วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

[1731]ช่วยด้วยครับ !! ผมชักจะหมดเรื่องเขียนแล้ว

สวัสดีครับ
ท่านผู้อ่านครับ ขอสารภาพความในใจสักเรื่องหนึ่งนะครับ คือว่า กว่า 4 ปีแล้วที่ผมนั่งหน้าคอมฯทำหน้าที่ blogger นี้ ผมเห็นเรื่องดีที่เกิดขึ้นชัด ๆ 3 เรื่อง คือ
เรื่องที่ 1: มีเว็บไซต์ที่ให้เราเรียนภาษาอังกฤษ free online เกิดเพิ่มขึ้นมากมาย ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษาอังกฤษนั้น เพิ่มขึ้นเยอะจริง ๆ ทั้งปริมาณและคุณภาพ

เรื่องที่ 2: Search Engine คือ www.Google.com มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทุกทีในการค้นหาเว็บไซต์ที่ต้องการ และเราก็สามารถหาเว็บเพื่อการศึกษาภาษาอังกฤษได้อย่างมากมายและรวดเร็วกว่า 4 ปีที่แล้วที่ผมเพิ่งเริ่มเป็น blogger ยกตัวอย่างง่าย ๆ ท่านพิมพ์คำค้นง่าย ๆ ลงไป Google ก็จะแสดงผลให้ท่านอย่างน่าพอใจจนเหลือเชื่อ ลองคลิกดูก็ได้ครับ
English reading, English listening, English conversation, English writing, English grammar, English vocabulary นี่เป็นการค้นแบบง่ายที่สุดยังได้ผลเป็นที่น่าพอใจถึงเพียงนี้ แต่ถ้ารู้เทคนิคในการ Search มากกว่านี้อีกสักนิด ก็จะได้ผลการค้นที่น่าพอใจยิ่งขึ้น

เรื่องที่ 3: มีการใช้อินเทอร์เน็ตแบบ high speed แพร่หลายกว่าเดิม ทำให้เราสามารถดาวน์โหลดไฟล์ภาพ ไฟล์เสียง ไฟล์วีดิโอ และไฟล์เกมภาษา มาศึกษาได้อย่างสะดวกสบาย โดยที่เมื่อก่อนสมัยแรกเริ่มนั้น แค่ดาวน์โหลดไฟล์ text มาอ่านก็ต้องรอดาวน์โหลดกันแย่แล้ว high speed Internet จึงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการศึกษาภาษาอังกฤษผ่านเน็ต ด้วยเหตนี้ผมจึงพูดบ่อย ๆ ว่า ถ้าท่านต้องการศึกษาภาษาอังกฤษผ่านเน็ตให้ได้ผลเต็มที่ ถ้าไม่ลำบากเกินไปนัก การยอมลงทุนติดตั้งเน็ตความเร็วสูงก็น่าจะคุ้มค่าครับ

ทั้ง 3 ข้อนี้นำผมมาสู่ข้อสรุปว่า ถ้าเรามี ความรัก ความเพียร และความจดจ่อ ที่จะเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองผ่านเน็ต เราจะไม่ต้องเสียเงินให้แก่โรงเรียนสอนภาษา หรือไม่ต้องเสียเงิน หรือเสียน้อยมาก ในการซื้อหนังสือ CD หรือสื่อการเรียน ภาษาอังกฤษ เพราะในเน็ตมีให้เราพร้อมทุกอย่าง ขอให้เราเข้าไปค้นหาและใช้ประโยชน์จากมันเท่านั้นแหละครับ

และจากการเป็น blogger มานาน ผมเริ่มจะรู้สึกแล้วว่า
1.ผมไม่มีอะไรจะแนะนำแล้วครับ สิ่งที่อยากจะแนะนำก็ได้แนะนำไปหมดแล้ว
2.ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่และผมยังไม่ได้เอามาแนะนำ ท่านผู้อ่านก็สามารถ Search ได้เองง่าย ๆ จาก Search Engine – Google ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นทุกวัน

