วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2552

[1038]หาไฟล์ PowerPoint ทำสื่อการสอน, นำเสนองาน

สวัสดีครับ
ผมเองไม่ได้เป็นครู แต่เดาเอาว่า การมีสื่อการสอนที่ดีมีส่วนอย่างมากที่ช่วยให้เด็กที่เราสอน เข้าใจ พอใจ และเอาสิ่งที่สอนไปใช้ได้
และครูก็ไม่ได้มีหน้าที่สอนอย่างเดียว บางครั้งก็ต้องพูดให้ผู้ใหญ่, ผู้บังคับบัญชา, เพื่อนร่วมงาน หรือคนอื่น ๆ ฟัง
ถ้าพูดให้ศิษย์ฟัง เราเรียกว่า “สอน” แต่ถ้าพูดให้พูดผู้ใหญ่ฟัง เราเรียกว่า “นำเสนอ” และเท่าที่สังเกตดู ไฟล์ PowerPoint สามารถเป็นทั้งเครื่องมือช่วยสอน และเครื่องมือในการนำเสนอ การทำไฟล์ PowerPoint เป็น จึงมีประโยชน์มาก

แต่ถ้าท่านทำไม่เป็น(ผมเองก็ทำเป็นแค่นิดเดียว) และตอนนี้อยากจะได้ไฟล์ PowerPoint มาใช้งานด้านการสอนหรือการนำเสนอเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ อาจจะลองหาจากเน็ต โดยให้ Google ช่วยหา

คลิกดาวน์โหลดคำแนะนำพร้อมภาพประกอบ ในการหาไฟล์ PowerPoint จากอินเตอร์เน็ต ได้ที่นี่ครับ คลิก

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2552

[1037] ท่านใช้เว็บ“ราชบัณฑิตยสถาน” ครบถ้วนหรือยัง?

สวัสดีครับ
เว็บ “ราชบัณฑิตยสถาน” นอกจากมี พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ บริการแล้ว ยังมีของดีอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ เชิญท่านเข้าไปสำรวจและดูซิว่า ท่านได้ใช้ประโยชน์จากของดี ๆ เหล่านี้ครบถ้วนหรือยัง เช่น

ศัพท์ต่างประเทศที่ใช้คำไทยแทนได้

ศัพท์บัญญัติสาขาต่าง ๆ ของราชบัณฑิตยสถาน

หลักเกณฑ์การทับศัพท์ภาษาอังกฤษ

หลักเกณฑ์การถอดอักษรไทยเป็นอักษรโรมันแบบถ่ายเสียง

ชื่อจังหวัด เขต อำเภอ กิ่งอำเภอ

คำชี้แจง ชื่อประเทศ

ชื่อประเทศ ดินแดน เขตการปกครอง และเมืองหลวง

วัด วัง ถนน ฯลฯ ในเขตกรุงเทพมหานคร

ชื่อภูมิศาสตร์จากอักขรานุกรมภูมิศาสตร์ไทย

คลังความรู้ (แบ่งเป็นกลุ่มต่าง )

กระทู้ ถาม – ตอบ

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

[1036] อ่าน – ฟัง ธรรมะที่ what-buddha-taught.net

สวัสดีครับ
ท่านที่เป็นแฟนประจำบล็อกนี้คงจะสังเกตได้ว่านอกจากภาษาอังกฤษแล้ว บล็อกนี้ยังมีธรรมะให้ท่านศึกษาไปพร้อมกัน โดยได้รวมไว้ที่ลิงค์นี้ ธรรมะ เหตุผลง่าย ๆ ที่ผมทำเช่นนี้ก็คือ ถ้าภาษาอังกฤษมีประโยชน์ทางโลก ช่วยให้เราทำมาหากิน มีชีวิตที่ดีขึ้นทางกาย ธรรมะก็มีประโยชน์ในทางธรรม ช่วยให้เราพ้นทุกข์ มีชีวิตที่ดีขึ้นทางใจ และถ้าเราสามารถศึกษาภาษาอังกฤษไปพร้อมกับศึกษาธรรมะก็จะได้ประโยชน์สองเท่าในคราวเดียวกัน เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ตัวโต ๆ ทั้งสองตัวเลย

เราจะได้ทั้งสองอย่างดังกล่าวก็ด้วยการอ่านหนังสือธรรมะ ฟังmp3 ธรรมะ หรือดูวีดิโอธรรมะที่เป็นภาษาอังกฤษ หรือจะสลับด้วยภาษาไทยก็ได้ และที่เว็บ what-buddha-taught.net ก็เป็นเว็บที่ช่วยให้เราได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาธรรมไปในคราวเดียวกัน และได้อย่างเพลิดเพลินด้วยครับ เพราะเขาออกแบบเว็บและการนำเสนอเนื้อหาได้อย่างเรียบง่าย สะอาดตา และน่าสนใจ

ที่เว็บนี้ครับ
http://www.what-buddha-taught.net/index.htm

ท่านจะเห็นว่า มีธรรมะภาษาอังกฤษจากพระภิกษุสุปฏิบัติทั้งชาวไทยชาวต่างประเทศให้ศึกษามากมาย ท่านเลื่อนชมให้ทั่ว ๆ และเลือกองค์ที่ท่านชอบใจ

หรือจะอ่านภาษาไทยก็ได้ครับ ที่นี่

และเพื่อความสะดวก ที่ด้านล่างของหน้า มี Google Search ให้ค้นเรื่องที่ต้องการ ท่านสามารถพิมพ์ค้นได้ 2 วิธี
วิธีที่ 1: พิมพ์คำค้นลงไปเฉย ๆ เช่น ต้องการอ่านเกี่ยวกับความสงบก็พิมพ์ลงไปว่า ความสงบ หรือ peace
วิธีที่ 2: ถ้าต้องการเจาะจงให้คำค้นของเราปรากฏอยู่ในชื่อหัวข้อ (title) ก็พิมพ์ลงไปอย่างนี้ intitle:ความสงบ หรือ intitle:peace

Google Search นี้ อยู่ตอนท้ายของหน้า ขอเชิญให้ท่านเข้าไปซ้อมการค้นหาตามวิธีที่ผมแนะ และจะเห็นว่าได้ผลดีกว่าพิมพ์คำค้นเฉย ๆ

การพิมพ์คำค้นตามรูปแบบนี้ intitle:คำค้น ท่านสามารถเอาไปใช้ค้นเรื่องอื่น ๆ ได้ทุกเรื่อง จะช่วยให้ท่านได้ผลที่ค้นหาตรงกับสิ่งที่ท่านต้องการมากยิ่งขึ้น

ผมขออำนวยความสะดวกอีกอย่างหนึ่งนะครับ ถ้าท่านต้องการให้เว็บ what-buddha-taught.net แปลคำศัพท์เป็นภาษาไทยเมื่อวางเมาส์บนคำศัพท์ เชิญคลิกที่ ลิงค์นี้

what-buddha-taught.net ยังมีวีดิโอและ mp3 ธรรมะบริการท่านอีกด้วย

[1] วิดิโอ
http://www.what-buddha-taught.net/video_files.htm
เช่น ท่านชยสาโรเล่าประวัติของหลวงพ่อชาเป็นภาษาอังกฤษ คลิก ที่นี่

[2] mp3
http://www.what-buddha-taught.net/audio_files.htm

และสุดท้าย what-buddha-taught.net ยังได้รวบรวมเว็บธรรมะที่มีคุณค่าไว้อีกมากมาย ที่นี่
http://www.what-buddha-taught.net/links.htm

ขออวยพรให้ทุกท่าน เก่งภาษาอังกฤษ และมีชีวิตที่งดงามด้วยความดี ที่ทำให้มีความสุข วันนี้และตลอดไป

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552

[1035]หลักสูตร ฟรี Spoken English Learned Quickly

สวัสดีครับ
หลักสูตร “พูดภาษาอังกฤษในเพียงเวลาสั้น ๆ” หรือ “Spoken English Learned Quickly” ที่จะแนะนำในวันนี้ มาจากเว็บ http://www.freeenglishnow.com/

เขาต้องการช่วยให้คนทั่วโลกพูดภาษาอังกฤษได้ โดยมีวิธีการว่า การจะพูดภาษาอังกฤษได้ถูกต้องคล่องแคล่วเหมือนเจ้าของภาษาจะต้องฝึกพร้อมกัน 3 อย่าง คือ ฝึกหูฟัง ฝึกลิ้นพูด และฝึกสมองคิด ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้เลย เขารับประกันว่า ถ้าฝึกกับเว็บนี้อย่างมีวินัยตามที่เขาแนะนำ ทุกคนจะพูดภาษาอังกฤษได้ถูกต้องคล่องแคล่วอย่างแน่นอน

ถ้าต้องการอ่านคำชี้แจงเป็นภาษาไทย คลิกที่นี่ครับ
http://www.freeenglishnow.com/studentinfothai.html

ผมอยากให้ท่านยอมลงทุนอ่านคำแนะนำนี้ให้จบก่อน แม้ว่าจะยาวสักหน่อย เพราะเป็นเรื่องที่ควรทำความเข้าใจก่อนศึกษา

[หมายเหตุ: มีเนื้อเรื่องทั้งหมด 16 บท เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระเยซูและคริสตศาสนา ซึ่งแสดงว่าผู้ที่ทำเว็บฟรีนี้มีวัตถุประสงค์จะเผยแพร่ศาสนาพร้อมไปกับการสอนภาษาอังกฤษ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ]

มีแบบฝึกหดทั้งหมด 16 บทข้างล่างนี้ online
หรือถ้าต้องการดาวน์โหลดไฟล์เพื่อเอาไปใช้ศึกษา offline ก็ทำได้

-คลิกเลือกบทที่ต้องการ แต่ควรศึกษาไปตามลำดับดีกว่าครับ เพราะว่าแม้บท “ง่าย ๆ” ที่ท่านอาจจะอ่านรู้เรื่อง ฟังรู้เรื่อง แต่อาจจะพูดได้ไม่คล่อง พูดได้ไม่ถูกต้อง พูดแล้วฝรั่งฟังไม่รู้เรื่อง พูดได้ช้าเกินไป พูดตอบสด ๆ ไม่ได้ เพราะฉะนั้นฝึกไปทีละบท และฝึกย้อนหลังบ่อย ๆ ดีกว่า

-คลิก AB เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ pdf ที่เป็นบทเรียน, จะคลิกที่ Download ที่ด้านบนของหน้า Lesson ได้

-คลิกที่ American Media(เพื่อฟังสำเนียงอมริกัน) หรือ British Media (grnjvฟังสำเนียงอังกฤษ) ถ้าต้องการดาวน์โหลด mp3 ก็คลิกขวา, คลิกซ้าย Save Target As…, Save

-บาง Lesson มีมากกว่า 1 หน้าเว็บ ให้คลิก Next


Lesson 1 AB
Lesson 2 AB
Lesson 3 AB
Lesson 4 AB
Lesson 5 AB
Lesson 6 AB
Lesson 7 AB
Lesson 8 AB
Lesson 9 AB
Lesson 10 AB
Lesson 11 AB
Lesson 12 AB
Lesson 13 AB
Lesson 14 AB
Lesson 15 AB
Lesson 16 AB
Vocab 1-5
Vocab 6-10
Vocab 1-16
Irreg verbs
More English Study
Tables 1 2 3 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 16
Learning Spoken English

เว็บนี้เขาให้ดาวน์โหลดไฟล์ข้อความและไฟล์เสียงได้ฟรี ๆ หรือจะเอาไปเบิร์นใส่ CD ขายก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาต

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2552

[1034] ร้านหนังสือใหญ่

สวัสดีครับ
บางท่านบอกว่า หนังสือหลายเล่มที่แนะนำในบล็อกนี้ จะหาซื้อได้ที่ไหน เพราะอ่านจากคอมฯ นาน ๆ ปวดตา

ผมขอแนะนำ 4 แห่งนี้แล้วกันครับ

1. ศูนย์หนังสือจุฬา ฯ

2. ศูนย์หนังสือ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

3. ร้านหนังสือ Asia Books

4. B2S

พิพัฒน์
GemTiple@gmail.com

[1033]แนะนำการติดตั้งและใช้งาน Dict Loy โดยละเอียด

สวัสดีครับ
ดิกชันนารีนอกจากมีไว้เปิดดูความหมายของศัพท์แล้ว ยังเป็นตัวช่วยในการเรียนภาษาอังกฤษได้อย่างดีเยี่ยม ดิกประเภทนี้เรียกว่า learner’s dictionary ซึ่งประกอบด้วย: ตัวอย่างประโยค การออกเสียง ข้อแนะนำเกี่ยวกับแกรมมาร์ที่ควรระวัง คำเหมือน/คำคล้าย คำตรงข้าม เป็นต้น learner’s dictionary ยี่ห้อดัง ๆ ระดับโลกมีดังนี้
-learner's dictionary ของ Webster
-Oxford
-Longman
-Cambridge
- Macmillan Dictionary
-MSN Encarta
-Cobuild
-Newburry House
-Google Dictionary

