วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

[1740] “พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ อายจังเลย ทำไงดี?”

สวัสดีครับ
คนที่ 1: “พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ อายเขาจังเลย ทำไงดีให้พูดได้?”
คนที่ 2: “ฝึกพูดไปเรื่อย ๆ มันก็ค่อย ๆ พูดดีขึ้นเอง ไม่เท่าไหร่ก็พูดคล่อง ไม่ต้องอายหรอก”

คนที่ 1: “เป็นคนนะไม่ใช่ท่อนไม้ ขอไม่ให้คนอาย-ไม่ขอมากไปหน่อยหรือ?”
คนที่ 2: “มีคนเยอะแยะที่เขาไม่อาย และใช้เวลาฝึกพูดไม่นาน คุณมัวแต่อายก็เลยไม่ได้พูด”

คนที่ 1: “ที่เขาไม่อายเพราะเขาพูดได้ดี หรือพูดได้ไม่แย่กว่าคนอื่น ถ้าลองพูดไม่ได้ก็ต้องอายเหมือนกันแหละน่า”
คนที่ 2: “แล้วคนที่เขาพูดไม่ค่อยได้ แต่ก็ทนพูดไป ไม่อาย ทำไมเขาทำได้”

คนที่ 1: “เขาพูดได้โดยไม่อายก็เรื่องของเขา แต่ฉันอาย ฉันไม่พูด”
คนที่ 2: “ถามหน่อยเถอะ นี่อายไม่ยอมพูดนี้ อายอะไร”

คนที่ 1:”ก็อายที่พูดผิด ๆ ถูก ๆ ตะกุกตะกักน่ะซี”
คนที่ 2:”ทำไมพูดผิด ๆ ถูก ๆ ตะกุกตะกัก ต้องอายด้วย แรก ๆ มันก็ต้องอย่างนี้ไปก่อนแหละ”

คนที่ 1:”พอที ขี้เกียจฟัง”
คนที่ 2: “ผมเองก็ขี้เกียจพูดกับคุณเหมือนกันแหละ”
เริ่มต้นคุยกันได้ดี ๆ ทำไปทำมาจะทะเลาะกันซะแล้ว

ท่านผู้อ่านครับ ผมเองก็สงสัยเรื่องนี้อยู่ไม่น้อยทีเดียว ผมไม่มีสถิติของประเทศอื่น แต่ถ้าอนุญาตให้เดาก็ขอเดาว่า ถ้าเอาปริมาณความอายที่ทำให้ไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษของคนชาติต่าง ๆ มาเปรียบเทียบกัน คนไทยน่าจะติด Top 10 หรือ Top 5 แน่ ๆ เราอายเพราะกลัวคนอื่นเห็นเราพูดผิด ๆ ถูก ๆ ตะกุกตะกัก พูดอังกฤษด้วยสำเนียงไทย ๆ ... อายจนไม่กล้าฝึกต่อ เลยทำให้พูดดีขึ้นไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ถ้าเราฝึกเรื่อยไป มันก็ต้องพูดได้ และพูดดีขึ้นด้วย โดยไม่ต้องสงสัย

เรื่องนี้ผมขอพูดอะไรสักนิด เป็นข้อ ๆ ดังนี้ครับ

[1] โลกทุกวันนี้ ภาษาอังกฤษเป็นทักษะภาคบังคับของคนรุ่นใหม่ที่ทันยุคไปซะแล้ว ท่านจะต้อง อ่านออก-เขียนได้ และ ฟังออก-พูดได้ ถ้าไม่ต้องการเป็นคนรุ่นเก่าที่ตกยุค

[2] มีสาเหตุมากมายที่ทำให้ท่านเก่งหรือไม่เก่งภาษาอังกฤษ ทั้งจากภายนอกและภายในตัวท่านเอง สาเหตุจากภายนอกก็เช่น ได้รับการศึกษาอบรมฝึกฝนให้ได้เรียนหรือใช้ภาษาอังกฤษมาตั้งแต่อายุน้อย ก็เลยเก่งตั้งแต่เล็กไม่ต้องให้ใครมากวดตอนโต หรือตัวท่านเองมีความชอบหรือพรสวรรค์มาตั้งแต่เกิด เรียนนิดเดียวก็รู้เรื่องเยอะ ฝึกครั้งเดียวหรือไม่กี่ครั้งก็เป็นเลย ในทำนองตรงกันข้าม ถ้าโลกและโชคไม่เข้าข้าง ทำให้ไม่ค่อยได้ข้องแวะกับภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เล็ก สวรรค์ก็ไม่เคยเป็นใจ ไม่ยอมใส่ความเก่งความชอบภาษาอังกฤษให้มาแม้แต่นิดเดียว อย่างนี้ก็แย่หน่อย