ถึงบรรทัดนี้ ท่านผู้อ่านอย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะครับว่า ผมจะเลิกเขียน ยังไม่เลิกหรอกครับ ผมยังรักที่จะเขียนถ้ายังมีคนอ่าน แต่เรื่องของเรื่องก็คือ ผมอยากจะขอความช่วยเหลือจากท่านสักหน่อย ด้วยเหตุว่าผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะหมด “มุก” ซะแล้ว คือชักคิดไม่ออกแล้วครับว่าจะเขียนอะไร และมันเป็นบ่อยขึ้นซะด้วย จึงอยากจะให้ท่านผู้อ่านช่วยเขียนมาบอกหน่อยว่า อยากได้เว็บเรียนภาษาอังกฤษเนื้อหาแบบไหนโดยเจาะจง ถ้ามันมีอยู่ใน world wide web และผมหาพบ ก็จะรีบหามาให้ท่าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นให้ท่านลองหาในบล็อกนี้ก่อนแล้วกันครับ เพราะบ่อยครั้ง สิ่งที่ท่านผู้อ่านต้องการนั้นผมได้เขียนแนะนำไว้แล้ว คลิกอ่าน ข้อ 1 และ ข้อ 16 ที่นี่ก่อนครับ
* * * *

เว็บที่ผมนำเอามาแนะนำวันนี้ ได้มาเพราะความฟลุ๊กครับ มันไปเจอเข้าโดยบังเอิญ และคุณภาพของเว็บก็ดีเกินคาดซะด้วย คือ มีทุกเรื่องให้ศึกษา ทั้งแกรมมาร์ ฟัง อ่าน พูด เขียน แถมยังแยกตามระดับง่าย-ยาก อีกด้วย ผมขอแนะนำสั้น ๆ แค่นี้แล้วกันครับ ท่านเข้าไปแล้วคลิกดูเมนูซึ่งอยู่ที่คอลัมน์ซ้ายมือนั่นแหละครับ

วันนี้โชคดีครับที่คิดเรื่องเขียนไม่ออก แต่ฟลุ๊กเจอเรื่องให้เขียนได้ แต่ปัญหาก็คือ มันไม่ได้ฟลุ๊กทุกวันนี่ซีครับ!!

learnamericanenglishonline.com
Blue Level
Red Level
Yellow Level
Green Level
Purple Level
Orange Level
Violet Level
Prepositions
Video Lessons
Links
American Speech
Chat
How to Learn English
Vocabulary
Stuff for Teachers
U.S. Citizenship

Blog LAEO
Blog LAEO January 2011
Blog LAEO December 2010
Blog LAEO Archive
Site Map

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

17 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆ ค่ะ สำหรับข้อมูลดีๆ ขอเป็นกำลังใจให้เขียนบทความดีๆต่อไปค่ะ แล้วก็ขอให้มีเรื่องฟลุ๊คๆ เกิดขึ้นบ่อยๆนะคะ

Chanuwan กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ สำหรับบทความดีๆที่อาจารย์ได้เขียนขึ้นมา

ผมมีอีกเรื่องที่ผมกำลังค้นหาอยู่ครับ คือเรื่องการย่อบทความภาษาอังกฤษ

ตัวอย่างเช่น ผมเจอบทความ(หรือข่าว)ที่เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งมีความน่าสนใจ จึงอยากจะเขียนสรุปบทความดังกล่าวให้กระทักรัดให้ได้ใจความที่ดีเป็นภาษาอังกฤษ (เป็นการฝึกการเขียน และการจับใจความอย่างหนึ่ง)

อาจารย์พิพัฒน์ พอมีแนวทางหรือหลักการ สำหรับการสรุปหรือย่อบทความ มั้ยครับ

ขอบพระคุณมากครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ยังไม่มีไอเดียใดๆเพิ่มเติม
แต่
อยากเสนอแนะว่าแค่การหยิบยกหัวข้อข่าวที่เป็นภาษาอังกฤษมานั่งคุยกันเป็นภาษาอังกฤษก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ ถ้าไม่มีเรื่องจะเขียนแล้วจริงๆ ผู้อ่านก็น่าจะ happy แล้วก็พร้อมที่จะมาพูดคุยกันเป็นการผ่อนคลาย แนวทางของบล๊อคนี้ก็อาจจะขยายไปอีกทางหนึ่งก็ได้ครับ

gabamate​24in1 กล่าวว่า...