ปัญหาก็คือ บางท่านยังใช้ดิกอังกฤษ – อังกฤษข้างต้นไม่คล่อง จึงขอถามว่า learner’s dictionary ที่เป็น อังกฤษ – ไทย มีหรือเปล่า? โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ใช้กับคอมฯ ตอบว่ามีครับ คือ Dict Loy ที่เว็บนี้
http://www.babylon.com/define/122
ผมได้แนะนำการใช้งานไว้ที่นี่
[134]ใช้ดิก Babylon.com(+ดิก Loy มีประโยคตัวอย่าง)

สิ่งที่ผมจะแนะนำวันนี้ก็คือ ให้ท่านดาวน์โหลดโปรมแกรม Dict Loy เอาไปติดตั้งที่เครื่องคอมฯ ของท่าน โปรแกรมนี้ดียังไง ดีอย่างนี้ครับ
1. ฟรี ใช้ได้ตลอดไป และใช้ได้โดยไม่ต้องต่อเน็ต จะเอาไปลงคอมฯ กี่เครื่องก็ได้
2. มีคุณสมบัติของ learner’s dictionary ดังที่กล่าวข้างต้น ที่น่าสนใจมาก ๆ ก็คือ มีตัวอย่างประโยคเป็นภาษาอังกฤษ แถมบางทียังแปลประโยคตัวอย่างนี้เป็นภาษาไทยให้อีกด้วย
3. มีสำนวนและวลีประกอบคำศัพท์แสดงไว้ด้วย
4. บอกด้วยว่า คำนี้ ๆ พบบ่อยในข้อสอบ entrance, TOEFL หรือเป็นคำที่ควรระวังเพราะใช้กันผิดบ่อย ๆ
5. การใช้งานง่ายมาก พอติดตั้งเสร็จแล้ว คลิกที่ศัพท์ปุ๊บ ความหมายก็โผล่ขึ้นมาให้เห็นปั๊บ ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์
6. เป็น talking dict ออกเสียงได้
7. ตัวอย่างประโยคที่เป็นภาษาอังกฤษทุกคำเป็นลิงค์ ก็คือว่า เมื่อดับเบิ้ลคลิกที่คำใด ก็จะแสดงความหมายของคำนั้น ๆ ไปเรื่อย ๆ และจะคลิกย้อนมายังศัพท์คำเดิมก็ทำได้
8. นอกจากใช้อ่านหน้าเว็บแล้ว ยังใช้อ่านเอกสาร Word, Excel, และ PowerPoint ได้อีกด้วย

ผมขอแนะนำให้ท่านไปดาวน์โหลด Dict Loy ที่ ลิงค์นี้
และดาวน์โหลดคำแนะนำในการติดตั้งและใช้งานอย่างละเอียด (มีภาพประกอบ) ที่ ลิงค์นี้

ขอให้เก่งภาษาอังกฤษมากขึ้น ๆ นะครับ

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2552

[1032] ด/ล ดิก E-T, T - E เวอร์ชั่นใหม่ของ LEXiTRON

สวัสดีครับ
ผมไม่ได้เข้าไปที่ เว็บของดิกLEXiTRON ซะหลายวัน เพิ่งรู้ว่าตอนนี้ LEXiTRON มีเวอร์ชั่น 2.6 ให้ดาวน์โหลด คุณภาพดีมากกว่าเดิม ขนาดโปรแกรมโตขึ้นเป็น 50 MB ท่านสามารถลงทะเบียนและดาวน์โหลดได้ที่เว็บ LEXiTRON

หรือจะคลิกที่ 2 ลิงค์ข้างล่างนี้เพื่อดาวน์โหลดโดยไม่ต้องลงทะเบียนก็ได้ครับ
ลิงค์ที่ 1: จากเว็บ bangkoklibrary.com
ลิงค์ที่ 2: จาก 4shared.com

ถ้าสนใจโปรแกรมดิกชันนารีอังกฤษ – ไทย ฟรี ยี่ห้ออื่น ๆ ก็คลิกดูข้างล่างนี้ครับ

(รวม Freeware English -Thai, Thai - English Dictionary)
[845] ดาวน์โหลดโปรแกรมดิกชันนารี สอ เสถบุตร
[35] 3 โปรแกรมดิกฟรีที่ควรจะเอาลงเครื่องฯ
[861] ฝากดิกอังกฤษ - ไทย ขนาดเล็ก ๆ เอาไปใช้งาน

พิพัฒน์
Gemtriple@gmail.com

[1031] ทุกประโยค – แปลไม่ออก – บอก Google!

สวัสดีครับ
ถ้าถามว่าสำหรับคนไทยส่วนใหญ่ การแปลจากอังกฤษเป็นไทยกับแปลไทยเป็นอังกฤษอย่างไหนยากกว่า? เพื่อให้รู้แน่ผมเลยให้ http://www.google.com/ ช่วยหาคำตอบโดยพิมพ์ "ช่วยแปลเป็นภาษาอังกฤษ" และ "ช่วยแปลเป็นภาษาไทย" ลงไป, 2 วลีนี้คนที่ใช้เว็บบอร์ดมักจะเขียนให้คนอื่นช่วยแปลประโยคที่ตนสงสัย

ได้ผลจากการค้นในหน้าแรกอย่างนี้ครับ
Results 1 - 10 of about 14,300 for "ช่วยแปลเป็นภาษาอังกฤษ".
Results 1 - 10 of about 3,300 for "ช่วยแปลเป็นภาษาไทย"
นี่แสดงว่า การแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ ยากกว่าการแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย ประมาณ 4 – 5 เท่า

และเมื่อไม่นานมานี้ Google ก็ได้มีบริการแปลฟรีออนไลน์ระหว่างภาษาไทยและภาษาอื่น ๆ ประมาณ 40 ภาษา ผมเองสนใจเฉพาะการแปลระหว่างภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นปัญหาเยอะสำหรับคนไทยคือ การแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ และเพื่อทดสอบว่าเครื่องมือแปลของ Google มีคุณภาพดีขนาดไหนก็เลยลองพิมพ์ประโยคภาษาไทยลงไปให้ Google ช่วยแปล

ไปที่หน้า: แปลจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ
http://translate.google.com/translate_t#th|en|

ได้ข้อสรุปว่า คุณภาพของการแปลยังเอาแน่นอนไม่ได้ คือ มีทั้งดีและไม่ดี ผมขอยกตัวอย่างที่พอใช้ได้มาให้ท่านดูก่อน ในกลุ่มแรกนี้ครับ

ไม่มีทางลัดในการเรียนภาษาอังกฤษ
There are no shortcuts in English.

มีแต่ทางตรงที่ต้องเดินไปเรื่อย ๆไม่หยุด
But have to walk directly, do not stop much.

และจะพบความสำเร็จในไม่ช้า
And will soon find success.

เพราะพระเจ้าจะให้รางวัลคนขยันเสมอ
Because God will reward diligent people.

คนพยายามไม่หยุดย่อมพบความสำเร็จ
People would not stop trying to find success.

เพราะฉะนั้น เราไม่ควรเป็นทุกข์เพียงเพราะเรายังทำไม่สำเร็จ
Therefore, we should not be unhappy just because we do not succeed.

เมื่อเรามองเห็นสิ่งกีดขวางถนน, ก็แสดงว่ายังมีถนนอยู่ตรงนั้นที่ให้เราเดิน, ถ้าเราตั้งใจจะเดิน
When we see a road barrier, it also shows that the road that we walk over there, if we intend to go.

เป็นยังไงบ้าง คุณภาพการแปลก็พอใช้ได้นะครับ

แต่หลายครั้ง Google ก็แปลไม่ได้ดีอย่างข้างต้น คือมีแปลผิดน้อย, ผิดมาก, ผิดจนอ่านไม่รู้เรื่อง เรื่องนี้คนใช้บริการต้องตรวจดูเอาเอง เช่น

ฉันพบเขาหน้ามหาวิทยาลัย
I see him next University

ไม่มีใครแก่เกินเรียน
None to exceed.

ประเทศไทยไม่สิ้นคนดี
Thai people do not end well.(ประโยคนี้แปลได้ตลกมาก)

คนที่ทั้งเก่งและดีมีน้อย
Who have both good and less good.(อ่านแล้วงง)

จากตัวอย่างข้างต้น ทำให้ได้ข้อสรุปว่า เมื่อให้ Google แปล ก่อนที่เราจะเอาผลการแปลไปใช้จะต้องตรวจดูให้ถี่ถ้วน เพราะผลงานของ Google มีทั้งการ “แปล”, “แปลง” และ “เปลี่ยน

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ผมก็ยังเห็นว่า เครื่องมือ Google translate ก็ยังมีประโยชน์อยู่นั่นเอง ไม่มากก็น้อย ดังต่อไปนี้
[1] สำหรับท่านที่แปลเองได้ แต่พิมพ์ภาษาไทยไม่คล่อง ผลการแปลของ Google อาจช่วยท่านย่นระยะเวลาในการเคาะแป้นพิมพ์ อาจจะอาจเพียงแค่แก้ไขบางส่วน ไม่ต้องพิมพ์ทั้งหมด
[2] สำหรับท่านอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ ท่านสามารถให้งานลูกศิษย์แก้ไขปรับปรุงผลการแปลของ Google
[3] สำหรับท่านที่ศึกษาภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ท่านสามารถป้อนประโยคที่ต้องการแปลให้ Google แปลให้ และฝึกตรวจ – ปรับปรุง – แก้ไข

นอกจากนี้ท่านยังสามารถให้ Google แปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย ก็ได้
ไปที่หน้านี้: http://translate.google.com/translate_t?hl=en#en|th|

ศึกษาเพิ่มเติม:
ก่อนหน้านี้ผมเคยแนะนำเว็บ sealang.net ซึ่งมีบริการแสดงประโยคตัวอย่าง ไทย เทียบ อังกฤษ อ่านคำแนะนำได้ที่ลิงค์นี้ครับ
[858]แนะนำเว็บ SEAlang Library(เพื่ออ่าน-เขียน-แปล)

ท่านผู้อ่านครับ ถึงอย่างไรผมก็ยังเห็นว่า คงเป็นการยากที่จะผลิตโปรแกรมแปลไทยเป็นอังกฤษ, แปลอังกฤษเป็นไทย ที่มีคุณภาพไว้วางใจได้โดยไม่ต้องตรวจสอบ และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เราต้องฝึกให้ตัวเองสามารถตรวจสอบการทำงานของโปรแกรมแปลได้ ถ้าทำได้ โปรแกรมแปลก็จะช่วยเราผ่อนแรง, แต่ถ้าทำไม่ได้ โปรแกรมแปลอะไร ๆ ก็ช่วยเราไม่ได้ครับ

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

[1030] อ่านตำราว่าด้วยความสุข

เพิ่ม 20 กค 53: หนังสือ Happiness จาก 4shared.com

สวัสดีครับ
ลองอ่านตำราว่าด้วยความสุขที่ฝรั่งเขียนบ้างก็จะน่าดีเหมือนกันนะครับ สังคมไทยเป็นฝรั่งมากขึ้น ๆ ปัญหาการขาดแคลนความสุขที่คนไทยพบ เมื่ออ่านหนังสือเหล่านี้ที่ฝรั่งเขียนอาจจะได้ฟังคติหรือแง่มุมดี ๆ ที่สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตได้ และจริง ๆ แล้ว คนเรานั้นไม่ว่าจะเป็นไทย ฝรั่ง แขก จีน แอฟริกา ฯลฯ ต่างก็มีจิตใจเหมือนกัน เมื่อทุกข์ก็ทุกข์เหมือนกัน ครั้นสุขก็สุขเหมือนกัน สิ่งที่ฝรั่งเขาใช้แก้ปัญหาจิตใจของเขาได้ เราเอามาใช้ก็อาจจะได้ผล หลาย ๆ อย่างอาจจะไม่ต่างจากคำสอนทางพุทธ เพียงแต่แง่มุมการมอง การใช้ภาษา ตัวอย่างที่ยกมาประกอบการอธิบาย อาจจะ”โดน”ใจบางคนมากกว่า และช่วยให้รู้สึกว่า “ใช่เลย”

