู ไม่ต่างกันหรอกครับ
เมื่อเราฝึกตอกตะปู แม้ว่ากี่ตัว ๆ มันจะงอแล้วงอเล่าก็ช่างมันเถอะครับ
ถ้าเราฝึกตอกไปเรื่อย ๆ ตะปูที่งอก็จะน้อยลง
ตะปูที่ตรงและลงไปให้เนื้อไม้ก็จะมีมากขึ้น
เมื่อเราท่องและทบทวนศัพท์อยู่เรื่อย ๆ
ศัพท์ที่ท่องและลืมก็จะมีน้อยลง
ศัพท์ที่คงฝังแน่นในใจเหมือนตะปูฝังแน่นในเนื้อไม้ก็จะมีมากขึ้น
เชื่อผมเถอะครับ นี่ผมไม่พูดลอย ๆ นะครับ แต่พูดจากประสบการณ์ของคนที่เคย “ตอกตะปู” มาแล้ว
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
ผมเชื่อว่าทุกคนที่เรียนภาษาอังกฤษมีความเห็นพ้องต้องกันว่า ศัพท์เป็นสิ่งสำคัญ ถ้ารู้ศัพท์อย่างเดียวก็ง่ายไปอีกหลายอย่าง เพราะไม่ว่าเราจะฟัง พูด อ่าน หรือเขียน เราต้องเอาศัพท์ไปใช้ทั้งนั้น
คำถามก็คือ ทำยังไงจึงจะจำศัพท์ได้เยอะ ๆ จำได้เร็ว และจำได้นาน ผมคิดว่าคำถามนี้มีหลายคำตอบที่แต่ละคนอาจจะใช้ได้ผลต่างกัน วันนี้ผมขอเล่าวิธีที่ผมใช้ได้ผล เผื่อบางทีท่านอาจจะเอาไปใช้ได้บ้าง
เมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนใกล้ชิดสนิทสนม ผมค่อนข้างจะ (...ขอโม้นิดนะครับ...) จำศัพท์ได้มากกว่าเพื่อนบางคน ถ้าถามว่าผมจำได้ดีด้วยวิธีใด เมื่อพิจารณาทบทวนความประพฤติของตนแต่หนหลังก็ต้องบอกว่า ผมก็ลองใช้มาทุกวิธีนั่นแหละครับ แต่วิธีที่ใช้บ่อยมากที่สุด คือใช้แบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องคิด ก็คือวิธีท่องศัพท์และทบทวนศัพท์ที่ท่อง
ผมมีนิสัยอย่างนี้ตั้งแต่เด็ก คือผมจะมีสมุดจดศัพท์ส่วนตัว จะตีเส้นแบ่งครึ่งหน้า ด้านซ้ายจดคำศัพท์ ด้านขวาจดคำแปล จดศัพท์และท่องมากบ้างน้อยบ้างตามเวลาและความขยันอำนวย พอถึงเวลาทวนก็จะทำ 2 แบบ คือ
1)เปิดคำศัพท์-ปิดคำแปล-และนึกคำแปลที่เคยท่องไว้
หรือ 2)เปิดคำแปล-ปิดคำศัพท์-และนึกถึงคำศัพท์ที่เคยท่องไว้
ทำอย่างนี้มานานตั้งแต่อยู่ชั้นประถมจนจบมหาวิทยาลัย เมื่อมานึกดูและให้ความเป็นธรรมกับทุกวิธีที่เคยใช้จำศัพท์ ก็ต้องบอกว่าทุกวิธีมีความขลังทั้งนั้นแหละครับ เช่น
-พยายามเดาและจำศัพท์ไปพร้อม ๆ กับที่อ่าน เช่น อ่าน Student Weekly, อ่าน หนังสือ Story ภาษาอังกฤษนอกเวลา, อ่าน Bangkok Post หรือ The Nation และในยุคหลังนี้ก็คือ อ่านข่าว ความรู้ บทความภาษาอังกฤษจากเน็ต
-ฟังภาษาอังกฤษบ่อย ๆ ฟังไปทั้ง ๆ ที่ไม่ค่อยรู้เรื่องนี่แหละครับ ฟังด้วย motto ประจำใจว่า ถึง “ไม่ค่อยรู้เรื่อง” ก็ “ได้เรื่อง” แน่ ๆ
-เขียนและพูด: นี่อาจจะเป็นการจับคู่ที่ดูแปลก ๆ เพราะโดยทั่วไปการฝึกพูดควรจะคู่กับการฟัง แต่เรื่องของเรื่องก็คือว่า ทั้ง ๆ ที่ผมอยากจะมีคนต่างชาติเพื่อฝึกพูดด้วยใจแทบขาด แต่เขาเหล่านั้นก็มักไม่ค่อยโผล่ศีรษะมาให้เห็น ผมก็เลยใช้วิธีเขียนไดอะรี่ประจำวันบันทึกเหตุการณ์ที่เจอตั้งแต่เช้ายันเย็น ความรู้สึกนึกคิดที่เกิดขึ้น และถ้าขยันก็อาจจะเอาข่าวเด่นที่อ่านพบในหนังสือพิมพ์ที่รู้สึกติดใจมาสรุปสั้น ๆ เขียนลงในหน้าไดอะรี่ด้วย
การเขียนไดอะรี่ทำให้ต้องนึกถึงคำศัพท์ และเอาศัพท์ที่นึกหรือค้นได้มาผูกเป็นวลีหรือประโยค และถ้าไม่เมื่อยปากมากเกินไปก็จะเปล่งประโยคที่เขียนเองออกมาด้วย
ผมมาได้ข้อสรุปที่น่าพอใจว่า อีกหลายปีทีเดียวต่อจากนี้ซึ่งผมมีโอกาสมากขึ้นในการพูดกับคนเป็น ๆ ในงานที่รับผิดชอบ การเขียน – พูด – เปล่งประโยค จากไดอะรี่ที่ฝึกมา ช่วยให้ผมไม่รู้สึกทุรกันดารมากนักเมื่อต้องสนทนาภาษาอังกฤษ มันเป็นพื้นที่ดีที่เราปูมาโดยไม่รู้ตัว
และทั้งหมดนี้ คือ อ่าน ฟัง เขียน เปล่งเสียง ล้วนช่วยให้ผมจำศัพท์ได้ ทีละน้อย ๆ ทีละคำ ทีละครึ่งคำ อย่างไรก็ตาม การจำศัพท์ได้ไปพร้อมกับการใช้ศัพท์แบบนี้ ถ้าไม่เติมน้ำยาหัวเชื้อ คือการโด๊พด้วยการท่องและทบทวนศัพท์ จำนวนศัพท์ที่จะเอาไปใช้ในการ ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ก็คงจำได้ไม่พอใช้ เพราะฉะนั้น การท่องและทบทวนศัพท์จึงเป็นสิ่งสมควรและจำเป็น
อย่างไรก็ตาม การจำศัพท์โดยการท่องอัด data เข้าไปในสมอง อาจจะเป็นวิธีที่ดิบเกินไป ถ้าทำไม่ดีอาจไม่ได้ผลและเสียเวลาเปล่า จึงต้องทำให้ดี ทำอย่างไรล่ะ?