1. เห็นด้วยกับคุณ chanuwan ค่ะ เพราะอยากได้พอดีเหมือนกัน

2. ขอแนะนำว่า คุณพิพัฒน์น่าจะเพิ่ม blog english for thai 3 โดยนำเสนอเนื้อหาที่ลุ่มลึกขึ้น หรือมีการอภิปรายว่า ท่านผู้อ่านชอบเว็บไซต์ใด เพราะเหตุใด เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เห็นด้วยกับการเอาหัวข้อข่าวภาษาอังกฤษมานั่งคุยกันครับ หรืออาจจะเป็นบทความอื่นๆก็ได้ครับ เช่น บทความสุขภาพ หรือท่องเที่ยว จะได้ขยายเนื้อหาไปในทางอื่น แต่ก็ยังไม่หลุดจากคอนเซปต์การหัดภาษาอังกฤษครับ

ถึงตรงนี้ผมขอเสนอนิดหนึ่งว่าคอลัมน์ภาษาอังกฤษบางคอลัมน์นั้นอ่านยากมากสำหรับผู้ที่ยังไม่เก่งอย่างผม โดยเฉพาะคอลัมน์ที่เขียนโดยชาวต่างชาติ เช่น บทความของแอนดรูว์ บิกส์ ใน Bangkokpost.com ถ้าหากคุณพิพัฒน์นำบทความนี้มานั่งคุยกัน แล้วแปลบางช่วงบางตอนที่คล้ายๆกับเป็นสำนวน หรืออะไรที่มันไม่สามารถแปลตรงตัวได้ ก็จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ยัังไม่เก่งอย่างผมเป็นอย่างสูงครับ

สุดท้ายนี้ขอให้กำลังใจคุณพิพัฒน์ เจ้าของblogครับ อัพเดตบ่อยมาก เพิ่งจะมา(รู้สึกว่า)ตันตอนนี้ก็ถือว่าสุดยอดแล้วครับ blogของคุณมีประโยชน์มากจริงๆครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ติดตามประจำนะคะ
ตอนนี้มีไอเดียเรื่องการฟังน่ะค่ะ
เน้นที่เป็นการสนทนาจริงๆ หรือแบบ english pod.com ชอบมากๆ
แต่ก็หาเจอแบบฟรีๆยากจริงๆค่ะ
ตั้งใจจะไปสอบ toeic ได้ blog นี้เป็นตัวหลักเลย
จะติดตามเสมอๆและเป็นกำลังใจให้นะคะ
ถ้าเลิกเขียนไป ดิฉันคงขาดใจแน่ๆเลย

pipat - blogger กล่าวว่า...

ขอบคุณทุกท่านครับที่แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ถือว่ามากที่สุดที่บทความหนึ่งได้รับในวันแรกที่ post

ผมขอพิจารณาก่อนนะครับ บางอย่างผมอาจจะทำได้ แต่บางอย่างคงทำไม่ได้ ซึ่งอาจจะมาจากความสามารถและนิสัยส่วนตัวของผม

แต่เมื่อได้อ่านความคืดเห็นของหลายท่าน มันทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ถ้าผมเปิดโรงเรียนสอนภาษา อาจจะเจ๊งเพราะไม่มีใครมาเรียน เพราะวิธีสอนของผมคงเป็นวิธีที่ไม่มีใครใช้และคนเรียนไม่ชอบ แล้วผมจะกลับมาคุยเรื่องนี้อีกครั้งครับ

พิพัฒน์ - blogger

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สวัสดีครับคุณพิพัฒน์

ผมเองเป็นแฟนพันธุ์แท้ของคุณมาประมาณ 3 ปีแล้วครับ ทุกวันนี้ผมเรียนปริญญาเอกที่อเมริกา แต่ก็ยังเข้ามาเยี่ยม website ของคุณพิพัฒน์ทุกวันครับ ขอชื่นชมอย่างแรกเลยครับว่า สิ่งที่คุณพิพัฒน์ทำอยู่เป็นประโยชน์มากครับสำหรับคนที่ต้องการพัฒนาตัวเอง