ข้างล่างนี้ครับ

Happiness for Dummies

The Book of Happiness. Brilliant Ideas to Transform Your Life

Zany, Zeal, Zest and Zing: The Z Way to Happiness

A Brief History of Happiness

Happiness: The Science behind Your Smile by Daniel Nettle

It’s All in Your Head: Thinking Your Way to Happiness

The Happiness Revolution

The Contented Classroom: Strategies for Teacher Happiness

และโปรดทราบ
ถ้าเป็นไฟล์บีบอัด เวลาขยายเขาให้ใส่ code ก็คือ englishtips.org นะครับ

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2552

[1029] ด/ล นิยายดังระดับโลก ของ Stephenie Meyer

สวัสดีครับ
2 – 3 วันก่อนผมแวะร้านหนังสือ เห็นที่ชั้นหนังสือนิยายแปล มีอยู่ชุดหนึ่งที่เตะตา คือ
เล่มที่ 1 ชื่อ “แรกรัตติกาล” ต้นฉบับคือเรื่อง Twilight
เล่มที่ 2 ชื่อ “
นวจันทรา” ต้นฉบับคือเรื่อง New Moon
เล่มที่ 3 ชื่อ “
คลาสสยุมพร” ต้นฉบับคือเรื่อง Eclipse
เล่มที่ 4 ชื่อ “
รุ่งอรุโณทัย” ต้นฉบับคือเรื่อง Breaking Dawn

คนแต่งทั้ง 4 เรื่อง คือ Stephenie Meyer เขาโฆษณาว่าเป็นหนังสือขายดีกว่า 42 ล้านเล่มทั่วโลก ใน 37 ประเทศ

ผมกลับถึงบ้านผมก็เปิดเน็ตดูว่ามันอะไรกันนักหนาถึงได้ขายดีนัก ถึงได้รู้ว่าเป็นหนังสือแนวแฟนตาซี ท่านลองอ่านแนวของเรื่องดูก็ได้ครับ คลิกที่นี่

และเมื่อเข้าไปอ่านที่ Wikipedia ก็ได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับผู้เขียนและนิยายชุดนี้มากขึ้น โดยผู้เขียนให้สัมภาษณ์ว่า ในคืนวันที่ 2 มิถุนายน 2003 เขาฝันว่ามี vampire หรือผีดิบดูดเลือดตัวหนึ่งตกหลุมรักหญิงสาวคนหนึ่งแต่ในขณะเดียวกันก็อยากจะดูดเลือดเธอด้วย และนี่เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้เขียนแต่งนิยายชุดนี้ออกมา ตั้งแต่ปี 2005 – 2008 สี่ปีแต่งสี่เล่ม(ปีละเล่ม)ตามรายชื่อข้างต้น และก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าไปทั่วโลก

ขอเรียนตามตรงครับว่า ผมไม่ใช่แฟนนิยายประเภทนี้เลย แต่นึกว่าคงมีผู้อ่านบางท่านชอบอ่าน ก็เลยหาต้นฉบับภาษาอังกฤษมาให้ข้างล่างนี้
เชิญคลิกดาวน์โหลด
ลิงค์นี้: http://www.mediafire.com/file/zt5mnmyymjc/stephenie_meyer.zip
หรือลิงค์นี้ :http://www.upload-thai.com/download.php?id=5af48642efc1f0d64964c31720ffd362

ทั้งหมดที่เขียนในหัวข้อนี้ มิได้มีเจตนาจะโฆษณาหนังสือแปลที่มีวางขาย แต่เนื่องจากคิดว่าแต่ละท่านอาจมีวิธีเรียนภาษาอังกฤษที่แตกต่างกันไป ถ้าท่านใดชอบอ่านนิยายแปลแนวนี้ และต้องการศึกษาภาษาอังกฤษด้วย, ไฟล์ภาษาอังกฤษที่ให้ท่านดาวน์โหลดในวันนี้อาจจะพอมีประโยชน์อยู่บ้างไม่มากก็น้อย

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

[1028] ภาษาอังกฤษธุรกิจ (business English)



ศัพท์ธุรกิจ อังกฤษ – ไทย

[1027] เรียนภาษาสำคัญยังไง?

สวัสดีครับ
ผมไปเจอวีดิโอเรื่อง
Importance of learning a second language” โดยตัวแสดงประกอบด้วย แมว 1 ตัว และปลาทอง 1 ตัว เนื้อเรื่องแสดงเปรียบเทียบให้เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาต่างประเทศได้อย่างขำกลิ้งเลย เชิญคลิกดูครับ

ขอแถมอีก 3 เรื่องครับ ดูแล้วห้ามหัวเราะนะ
The Importance of Foreign Languages - Did You Know?
Funny translation to seven languages
Japanese Lesson, Learning English (with subtitles)

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

[1026] แนะนำ Macmillan Dictionary ฟรีออนไลน์

สวัสดีครับ
ที่บล็อกนี้ ผมเคยแนะนำ English Learner’s Dictionary free online ระดับแนวหน้าของโลกไว้หลายเว็บแล้ว ข้างล่างนี้
-learner's dictionary ของ Webster
-Oxford
-Longman
-Cambridge
-MSN Encarta
-Cobuild
-Newburry House
-Google Dictionary

วันนี้ผมขอแนะนำอีก 1 เว็บ คือ
http://www.macmillandictionary.com/
(เขาเพิ่งให้บริการ ฟรี ออนไลน์เมื่อเดือน มีนาคม 2552)

Macmillan Dictionary free online ดียังไง? ขอตอบว่า นอกจากข้อดีหลาย ๆ ประการที่มีไม่แพ้ดิกยักษ์ใหญ่ free online ยี่ห้ออื่น เช่น Oxford, Longman, Macmillan Dictionary ยังมีสิ่งที่น่าสนใจมาก ๆ ดังนี้
(1) มี Synonym และ related word ที่นำเสนออย่างน่าสนใจมาก ลองคลิกดูตัวอย่าง 2 – 3 คำข้างล่างนี้ก็ได้ครับ (เมื่อเข้าไปแล้ว คลิกที่ตัว T สีแดงขนาดใหญ่)
love
computer
flower

(2) มี Word Forms ให้คลิกดูการผันคำที่เป็น noun, verb, adjective ดังตัวอย่างข้างล่างนี้
Fish (noun)
singular - fish
plural - fish or fishes

Understand (verb)
you/we/they - - understand
he/she/it - - understands
present participle - - understanding
past tense - - understood
past participle - - understood

easy (adjective)
Adjective - - easy
Comparative - - easier
Superlative - - easiest

(3) คลิกฟังการออกเสียง ซึ่งมีให้ฟังทั้งคำเดี่ยวและคำประสม ดูตัวอย่างคำว่า dog

(4) คำอธิบายศัพท์เป็นลิงค์ทุกคำ ช่วยให้เราคลิกต่อได้ เช่น คำว่า beautiful ให้คำนิยามว่า "a beautiful person is extremely attractive "
ถ้าเราไม่รู้ความหมายของ attractive เราก็คลิกที่ attractive ทำอย่างนี้ไปได้เรื่อย ๆ และอยากจะขอเรียนว่า นี่เป็นการฝึกครั้งเดียวได้พร้อมกันหลาย ๆ อย่าง คือ ได้ฝึกการใช้ดิก อังกฤษ – อังกฤษ, ฝึก reading, ฝึก listening, และถ้าเมื่อคลิกฟังเสียงแล้วก็ฝึกพูดตาม ก็เป็นการฝึกการออกเสียง หรือ pronunciation ไปด้วย

(5) มีศัพท์ประมาณ 7,500 คำที่ฝรั่งจะใช้ในการพูดและเขียนกว่า 90 % และ Macmillan Dictionary ก็ทำเครื่องหมายโดยพิมพ์คำศัพท์เหล่านี้โดยใช้ font สีแดง พร้อมกำกับด้วยรูปดาว [ * ] โดย * = ใช้บ่อย, * * = ใช้บ่อยกว่า, * * * = ใช้บ่อยที่สุด เพราะฉะนั้น ถ้าเราใช้เว็บนี้และพบศัพท์สีแดง ก็พยายามจำ (และจด) ไว้ได้เลย รับรองไม่เสียแรงเปล่า

(6) ตอนที่เราพิมพ์พยัญชนะทีละตัวลงไปในช่อง Search ของเว็บนี้ เว็บจะแสดงรายการคำศัพท์ที่สะกดตามลำดับที่เราพิมพ์ เพราะฉะนั้น บางทีเราต้องการหาศัพท์แต่จำการสะกดคำไม่แม่น ก็สามารถพิมพ์ลองผิดลองถูกลงไปได้ เพราะถ้าพิมพ์สะกดผิดก็จะไม่มีศัพท์ที่เราต้องการโชว์ให้เห็น

ขอชักชวนให้ลองใช้ Macmillan Dictionary free online สักพัก แล้วจะเห็นว่าของเขาดีจริง ๆ ครับ

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

[1025]เว็บสอนอังกฤษ“อันดับ 1”ของโลก(eslcafe.com)

สวัสดีครับ
บางคนพูดว่าเว็บ http://www.eslcafe.com/ เป็นเว็บสอนภาษาอังกฤษอันดับ 1 ของโลก ผมไม่รู้หรอกว่าคำกล่าวอ้างนี้จริงหรือไม่จริง แต่เมื่อเข้าไปดูแล้วก็ต้องยอมรับว่าเว็บนี้สามารถเป็นเว็บสอนภาษาอังกฤษแถวหน้าได้โดยไม่ต้องสงสัย

ขอบอกตรงนี้ก่อนว่า เว็บนี้ webmaster ชื่อคุณ Dave Sperling เคยสอนภาษาอังกฤษที่จังหวัดเชียงใหม่ และแต่งงานกับ[คุณ Dao ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี 1989 (2532) ถ้าต้องการดูรูปวันแต่งงานของเขาก็เชิญ คลิกที่นี่ครับ ถ้าต้องการฟังบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับความเป็นมาของเว็บนี้ คลิกที่นี่ครับ ผมฟังดูแล้วน่าสนใจทีเดียว ]

เว็บนี้มีเนื้อหาที่สำคัญอยู่ 3 หมวด ผมขอแนะนำลิงค์ที่ผมเห็นว่าน่าจะมีประโยชน์มาก ๆ สำหรับการเรียนภาษาอังกฤษ ดังนี้ครับ

1. Stuff for Students หรือ เนื้อหาสำหรับนักศึกษา
Help Center (ถาม – ตอบ ปัญหาภาษาอังกฤษ)
Grammar Lessons (อธิบายแกรมมาร์กว่า 360 หัวข้อ)
Idioms (อธิบาย idiom พร้อมแสดงประโยคตัวอย่าง, A - Z)
Phrasal Verbs (อธิบาย Phrasal Verb พร้อมแสดงประโยคตัวอย่าง, A - Z)
Quizzes (มีแบบทดสอบภาษาอังกฤษและอื่น ๆ แต่ไม่มากนัก)
Slang (อธิบาย Slang พร้อมแสดงประโยคตัวอย่าง, A – Z และ Random)
Student Forums (มีหลายเวทีให้นักศึกษาพูดคุยกัน online)

2. Stuff for Teachers หรือ เนื้อหาสำหรับอาจารย์
Idea Cookbook (รวบรวมเทคนิคและคำแนะนำในการสอนภาษาอังกฤษ น่าสนใจมากเลยครับ)
Teacher Forums (มีหลายเวทีให้อาจารย์สอนภาษาอังกฤษพูดคุยกัน online)

3. Stuff for Everyone เนื้อหาสำหรับทุกคน
http://www.englishmeeting.com/index.html (วีดิโอสอนภาษาอังกฤษ น่าสนใจมากครับ)
ESL Links! (รวบรวมลิงค์เยี่ยม ๆ มากกว่า 3,000 ลิงค์ ทั้งเรื่องภาษาอังกฤษและอื่น ๆ )

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

[1024] ดาวน์โหลดดิกชันนารีอุปมาอุปมัย (metaphor)

