วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

[1745] วิธีพื้นฐานในการฝึกฟังภ.อังกฤษให้รู้เรื่อง

สวัสดีครับ
ผมเคยพูดเรื่องการฝึกฟังภาษาอังกฤษมาหลายครั้งแล้ว วันนี้ขอนำเรื่องที่เคยพูดมาไว้ในที่เดียวกันนะครับ

1.ฝึกฟังทุกวัน โดยตั้งจำนวนนาทีขั้นต่ำที่ต้องฟังทุกวัน และต้องพยายามฟังให้ได้ทุกวันจริง ๆ ด้วย

2.ฟังอย่างใจเย็น แม้ไม่รู้เรื่องเลย หรือรู้เรื่องน้อยมาก เราไม่ได้ฟังเพื่อให้รู้เรื่องเท่านั้น แต่ฟังให้คุ้นกับสำเนียง และการออกเสียงด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพูดของเรา เหมือนเด็กที่ฝึกพูดนั่นแหละครับ แกเลียนแบบสำเนียง และการออกเสียงของผู้ใหญ่ โดยยังไม่รู้ว่าผู้ใหญ่พูดอะไร ถ้าเด็กคนใดจะเกี่ยงว่าหนูจะฝึกฟังและฝึกพูดก็ต่อเมื่อหนูฟังรู้เรื่องเท่านั้น ไม่นานนักเด็กคนนั้นก็จะพบชะตากรรม คือ พูดไม่ได้และฟังไม่รู้เรื่องเพราะความดื้อรั้นของแก เราฝึกฟังภาษาอังกฤษก็ต้องไม่เลียนแบบเด็กคนนั้น มิฉะนั้นก็จะพบชะตากรรมในการฟังและพูดภาษาอังกฤษเช่นเดียวกัน

3.ไม่ฝึกฟังเรื่องที่ยากเกินไป หรือเรื่องที่เราเกลียดมาก ๆ เพราะสมองจะรับไม่ไหวและใจก็ไม่ยอมรับ พยายามหาเรื่องที่พอฟัดพอเหวี่ยงฟังไหว หรือมีความชอบฟังเกินครึ่งใจ

4.อ่านก่อนฟัง: บางครั้ง การอ่านให้เข้าใจ ทั้งศัพท์ และเนื้อหาโดยรวมของเรื่องที่ฟัง ก่อนลงมือฟัง ก็มีประโยชน์ไม่น้อย หรือจะอ่านหลังฟังก็ได้

5.ความสงัดและสมาธิ: สำหรับคนที่คล่องแล้ว เขาคงฟังที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องมีสมาธิมากก็ฟังรู้เรื่อง แต่สำหรับเราผู้ฝึกฟังยังไม่คล่อง การได้นั่งฝึกฟังในที่เงียบ ๆ และฟังด้วยใจที่เงียบ ๆ คือมีสมาธิ จะช่วยได้มากทีเดียว บางทีการฝึกฟังด้วยสมาธิในที่เงียบ ๆ เพียง 15 นาทีอาจจะได้ผลดีกว่าฝึกฟังนาน 1 ชั่วโมงในที่อึกทึกด้วยใจที่วอกแวก การปลอดเสียงข้างนอก และปลอดความฟุ้งซ่านข้างในจึงเป็นสิ่งจำเป็น

6.หูฟังที่ดีก็มีประโยชน์: นี่เป็นประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ คือ หูฟังคุณภาพดีจะช่วยให้เราจับสำเนียงภาษาอังกฤษที่ฟังได้มากกว่าเดิมเยอะทีเดียว ลักษณะของหูฟังที่ดีคือ มีฝาครอบใบหูมิดทั้งซ้ายขวา ไม่ใช่เสียบเข้าไปในรูหู ซึ่งนอกจากกันเสียงรบกวนภายนอกไม่ได้เต็มที่แล้ว เมื่อฟังไปนาน ๆ ยังทำให้หูเหนื่อยเกินไปและไม่อยากทำงาน ท่านอาจจะต้องยอมลงทุนซื้อหูฟังลักษณะนี้ที่คุณภาพดี ๆ ที่ฟังแล้วรู้สึกเสียงนุ่ม ชัด มันอาจจะแพงสักนิด แต่ก็น่าลงทุน เพราะช่วยให้เราได้ฝึกฟังเสียงที่ชัด และฝึกฟังได้นานไม่ทรมานหู

อันที่จริง ก็มีมากกว่านี้อีกหลายข้อ แต่ผมขอพูดแค่นี้แล้วกันครับ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่บางท่านอาจจะไม่ได้นึกถึง

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

8 ความคิดเห็น:

nubett กล่าวว่า...

ผมเพิ่งได้ประสบการณ์ใหม่ครับคุณพิพัฒน์ ผมก็เริ่มฝึกฟังอย่างที่คุณพิพัฒน์ว่า คือฝึกฟังเรื่องที่ง่ายและชอบ คือใช้ตำราของเด็กตั้งแต่เกรด 1 ถึง เกรด 6 ของฝรั่งนะครับ แล้วก็อัดใส่เอ็มพี 3 เอาไปเปิดฟังตอนเดินออกกำลังกายวันละชั่วโมงกว่า ดีมากเลยครับ ทำให้ไม่เหนื่อย และก็มีสมาธิในการฟังมาก ผมเพิ่งเริ่มฝึกฟังเกรด 1 กะว่าจะฝึกฟังจนถึงเกรด 6 ครับ ท่านใดอยากจะเริ่มฝึกฟัง ลองวิธีนี้ก็ดีนะครับ

pipat - blogger กล่าวว่า...