ผมคิดว่า การจะอธิบายวิธีการจำศัพท์ด้วยการท่อง-ทบทวน ขอให้ผมเล่าเรื่องการตอกตะปูประกอบการอธิบายดีกว่า น่าจะช่วยทำให้เห็นภาพได้ชัด
เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ....
สมัยเป็นเด็กตอนอยู่ชั้นประถม พ่อแม่ผมจ้างช่างมาสร้างบ้านใหม่ต่อเติมจากบ้านหลังเก่าซึ่งเป็นบ้านไม้ และตามประสาเด็กผู้ชายผมก็อดไม่ได้ที่จะเอาเศษไม้มาเลื่อย ไส และตอกตะปูเล่น จำได้ว่าเคยต่อโต๊ะได้ตัวหนึ่ง รูปร่างดูไม่ได้เลยแต่ก็ภูมิใจที่ทำได้เอง
ตอนที่กำลังง่วนอยู่กับของเล่นชิ้นใหม่นี้ สิ่งหนึ่งที่ท้าทายผมมากก็คือการตอกตะปูตีไม้เข้าด้วยกัน จำได้ว่าถ้าเป็นไม้ยาง ไม้สัก ไม้ฉำฉา หรือไม้เนื้ออ่อนอย่างอื่น จะตอกตะปูได้ง่าย คือตอกได้สุดตัวตะปูโดยตะปูไม่งอเสียก่อน แต่ถ้าเป็นไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้เต็ง ไม้ตะเคียน ผมตอกทีไรก็งอทีนั้น ตอกไม่เคยสำเร็จเลย
ผมนั่งดูช่างเขาตอกบ้าง ดูเขาก็ตอกได้ง่าย ๆ และไม่งอ แต่พอผมตอกเองทีไรก็งอทุกที ผมถามพี่เค้าว่าตอกยังไงตะปูไม่งอ เขาก็ทำให้ดูโดยอธิบายว่า การตอกตะปูลงไม้เนื้อแข็งให้ไม่งอ นอกจากใช้ฆ้อนคุณภาพดี (เช่น หน้าฆ้อนเรียบไม่ยู่) และตะปูคุณภาพดี (เช่น ไม่เอาตะปูที่ทำด้วยเหล็กคุณภาพแย่มาใช้) คนตอกตะปูจะต้องตอกให้ดีด้วย โดยทำอย่างนี้
-อย่าคิดว่าจะตอกทีเดียวให้มิดตะปูเลย อาจจะต้องตอกหลาย ๆ ครั้งถ้าไม้มันแข็ง
-ถ้าไม้เนื้ออ่อน การตอกตะปูจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าเป็นไม้เนื้อแข็ง ต้องกะแรงตอกให้พอเหมาะ การตอกเบาเกินไปตะปูก็จะไม่กินเข้าไปในไม้และงอเสียก่อน แต่ถ้าตอกแรงเกินไปตะปูอาจงอทันที เลยตอกไม่สำเร็จทั้งคู่
-ตั้งหน้าฆ้อนและหัวตะปูให้ตรงกัน ถ้าตั้งหน้าฆ้อนเฉ ก็ง่ายที่ตะปูจะงอ
เพราะฉะนั้น จะต้องตั้งใจให้ดี และอดทน และถึงแม้จะรู้วิธีตอกแต่ไม่ฝึกตอกตามวิธีที่รู้ ก็คงตอกไม่เป็นและทำให้ตะปูทะลุไม้ไม่ได้
หลังจากทำบ้านเสร็จและง่วนอยู่กับช่างมาหลายวัน ผมก็ตอกตะปูให้ทะลุไม้เนื้อแข็งได้... บ้าง แต่ไม่ชำนาญ
เมื่อมานั่งคิดดู การท่องศัพท์ให้จำได้ กับตอกให้ตะปูทะลุไม้ 2 อย่างนี้ไม่ต่างกันเลย
เพราะว่า...
-ยิ่งไม้เนื้อแข็งมากยิ่งตอกตะปูยาก... ยิ่งศัพท์ยากยิ่งจำยาก
-ไม้เนื้อแข็งมากก็ต้องตอกกันหลายครั้ง ไม่ใช่ตอกทีเดียวตะปูจะฝังมิดเนื้อไม้... ศัพท์ยากก็ต้องท่อง-ทวน กันหลายครั้ง ไม่ใช่ท่องครั้งเดียวจะจำได้ฝังใจ
-ต้องตั้งหน้าฆ้อนให้ตรง ตอกตรง ๆ ตะปูจึงจะลงไปในเนื้อไม้ได้... ต้องตั้งใจให้นิ่ง-ให้ตรง คำศัพท์จึงจะลงไปให้สมองได้ ถ้าไม่ทำอย่างนี้ ตะปูจะงอเสียก่อน และคำศัพท์จะลืมเสียก่อน ทั้ง ๆ ที่ยังจำได้ไม่ค่อยดี
ในบล็อกนี้ ที่ลิงค์นี้
ศัพท์
ผมพยายามหาอะไรต่ออะไรหลาย ๆ อย่างมาช่วยให้ท่านจำศัพท์ได้เร็ว... และจำได้นาน แต่ที่ผมอยากแนะนำเป็นพิเศษก็คือ การท่องและทบทวนศัพท์กับคำศัพท์พื้นฐานตาม word list ที่ใช้บ่อย ข้างล่างนี้ครับ
The Longman Defining Vocabulary
Webster's Learner's Dictionary
The Oxford 3000 wordlist
VOA Special English Word Book
และวันนี้ผมขอเพิ่มเติมอีก 1 เว็บเป็นของ Longman ที่ 3 ลิงค์นี้ครับ เมื่อเข้าไปแล้ว
• Vocabulary Simplified by McWhorter
• Building an Active Vocabulary by Licklider
• Developing Vocabulary for College Thinking by Nist/Simpson
Step 1: เลือกบทที่ต้องการฝึก
Step 2: คลิกเลือก
Term = ดูคำศัพท์ ปิดคำแปล
Definition = เปิดคำแปล ปิดคำศัพท์
Step 3: คลิก GO
และคลิก Flip Card Over เพื่อดูข้อความที่ปิด, คลิก Next,
เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้ ถ้าท่านใดต้องการใช้ประโยชน์จากภาษาอังกฤษแต่รู้สึกติดขัดว่ามันยากที่ศัพท์ ผมอยากจะบอกว่า...