สวัสดีครับ
ตอนผมอ่าน “ข่าว” ผมไม่ค่อยเจอการเขียนเชิงอุปมาอุปมัยมากนัก แต่ถ้าอ่านบทความก็จะเจอมากกว่า เหตุผลก็คงง่าย ๆ ว่า ข่าวคือการรายงานข้อเท็จจริงเฉย ๆ ไม่เอาอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง เขียนให้ง่ายที่สุดเพื่อให้คนอ่านเข้าใจได้รวดเร็วที่สุด ผมเคยอ่านพบว่า คำว่า news หรือข่าวนี้ แปลง่าย ๆ ก็คือ เมื่อเกิดอะไรในทิศใดก็ตามนักข่าวก็จะเก็บมารายงาน n = north, e = east, w = west และ s = south

แต่เมื่ออ่านบทความหรือนิยาย ก็พบว่าสไตล์การเขียนจะต่างกันไป เพราะบทความและนิยายไม่ได้ต้องการเสนอข้อเท็จจริงเฉย ๆ แต่ต้องการเขียนให้คนอ่านมีความรู้สึกนึกคิดคล้อยตาม ฉะนั้นผู้เขียนจึงต้องใช้สำนวนภาษาที่สามารถทำให้ผู้อ่านเห็นด้วย หรือมีอารมณ์ร่วม และสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนนำมาใช้ก็คืออุปมาอุปมัย หรือ metaphor

สำหรับทุกท่านรวมทั้งผมด้วยที่เป็นนักศึกษาภาษาอังกฤษ การเรียนรู้ภาษาอุปมาอุปมัย ลำดับแรกก็คงเพื่อจะได้เข้าใจเวลาอ่านหรือฟัง แต่เมื่ออินทรีย์แก่กล้ามากขึ้นก็คงจะสามารถพูดหรือเขียนโดยใช้อุปมานั้นด้วยตัวเอง ซึ่งก็จะช่วยให้การสื่อสารของเรามีรสชาติสีสัน หรือมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ผมสังเกตตัวเองว่ามักไม่ได้ตั้งใจจดจำคำอุปมาอุปมัยภาษาอังกฤษอย่างเป็นกิจจะลักษณะ แต่มันจำได้ไปเองทีละคำสองคำตามที่ผ่านพบ จึงจำไมได้มากนัก ถ้าไปสอบก็คงจะสอบตก
วันนี้บังเอิญผมได้ไฟล์ดิกชันนารีคำอุปมาเล่มหนึ่ง เล่มที่มีขายคือเล่มนี้
Renton's Metaphors: A Dictionary of 4,000 Picturesque Idiomatic Expressions, 3rd Edition
แต่ผมไปได้เล่มเก่า คือ
Metaphorically speaking : a dictionary of 3,800 picturesque
idiomatic expressions / N.E. Renton.

ซึ่งก็น่าสนใจครับ หนังสือเล่มนี้มี 2 Part ดังนี้

PART 1
1: INTRODUCTION
2: SOURCES OF METAPHORS
3: THE METAPHOR IN DAILY USE
4: METAPHORS IN VARIOUS CATEGORIES
5: METAPHORS EXPRESSING IDEAS IN CERTAIN
SUBJECT AREAS
6: SELECTED CASE STUDIES
7: SOME GRAMMATICAL ASPECTS

PART 2 มี 3 บท ซึ่งคือส่วนที่สำคัญของหนังสือเล่มนี้
8: DICTIONARY
Metaphors Arranged Alphabetically by Keyword
9: THEMATIC SECTION
Metaphors in Various Categories
10: THESAURUS
Metaphors Expressing Ideas in Certain Subject Areas

ผมเคยแนะนำไว้ในบล็อกนี้ว่า ไม่ควรพยายามจำศัพท์โดยการอ่านหรือท่องดิก เพราะเป็นวิธีที่ดิบเกินไปและไม่ได้ผล ได้หน้าก็ลืมหลัง แต่ดิกชันนารีคำอุปมาที่ผมแนะนำให้ท่านดาวน์โหลดในวันนี้เป็นข้อยกเว้นครับ

ผมอยากให้ท่านลองศึกษาโดยใช้วิธีนี้
1. ถ้าเป็นอุปมาที่ท่านเคยผ่านหู(ฟัง)ผ่านตา(อ่าน)มาบ้าง (ในดิกจะพิมพ์โดยใช้ตัวเอน) เมื่อท่านอ่านตัวเอนจบแล้ว ลองนึกทบทวนดูว่า ท่านยังจำได้ไหมว่าอุปมานี้หมายถึงอะไร แล้วจึงค่อยอ่านความหมายที่พิมพ์ถัดไปด้วย font ตัวตรงธรรมดา อย่างนี้เป็นการรื้อฟื้นความจำเก่า ๆ และตอกหมุดลงสมองให้จำได้มั่น ๆ

2. ถ้าเป็นอุปมาที่ท่านไม่เคยผ่านหูผ่านตามาเลย เมื่ออ่านคำอุปมาที่พิมพ์ด้วยตัวเอนจบแล้ว ให้ท่านลอง “เดา” ว่า อุปมานี้น่าจะแปลว่าอะไร เรื่องของเรื่องก็คือว่า บางอุปมาเราสามารถเดาได้จากถ้อยคำนั้น เช่น คำอุปมา “to be a big fish in a little pond” (เป็นปลาใหญ่ในสระเล็ก) เมื่ออ่านแล้วก็น่าจะพอเดาได้ว่าเปรียบเทียบถึงอะไร และเมื่ออ่านคำแปลก็น่าจะไม่ผิดจากที่เดาไว้นัก คือ “to be a person holding an important office but in an unimportant organization” แต่บางอุปมาก็อาจจะเดายากหน่อย เช่น “to play by the book” ซึ่งแปลว่า “to apply the rules strictly” หรือ “ บังคบใช้กฎเกณฑ์อย่างเข้มงวด” แต่เรื่องที่ผมขอเรียนเป็นพิเศษก็คือ มีสำนวนเป็นจำนวนมากที่เดาได้ไม่ยากเลย หรือถ้าไม่ใช่ก็ใกล้เคียง และลองท่านได้ออกแรงเดา – และดูเฉลยแล้วพบว่าเดาถูกต้อง ก็จะช่วยให้จำได้อย่างง่ายดาย ท่านลองคลิกไปคลิกมาเล่น ๆ ไม่นานนักท่านจะแปลกใจตัวเองว่า ท่านเดาได้เก่งขึ้นและจำได้มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว การจำได้เช่นนี้มาจากการฝึกเดาบ่อย ๆ ผมอยากจะบอกว่าการรู้ศัพท์และจำศัพท์ได้โดยการเดา เป็นสิ่งที่คนไทยถูกสอนน้อยเกินไป และฝึกตัวเองน้อยเกินไป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก หรือจะเป็นเพราะว่า เรากลัวผิดมากเกินไปเลยไม่กล้าเดา

เอาละครับ เชิญดาวน์โหลดไปศึกษาได้เลยครับ
คลิกดาวน์โหลดสารบัญ
คลิกดาวน์โหลดดิกชันนารี

เมื่อดาวน์โหลดเสร็จและเปิดไฟล์ด้วยโปรแกรม PDF เวลาใช้งานให้ทำอย่างนี้ครับ
1. ถ้าต้องการดูคำอุปมาเป็นหมวด ๆ – ที่ด้านซ้ายมือของหน้า (Bookmarks) ให้คลิกเครื่องหมาย + หน้าหมายเลขแต่ละบท (คลิกไปเรื่อย ๆ ) จะเห็นหัวข้อย่อยหรือศัพท์ย่อย ต้องการอ่านตรงไหนก็คลิกที่บรรทัดย่อยนั้น

2. ถ้าต้องการค้นหาศัพท์เป็นคำ ๆ ให้ทำอย่างนี้
- พิมพ์คำค้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ เช่น DOG, MUSIC, ฯลฯ ลงไปในช่อง Search ของไฟล์ PDF
- คลิกที่เครื่องหมายสามเหลี่ยมหัวชี้ลง และติ๊กให้มีเครื่องหมายถูก [ / ] หน้าคำว่า Case-Sensitive
- Enter หรือคลิกเครื่องหมาย >

ขอฝากอุปมานี้ก่อนจบครับ
to have one's heart set on something
= to be very keen to achieve something

ซึ่งเจ้า something นี้ ในที่นี้ ก็คือการฝึกทักษะภาษาอังกฤษ นั่นแหละครับ

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

[1023] ภ.อังกฤษสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย ปี 1-ปี 4

สวัสดีครับ
ผมได้ตำรามาชุดหนึ่ง เรียกว่าชุด ELS หรือ English Language Study ซึ่งเป็นแบบฝึกหัด grammar และ vocabulary พร้อมเฉลย สำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 (freshman), ปีที่ 2 (sophomore), ปีที่ 3 (junior) และ ปีที่ 4 (senior) ตำราชุดนี้น่าจะช่วยตรวจสอบได้ว่า ท่านอ่อนในเรื่องใดและก็จะได้เสริมในเรื่องนั้น และแม้จะเป็นตำราสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย ผมก็เห็นว่าใคร ๆ ก็ใช้ได้ครับ โดยเลือกเริ่มจากเล่มที่เหมาะกับตัวเอง

สิ่งที่ผมขอแนะนำก็คือ อย่าดูเฉลยก่อนทำ ให้ทำอย่างสุดความสามารถเสียก่อนแล้วจึงค่อยดูเฉลย ถ้าดูเฉลยแล้วยังงงว่าทำไมเฉลยอย่างนั้น ก็ต้องพยายามศึกษาให้เข้าใจให้ได้
สำหรับท่านอาจารย์ที่สอนหนังสือ ตำราชุดนี้อาจจะช่วยผ่อนแรงในการออกข้อสอบ แต่ท่านคงต้องเอาไปปรับบ้างไม่มากก็น้อย
VOCABULARY
Worksheets_Freshman__keys
Worksheets_Sophomore
Worksheets_Junior
Worksheets_Senior

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

[1022] ดูวีดิโอนิทานอีสป

สวัสดีครับ
ที่ http://www.youtube.com/ มีนิทานอีสปให้ดูหลายเรื่องครับ
ขอยกตัวอย่าง เรื่องที่เราคนไทยคุ้นเคยมาก ๆ เช่น เรื่อง เด็กเลี้ยงแกะ และเรื่อง กระต่ายกับเต่า

และมีอีกมากมายครับ
ลิงค์ที่ 1
ลิงค์ที่ 2
ลิงค์ที่ 3

ส่วน 4 เรื่องขางล่างนี้ ผมดาวน์โหลดไฟล์วีดิโอเก็บไว้ ท่านจะดาวน์โหลดต่อก็เชิญได้ครับ
A Bad Dinner
Saving A Wolf
Sour Grapes
The Clever Kid Goat
The Ant and the dove

การฝึกฟังภาษาอังกฤษนี่นะครับ ถ้าท่านไปฟังภาษาอังกฤษที่ยาก ๆ และรู้สึกว่ามันห่างไกลจากท่านเหลือเกิน ตอนเริ่มฝึกฟัง ก็ให้หาฟังเรื่องที่ท่านคุ้นเคย หรือรู้เนื้อเรื่องอยู่แล้ว แล้วจึงค่อยขยับไปยังเรื่องที่ยากขึ้น - ยาวขึ้น คือเริ่มจากจุดที่เราเป็นอยู่ หรือ start from we are แต่เรายืนอยู่ตรงไหน? นี่เราต้องหาด้วยตัวเอง เว็บต่าง ๆ เพื่อการฝึกภาษาอังกฤษในบล็อกนี้ก็เหมือนกับอาหารบุปเฟต์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ถ้าอาหารมันมากเกินไปจนท่านลานตาเลือกไม่ถูก ก็ใช้เวลาสักนิดเถอะครับในการเลือกตักใส่จานนำเอาไปทานเฉพาะตัวท่าน เลือกอาหาร(เว็บ)ที่ท่านถูกใจ ไม่มากไม่น้อยเกินไป ถ้าไม่รู้จริง ๆ ว่าจะเริ่มตรงไหน ก็เริ่มง่าย ๆ จากนิทานอีสปนี่ก็ได้ครับ

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

[1021] รวบรวมเว็บ สอนฝรั่งพูดภาษาไทย

สวัสดีครับ
ผมเคยแนะนำเว็บที่สอนฝรั่งให้พูดภาษาไทยไว้ที่ลิงค์นี้
[177] ไทยเรียนพูดฝรั่ง กับเว็บที่สอนฝรั่งพูดไทย
แต่มาดูอีกทีน่าจะแนะนำเพิ่มเติม วันนี้จึงขอพูดอีก