สิ่งที่สองที่ผมได้จากการเข้า web ก็คือ ภาษาอังกฤษต้องอาศัยความขยัน ความพยายาม ความต่อเนื่อง แม้ว่าตอนนี้ผมจะสามารถใช้ภาษาได้ดีพอสมควรแล้ว แต่ผมก็ต้องขยันสม่ำเสมอ หมั่นเพิ่มความรู้ใหม่ๆ แล้วก็ย้ำทบทวนความรู้เดิม ซึ่งสิ่งเหล่านี้คุณพิพัฒน์คอยเตือนผู้อ่านอยู่เสมอ

ไม่แปลกเลยครับที่จะไม่มีอะไรเขียน เพราะคุณพิพัฒน์เขียนมาเยอะ...ผมจะขอเสนอความเห็นว่า คุณพิพัฒน์ อาจจะย้อนกลับไปดู website ที่เคยแนะนำเอาไว้ตั้งแต่ครั้งแรก เข้าไปสำรวจอย่างละเอียดแล้วเอามาเขียนให้ผู้อ่าน ซึ่งผมทำเสมอ ดูทุกอย่าง ทุกเมนู แล้วผมก็จะเจอว่า web นั้นๆ มีอะไรที่ผมชอบ

แล้วก็ไม่ต้อง post ทุกวันก็ได้ครับ สองวันครั้งหรือมากกว่านั้นก็ OK ครับ

we're friends กล่าวว่า...

That is so!
No need to write everyday.
Take your time please!
Take care of yourself too.
Becouse of you already old. That right? Oh! my dear am just kidding!
long time never add to you.
miss you much!

zonnie กล่าวว่า...

ผมอยากสอนอังกฤษผ่านเน็ท โดยเฉพาะเรื่อง tense ผมอ่านมาทุกเว็บ ทั้งไทย อังกฤษ ยังไม่เจออันที่โดน เพราะอะไรหรอ
เพราะทุกเว็บ จะสอนหลักการท่อง หลักการจำ
มีใครสักคนมั้ย จะตั้งคำถามว่า tense คืออะไร ทำไมต้อง มี 12 tenses ทำไมไม่เป็น 7 8 9 10 11 13 14 ทำไมต้อง มี perfect tense อะไรทำนองนี้ ผมหามา 2 ปี แล้วใน เน็ทเนี่ยะ รวมทั้งในร้านหนังสือ ไม่มีไม่มีเลย ไม่มีแม้แต่คนเดียวจะพูดถึง tense ในลักษณะดังกล่าว แม้กระทั่งฝรั่งเองก็ตาม ยังไงใครอ่านตรงนี้สนใจ mail มาคุยกันก่อนนะ
czonnie@gmail.com

Kru-Bew กล่าวว่า...

ผมติดตามเว็บนี้ห่างๆอย่างห่วงๆ มาตั้งแต่เรียนปริญญาตรี ซึ่งตอนนี้ทำงานแล้ว็ยังเข้ามาศึกษาอยู่เรื่อยๆครับ เป็นกำลังใจให้ทำต่อไปนะครับ

pipat - blogger กล่าวว่า...

คุณ Kru-Bew ครับ
ช่วยบอกด้วยเถอะครับว่าห่วงเรื่องอะไร
ขอบคุณครับ
พิพัฒน์ - blogger

Mrs. Sompore กล่าวว่า...

สวัสดีค่ะ คุณพิพัฒน์
ขอบคุณมากนะคะ สำหรับวิทยาทานที่คุณพิพัฒน์กำลังทำอยู่ขณะนี้ มีประโยชน์มากๆสำหรับตนเองค่ะ
อยากจะเสนอแนะให้เพิ่มเป็นฟอรัมม์หรือจะเป็นบล็อคในนี้ก็ได้ค่ะ แต่ให้คนอ่านฝึกแสดงความคิดเห็นหรือโพสเป็นภาษาอังกฤษน่ะค่ะ
พอดีตัวเองได้ประโยชน์จะการสมัครเว็บหนึ่งซึ่งเสียเงินด้วย
แต่ว่า เพิ่งรู้ว่าทัีกษะการเขียนของตัวเองก้าวหน้ามาก
ดูผลสอบ TOEFL ค่ะ part writing จะได้คะแนนสูงกว่าทุก part
แล้วก็ถ้ามี blog สำหรับผู้อ่านแสดงความคิดเห็นเป็นภาษาอังกฤษจะดีมาก บางทีเราไปเจอ อะไรที่น่าสนใจใน youtube เราอาจจะมา post แล้วให้เพื่อนช่วยแสดงความคิดเห็น ก็จะทำให้เว็บมีการเคลื่อนไหวตลอด
ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้นะคะ