การท่องศัพท์ กับตอกตะปู ไม่ต่างกันหรอกครับ
เมื่อเราฝึกตอกตะปู แม้ว่ากี่ตัว ๆ มันจะงอแล้วงอเล่าก็ช่างมันเถอะครับ
ถ้าเราฝึกตอกไปเรื่อย ๆ ตะปูที่งอก็จะน้อยลง
ตะปูที่ตรงและลงไปให้เนื้อไม้ก็จะมีมากขึ้น
เมื่อเราท่องและทบทวนศัพท์อยู่เรื่อย ๆ
ศัพท์ที่ท่องและลืมก็จะมีน้อยลง
ศัพท์ที่คงฝังแน่นในใจเหมือนตะปูฝังแน่นในเนื้อไม้ก็จะมีมากขึ้น
เชื่อผมเถอะครับ นี่ผมไม่พูดลอย ๆ นะครับ แต่พูดจากประสบการณ์ของคนที่เคย “ตอกตะปู” มาแล้ว
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554
[1702] “แม่โกหกผม 8 ครั้งในชีวิต”
สวัสดีครับ
วันนี้ผมมีเรื่องหนึ่งครับที่อ่านแล้ว และอยากให้ท่านผู้อ่านได้อ่านบ้าง
ชื่อเรื่อง “แม่โกหกผม 8 ครั้งในชีวิต” หรือ “A Mother's 8 lies”
มีทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่ลิงค์นี้ครับ
http://thanakornk.multiply.com/journal/item/7
ผม copy มาไว้ข้างล่างนี้ ท่านอ่านจบแล้ว ช่วยบอกหน่อยนะครับว่าท่านรู้สึกอย่างไร
ถ้าดับเบิ้ลคลิกที่คำศัพท์จะมีคำแปลปรากฏ
A Mother's 8 Lies...
1.The story began when I was a child;
I was born as a son of a poor family.
Even for eating, we often got lack of food.
Whenever the time for eating, mother often gave me her portion of rice.
While she was removing her rice into my bowl,
she would say "Eat this rice, son. Im not hungry".
That was Mothers First Lie
2.When I was getting to grow up,
the persevering mother gave her spare time for fishing in a river near our house,
she hoped that from the fishes she got,
she could gave me a little bit nutritious food for my growth.
After fishing, she would cook the fishes to be a fresh fish soup,
which raised my appetite. While I was eating the soup,
mother would sit beside me and eat the rest meat of fish,
which was still on the bone of the fish I ate.
My heart was touched when I saw it.
I then used my chopstick and gave the other fish to her.
But she immediately refused it and said "Eat this fish, son.
I dont really like fish."
That was Mothers Second Lie.
3.Then, when I was in Junior High School,
to fund my study, mother went to an economic enterprise to bring some used-matches boxes that would be stuck in.
It gave her some money for covering our needs.
As the winter came,
I woke up from my sleep and looked at my mother who was still awoke,
supported by a little candlelight and within her perseverance she continued
the work of sticking some used-matches box.
I said, "Mother, go to sleep, its late,
tomorrow morning you still have to go for work.
" Mother smiled and said "Go to sleep,
dear. Im not tired."
That was Mothers Third Lie.
4.At the time of final term,
mother asked for a leave from her work in order to accompany me.
While the daytime was coming and the heat of the sun was starting to shine,
the strong and persevering mother
waited for me under the heat of the suns shine for several hours.
As the bell rang, which indicated that the final exam had finished,
mother immediately welcomed me and poured me a glass of tea
that she had prepared before in a cold bottle.
The very thick tea was not as thick as my mothers love,
which was much thicker. Seeing my mother covering with perspiration,
I at once gave her my glass and asked her to drink too.
Mother said "Drink, son. Im not thirsty!".
That was Mothers Fourth Lie.
5.After the death of my father because of illness,
my poor mother had to play her role as a single parent.
By held on her former job, she had to fund our needs alone.
Our familys life was more complicated. No days without sufferance.
Seeing our familys condition that was getting worse,
there was a nice uncle who lived near my house came to help us,
either in a big problem and a small problem.
Our other neighbors who lived next to us saw that our familys life was so unfortunate,
they often advised my mother to marry again. But mother,
who was stubborn, didnt care to their advice,
she said "I dont need love."
That was Mothers Fifth Lie.
6.After I had finished my study and then got a job,
it was the time for my old mother to retire.
But she didnt want to; she was sincere to go to the marketplace every morning,
just to sell some vegetable for fulfilling her needs.
I, who worked in the other city, often sent her some money to help her in fulfilling her needs,
but she was stubborn for not accepting the money.
She even sent the money back to me.
She said "I have enough money."
That was Mothers Sixth Lie.
7.After graduated from Bachelor Degree,
I then continued my study to Master Degree.
I took the degree, which was funded by a company through a scholarship program,
from a famous University in America.
I finally worked in the company. Within a quite high salary,
I intended to take my mother to enjoy her life in America.
But my lovely mother didnt want to bother her son,
she said to me "Im not used to."
That was Mothers Seventh Lie.
8.After entering her old age,
mother got a flank cancer and had to be hospitalized.
I, who lived in miles away and across the ocean,
directly went home to visit my dearest mother.
She lied down in weakness on her bed after having an operation.
Mother, who looked so old, was staring at me in deep yearn.
She tried to spread her smile on her face;
even it looked so stiff because of the disease she held out.
It was clear enough to see how the disease broke my mothers body,
thus she looked so weak and thin.
I stared at my mother within tears flowing on my face.
My heart was hurt, so hurt, seeing my mother on that condition.
But mother, with her strength, said "Dont cry, my dear.
Im not in pain."
That was Mothers Eight Lie.
After saying her eighth lie, She closed her eyes forever!
*********
แม่โกหกผม 8 ครั้งในชีวิต
1. เรื่องเริ่มขึ้นตอนเมื่อผมเป็นเด็ก ๆ ผมเกิดในครอบครัวยากจน
ครอบครัวของเราจนมากจนต้องอดข้าวบ่อย ๆ
เมื่อไหร่ก็ตามเมื่อถึงเวลากินข้าว...แม่จะแบ่งข้าวม าให้ผมเพิ่มขึ้นอีก
พร้อมทั้งพูดว่า"ลูกต้องกินข้าวเพิ่มขึ้นนะ...ส่วนแม ่ไม่ค่อยหิว"
นี้เป็นครั้งแรกที่แม่โกหกผม
2. เมื่อผมเติบโตขึ้น คุณแม่เพียรพยายามหาเวลาว่างไปตกปลาในแม่น้ำ
เพื่อว่าผมจะได้กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติ บโตของผม
แม่ต้มปลาที่ตกมาได้ทำเป็นซุปให้ผมกิน
ในขณะที่ผมกินแกงต้มปลา..แม่จะนั่งข้าง ๆผม แทะกิน เศษเนื้อปลาที่ติดอยู่ตามก้างปลาหลังจากที่ผมไ ด้กินเนื้อปลาไปแล้ว
ผมรู้สึกตื้นตันใจมาก..ผมพยายามแบ่งเนื้อปลาให้แม่
แต่แม่ปฎิเสธทันควันพร้อมกับกล่าวว่า "ลูกกินเถอะ...แม่ไม่ค่อยชอบกินเนื้อปลา" นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่แม่โกหกผม
3. เมื่อผมเรียนอยู่ชั้นมัธยม เราต้องใช้เงินเพิ่มมากขึ้น
แม่ต้องหารายได้พิเศษด้วยการรับงานเล็ก ๆน้อยจากโรงงานมาทำที่บ้าน
บางครั้งผมตื่นขึ้นมาตอนตี 1 หรือตี 2...ผมยังเห็นแม่กำลังทำงาน
"แม่ครับ...นอนเถอะครับมันดึกมากแล้ว พรุ่งนี้แม่ต้องไปทำงานอีก"
แม่ยิ้มกับผมพูดว่า "ลูกนอนต่อก่อนนะ...แม่ยังไม่เหนื่อย...นอนไม่หล ับ"
ครั้งที่ 3 แล้วที่แม่โกหกผม
4. ตอนเมื่อใกล้จบชั้นมัธยมผมต้องไปสอบเป็นวันสุดท้าย
แม่อุตส่าห์หยุดงานไปเป็นเพื่อนและเพื่อเป็นกำลังใจใ ห้ผม
มันเป็นวันที่แดดร้อนมาก ๆ...แม่ต้องรอผมอยู่หลายชม.