เรื่องการสอนคนต่างชาติให้พูดภาษาไทย ถ้าเราเป็นคนสอนและต้องใช้ภาษาอังกฤษในการอธิบาย มันก็มีประโยชน์พร้อมกัน 2 อย่าง คือช่วยให้คนต่างชาติคนนั้นพูดภาษาไทยได้ ในขณะเดียวกันก็ช่วยฝึกเราให้หัดพูดภาษาอังกฤษด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเรายังไม่มีความพร้อมที่จะสอนเขา ก็แนะนำเว็บข้างล่างนี้ไปก่อนก็ได้ครับ

ผมขอเริ่มด้วยเว็บดิกชันนารี อังกฤษ – ไทย & ไทย – อังกฤษ ดิกพวกนี้ต้องพิเศษหน่อย คือต้องมีตัวคาราโอเกะ (หรือ transcription)เขียนด้วยพยัญชนะอังกฤษเพื่อให้ฝรั่งสามารถอ่านศัพท์ภาษาไทยหรือออกเสียงเป็นภาษาไทยได้ หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องมีไฟล์ mp3 ให้คลิกฟังเสียง ผมพบอยู่ 5 เว็บข้างล่างนี้ครับ

ดิกชันนารี อังกฤษ – ไทย & ไทย – อังกฤษ (พร้อม คาราโอเกะ, mp3)
http://www.thai-language.com/dict/
http://www.thai2english.com/
http://www.sattaya.de/dic.php
http://english-thai-dictionary.com/
http://www.learn-thai.com/learn-thai/OL_DIC/vocab.asp

ส่วนเว็บใหญ่ ๆ ที่สอนคนต่างชาติให้พูดภาษาไทย ผมเจออยู่ 2 เว็บ คือ
[เว็บที่ 1] http://www.learningthai.com/
speak - read - write
และอย่าลืมคลิกดูที่หัวข้อต่าง ๆ ที่คอลัมน์ซ้ายมือนะครับ น่าสนใจทีเดียว

[เว็บที่ 2] http://www.thai-language.com/
Welcome
http://www.thai-language.com/
Lessons
http://www.thai-language.com/lessons/
Dictionary
http://www.thai-language.com/dict/
Categories
http://www.thai-language.com/category/
Reference
http://www.thai-language.com/ref/
Forums
http://www.thai-language.com/msgboard/
Resources
http://www.thai-language.com/resources/
Store
http://www.thai-language.com/store


นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเว็บที่แม้จะมีขนาดเล็กกว่า แต่บางหัวข้อก็น่าสนใจ
http://www.speakingthai.com/
http://www.omniglot.com/writing/thai.htm
http://learn-thai-podcast.com/
http://www.fedu.uec.ac.jp/ZzzThai/thailang/
http://www.amazing-thailand.com/Lang.html
http://www.learn-thai.com/
http://thaiarc.tu.ac.th/thai/introth.htm

ผมมีอีก 1 เว็บพิเศษที่ขอเสนอ คือ ให้ท่านพิมพ์ข้อความภาษาไทยลงไป และให้เว็บอ่านออกเสียงเป็นภาษาไทยให้ท่านฟัง ถ้าช่วงที่ท่านเข้าเว็บและเว็บไม่เกเร ก็จะได้เครื่องมืออีก 1 ชนิดที่ช่วยสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ
http://vaja.nectec.or.th/onlinedemo/index.html

หวังว่าท่านจะได้รับประโยชน์ไม่มากก็น้อยจากเว็บสอนภาษาไทยเหล่านี้ อย่างหนึ่งที่ขอเน้นก็คือ ถ้าท่านมีโอกาสสอนภาษาไทยให้แก่คนต่างชาติโดยพูดเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าท่านรู้สึกไม่มั่นใจในภาษาอังกฤษของท่าน ก็ไม่ต้องกลัวอะไรหรอกครับ คุยกันไปคุยกันมาเดี๋ยวก็ได้ทั้งสองฝ่าย คือฝรั่งพูดภาษาไทยได้เก่งขึ้น ส่วนเราก็พูดฝรั่งได้คล่องขึ้น ท่านไม่เชื่อผมก็ลองดูได้เลยครับ

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

วันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2552

[1020] เก่งศัพท์โดยเล่น Analogy(+วิธีเดาศัพท์)

สวัสดีครับ
ผมเอาอะไรหลาย ๆ อย่างมาแนะนำให้ท่านเล่นในบล็อกนี้เพื่อช่วยพัฒนาคำศัพท์ โดยได้รวบรวมไว้ที่ลิงค์นี้ ศัพท์
หรือถ้าเยอะเกินไป ท่านจะลองเล่นที่นี่ก่อนก็ได้ครับ
http://www.manythings.org/e/vocabulary.html

แต่มีวิธีหนึ่งที่ผมแทบไม่เคยเอามาแนะนำเลย คือ วิธี Analogy วิธีนี้เป็นยังไง? ดู 3 ตัวอย่างข้างล่างนี้แล้วกันครับ
(1) study: student - teach: (teacher)
(2) two: second – six (sixth)
(3) good: bad – right (wrong)
ในแต่ละตัวอย่าง ให้ท่านดูความสัมพันธ์ระหว่างคำที่ 1 และ 2, และให้ท่านหาคำที่ 4 มาเติม โดยให้มีความสัมพันธ์ในทำนองเดียวกัน จากตัวอย่าง เมื่อ study คู่กับ student, teach ก็น่าจะคู่กับ teacher

Analogy นอกจากฝึกคำศัพท์แล้วยังฝึกหาความสัมพันธ์ระหว่างคำศัพท์อีกด้วย เรื่องนี้มีประโยชน์มากเมื่อท่านอ่านบทความหรือ story และอาจจะเจอศัพท์บางคำที่ท่านไม่รู้จักแต่ต้องเดาความหมาย ถ้าเขามีให้มา 3 คำแล้ว เช่น คู่แรก คือ study กับ student, ส่วนคู่ที่ 2 คำแรกที่ให้มาคือ teach ส่วนคำที่สอง เป็น XXXX อะไรก็ไม่รู้ที่ท่านไม่เคยเห็นมาเลย ถ้าอย่างนี้ ท่านก็พอจะเดาได้ว่า เจ้าคำ XXXX นี้แม้เราจะไม่รู้จัก มันก็น่าจะแปลไปในทำนอง “ผู้สอน หรือ ครู” เพราะอะไรหรือครับถึงได้เดาอย่างนี้ ก็เพราะว่า study=ศึกษา, student=ผู้ศึกษา, teach=สอน เพราะฉะนั้น XXXX ก็น่าจะมีความหมายไปในทำนอง “ผู้สอน หรือ ครู” นี่คือหลักการเดาง่าย ๆ แต่มีประโยชน์มาก ถ้าท่านต้องการศึกษาหลักการเดามากกว่านี้ คลิกที่นี่ครับ [179]สอนเทคนิคการเดาความหมายของศัพท์

เอาละครับ ถ้าตอนนี้ท่านอยากฝึก Analogies เพิ่มเติมก็ไปที่ลิงค์ข้างล่างนี้ครับ
http://a4esl.org/q/f/z/zz67fck.htm
http://a4esl.org/q/h/vm/analogies01.html
Analogies (ดาวน์โหลดหนังสือ)

รวมลิงค์จาก Google Search
ลิงค์ที่ 1
ลิงค์ที่ 2

ขอให้สนุกสนานกับการเล่นคำศัพท์ Analogy นะครับ

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

วันจันทร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2552

[1019] รวมเว็บวีดิโอสอนภาษาอังกฤษเกรด A

สวัสดีครับ
มีเว็บมากมายในโลกอินเตอร์เน็ตที่เราสามารถเข้าไปเรียนภาษาอังกฤษได้โดยไม่ต้องเสียเงิน เนื้อหาที่เขามีให้เราเรียนก็หลากหลาย เช่น มี video ให้ชม, มี Audio ให้ฟัง, มี Text ให้อ่าน, มี Picture ให้ดู, มี Exercise หรือ Quiz หรือ Test ให้ฝึกทำ, มี Game ให้เล่น และมีอะไรอื่น ๆ อีกมากมายให้ท่านเรียนและเล่นได้ไม่รู้จบ

หลายเว็บดังกล่าวมีเนื้อหาคุณภาพเยี่ยมมาก อาจจะดีกว่าหนังสือ, CD, Video, program ที่มีวางขายในท้องตลาดซะอีก หรือบางเว็บมีลักษณะเป็น interaction คือเมื่อคลิกเล่นกับเว็บก็มีปฏิกิริยาสนองกลับในลักษณะเฉลย ทำให้รู้ว่าเราทำถูกหรือผิด หรืออาจถึงขั้นแนะนำว่าเราควรจะปรับปรุงแก้ไขอย่างไร เมื่อเรียนกับเว็บเหล่านี้อาจจะได้ผลดีเท่า ๆ กับหรือได้ผลดีกว่าเรียนกับครูที่โรงเรียนสอนภาษาด้วยซ้ำ ทั้งนี้เมื่อคิดสาระตะว่า เราไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง, ไม่ต้องเสียเงิน, ไม่ต้องเรียนเนื้อหาที่เราไม่ชอบหรือขณะนั้นไม่มีอารมณ์จะเรียน, และเรายังสามารถเรียนด้วยความเร็วของเรา ไม่ต้องปีนบันไดเรียนกับคนที่เก่งกว่า หรือเรียนไปนั่งพักไปเพราะต้องรอคนที่อ่อนกว่า ซึ่งอยู่ในชั้นเดียวกัน... การเรียนด้วยตัวเอง หรือกับเพื่อนสนิทที่รู้ใจ กับเว็บที่ทั้งคุณภาพดีและฟรี จึงมีประโยชน์ด้วยประการฉะนี้

ท่านอาจจะถามว่า แล้วเจ้าของเว็บหรือคนทำเว็บเขาได้อะไรจากการทำของฟรี ๆ เช่นนี้ให้คนเข้าไปใช้ ตอบได้อย่างนี้ครับ
1. บางคนทำด้วยใจรัก อยากจะทำอะไรดี ๆ ให้แก่คนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่รู้จัก คนพวกนี้ไม่ได้คิดถึงเรื่องเงิน
2. แต่ถึงอย่างไรการทำเว็บก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ซึ่งถ้าไม่ใช่เงินส่วนตัวแล้ว ก็อาจจะมีหน่วยงานหรือบุคคลช่วยบริจาค หรือเขาอาจจะทำปุ่มไว้ในเว็บ เขียนว่า Donation ถ้าท่านต้องการจะบริจาคก็คลิกที่นี่ หรือเขาอาจจะเอาโฆษณามาแปะไว้ เมื่อคนชมเว็บคลิกที่ไอคอนโฆษณาเขาก็จะได้เงิน ด้วยเหตุนี้ webmaster หลาย ๆ คนจึงพยายามทำเว็บของเขาให้มีคุณภาพดีมาก ๆ และมีของฟรีที่น่าดึงดูดใจ คนใช้เว็บติดใจเข้าไปแล้วก็จะเข้าอีก ในการนี้เขาอาจจะมีไอคอนโฆษณาแปะไว้ พวกสมาชิก ‘ชมรมคนรักของฟรี’ ทั้งหลายเข้าไปแล้วอาจจะไม่เคยอยากคลิกโฆษณาของเขาเลยก็ได้ แต่บางครั้งก็อาจจะเผลอไปคลิกเข้า เพราะบางเว็บออกแบบหน้าเว็บอย่างแนบเนียนจนแยกแทบไม่ออกว่า ตรงไหนของฟรี ตรงไหนของเสียเงิน แต่เรื่องนี้ในแง่ของเจ้าของเว็บอาจจะคุ้มก็ได้ครับเพราะถ้าเว็บของเขาดีจริง และคนเข้าใช้เว็บมีกระจายอยู่ทั้งโลก ในจำนวนร้อยคนถ้าเผลอคลิกหรือตั้งใจคลิกเพียงแค่คนเดียว ค่าโฆษณาที่ได้รับก็อาจจะไม่น้อยเลย (สำหรับท่านที่ยังไม่อยากเสียเวลาหรือเสียเงินกับเรื่องนี้ ให้สังเกตถ้อยคำทำนองนี้: Advertisement, Sponsored Links, Ads by Google และอย่าเผลอไปคลิกลิงค์อะไรใต้คำพวกนี้นะครับ)

เอาละครับ โหมโรงมาพอสมควรแล้ว ขอเข้าเรื่องซะที

มีอยู่ลิงค์หนึ่งที่เขารวบรวมเว็บวีดิโอสอนภาษาอังกฤษเกรด A ไว้ แถมมีคำวิจารณ์ด้วยว่า เว็บนั้นเว็บนี้เด่นในเรื่องนั้นเรื่องนี้ คือลิงค์นี้ครับ
http://www.englishmeeting.com/resources.htm