[3] แต่ไม่ว่าท่านจะเก่งหรือไม่เก่งภาษาอังกฤษ ได้รับพรจากสวรรค์ หรือคำสาบจากนรกในเรื่องทักษะภาษาอังกฤษ ถ้าท่านหลงมาคลอดและรอดเป็นทารก จนโตเป็นผู้ใหญ่ในประเทศนี้ โปรดรับทราบไว้ด้วยว่า ภาษาอังกฤษได้กลายเป็นทักษะหรือ “วิชาบังคับ” ไปซะแล้ว การจะสอบผ่านวิชานี้ มีเกณฑ์วัดง่าย คือ ท่านจะต้อง อ่านออก-เขียนได้ และ ฟังออก-พูดได้ อย่างน้อยก็ระดับ basic และห้องที่ท่านจะสอบก็คือสังคมที่ท่านใช้ชีวิตและประกอบอาชีพ ครูคุมสอบก็คือการงานและบุคคลที่ท่านเกี่ยวข้องด้วย

[4] ใน 4 ทักษะคือ ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน นี้ ถ้าท่านต้องการเก่งทักษะใดก็ต้องฟิตอีก 3 ทักษะด้วย ท่านไม่สามารถฝึกเพียง 1 ทักษะโดด ๆ เช่น ต้องการฝึกพูดให้เก่งขึ้น ก็ต้องฝึกฟัง-ฝึกอ่าน-ฝึกเขียน ด้วย เหมือนขาตั้งกล้องมี 3 ขานั่นแหละ ตอนที่อยู่กับคนอื่นท่านก็ฝึกพูด แต่ตอนที่อยู่คนเดียว ก็ฝึกฟัง-อ่าน-เขียน ไปพลาง ๆ ทักษะที่ขาตั้งทั้งสาม จะช่วยทำให้กล้องที่ท่านตั้ง – ปากที่ท่านพูด ทำหน้าที่ได้อย่างมั่นคง ภาพชัด-ไม่ไหว พูดชัด-ไม่พลาด อุปมาเช่นนี้อาจจะฟังเว่อไปสักนิด แต่รับรองว่าไม่ผิดครับ

[5] การฝึกให้เก่งอังกฤษ เช่น การฝึกพูดนี้ มีอะไรหลายอย่างให้เราเจอ บางอย่างไม่ถูกใจเรา บางเวลาเราอาจรู้สึกสนุก สมหวัง มีกำลังใจ แต่ก็มีบางครั้งที่เรารู้สึกเหงา หดหู่ ท้อแท้ และเศร้า หมดแรง แต่ไม่ว่าท่านจะรู้สึกอย่างไร ก็ขอให้เดินไม่หยุด ถ้าไม่สามารถเดินอย่างสนุก รื่นเริง มีกำลัง ก็ให้ฝืนเดินไป ทั้ง ๆ ที่หดหู่-ท้อแท้-หมดแรง นั่นแหละ ถ้าฝึกอย่างมีคุณภาพทำไม่ได้ เพียงฝึกให้มีปริมาณก็ยังดีอย่าหยุดฝึก” จำง่าย ๆ และทำง่าย ๆ แค่นี้แหละ

[6] ย้อนกลับมายังคำถามเดิม “พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ อายเขาจังเลย ทำไงดีให้พูดได้?” ให้ท่านกลับไปอ่านข้อที่ [1] – [5] อีกเที่ยวหนึ่งครับ

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

11 ความคิดเห็น:

Jees กล่าวว่า...

totally agreed

jason กล่าวว่า...

ที่คุณพิพัฒน์พูดมาทั้งหมด
ตรงกับผมหมดเลย

pipat - blogger กล่าวว่า...

ถ้าอย่างนั้น คุณ jason ลองทำตามคำแนะนำในข้อ [4] และ [5]ดูหน่อยซีครับ

jason กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ
ผมต้องลองทำดูหน่อย

artee_th กล่าวว่า...

รับความรู้ภาษาอังกฤษ เทคนิคได้ที่

www.facebook.com/speakingclub

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เป็นคนที่ไม่เก่งอังกฤษเลยค่ะ ท่องศัพท์ทุกวันนะคะ
อายอยู่เหมือนกันที่พูดไม่ได้แต่ก็พยายามค่ะ ครูที่เป็นชาวต่างชาติเขาก็ใจดี เลยเรียนแล้วไม่เครียดค่ะ

pipat - blogger กล่าวว่า...

สำคัญที่ต้องพยายามต่อเนื่องนะครับ

mai กล่าวว่า...

kop kun mack mack ka

pipat - blogger กล่าวว่า...

duai kwam yin dee krub
pipat

winnie กล่าวว่า...

มีกำลังใจขึ้นเยอะ ขอบคุณนะคะ
ตอนนี้อยู่ออสเตรเลีย มาเรียนได้ 4 เดือนแล้วค่ะ
แต่ก็ยังพูดและฟังไม่ค่อยได้เลยค่ะ ท้อแท้มากๆ
แต่ก็ยังพยายามอยู่ค่ะ ก่อนหน้านี้รู้สึกชีวิตมืดมนมากๆค่ะ หางานทำก็ยากค่ะ (ถ้าไม่ใช่ร้านอาหารไทยน่ะค่ะ)
ขอบคุณมากนะค่ะ ติดตามblog ของอาจารย์มาตลอดค่ะ

pipat - blogger กล่าวว่า...

คุณ winnie ครับ
อุปสรรคเป็นสิ่งที่ความสำเร็จส่งมาลองใจครับ
และความสำเร็จจะมีให้แก่คนใจเด็ดเท่านั้น
พิพัฒน์