เมื่อผมทำข้อสอบเสร็จ...รีบออกมาหาแม่
เห็นแม่ผมมีเหงื่อออกท่วมตัว..
แต่ท่านกลับรินน้ำเย็นที่เตรียมมาให้ผมดื่ม
ผมเห็นแม่รู้สึกเหนื่อยและร้อนจึงขอให้แม่ดื่มน้ำก่อ น
แม่พูดขึ้นว่า "ลูกดื่มเถอะ....แม่ยังไม่กระหายน้ำ"
นั่นเป็นครั้งที่ 4 ที่แม่โกหกผม
5. หลังจากที่พ่อผมล้มป่วยและเสียชีวิต
คุณแม่ที่น่าสงสารต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อหารายได้มาจ ุนเจือครอบครัว
แต่ก็ยังไม่ค่อยเพียงพอไม่ว่าคุณแม่จะพยายามมากขึ้นเ พียงไร
คุณลุงที่อยู่ข้าง ๆบ้านท่านเป็นคนดี
พยายามมาช่วยเหลือครอบครัวเราเสมอ....เช่นซ่อมแซมบ้า นที่ผุพัง..ฯลฯ
เพื่อนบ้านเห็นครอบครัวลำบากมากก็แนะนำให้แม่แต่งงาน ใหม่
แต่แม่ยืนกรานไม่เห็นด้วย แม่พูดกับผมว่า
"แม่มีลูกอยู่ทั้งคน...แม่ไม่ต้องความรักอีก"
แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ 5 แล้ว
6. ในทื่สุดผมก็เรียนจบและมีงานทำ
ผมอยากให้แม่ซึ่งตรากตรำทำงานหนักมาตลอดได้พักผ่อนบ้าง
แต่แม่ไม่ยอม.....กลับไปตลาดทุกเช้า
ขายผักที่หามาได้เพื่อเลี้ยงชีพทั้ง ๆที่ผมพยายามส่งเงินมาให้แม่
(ผมต้องไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล)
แม่ผมไม่ค่อยยอมรับเงินผม..บางครั้งยังส่งเงินกลับคื นให้ผมอีก
แม่พูดกับผมว่า "แม่มีเงินพอใช้แล้ว...ลูกควรเก็บเงินไว้สร้างฐานะ"
แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ 6
7. เพื่ออนาคตที่ก้าวหน้า..
ผมตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทด้วยทุนของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในอเมริกา เมื่อผมเรียนจบก็ได้งานทำที่นั่นและมีเงินเดือนค่อนข้างสูง
เมื่อทำงานไปได้สักพัก...ผมอยากให้แม่ผมมาอยู่กับผมที่อเมริกา
เพื่อว่าแม่จะได้หยุดทำงาน...พักผ่อนให้สบายในบั้นปลายของชีวิต
แต่แม่ผมไม่อยากรบกวนผม...บอกผมว่า "แม่ไม่คุ้นเคยกับชีวิตต่างแดน"
ครั้งที่ 7 แล้วซินะที่แม่โกหกผม
8. เมื่อแม่แก่ตัวลงไปเรื่อย ๆ..
ในที่สุดแม่ก็เป็นมะเร็งและต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โ รงพยาบาล
ผมลางานแล้วรีบบินกลับมาหาแม่สุดที่รักทันที
แม่ผมนอนพักฟื้นอยู่บนเตียงเมื่อผมไปถึง
น้ำตาผมไหลอาบแก้มเมื่อเห็นแม่ซึ่งผ่ายผอมและดูทรุดโ ทรมลงอย่างมาก
แม่รู้สึกดีใจมากที่เห็นผม....พยายามยิ้มอย่างสดชื่น ด้วยความลำบาก
ผมรู้ดีว่าแม่ได้ฝืนความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างสุดฝืน
จากโรคมะเร็งร้ายที่ลามไปทั่วทั้งตัว
ผมโอบกอดแม่พร้อมกับร้องไห้ด้วยความสงสาร
หัวใจผมในขณะนั้นเศร้าหมองและเจ็บปวดอย่างที่สุด
แม่พยายามปลอบผมด้วยเสียงที่แหบพร่าและสั่นเครือ
"ลูกรักของแม่...เห็นหน้าลูกแม่ไม่รู้สึกเจ็บแล้ว"
นี่เป็นครั้งที่ 8 ที่แม่โกหก
และเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของแม่ที่โกหกผม
แม่ที่ผมรักและบูชามาตลอดชีวิตได้ปิดตาลงและจากผมไปอย่างไม่มีวันกลับ
หลังจากที่เธอกล่าวคำโกหกครั้งที่ 8 จบลง.........
ขอบคุณ คุณสาว 11111มากครับที่แนะนำเรื่องนี้
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันนี้ผมมีเรื่องหนึ่งครับที่อ่านแล้ว และอยากให้ท่านผู้อ่านได้อ่านบ้าง
ชื่อเรื่อง “แม่โกหกผม 8 ครั้งในชีวิต” หรือ “A Mother's 8 lies”
มีทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่ลิงค์นี้ครับ
http://thanakornk.multiply.com/journal/item/7
ผม copy มาไว้ข้างล่างนี้ ท่านอ่านจบแล้ว ช่วยบอกหน่อยนะครับว่าท่านรู้สึกอย่างไร
ถ้าดับเบิ้ลคลิกที่คำศัพท์จะมีคำแปลปรากฏ
A Mother's 8 Lies...
1.The story began when I was a child;
I was born as a son of a poor family.
Even for eating, we often got lack of food.
Whenever the time for eating, mother often gave me her portion of rice.
While she was removing her rice into my bowl,
she would say "Eat this rice, son. Im not hungry".
That was Mothers First Lie
2.When I was getting to grow up,
the persevering mother gave her spare time for fishing in a river near our house,
she hoped that from the fishes she got,
she could gave me a little bit nutritious food for my growth.
After fishing, she would cook the fishes to be a fresh fish soup,
which raised my appetite. While I was eating the soup,
mother would sit beside me and eat the rest meat of fish,
which was still on the bone of the fish I ate.