อันที่จริงหลายเว็บที่เขาแนะนำ ซึ่งตามความเห็นของผมก็เป็นเว็บเกรด A ทั้งนั้น ผมก็เคยนำเอามาแนะนำไว้แล้วในบล็อกนี้ แต่ที่ลิงค์นี้เขามีการ Review อย่างเป็นระบบและน่าสนใจ ผมขอแนะนำให้ท่านทำ Favorite ไว้เลยครับ ของดี ๆ ทั้งนั้น

เมื่อท่านเข้าไปชมเว็บต่าง ๆ แล้ว ถ้าต้องการจะดาวน์โหลด Video หรือ Audio (mp3) ก็สามารถทำได้ ตามคำแนะนำที่ลิงค์นี้

ดาวน์โหลด Video:
[968]ดาวน์โหลดวีดิโอจากเน็ต & TV โดยใช้ RealPlayer

ดาวน์โหลด Audio (mp3):
เมื่อท่านเข้าไปที่เว็บใดก็ตามที่มีไฟล์เสียง mp3 ที่ท่านต้องการดาวน์โหลด, ให้ท่านคลิกขวาที่ลิงค์ mp3 และคลิกซ้าย Save Target As… และหาที่ save ไว้ในเครื่อง และขอให้ท่านสังเกตว่า เมื่อท่านคลิกซ้าย Save Target As… ในช่อง Save as type: จะต้องมีคำว่า “MPEG Layer 3 Audio” หรือ “Real Player” หรือ “M3U Audio Playlist” หรืออะไรทำนองนี้ แต่ถ้าเป็นคำว่า “HTML Document” เมื่อดาวน์โหลดเสร็จจะฟังไม่ได้ หรือถ้าแสดงคำว่า Real presentation ก็ใช้ไม่ได้เช่นกัน เพราะไฟล์มีนิดเดียวพอเป็นตัวอย่างเท่านั้นเอง

คุณ Dave Sconda ซึ่งเป็น Webmaster นี่ถ้าจำไม่ผิดก็เคยสอนภาษาอังกฤษที่กรุงเทพอยู่ระยะหนึ่ง นอกจากเรื่องภาษาอังกฤษแล้วแกยังมีความรู้ดีมากในเรื่องการทำเว็บ ผมเคย email ถามอะไรไปสักอย่างหนึ่งจำไม่ได้แล้ว

ส่วนข้างล่างนี้เป็นเว็บคุณภาพเยี่ยมของแกที่เราสามารถเข้าไปเรียนได้
http://www.englishmeeting.com/
video lessons

มีเรื่องหนึ่งซึ่งคุณ Dave บอกไว้และเป็นความรู้ใหม่สำหรับผมจึงขอเอามาบอกต่อ คือ ตอนที่ดาวน์โหลดไฟล์วีดิโอจาก Youtube ถ้าขึ้นข้อความว่า "this video is no longer available" จริง ๆ แล้วอาจจะยังดาวน์โหลดได้ ทั้งนี้ขอให้ท่านลองเปลี่ยนไปใช้ browser อื่น ผมหามาได้จากลิงค์นี้ครับ
ดาวน์โหลด Browser

ขอให้ทุกท่านได้รับประโยชน์มาก ๆ จากเว็บเรียนภาษาอังกฤษเกรด A ในวันนี้

มีเรื่องหนึ่งที่เป็นข้อเสียส่วนตัวซึ่งผมไม่อยากให้ท่านอื่นเป็นอย่างผม คือผมชอบแสวงหาเว็บดี ๆ และสะสมเว็บดี ๆ ไว้ใน List ส่วนตัว แต่พอรู้ว่าเว็บนี้ดีอย่างไรแล้วก็หยุดอยู่แค่นั้น และขวนขวายน้อยเกินไปที่จะฝึกฝนภาษาอังกฤษจากเว็บเหล่านั้น มันไม่ต่างกันเลยจากการซื้อหนังสือเรียนภาษาอังกฤษดี ๆ เก็บไว้ แต่ก็ไม่ค่อยได้เปิดอ่านหรือทำแบบฝึกหัดที่มีอยู่ในนั้น มันก็มีความสุขไปอย่างหนึ่งครับ แต่ทำแค่นี้ก็ไม่เก่งขึ้น

ตอนเด็ก ๆ อยู่ชั้นประถมผมเคยทำตามที่ใครคนหนึ่งบอกไว้ คือเอาหนังสือภาษาอังกฤษวางบนหมอนและเอาหัววางบนหนังสือนอนหลับไป หวังว่าขณะหลับความรู้อาจจะไหลซึมเข้าสมองบ้าง เปลี่ยนหนังสือหลายเล่มวางบนหมอนใบเดิมก็ยังไม่เก่งขึ้นสักที ตอนหลังถึงได้รู้ว่านี่เป็นกุศโลบายหลอกให้เด็กถือหนังสือตอนเข้านอน และถ้าอ่านสักนิดหน่อยก่อนหลับตานอน สิ่งที่อ่านจะจำได้แม่นเพราะอ่านแล้วนอนเลยสมองไม่ได้ไปวุ่นวายกับเรื่องอื่นจึงช่วยให้จำเรื่องที่อ่านได้ง่าย ส่วนอ่านจบแล้วจะใช้หนังสือหนุนนอนหรือไม่ก็ตามใจ กว่าผมจะเข้าใจเหตุผลเบื้องหลังที่เขาแฝงไว้ก็เจ็บหัวอยู่หลายวัน เฮ้อ !

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2552

สงกรานต์เศร้า

12 เมษายน 2552
วันนี้ ผมรู้สึกเศร้าใจอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองไทย อดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงสมัยเสียกรุงศรีอยุธยา และบ้านเมืองแตกออกเป็นก๊กเป็นเหล่า รู้สึกเศร้าใจจริง ๆ ครับ - พิพัฒน์

วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2552

[1018] การฉีดยาป้องกันโรคขี้ลืมศัพท์

สวัสดีครับ
ทุกทักษะของภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นการฟัง – การพูด – การอ่าน – การเขียน ถ้าฝึกฝนอย่างต่อเนื่องก็จะช่วยเพิ่มคำศัพท์ทั้งนั้น นี่คือการ train ตัวเอง

แต่ถ้าจะให้ดีก็ควรจะตามด้วยการ test, ทำไมการ test คำศัพท์จึงช่วยเพิ่มคำศัพท์, ก็เพราะว่าเมื่อเรา test ตัวเองอยู่เรื่อย ๆ คำศัพท์ที่เราใส่เข้าไปในสมองโดยการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน นั้น อาจจะมีหลายคำที่เราไม่ได้เจอบ่อยๆ ศัพท์เหล่านั้นก็อาจจะลืมไป - หลับไป พอมาเจออีกครั้งอาจจะจะหลงว่าเพิ่งเจอ ทั้ง ๆ ที่ก็เคยเจอมาแล้ว แต่มันลืมไปแล้ว แต่ถ้าเราได้ศัพท์ใหม่และจดลงสมุดคำศัพท์ส่วนตัว ถ้าเราหยิบขึ้นมาทบทวนโดยการ test ตัวเองสัก 2 – 3 เที่ยว อาจจะจำได้ไม่ลืมเลย

วิธีการทบทวนหรือ test นี้ อาจจะใช้วิธีง่าย ๆ คือตีเส้นบรรทัดแบ่งหน้าสมุดเป็นซ้าย – ขวา ด้านซ้ายเป็นคำศัพท์ (word) ด้านขวาเป็นความหมาย (meaning) ในด้านขวาที่เป็นความหมายนี้ อาจจะเขียนเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็เชิญตามถนัด เมื่อถึงเวลาทบทวน ก็ใช้กระดาษแข็งแผ่นเล็ก ๆ ผิดด้านใดด้านหนึ่ง คือ
วิธีที่ 1: เปิดด้านซ้ายให้เห็นคำศัพท์ ปิดด้านความหมายไว้ แล้วพยายามนึกทบทวนในใจว่ามันหมายความว่าอย่างไร แล้วก็เลื่อนกระดาษแข็งเปิดเช็คดูความหมายทีละคำ อย่างนี้เรียกว่า หาความหมายจากคำศัพท์ หรือ meaning by word,
วิธีที่ 2: แล้วก็สลับด้านบ้าง โดยเปิดด้านขวาให้เห็นความหมายและปิดด้านซ้ายที่เป็นคำศัพท์ แล้วพยายามนึกทบทวนในใจว่าความหมายเช่นนี้คำศัพท์มันคืออะไร แล้วก็เลื่อนกระดาษแข็งเปิดเช็คดูทีละคำ อย่างนี้เรียกว่า หาคำศัพท์จากความหมาย หรือ word by meaning, ขอแนะว่า ในด้านขวาที่ท่านเขียนความหมายลงไปนี้ ถ้าท่านเติมประโยคตัวอย่างลงไป ขอให้แหว่งตรงที่เป็นคำศัพท์ไว้ (เช่น ในช่องซ้ายมีคำว่า fruit, ในช่องขวาเขียนว่า ผลไม้ Ex: Oranges, apples, pears and bananas are all types of - - - - -.

ถ้าท่านสงสัยว่า จะไปหาประโยคตัวอย่างจากที่ไหน คลิกที่นี่ครับ - - learner's dictionary ของ Webster- - MSN Encarta -- Oxford - - Longman - - Cambridge-Cobuild - - Newburry House

หลายท่านอาจจะคุ้นเคยกับวิธีทบทวนศัพท์วิธีแรกเท่านั้น คือเห็นศัพท์แล้วนึกถึงความหมาย (meaning by word) ซึ่งจะทำให้เราจำศัพท์ได้เยอะ เวลาอ่านหรือฟังก็มักจะไม่ติดขัดเรื่องศัพท์ แต่ผมอยากจะขอแนะว่า ท่านน่าจะทบทวนศัพท์โดยวิธีที่ 2 บ้าง คือดูความหมายแล้วนึกถึงศัพท์ (word by meaning) วิธีนี้จะช่วยท่านได้มากเมื่อเวลาที่ท่านต้องพูดหรือเขียน เพราะอะไร? ก็เพราะขณะที่ท่านกำลังจะเอ่ยปากพูดนี้ มันจะเป็น step อย่างนี้โดยท่านอาจจะไม่รู้ตัว คือ
Step ที่ 1: ความหมายที่จะต้องสื่อสารมันผุดขึ้นมาในสมอง
Step ที่ 2: ท่านพยายามนึกถึงคำศัพท์ที่จะสื่อสารตามที่ท่านต้องการ แล้วท่านก็พูดออกไป (ถ้าท่านนึกออก)

ถ้าเราฝึกด้วยการเห็นความหมายก่อน และตามมาด้วยการนึกถึงคำศัพท์ มันจะเหมือนเป็นการซ้อมพูดในสมองอยู่เรื่อย ๆ ถึงเวลาต้องพูดจริงก็จะไม่ติดขัดมากนัก

เพราะฉะนั้นเมื่อจะทบทวนศัพท์ก็ควรจะทบทวนทั้ง 2 วิธี คือ ทวนจากคำศัพท์ไปหาความหมาย จะช่วยเมื่อเราต้องอ่านหรือฟัง และ ทวนจากความหมายไปหาคำศัพท์จะช่วยเมื่อเราต้องพูดหรือเขียน

ในระยะแรก ๆ ที่เราได้ศัพท์ใหม่ ถ้าเราทบทวนสัก 2 – 3 ครั้ง (หรือ 4 – 5 ครั้ง) ในช่วงที่ไม่ห่างกันมากนัก หลังจากนั้นเราอาจจะจำได้เลยโดยไม่ต้องมาทวนอีก ซึ่งมันเข้ากับทฤษฎีการฉีดยาป้องกันบาดทะยัก มันยังไงล่ะครับ?