คุณ nubett ครับดีมากเลยครับที่เขียนมาแบ่งปันประสบการณ์ ขอบคุณมากครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สวัสดีค่ะ แอบอ่านมาพอสมควรในบางหัวข้อ เพิ่งมีโอกาสคอมเม้น ^^ ขอบคุณสำหรับความรู้และประสบการณ์ที่มาแชร์ค่ะ มีประโยชน์มากๆ หนูเพิ่งอายุ 18 เอง ไม่รุ้จะ expert in Englishg เมื่อไหร่ แต่รุ้ว่าชอบภาษาอังกฤษมากๆ อยากจะศึกษาต่อไปเรื่อยๆ อยากทราบว่าคุณพิพัฒน์ ศึกษามากี่ปีแล้วค่ะ อยากคุยกับคุณสามารถคุยได้ทางนี้ทางเดียวหรอค่ะ มี facebook หรือว่า อีเมลไหมค่ะ
** มีเรื่องอยากถามอีกหน่อยค่ะ คุณคือผู้เขียนหนังสือ ภาษาอังกฤษร้ายสาระ หรือเปล่า ค่ะ

สุดท้ายนี้
จะติดตามบล็อคของคุณต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจใทสิ่งดีดีต่อไป

from IF

pipat - blogger กล่าวว่า...

IF:
สวัสดีค่ะ แอบอ่านมาพอสมควรในบางหัวข้อ เพิ่งมีโอกาสคอมเม้น ^^ ขอบคุณสำหรับความรู้และประสบการณ์ที่มาแชร์ค่ะ มีประโยชน์มากๆ หนูเพิ่งอายุ 18 เอง ไม่รุ้จะ expert in Englishg เมื่อไหร่ แต่รุ้ว่าชอบภาษาอังกฤษมากๆ อยากจะศึกษาต่อไปเรื่อยๆ อยากทราบว่าคุณพิพัฒน์ ศึกษามากี่ปีแล้วค่ะ อยากคุยกับคุณสามารถคุยได้ทางนี้ทางเดียวหรอค่ะ มี facebook หรือว่า อีเมลไหมค่ะ
** มีเรื่องอยากถามอีกหน่อยค่ะ คุณคือผู้เขียนหนังสือ ภาษาอังกฤษร้ายสาระ หรือเปล่า ค่ะ

สุดท้ายนี้
จะติดตามบล็อคของคุณต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจใทสิ่งดีดีต่อไป

พิพัฒน์ - blogger:
คุณ IF ครับ
1.ผมศึกษาในมหาวิยาลัยในประเเทศไทย เหมืนคนไทยทั่วไปครับ
2.ผมมี facebook แต่ไม่ได้เข้าไปใช้
http://www.facebook.com/people/Pipat-Seetoon/100001647628970

3.อีเมลคือ GemTriple@gmail.com
4.ผมไม่ใช่คนเขียน ภาษาอังกฤษร้ายสาระ ครับ

ขอบคุณครับที่ให้กำลังใจ

Nikorn กล่าวว่า...

ขอขอบคุณ คุณพี่พิพัฒน์(Pipat) มากนะคับ ที่ได้นำสิ่งดีๆ มา shared ให้ได้รับรู้กัน... ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบภาษาอังกฤษ และตอนนี้ก็เรียนอยุ่ปี 3 ละคับ เอกภาษาอังกฤษ สิ่งที่คุณพี่ ได้แบ่งปันมานี้ เป็นประโยชน์ต่อผมมากมายคับ ซึ่งผมก็ติดตามมานานแล้วละคับ เวปนี้ แต่ยังไม่ได้มาเม้น สว่นมากจะไปเม้นที่ ห้องพูดคุยของบล็อค อะนะคับ ซึ่งผมก็โพสท์ไว้ละ วันนี้เลยถือโอกาสมาเม้น เป็นภาษาไทยซะหน่อย **ก็ไม่มีไรมากคับ ผมแค่อยากจะ improved ภาษาอังกฤษของผมให้ดีขึ้น เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่มีปัญหา
***สุดท้ายผมก็อยากให้คุณได้ช่วย แนะนำหรือ บอกข้อแก้ไข ในประโยคที่โพสไว้ด้วยนะคับ จะได้นำไปแก้ไขต่อไปคับ** ขอบคุณมากมายคับ และจะเป็นกำลังใจให้คุณพี่ต่อไปคับ ....

arkarn กล่าวว่า...

คุณ nubett ครับ
ขอสอบถาม ตำราของเด็กตั้งแต่เกรด 1 ถึง เกรด 6 ของฝรั่ง ไม่ทราบว่าค้นหาได้จากที่ไหน หรือสั่งซื้อได้ที่ไหนครับ
ขอบคุณครับ

ขอขอบคุณ อ.พิพัฒน์
สำหรับข้อมูลและแนวทางในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ครับ

pipat - blogger กล่าวว่า...

เรียนคุณ nubett
ค้นได้จากหลายเว็บครับ เช่น
www.4shared.com
www.englishtips.org
http://english-phonics.blogspot.com
ฯลฯ

หาซื้อได้จากร้านหนังสือใหญ่ ๆ ทั่วไป เช่น ศูนย์หนังสือจุฬาฯ เป็นต้น

TT^TT กล่าวว่า...

TT ทุกวันนี้ยังฟังไม่รุ็้เรื่องเรยค่ะ แต่จะพยายามต่อไปคะ ขอบคุณค่ะ
แต่อยากถามว่า ฟังไปเรื่อยๆจะรู้เรื่องจริงๆเหรอคะเพราะศัพท์บางคำไม่รู้จักเรยคะ