My heart was touched when I saw it.
I then used my chopstick and gave the other fish to her.
But she immediately refused it and said "Eat this fish, son.
I dont really like fish."
That was Mothers Second Lie.
3.Then, when I was in Junior High School,
to fund my study, mother went to an economic enterprise to bring some used-matches boxes that would be stuck in.
It gave her some money for covering our needs.
As the winter came,
I woke up from my sleep and looked at my mother who was still awoke,
supported by a little candlelight and within her perseverance she continued
the work of sticking some used-matches box.
I said, "Mother, go to sleep, its late,
tomorrow morning you still have to go for work.
" Mother smiled and said "Go to sleep,
dear. Im not tired."
That was Mothers Third Lie.
4.At the time of final term,
mother asked for a leave from her work in order to accompany me.
While the daytime was coming and the heat of the sun was starting to shine,
the strong and persevering mother
waited for me under the heat of the suns shine for several hours.
As the bell rang, which indicated that the final exam had finished,
mother immediately welcomed me and poured me a glass of tea
that she had prepared before in a cold bottle.
The very thick tea was not as thick as my mothers love,
which was much thicker. Seeing my mother covering with perspiration,
I at once gave her my glass and asked her to drink too.
Mother said "Drink, son. Im not thirsty!".
That was Mothers Fourth Lie.
5.After the death of my father because of illness,
my poor mother had to play her role as a single parent.
By held on her former job, she had to fund our needs alone.
Our familys life was more complicated. No days without sufferance.
Seeing our familys condition that was getting worse,
there was a nice uncle who lived near my house came to help us,
either in a big problem and a small problem.
Our other neighbors who lived next to us saw that our familys life was so unfortunate,
they often advised my mother to marry again. But mother,
who was stubborn, didnt care to their advice,
she said "I dont need love."
That was Mothers Fifth Lie.
6.After I had finished my study and then got a job,
it was the time for my old mother to retire.
But she didnt want to; she was sincere to go to the marketplace every morning,
just to sell some vegetable for fulfilling her needs.
I, who worked in the other city, often sent her some money to help her in fulfilling her needs,
but she was stubborn for not accepting the money.
She even sent the money back to me.
She said "I have enough money."
That was Mothers Sixth Lie.
7.After graduated from Bachelor Degree,
I then continued my study to Master Degree.
I took the degree, which was funded by a company through a scholarship program,
from a famous University in America.
I finally worked in the company. Within a quite high salary,
I intended to take my mother to enjoy her life in America.
But my lovely mother didnt want to bother her son,
she said to me "Im not used to."
That was Mothers Seventh Lie.
8.After entering her old age,
mother got a flank cancer and had to be hospitalized.
I, who lived in miles away and across the ocean,
directly went home to visit my dearest mother.
She lied down in weakness on her bed after having an operation.
Mother, who looked so old, was staring at me in deep yearn.
She tried to spread her smile on her face;
even it looked so stiff because of the disease she held out.
It was clear enough to see how the disease broke my mothers body,
thus she looked so weak and thin.
I stared at my mother within tears flowing on my face.
My heart was hurt, so hurt, seeing my mother on that condition.
But mother, with her strength, said "Dont cry, my dear.
Im not in pain."
That was Mothers Eight Lie.
After saying her eighth lie, She closed her eyes forever!
*********
แม่โกหกผม 8 ครั้งในชีวิต
1. เรื่องเริ่มขึ้นตอนเมื่อผมเป็นเด็ก ๆ ผมเกิดในครอบครัวยากจน
ครอบครัวของเราจนมากจนต้องอดข้าวบ่อย ๆ
เมื่อไหร่ก็ตามเมื่อถึงเวลากินข้าว...แม่จะแบ่งข้าวม าให้ผมเพิ่มขึ้นอีก
พร้อมทั้งพูดว่า"ลูกต้องกินข้าวเพิ่มขึ้นนะ...ส่วนแม ่ไม่ค่อยหิว"
นี้เป็นครั้งแรกที่แม่โกหกผม
2. เมื่อผมเติบโตขึ้น คุณแม่เพียรพยายามหาเวลาว่างไปตกปลาในแม่น้ำ
เพื่อว่าผมจะได้กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติ บโตของผม
แม่ต้มปลาที่ตกมาได้ทำเป็นซุปให้ผมกิน
ในขณะที่ผมกินแกงต้มปลา..แม่จะนั่งข้าง ๆผม แทะกิน เศษเนื้อปลาที่ติดอยู่ตามก้างปลาหลังจากที่ผมไ ด้กินเนื้อปลาไปแล้ว
ผมรู้สึกตื้นตันใจมาก..ผมพยายามแบ่งเนื้อปลาให้แม่
แต่แม่ปฎิเสธทันควันพร้อมกับกล่าวว่า "ลูกกินเถอะ...แม่ไม่ค่อยชอบกินเนื้อปลา" นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่แม่โกหกผม
3. เมื่อผมเรียนอยู่ชั้นมัธยม เราต้องใช้เงินเพิ่มมากขึ้น
แม่ต้องหารายได้พิเศษด้วยการรับงานเล็ก ๆน้อยจากโรงงานมาทำที่บ้าน
บางครั้งผมตื่นขึ้นมาตอนตี 1 หรือตี 2...ผมยังเห็นแม่กำลังทำงาน
"แม่ครับ...นอนเถอะครับมันดึกมากแล้ว พรุ่งนี้แม่ต้องไปทำงานอีก"
แม่ยิ้มกับผมพูดว่า "ลูกนอนต่อก่อนนะ...แม่ยังไม่เหนื่อย...นอนไม่หล ับ"
ครั้งที่ 3 แล้วที่แม่โกหกผม
4. ตอนเมื่อใกล้จบชั้นมัธยมผมต้องไปสอบเป็นวันสุดท้าย
แม่อุตส่าห์หยุดงานไปเป็นเพื่อนและเพื่อเป็นกำลังใจใ ห้ผม
มันเป็นวันที่แดดร้อนมาก ๆ...แม่ต้องรอผมอยู่หลายชม.
เมื่อผมทำข้อสอบเสร็จ...รีบออกมาหาแม่
เห็นแม่ผมมีเหงื่อออกท่วมตัว..