ผมนึกถึงที่ตัวเองชอบซนสมัยเด็ก ชอบไปเดินในที่ ๆ ไม่ควรไปเดินและก็เดินอย่างไม่ระวังด้วย และบ่อย ๆ ที่ถูกตะปูตำ และไม่ว่าตะปูจะเป็นสนิมหรือไม่เป็น ผมและแม่ก็กลัวว่าจะเป็นบาดทะยักจึงต้องไปหาหมอฉีดยา ถ้าจำไม่ผิดหมอจะบอกว่าการฉีดยากันบาดทะยักต้องฉีด 3 เข็ม คือ ฉีดเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 3 เดือน และฉีดเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มที่สอง 6 เดือน ถ้าฉีดครบ 3 เข็มอย่างนี้จะป้องกันบาดทะยักได้ 10 ปี, ในช่วง 10 ปีนี้ต่อให้โดนตะปูตำเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ไม่ต้องกลัวเป็นบาดทะยัก (ตัวเลขพวกนี้อย่าเพิ่งเชื่อนะครับ แต่ก็เลา ๆ ทำนองนี้แหละครับ)

ทฤษฎีการฉีดยาป้องกันโรคขี้ลืมศัพท์ของผมก็ไม่ต่างจากทฤษฎีการฉีดยากระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคบาดทะยัก ก็คือว่า เมื่อเราได้รับคำศัพท์เข้าไปในสมอง และเราทิ้งระยะห่างไม่นานนัก ในระยะแรก ๆ คอยกระตุ้นความจำโดยการทบทวนหรือ test ตัวเองอยู่เรื่อย ๆ จนศัพท์คำนั้นเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันโรคขี้ลืมตัวมันเอง ต่อจากนี้ก็จะยากล่ะครับที่จะลืม แต่ระยะแรกนี้สำคัญอยู่ที่เราต้องกระตุ้นมันบ่อย ๆ

แต่แน่นอนละครับ การฟัง-พูด-อ่าน-เขียน เพื่อเปิดทางให้ศัพท์ไหลเข้ามาเก็บในสมองเราเรื่อย ๆ เป็นสิ่งแรกที่ต้องทำ แต่สิ่งที่สองที่ไม่ควรละเลยก็คือการกระตุ้นให้ศัพท์นั้นแข็งแรงไม่ตายง่าย ๆ

ที่เขียนเล่ามานี้คือประสบการณ์ส่วนตัวครับ อาจจะเป็นประโยชน์สำหรับบางท่าน

และข้างล่างนี้ คือ แบบฝึกหัดกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคขี้ลืมศัพท์ ซึ่งมีทั้งแบบ meaning by word และ word by meaning ดังที่กล่าวข้างบน
[1] http://search.4shared.com/q/1/VocabTest_ThaiallCom
[2] TOEIC
[3] TOEFL
[4] tests 1 (meanings by word)
[5] tests 2 (3420 words by meaning)

ขออวยพรให้ทุกท่านจำคำศัพท์ได้เยอะ ๆ และสามารถนึกคำศัพท์ได้ทันอกทันใจเมื่อเวลาที่ต้องพูด ท่านทำได้แน่ ๆ ครับ ผมเชื่อ!

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2552

[1017] สนุกกับศัพท์ระดับอนุบาล

สวัสดีครับ
ที่เว็บนี้
http://www.learningchocolate.com/index.php
เขามีศัพท์ให้ท่านเล่น 39 หมวด เมื่อคลิกที่ภาพแต่ละหมวดแล้ว ที่แถบด้านบนจะเห็นปุ่มให้คลิกอยู่ 5 ปุ่ม คือ
Review = ให้ดูภาพ อ่านคำศัพท์ และคลิกฟังเสียง

และมีเกมให้เล่น 5 เกมข้างล่างนี้ แต่ละเกมเมื่อทำครบถ้วนแล้ว ให้ตรวจความถูกต้องโดยคลิกที่ Complete

Match up 1 = ให้คลิกที่ไอคอนลำโพงที่แถบด้านล่างเพื่อฟังเสียง, และใช้เมาส์ลากไอคอนลำโพงไปวางที่ท้ายคำศัพท์

Match up 2 = ใช้เมาส์ลากคำศัพท์ที่แถบด้านล่าง ไปเติมในแต่ละช่องให้ถูกต้อง

Match up 3 = ให้คลิกที่ไอคอนลำโพงที่แถบด้านล่างเพื่อฟังเสียง, และใช้เมาส์ลากไอคอนลำโพงไปวางที่ตำแหน่งของมัน

Fill in = พิมพ์คำศัพท์ลงในช่องให้ถูกต้อง

Ditation = คลิกไอคอมลำโพงเพื่อฟังเสียง และพิมพ์คำศัพท์ลงไป

ท่านอาจจะไม่ชอบเล่นเกมนี้เพราะมันเด๊ก เด็ก... แต่ลูกหลานของท่านอาจจะชอบ ชวนเขาเล่นเพื่อปลูกฝังการรักภาษาอังกฤษก็ดีนะครับ

Animals 2
Arm
Beef
Birds 1
Birds 2
Body
Colors
Continents and Oceans
Cookware
Days
Egg
Eye
Fruits 1
Fruits 2
Hats
Head
Insect Life
Leg
Months
Numbers 1
Numbers 2
Numbers 3
Numbers 4
Seasons
Shapes 1
Shapes 2
Shoes
Stationery 1
Stationery 2
Symbols 1
Symbols 2
Tableware
Tools 1
Tools 2
Tools 3
Tooth
Vegetables 1
Vegetables 2

ลิงค์เพื่อศึกษาเพิ่มเติม
http://www.learningchocolate.com/usefullinks.php

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2552

[1016] เชิญดาวน์โหลดโปรแกรม Scrabble ที่ดีเอามาก ๆ

สวัสดีครับ
ในฐานะคนชอบภาษาอังกฤษและอยากให้คนไทยเก่งภาษาอังกฤษ ผมอยากให้คนไทยเล่นเกม Scrabble มาก ๆ เพราะนอกจากเกมนี้จะช่วยฟื้นฟูศัพท์เก่าและเพิ่มศัพท์ใหม่แล้ว ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลสมองและป้องกันโรค Alzheimers อีกด้วย แถมสนุกอีกต่างหาก แต่เมื่อคุยกับหลายคนก็มักได้รับคำตอบที่คล้าย ๆ กันถึงสาเหตุที่ไม่ชอบเล่น Scrabble เมื่อฟังแล้วผมก็รู้สึกว่า อุปสรรคที่ทำให้ไม่อยากเล่นเกมนี้มันน้อยนิดเหลือเกิน ถ้าต้องการเล่นจริง ๆ ก็สามารถเล่นได้และจะได้รับประโยชน์ในการพัฒนาศัพท์อย่างมากจากเกมนี้

วันนี้ผมอยากจะพูดเรื่องนี้ พร้อมกับขอแนะนำโปรแกรมให้ท่าน คลิกที่นี่ เพื่อดาวน์โหลดโปรแกรม Scrabble

และก็ขอชวนให้ท่านเล่น Scrabble ด้วยโปรแกรมนี้ซะเลย โดยท่านคนเดียวจะเล่นกับโปรแกรม, หรือชวนเพื่อนอีกคนมาเล่นแข่งกับท่านก็ได้โดยใช้โปรแกรมนี้ ส่วนหลังจากนี้ถ้าท่านเบื่อนั่งเล่นที่หน้าจอ จะไปซื้อชุด Scrabble มาเล่นกับเพื่อนก็ได้

ผมขอว่าไปเรื่อย ๆ นะครับ
1. สำหรับท่านที่ไม่เคยเห็นกระดานเล่น Scrabble : คลิกดูได้ที่นี่ครับ

2. ส่วนท่านที่ยังไม่ค่อยเข้าใจกติกาการเล่น อ่านที่นี่ครับ
อ่านกติกาภาษาไทย
อ่านกติกาภาษาอังกฤษ

3. ถ้าท่านยังไม่ได้ดาวน์โหลดโปรแกรม Scrabble ข้างบน ก็คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลด ได้เลยครับ หรือคลิกที่นี่ก็ได้

4. ดาวน์โหลดเสร็จก็ติดตั้ง ถ้าติดตั้งไม่ค่อยคล่อง เชิญ คลิกอ่านคำแนะนำที่นี่ครับ

ถึงเวลาเล่น ทุกครั้ง ให้ไปที่โฟลเดอร์โปรแกรมที่กระจายไฟล์แล้ว และคลิกไอคอน GHScrabble ซึ่งเป็นไฟล์ Application (1,270 KB)

5. ขอบรรยายคุณสมบัติของโปรแกรมนี้ที่น่าสนใจมาก ดังนี้ครับ
ก. ท่านจะเล่นคนเดียว, ชวนเพื่อนมาเล่นด้วย, หรือเล่นกับโปรแกรมก็ได้ ซึ่งหมายความว่า ต่อให้ท่านไม่มีเพื่อนเล่นด้วย ท่านก็เล่นคนเดียวได้ไม่ต้องง้อใคร แต่ถ้ามีเพื่อนเล่นด้วยก็สนุกมากขึ้นหลายเท่า สนุกพร้อมกันหลายคน

ข. ถ้าเล่นกับโปรแกรม ท่านสามารถกำหนดให้โปรแกรมเก่งมากหรือเก่งน้อยแค่ไหนก็ได้ตามใจท่าน

ค. มีเสียงดนตรีคลอขณะเล่น ไม่เบื่อ

ง. มี Merriam – Webster Dictionary (The Official Scrabble Players Dictionary) ควบอยู่กับโปรแกรมนี้ด้วย โปรแกรมดิกนี้มีประโยชน์ยังไง มีอย่างนี้ครับ
- - -ปกติการเล่น Scrabble จะต้องมีดิกเล่มใดเล่มหนึ่งเป็นที่อ้างอิง ผู้เล่นจะได้ไม่ต้องทะเลาะกันว่าคำนี้มีหรือไม่มี ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ใช้เล่นได้หรือไม่ได้ การมี dictionary สำหรับการเล่น Scrabble ที่ได้รับการยอมรับระดับโลกยี่ห้อ Webster เป็นหลักอ้างอิง ทำให้ปัญหานี้หมดไป

- - - เมื่อเราไม่รู้ศัพท์ เราสามารถพิมพ์ค้นลงไปในหน้าจอได้ โดย
@เราอาจจะพิมพ์ทั้งคำ เช่น คำว่า attack อาจจะพิมพ์ค้นลงไปตรง ๆ ว่า attack เพื่อดูว่าคำนี้มีในดิกหรือเปล่า
@พิมพ์เพื่อหาตัวที่แหว่ง ใช้ในกรณีที่เราคิดไม่ออกว่า ตัวอักษรที่เรามีอยู่ข้างหน้าสามารถใช้เติมคำที่แหว่งบนจอได้หรือไม่ เช่น พิมพ์อย่างนี้ t??e หรือ t?m? หรืออาจจะใช้ดอกจัน * แทนอักษรที่เราไม่ทราบจำนวน เช่นพิมพ์ t*b ก็จะได้รับคำตอบว่า คำที่ขึ้นต้นด้วย t และลงท้ายด้วย b มีอยู่ 6 คำที่เราสามารถใช้เติมได้ (tab, taxicab, throb, thumb, tomb, tub) และถ้าไม่รู้ว่าคำไหนแปลว่าอะไร เมื่อคลิกที่คำนั้นก็จะปรากฏคำแปลทันที

- - - เมื่อคนที่เล่นด้วย หรือคอมพิวเตอร์ที่เราเล่นด้วยเติมคำศัพท์ที่เราไม่รู้จัก เราก็สามารถคลิกดูคำแปลได้ทันที

- - - ถ้านึกไม่ออกจริง ๆ ว่าควรเติมศัพท์อะไร ก็มี Hint ให้คลิกถาม

- - - ถ้าไม่มีเวลาเล่นจนจบ ตอนกลับมาเปิดเล่นใหม่ เราสามารถคลิกเลือกเล่นต่อจากที่เล่นค้างไว้ หรือจะเริ่มเกมใหม่ก็ได้ เพราะฉะนั้นแม้ไม่มีเวลาจะเล่นจนจบวันนี้ ก็ค่อยมาเล่นต่อคราวหลังได้

ผมขอเรียนอย่างดัง ๆ ว่า โปรแกรม Scrabble ที่ขอชวนให้ท่านดาวน์โหลดวันนี้ เล่นสนุกและมีประโยชน์จริง ๆ เอาโปรแกรมนี้ไปลงไว้หลาย ๆ เครื่องก็ดีครับถ้าทำได้ เมื่อมีเวลาว่าง ใกล้เครื่องไหนก็เล่นเครื่องนั้น สะดวกดีครับ