noon กล่าวว่า...

ได้เข้ามาเยียมเยียนติดตามความเคลือนไหวของบลอกนี้ตลอดค่ะ ตอนแรกอ่านตกใจนึกว่าคุณพิพัฒน์จะวางมือซะแแล้ว บลอกนี้มีประโยชน์มากค่ะ แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของคุณพิพัฒน์ค่ะ ถ้าเป็นไปได้ในบล็อกนี้น่าจะมีทีี่โพสต์ไว้ให้โพสต์ถามปัญหาหรือเรื่องที่อยากรู้ไว้นะคะ แบบที่ทุกคนเห็นได้และแลกเปลี่ยนความรู้กันได้คล้ายๆกับของหน้าเวบฟังเพลงของคุณแอนดรูก็ได้ค่ะ
ส่วนเรื่องที่อยากได้ความรู้เพิ่มตอนนี้คืออยากฝึกพูดฝึกฟังภาษาอังกฤษให้รู้เรื่องค่ะ อยากรู้หลักการพูดให้ฝรั่งเข้าใจค่ะ เพราะบางทีรู้สึกว่าเราก็พูดถูกแล้วนะ แต่ทำไมฝรั่งต้องไม่เข้าใจเราด้วย ทำให้เสียความมั่นใจมากมายค่ะ
ขอบคุณมากๆนะคะ สำหรับความรู้ที่ไม่มีวันหมด เป็นกำลังใจให้ค่ะ

pipat - blogger กล่าวว่า...

คุณ noon ครับ
ข้อ 1 เชิญเข้าไปที่นี่ครับ
http://e4thaisite.blogspot.com/

ข้อ 2 เรื่อง ฟัง พูด ที่นี่อาจพอช่วยได้
http://freeenglishstudy.blogspot.com/2007/05/blog-post_3537.html

http://freeenglishstudy.blogspot.com/2007/05/listening.html

ข้อ 3 อย่าไปคิดมากเลยครับ
-ฟังมาก ๆ แล้วพยายามพูดให้ได้เหมือนที่ฟัง เรื่องนี้ต้องอาศัยทั้งเวลาและความิดทน
-ฝรั่งบางคนอาจจะไม่รู้เรื่องจริง ๆ แต่บางคนก็ดัดจริตทำเป็นไม่รู้เรื่องทั้ง ๆ ที่ก็พอฟังรู้เรื่อง ภาษาอังกฤษขณะนี้ไม่ใช่ภาษาของฝรั่งแล้วครับ แต่เป็นภาษาของคนทั้งโลก ฝรั่งหลายคนอาจจะมี listening skills ที่ต่ำมาก เพราะไม่เคยได้ยินสำเนียงของคนต่างชาติพูดภาษาอังกฤษเลย เพราะเขาเข้าใจผิดว่า ภาษาอังกฤษมีสำเนียงเดียวคือสำเนียงที่เขาพูด ฝรั่งพวกนี้ยังอยู่ในยุคเก่าครับ

noon กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆ ค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

แอบอ่านมาตลอดค่ะ แต่เป็นบุคคลไม่เปิดเผย ^_^

ต้องขอบคุณอาจารย์มากนะคะ รู้จักเวบนี้เกือบ 3 ปีแล้วค่ะ
ได้อะไรเยอะมากกกกกกกกกกกก

อยากให้อาจารย์เขียนต่อไปเรื่อยๆ
เดือนละ 2-3 ครั้งก็ยังดีค่ะ

ขอบคุณสำหรับวิทยาทานค่ะ
Pink