แต่ท่านกลับรินน้ำเย็นที่เตรียมมาให้ผมดื่ม
ผมเห็นแม่รู้สึกเหนื่อยและร้อนจึงขอให้แม่ดื่มน้ำก่อ น
แม่พูดขึ้นว่า "ลูกดื่มเถอะ....แม่ยังไม่กระหายน้ำ"
นั่นเป็นครั้งที่ 4 ที่แม่โกหกผม
5. หลังจากที่พ่อผมล้มป่วยและเสียชีวิต
คุณแม่ที่น่าสงสารต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อหารายได้มาจ ุนเจือครอบครัว
แต่ก็ยังไม่ค่อยเพียงพอไม่ว่าคุณแม่จะพยายามมากขึ้นเ พียงไร
คุณลุงที่อยู่ข้าง ๆบ้านท่านเป็นคนดี
พยายามมาช่วยเหลือครอบครัวเราเสมอ....เช่นซ่อมแซมบ้า นที่ผุพัง..ฯลฯ
เพื่อนบ้านเห็นครอบครัวลำบากมากก็แนะนำให้แม่แต่งงาน ใหม่
แต่แม่ยืนกรานไม่เห็นด้วย แม่พูดกับผมว่า
"แม่มีลูกอยู่ทั้งคน...แม่ไม่ต้องความรักอีก"
แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ 5 แล้ว
6. ในทื่สุดผมก็เรียนจบและมีงานทำ
ผมอยากให้แม่ซึ่งตรากตรำทำงานหนักมาตลอดได้พักผ่อนบ้าง
แต่แม่ไม่ยอม.....กลับไปตลาดทุกเช้า
ขายผักที่หามาได้เพื่อเลี้ยงชีพทั้ง ๆที่ผมพยายามส่งเงินมาให้แม่
(ผมต้องไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล)
แม่ผมไม่ค่อยยอมรับเงินผม..บางครั้งยังส่งเงินกลับคื นให้ผมอีก
แม่พูดกับผมว่า "แม่มีเงินพอใช้แล้ว...ลูกควรเก็บเงินไว้สร้างฐานะ"
แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ 6
7. เพื่ออนาคตที่ก้าวหน้า..
ผมตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทด้วยทุนของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในอเมริกา เมื่อผมเรียนจบก็ได้งานทำที่นั่นและมีเงินเดือนค่อนข้างสูง
เมื่อทำงานไปได้สักพัก...ผมอยากให้แม่ผมมาอยู่กับผมที่อเมริกา
เพื่อว่าแม่จะได้หยุดทำงาน...พักผ่อนให้สบายในบั้นปลายของชีวิต
แต่แม่ผมไม่อยากรบกวนผม...บอกผมว่า "แม่ไม่คุ้นเคยกับชีวิตต่างแดน"
ครั้งที่ 7 แล้วซินะที่แม่โกหกผม
8. เมื่อแม่แก่ตัวลงไปเรื่อย ๆ..
ในที่สุดแม่ก็เป็นมะเร็งและต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โ รงพยาบาล
ผมลางานแล้วรีบบินกลับมาหาแม่สุดที่รักทันที
แม่ผมนอนพักฟื้นอยู่บนเตียงเมื่อผมไปถึง
น้ำตาผมไหลอาบแก้มเมื่อเห็นแม่ซึ่งผ่ายผอมและดูทรุดโ ทรมลงอย่างมาก
แม่รู้สึกดีใจมากที่เห็นผม....พยายามยิ้มอย่างสดชื่น ด้วยความลำบาก
ผมรู้ดีว่าแม่ได้ฝืนความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างสุดฝืน
จากโรคมะเร็งร้ายที่ลามไปทั่วทั้งตัว
ผมโอบกอดแม่พร้อมกับร้องไห้ด้วยความสงสาร
หัวใจผมในขณะนั้นเศร้าหมองและเจ็บปวดอย่างที่สุด
แม่พยายามปลอบผมด้วยเสียงที่แหบพร่าและสั่นเครือ
"ลูกรักของแม่...เห็นหน้าลูกแม่ไม่รู้สึกเจ็บแล้ว"
นี่เป็นครั้งที่ 8 ที่แม่โกหก
และเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของแม่ที่โกหกผม
แม่ที่ผมรักและบูชามาตลอดชีวิตได้ปิดตาลงและจากผมไปอย่างไม่มีวันกลับ
หลังจากที่เธอกล่าวคำโกหกครั้งที่ 8 จบลง.........
ขอบคุณ คุณสาว 11111มากครับที่แนะนำเรื่องนี้
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554
คลิกดูสารบัญหัวข้อที่ 1701 - 1800
[1800] ด/ล หนัง+คำแนะนำในการดูหนังเพื่อฟิตอังกฤษ
[1799] ดูหนัง Titanic
[1798] แนะนำเว็บไซต์ พระไพศาล วิสาโล
[1797]“ฤทธิ์มีดสั้น” ภ.อังกฤษ + click Dictionary
[1796] ด/ล โปรแกรม Oxford Essential Dictionary
[1795] ด/ล โปรแกรมอ่านออกเสียงภ.อังกฤษ(เกรด A)
[1794]แนะนำ vocabularycoach.com
[1793] ลองทำ TOEFL grammar test กันหน่อยไหมครับ
[1792] อ่าน นิยาย ภาษาอังกฤษที่แปลจากภาษาไทย (2)
[1791] เว็บวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจ
[1790] แนะนำเกม Spelling Bee
[1789] ด/ล 4 โปรแกรมดิกชั้นดี แบบไม่ต้องติดตั้ง
[1788] ต้องทั้ง realistic และ optimistic ในการฝึกอังกฤษ
[1787] เรียนภาษาอังกฤษกับ Bangkok Post
[1786] วิธี Search วีดิโอ โดยใช้ Category
[1785] แนะนำบล็อก “20 ประโยคภาษาอังกฤษต่อวัน”
[1784] โปรแกรมแปลงไฟล์วีดิโอ เป็นไฟล์ media ต่าง ๆ
[1783] ฝันให้ไกล-ทำให้ได้ดังที่ฝัน และ รักษาใจ-เมื่อไม่ได้ดังที่ฝัน
[1782] PDFTiger: โปรแกรมแปลง pdf เป็น word,JPEG
[1781]ฝึกพูดตั้งคำถาม+สนทนา กับไฟล์ mp3- 68 บท
[1780]ด/ลไฟล์ mp3,video เกรด A เพื่อการเรียนอังกฤษ ที่นี่
[1779] pray for japan
[1778]"Yes! You Can" โดย ฮาร์ท สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล
[1777]เรียนภ.อังกฤษกับชื่อเครื่องใช้ในบ้าน-สำนักงาน
[1776]ภาพถ่ายดาวเทียม ก่อน-หลัง หายนภัยที่ญี่ปุ่น
[1775] แนะนำ 2 เว็บดิกชันนารีทางธุรกิจ+คลิปวีดิโอ
[1774]แนะนำเว็บช่องทีวีภ.อังกฤษสำหรับเด็กผ่านเน็ต
[1773]ดูทีวี–ฟังวิทยุ ภาษาอังกฤษทั่วโลกผ่านเน็ต
[1772] ศึกษา verb 1,904 คำที่ใช้บ่อย