เมื่อเล่น Scrabble ไปเรื่อย ๆ ท่านจะรู้สึกแปลกใจที่ท่านสามารถนึกหาคำศัพท์ได้เร็วขึ้น ได้มากคำขึ้น, ทั้งศัพท์เก่าที่เคยลืมไปแล้ว และศัพท์ใหม่ที่เพิ่งจำได้, ท่านอย่าได้เข้าใจผิดว่าศัพท์ที่ท่านได้จากการเล่นมีเฉพาะคำที่ท่านใช้เติมขณะเล่นเท่านั้น, แท้จริงแล้วศัพท์ที่ท่านไม่ได้เติมลงไปแต่มันวิ่งไปวิ่งมาในสมองขณะที่ท่านกำลังเล่น Scrabble, ศัพท์ที่ไม่ได้ปรากฏตัวเช่นนี้มีจำนวนมากกว่าศัพท์ที่ปรากฏตัวหลายเท่า, นี่คือการออกกำลังศัพท์ ซึ่งจะช่วยให้ศัพท์ของท่านแข็งแรงออกลูกออกหลาน พร้อม ๆ กับช่วยให้สมองของท่านแข็งแรงไปด้วย

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

[1015] อ่าน Reader’s Digest Best Jokes

สวัสดีครับ
ผมไปพบหนังสือเล่มนี้
Reader’s Digest Best Jokes
เป็น Joke ที่อ่านสนุกแทบทุกเรื่อง บางเรื่องขำกลิ้งเลย น่าจะเป็นเพราะว่าคนที่รวบรวมเรื่องไว้ในหนังสือเล่มนี้เป็นแขกที่ sense ของเรื่องที่ขำน่าจะเป็น sense แบบคนเอเชียผมเลยรู้สึกขำ เคยอ่าน Joke ของฝรั่งหลายเรื่องและต้องพยายามทำความเข้าใจจึงจะขำแม้จะอ่านภาษารู้เรื่อง แต่ถ้าเรื่องไหนอ่านภาษาไม่ค่อยรู้เรื่องก็ยิ่งเลิกขำไปใหญ่เลย

ในบล็อกนี้ ผมเอาเรื่องขำมาแนะนำท่านผู้อ่านมากพอสมควรข้างล่างนี้ ผมหวังว่าท่านจะชอบ สนุกไปกับมัน และได้พัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษไปพร้อมกัน

[828] อ่านนิทานนัสรูดิน (Nasruddin)
[117] Joke ฝรั่ง... ขำ และ ‘กวนโอ๊ย’ พอ ๆกับ Joke ไทย !
[414] มาหัวเราะกับ Random Funny Jokes
[965] Laughs for Wisdom
[190] "เก่งอังกฤษ พิชิตความเครียด" ที่เว็บนี้ [คลิก สารบัญโจ๊ก ]
[217] หนังสือแกรมมาร์ที่อ่านเหมือนหนังสือโจ๊ก
[403] สนุกกับภาษา- พัฒนาทักษะ
[393] ศัพท์กฎหมาย และ Joke
http://www.cleanjoke.com/
50 Funniest Jokes
http://www.rd.com/all-jokes.do

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2552

[1014]ขุมทรัพย์ให้ท่านดาวน์โหลดไฟล์เรียนภาษาอังกฤษ

เพิ่ม 12 มิถุนายน 2554:

www.filecrop.com

สวัสดีครับ
มีท่านผู้อ่านท่านหนึ่งกรุณาแนะนำเว็บ http://www.englishtips.org/ ผมเข้าไปดูแล้ว มีความรู้สึกเหมือนได้เจอขุมมหาสมบัติที่อยากได้มานาน เพราะว่ามันมีทุกอย่างให้ดาวน์โหลดเพื่อใช้ศึกษาภาษาอังกฤษ ผมทั้งทึ่งและประทับใจในเว็บนี้เอามาก ๆ

ก่อนแนะนำวิธีใช้ขอเรียนก่อนว่า เครื่องคอมฯของท่านจะต้องติดตั้ง 2 โปรแกรมนี้
- โปรแกรม WinRAR หรือโปรแกรมอื่นที่สามารถแตกไฟล์ WinRAR ได้ เช่น 7-zip หรือ ZipGenius เพราะไฟล์ที่ให้ดาวน์โหลดส่วนใหญ่ต้องใช้โปรแกรมนี้เปิด
- โปรแกรมอ่านไฟล์ pdf เช่น Foxit Reader หรือ Adobe Acrobat

เพื่อไม่ให้เสียเวลา ขอแนะนำการใช้เลยนะครับ
1. ไปที่ Homepage http://www.englishtips.org/

2. ถ้ามันเป็นภาษา Russia และอ่านไม่ออก ให้คลิกที่รูปธงชาติอังกฤษ (English Language)ที่มุมบนขวาของหน้า

3. คลิกที่ REGISTER ที่แทบด้านบนของหน้า ถ้าไม่ Register ก็จะดาวน์โหลดไม่ได้

4. เมื่อจะดาวน์โหลด ให้ท่านดูที่คอลัมน์ซ้ายมือ ใต้คำว่า NAVIGATION คลิกหัวข้อที่ท่านสนใจ, เมื่อเข้าไปยังหน้าที่เขาโชว์หน้าปกหนังสือแล้ว ชอบใจเล่มไหนก็คลิก More ที่มุมล่างขวา เพื่ออ่านต่อและดาวน์โหลด หรือท่านจะหาเรื่องโดยใช้ช่อง Search ที่มุมบนซ้ายของหน้าก็ได้

5. เมื่อตัดสินใจจะดาวน์โหลดให้คลิก “I Accept the Download Agreement” หรือ “AGREE

6. เว็บ EnglishTips.org นำไฟล์ที่จะให้เราดาวน์โหลดไปฝากไว้ที่เว็บต่าง ๆ ยกตัวอย่าง เช่น
เว็บที่ 1: rapidshare.com
เว็บที่ 2: ifile.it
หรืออาจจะเป็นเว็บอื่น ๆ

การจะดาวน์โหลดไฟล์จากเว็บเหล่านี้ ก็ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของเขา ซึ่งแต่ละเว็บอาจกำหนดไว้ต่างกัน เช่น บางเว็บต้องให้ Register ก่อน, วางเว็บดาวน์โหลดไฟล์แรกเสร็จแล้ว ต้องรอสักพักหนึ่งจึงจะยอมให้เราดาวน์โหลดไฟล์ที่สอง ส่วนการคลิกเพื่อดาวน์โหลดก็ต้องอ่านหน่อยว่า เขาให้คลิกยังไง เป็นต้น

* * * * *
ขอยกตัวอย่างการดาวน์โหลดไฟล์จากเว็บ ifile.it
1. ให้ Register โดยไปที่ http://ifile.it/ และคลิกที่ Sign Up ที่มุมบนขวา,
2. สมัครแล้วต้องกลับไปยังอีเมลที่ท่านแจ้งไว้เพื่อคลิก activate
3. Log in ที่ http://ifile.it
4. คลิกที่ลิงค์ ifile.it ที่จะดาวน์โหลดจากเว็บ EnglishTips.org
5. คลิกที่ "Request Download Ticket" มุมบนซ้าย
6. คลิก "Download"
* * * * *

7. การดาวน์โหลดไฟล์จาก rapidshare.com และจาก ifile.it มีข้อดี – ข้อเสียต่างกัน
- ถ้าดาวน์โหลดจาก rapidshare.com ท่านไม่ต้อง register เป็นสมาชิก rapidshare.com แต่เมื่อดาวน์โหลดจบ 1 ไฟล์ ต้องรอ 15 นาทีจึงจะสามารถดาวน์โหลดไฟล์ใหม่ได้
- แต่ถ้าดาวน์โหลดจาก ifile.it ท่านต้อง register เป็นสมาชิก ifile.it แต่ข้อดีคือ เมื่อดาวน์โหลดจบ 1 ไฟล์ ท่านสามารถดาวน์โหลดไฟล์ใหม่ได้ทันที

8. ไฟล์บางไฟล์มีขนาดใหญ่มาก เขาจึงแตกเป็นหลาย part ให้เราดาวน์โหลดทีละ part, ให้ท่านดาวน์โหลด part ที่ 1, 2, 3… ไปตามลำดับจนครบ และเก็บไว้ในโฟลเดอร์เดียวกัน (ยังไม่ต้องแตกไฟล์)

9. เมื่อดาวน์โหลดเสร็จ (ครบทุก part) แล้ว ตอนจะกระจายไฟล์ WinRAR --{{ถ้ามีหลาย part ให้คลิกกระจายเฉพาะ part แรกเท่านั้น เพราะมันจะกระจายทุก part ไปไว้ในโฟลเดอร์เดียวกัน}}- - ถ้าเขาบอกให้เราเติม password ให้พิมพ์คำว่า englishtips.org ลงไป

10. มีเรื่องที่ขอแจ้งเพื่อป้องกันการหงุดหงิดรำคาญ 2 ข้อ
-บางครั้งเมื่อเราคลิกที่ลิงค์เพื่อดาวน์โหลด มันจะขึ้นข้อความว่า “Oops! This link appears broken.” หรือ “Internet Explorer cannot display the webpage” ไม่ต้องรำคาญหรอกครับ, Link มันอาจจะไม่ได้แตกก็ได้ ให้คลิก Refresh และ Retry ผมทำดูแล้วก็สามารถดาวน์โหลดต่อไปได้
- ถ้าท่านไม่ได้ใช้ high speed Internet อาจจะต้องใช้เวลานานมากในการดาวน์โหลดแต่ละลิงค์ หรือบางทีมันก็เดี้ยงซะเฉย ๆ ยังงั้นแหละ ก็ต้องทำใจครับ ถ้าติดตั้ง high speed ได้ ก็จะสบายขึ้น

เมื่อวานนี้และวันนี้ทั้งวัน ผมใช้เวลาดาวน์โหลด หนังสือภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียน ซึ่งมีเนื้อเรื่องหลากหลายมาก ทั้งนิทาน นิยาย สารคดี บทร้อยกรอง เรื่องทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย ตามลิงค์ข้างล่างนี้ครับ
Reading Street – Leveled Readers (Kindergarten)
Reading Street – Leveled Readers (Grade 1)
Reading Street – Leveled Readers (Grade 2)
Reading Street – Leveled Readers (Grade 3)
Reading Street – Leveled Readers (Grade 4)
Reading Street – Leveled Readers (Grade 5)

และ
Leveled Science Readers (Kindergarten and Grade 1)
Leveled Science Readers (Grade 2)
Leveled Science Readers (Grade 3)
Leveled Science Readers (Grade 4)
Leveled Science Readers (Grade 5)
Leveled Science Readers (Grade 6)

ได้มาเป็นร้อย ๆ เล่ม ซึ่งเป็นทั้ง picture book และ audio book พร้อมกันใน 1 เล่ม เป็นสิ่งที่เยี่ยมมาก ๆ เลยครับในการศึกษาภาษาอังกฤษ เพราะแบ่งเป็นระดับให้เราเลือก ตั้งแต่ระดับอนุบาล เกรด 1 ไปจนถึงเกรด 6 เนื้อเรื่องหลากหลายน่าสนใจ ศัพท์ – สำนวนอ่านง่าย ภาพวาดสวยงามหรือถ้าเป็นภาพถ่ายก็สมจริง ท่านสามารถคลิกพลิกอ่าน – พลิกดูภาพ ไปทีละหน้า ถ้าจะฟังก็คลิกที่รูปลำโพง ณ นาทีนี้ผมดาวน์โหลดเกือบเสร็จแล้ว เมื่อกระจายไฟล์แล้วได้กว่า 3 GB ได้อ่านเนื้อเรื่อง - ได้ดูภาพ - ได้ฟังเสียงเพลินเลยครับ และเป็นเสียงที่มีสำเนียงชัดมาก ๆ น่าฟังครับ

เพื่อให้ท่านผู้อ่านเห็นชัด ๆ ว่าชุดที่ผมดาวน์โหลดมานี้ดียังไง ท่านจะได้มีกำลังใจไปดาวน์โหลดด้วยตัวเอง ขเอเชิญท่านทดลองดาวน์โหลดไฟล์ข้างล่างนี้ชมเป็นตัวอย่างครับ

Grade 1
Mother_Duck_and_Baby_Crow
The_Sky

Grade 2
Three_Little_Kittens_Learn_a_Lesson
Fossils_and_Dinosaurs

Grade 3
Could_You_Be_a_Scientist
A_Gift_from_Japan

Grade 4
From_Thailand_to_California
Inner_and_Outer_Planets

Grade 5
Human_Body_Systems
Gorillas_-_The_Real_Story

ยังมีอะไรดี ๆ, ดีมาก, ดีมากที่สุด, และดีจนพูดไม่ถูก อีกมากมายที่เว็บนี้ ขอชวนให้ทุกท่านเข้าไปสำรวจครับ

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com