[1771]เว็บเพลง
[1770] news & view เกี่ยวกับไทย จากแหล่งข่าวโลก
[1769] ติดตามข่าวแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด
[1768]มีหูอยู่คู่เดียว.ฟังไม่รู้เรื่องก็ต้องฝึกฟัง
[1767]เราควรศึกษาภูมิปัญญาชาวบ้านของชาวโลกไว้บ้าง
[1766]Dictionary Add-on สำหรับ Firefox,Chrome, IE
[1765] MP3 Quality Modifier – โปรแกรมปรับเสียง MP3 ให้ดีขึ้น
[1764]Bing Dictionary–ดิกที่ช่วยฝึกพูดภาษาอังกฤษ
[1763]ฝึกใช้ดิก อัง-อัง กับศัพท์ อัง-ไทย ๔๘ หมวด
[1762] ด/ล หนังสือชุด Grammar Time 6 เล่ม
[1761] รวมธรรมะหลวงพ่อชา และ อาจารย์พุทธทาส
[1760] ดาวน์โหลดหนังสืออ่านนอกเวลา+mp3 36 เล่ม
[1759] การใช้ Google Translate แปลและอ่านรู้เรื่อง
[1758] แนะนำวิธีค้นหาวีดิโอเพื่อการศึกษาภาษาอังกฤษ
[1757] แนะนำวีดิโอ teacherphil.com
[1756] ด/ล English for You ภาคภาษาไทย 96 บท (2)
[1755] double-click dictionary สำหรับ webmaster
[1754]หนังสือแจกงานพระราชทานเพลิงศพหลวงตามหาบัว
[1753] แนะนำเกม Wordmaster เว็บ BBC
[1752]อ่านอังกฤษ,ฝึกสมองร่องใหม่,แก้ไขความจำเสื่อม
[1751] ขุด “ขุมศัพท์” ที่ฝังอยู่ในดิกชันนารี
[1750]ฝึกฟังให้รู้เรื่องก่อนตามัวอ่านหนังสือไม่ชัด
[1749] เพิ่มคำศัพท์ กับ click dict
[1748] ฝึกฟังภาษาอังกฤษหลายสำเนียงทั่วโลก
[1747] ศึกษาการเขียนความเรียงภาษาอังกฤษจากแผนฯชาติ
[1746] รวมเว็บวีดิโอสารคดีภาษาอังกฤษ
[1745] วิธีพื้นฐานในการฝึกฟังภาษาอังกฤษให้รู้เรื่อง
[1744]ฝากดิกไว้ให้ทำความคุ้นเคยกับศัพท์ สัก 1 เล่ม
[1743] ผลิตภัณฑ์ "เสริม” VS “สั่งเสีย” สุขภาพ
[1742]บูชาพระในวันมาฆบูชา(Magha Puja Day’s Resolution
[1741] วิธีหาเว็บ ที่คล้าย ๆ กับเว็บ ที่เราถูกใจ
[1740] “พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ อายจังเลย ทำไงดี?”
[1739]เรียนภ.อังกฤษด้วยความรู้สึกเฉยๆหรือไม่ชิงชัง
[1738] ให้ “โอบามา” สอนภาษาอังกฤษ
[1737] “ฝังเข็มที่ใจ”
[1736] แนะนำบทความ English Is Here to Stay
[1735] e4thai.com มีห้องพูดคุยแล้วครับ
[1734] ภาษิตจีน... มรดกโลกที่น่าศึกษา
[1733]ฝึกอ่านข่าว-แปลข่าว จากเว็บข่าว อังกฤษ-ไทย
[1732] วิธีการย่อบทความภาษาอังกฤษ
[1731]ช่วยด้วยครับ !! ผมชักจะหมดเรื่องเขียนแล้ว
[1730] หลัก 3 ข้อในการฝึกฟังภาษาอังกฤษ
[1729] ด/ล ชุด“English for Work Activities”
[1728] สัพเพสาระสตอรี่
[1727]Luangta Maha Bua passes away
[1726]เที่ยววัดพุทธ – วัดไทย ทั่วโลก
[1725]ไม่สามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้... จะแก้ไขยังไง?
[1724] “learn English, live English, love English”
[1723] แนะนำครูผู้หญิงสอนภาษาอังกฤษ free online
[1722] สถานที่งดงามที่สุดในโลก 100 แห่ง
[1721] ด/ล ชุด“English for Everyday Activities”
[1720] เรียนภาษาอังกฤษจากภาพ (อีกครั้ง)
[1719] เรียน 100 บทสนทนากับ goethe-verlag.com
[1718] “เรียนภาษาอังกฤษจากรูปภาพ ดีกว่าการท่องจำ”
[1717] ภาษาอังกฤษกับแท็กซี่
[1716]ที่นี่มีศัพท์ทุกคำ ที่ท่านต้องการหาความหมาย
[1715] วีดิโอเรียนภาษาอังกฤษจากเว็บ manythings.org
[1714] “ชีวิตคือกาแฟถ้วยหนึ่ง” และเรื่องอื่น ๆ
[1713] เตรียมตัวไปสอบ Listening
[1712] เล่นจำศัพท์กับ flashcards.dictionary.com
[1711]เรียนภาษาอังกฤษจากเว็บประเภท “How-to”
[1710] random word generator
[1709] ทดสอบความเข้าใจในการอ่าน
[1708] แนะนำ ทดสอบศัพท์ อังกฤษ < - > ไทย หลายเว็บ
[1707] แนะนำ The Complete English Grammar Series
[1706]คำตอบคือใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน(ผ่านการดูวีดิโอ)
[1705] ใช้ Google หาเพลงให้ฟัง
[1704]ฝึกฟังข่าวง่าย - ข่าวช้า – ข่าวสั้น
[1703] ท่องศัพท์ กับตอกตะปู ไม่ต่างกันเลยครับ
[1702] “แม่โกหกผม 8 ครั้งในชีวิต”
[1701] ฝึกภาษาอังกฤษได้วันละประโยคเดียวก็ยังดี
[1799] ดูหนัง Titanic
[1798] แนะนำเว็บไซต์ พระไพศาล วิสาโล
[1797]“ฤทธิ์มีดสั้น” ภ.อังกฤษ + click Dictionary
[1796] ด/ล โปรแกรม Oxford Essential Dictionary
[1795] ด/ล โปรแกรมอ่านออกเสียงภ.อังกฤษ(เกรด A)
[1794]แนะนำ vocabularycoach.com
[1793] ลองทำ TOEFL grammar test กันหน่อยไหมครับ
[1792] อ่าน นิยาย ภาษาอังกฤษที่แปลจากภาษาไทย (2)
[1791] เว็บวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจ
[1790] แนะนำเกม Spelling Bee
[1789] ด/ล 4 โปรแกรมดิกชั้นดี แบบไม่ต้องติดตั้ง
[1788] ต้องทั้ง realistic และ optimistic ในการฝึกอังกฤษ
[1787] เรียนภาษาอังกฤษกับ Bangkok Post
[1786] วิธี Search วีดิโอ โดยใช้ Category
[1785] แนะนำบล็อก “20 ประโยคภาษาอังกฤษต่อวัน”
[1784] โปรแกรมแปลงไฟล์วีดิโอ เป็นไฟล์ media ต่าง ๆ
[1783] ฝันให้ไกล-ทำให้ได้ดังที่ฝัน และ รักษาใจ-เมื่อไม่ได้ดังที่ฝัน
[1782] PDFTiger: โปรแกรมแปลง pdf เป็น word,JPEG
[1781]ฝึกพูดตั้งคำถาม+สนทนา กับไฟล์ mp3- 68 บท
[1780]ด/ลไฟล์ mp3,video เกรด A เพื่อการเรียนอังกฤษ ที่นี่
[1779] pray for japan
[1778]"Yes! You Can" โดย ฮาร์ท สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล
[1777]เรียนภ.อังกฤษกับชื่อเครื่องใช้ในบ้าน-สำนักงาน
[1776]ภาพถ่ายดาวเทียม ก่อน-หลัง หายนภัยที่ญี่ปุ่น
[1775] แนะนำ 2 เว็บดิกชันนารีทางธุรกิจ+คลิปวีดิโอ
[1774]แนะนำเว็บช่องทีวีภ.อังกฤษสำหรับเด็กผ่านเน็ต
[1773]ดูทีวี–ฟังวิทยุ ภาษาอังกฤษทั่วโลกผ่านเน็ต
[1772] ศึกษา verb 1,904 คำที่ใช้บ่อย
[1771]เว็บเพลง
[1770] news & view เกี่ยวกับไทย จากแหล่งข่าวโลก
[1769] ติดตามข่าวแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด
[1768]มีหูอยู่คู่เดียว.ฟังไม่รู้เรื่องก็ต้องฝึกฟัง
[1767]เราควรศึกษาภูมิปัญญาชาวบ้านของชาวโลกไว้บ้าง
[1766]Dictionary Add-on สำหรับ Firefox,Chrome, IE
[1765] MP3 Quality Modifier – โปรแกรมปรับเสียง MP3 ให้ดีขึ้น
[1764]Bing Dictionary–ดิกที่ช่วยฝึกพูดภาษาอังกฤษ
[1763]ฝึกใช้ดิก อัง-อัง กับศัพท์ อัง-ไทย ๔๘ หมวด
[1762] ด/ล หนังสือชุด Grammar Time 6 เล่ม
[1761] รวมธรรมะหลวงพ่อชา และ อาจารย์พุทธทาส
[1760] ดาวน์โหลดหนังสืออ่านนอกเวลา+mp3 36 เล่ม
[1759] การใช้ Google Translate แปลและอ่านรู้เรื่อง
[1758] แนะนำวิธีค้นหาวีดิโอเพื่อการศึกษาภาษาอังกฤษ
[1757] แนะนำวีดิโอ teacherphil.com
[1756] ด/ล English for You ภาคภาษาไทย 96 บท (2)
[1755] double-click dictionary สำหรับ webmaster
[1754]หนังสือแจกงานพระราชทานเพลิงศพหลวงตามหาบัว
[1753] แนะนำเกม Wordmaster เว็บ BBC
[1752]อ่านอังกฤษ,ฝึกสมองร่องใหม่,แก้ไขความจำเสื่อม
[1751] ขุด “ขุมศัพท์” ที่ฝังอยู่ในดิกชันนารี
[1750]ฝึกฟังให้รู้เรื่องก่อนตามัวอ่านหนังสือไม่ชัด
[1749] เพิ่มคำศัพท์ กับ click dict
[1748] ฝึกฟังภาษาอังกฤษหลายสำเนียงทั่วโลก
[1747] ศึกษาการเขียนความเรียงภาษาอังกฤษจากแผนฯชาติ
[1746] รวมเว็บวีดิโอสารคดีภาษาอังกฤษ
[1745] วิธีพื้นฐานในการฝึกฟังภาษาอังกฤษให้รู้เรื่อง
[1744]ฝากดิกไว้ให้ทำความคุ้นเคยกับศัพท์ สัก 1 เล่ม
[1743] ผลิตภัณฑ์ "เสริม” VS “สั่งเสีย” สุขภาพ
[1742]บูชาพระในวันมาฆบูชา(Magha Puja Day’s Resolution
[1741] วิธีหาเว็บ ที่คล้าย ๆ กับเว็บ ที่เราถูกใจ
[1740] “พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ อายจังเลย ทำไงดี?”
[1739]เรียนภ.อังกฤษด้วยความรู้สึกเฉยๆหรือไม่ชิงชัง
[1738] ให้ “โอบามา” สอนภาษาอังกฤษ
[1737] “ฝังเข็มที่ใจ”
[1736] แนะนำบทความ English Is Here to Stay
[1735] e4thai.com มีห้องพูดคุยแล้วครับ
[1734] ภาษิตจีน... มรดกโลกที่น่าศึกษา
[1733]ฝึกอ่านข่าว-แปลข่าว จากเว็บข่าว อังกฤษ-ไทย
[1732] วิธีการย่อบทความภาษาอังกฤษ
[1731]ช่วยด้วยครับ !! ผมชักจะหมดเรื่องเขียนแล้ว
[1730] หลัก 3 ข้อในการฝึกฟังภาษาอังกฤษ
[1729] ด/ล ชุด“English for Work Activities”
[1728] สัพเพสาระสตอรี่
[1727]Luangta Maha Bua passes away
[1726]เที่ยววัดพุทธ – วัดไทย ทั่วโลก
[1725]ไม่สามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้... จะแก้ไขยังไง?
[1724] “learn English, live English, love English”
[1723] แนะนำครูผู้หญิงสอนภาษาอังกฤษ free online
[1722] สถานที่งดงามที่สุดในโลก 100 แห่ง
[1721] ด/ล ชุด“English for Everyday Activities”
[1720] เรียนภาษาอังกฤษจากภาพ (อีกครั้ง)
[1719] เรียน 100 บทสนทนากับ goethe-verlag.com
[1718] “เรียนภาษาอังกฤษจากรูปภาพ ดีกว่าการท่องจำ”
[1717] ภาษาอังกฤษกับแท็กซี่
[1716]ที่นี่มีศัพท์ทุกคำ ที่ท่านต้องการหาความหมาย
[1715] วีดิโอเรียนภาษาอังกฤษจากเว็บ manythings.org
[1714] “ชีวิตคือกาแฟถ้วยหนึ่ง” และเรื่องอื่น ๆ
[1713] เตรียมตัวไปสอบ Listening
[1712] เล่นจำศัพท์กับ flashcards.dictionary.com
[1711]เรียนภาษาอังกฤษจากเว็บประเภท “How-to”
[1710] random word generator
[1709] ทดสอบความเข้าใจในการอ่าน
[1708] แนะนำ ทดสอบศัพท์ อังกฤษ < - > ไทย หลายเว็บ
[1707] แนะนำ The Complete English Grammar Series
[1706]คำตอบคือใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน(ผ่านการดูวีดิโอ)
[1705] ใช้ Google หาเพลงให้ฟัง
[1704]ฝึกฟังข่าวง่าย - ข่าวช้า – ข่าวสั้น
[1703] ท่องศัพท์ กับตอกตะปู ไม่ต่างกันเลยครับ
[1702] “แม่โกหกผม 8 ครั้งในชีวิต”
[1701] ฝึกภาษาอังกฤษได้วันละประโยคเดียวก็ยังดี