วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2551

[824] ดาวน์โหลด “ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร” 2 เล่ม

สวัสดีครับ
ผมไปพบเว็บนี้โดยบังเอิญ
http://www.nayoktech.ac.th/~patima/
เป็นตำราภาษาไทยที่สอนเรื่อง “ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร” เล่ม 1 – 2 โดยอาจารย์ Patima Mehesaun วิทยาลัยเทคนิคนครนายก

ผมดูแล้วเป็นเนื้อหาง่าย ๆ สำหรับผู้ศึกษาระดับพื้นฐาน แถมยังมีรูปประกอบน่ารัก ๆ อ่านแล้วไม่น่าเบื่อ เมื่อศึกษาจบแล้ว ท่านจะสามารถทำได้เหมือนชื่อหนังสือ คือ สามารถพูดภาษาอังกฤษเพื่อสื่อสารได้อย่างที่ต้องการในสถานการณ์พื้นฐานต่าง ๆ ที่พบบ่อย

ถ้าท่านต้องการดาวน์หนังสือ “ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร” ทั้ง 2 เล่มเพื่อเอาไว้ศึกษาเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องต่อเน็ต เชิญดาวน์โหลดได้ที่นี่ครับ
ดาวน์โหลด “ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร” เล่ม 1
ดาวน์โหลด “ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร” เล่ม 2
เล่ม 2 นี้มีแบบฝึกหัดให้ทำฝึกความชำนาญ และมีเฉลยให้ตรวจ ทำให้สุดความสามารถก่อนแล้วจึงค่อยไปดูเฉลยนะครับ ถ้าพลิกไปดูเฉลยก่อนจะไม่ได้รับประโยชน์

ขอขอบคุณ อาจารย์ Patima Mehesaun เป็นอย่างสูงครับ

พิพัฒน์
e4thai@live.com

วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2551

[823]ข้อสอบ error identification 1,500 ข้อพร้อมเฉลย


สวัสดีครับ
ในบรรดาข้อสอบแกรมมาร์ทั้งหลาย ผมชอบประเภท error identification มากที่สุด เพราะมันวัดความสามารถว่าเราแม่นแค่ไหนในหลักเกณฑ์ทางภาษา

แต่ถ้ามองอีกแง่หนึ่ง ข้อสอบประเภทนี้ไม่ได้วัดแกรมมาร์เท่านั้น แต่วัด writing ด้วย โจทย์ที่ให้มานั้นมักจะคล้าย ๆ กันคือ บอกจุดมา 4 จุด และให้เราชี้ว่า จุดไหนผิด หรือบางทีให้บอกด้วยว่าต้องแก้อย่างไรถึงจะถูก หรือบางทียากไปกว่านี้คือไม่บอกจุดอะไรเลย แต่ให้บอกว่าประโยคที่ให้มานี้ตรงไหนผิด และผิดอย่างไร ผมจึงถือว่าข้อสอบประเภทนี้เป็นข้อสอบประเภท writing มากกว่าแกรมมาร์ ถ้าฝึกทำบ่อย ๆ จะช่วยเพิ่มพูนทักษะด้านการเขียน หรือ writing skill
และท่านก็ต้องไม่ลืมว่า การเขียนและการพูดเป็นทักษะพี่น้องกัน คือเป็นทักษะที่ต้องแสดงออกเหมือนกัน คือเริ่มจากสมองเหมือนกัน ในขณะที่ทักษะหนึ่งไปออกทางมือ แต่อีกทักษะหนึ่งกลับไปออกทางปาก อย่างไรก็ตาม พี่น้องก็ต้องช่วยเหลือกันเป็นธรรมดา การเขียนจึงเป็นการฝึกพูดด้วยมือ และการพูดก็คือการฝึกเขียนด้วยปาก

ที่เว็บนี้  → http://www.englishdaily626.com/error_identification.php
มีข้อสอบประเภท Error identification ให้ทำ 151 ชุด ๆ ละ 10 ข้อ (ณ วันนี้ 9 ธค  60) รวมเป็นข้อสอบทั้งหมด 1,510 ข้อ มีเฉลยให้ด้วยครับ

พิพัฒน์

[822] ศึกษาคำศัพท์ที่มักใช้ร่วมกัน ( Collocations)


Oxford Collocations Dictionary for Students of English
http://www.ozdic.com/ 





สวัสดีครับ
ผมได้หนังสือภาษาอังกฤษมาเล่มหนึ่ง ชื่อ “Collocations Dictionary for Students of English” เป็นหนังสือของสำนักพิมพ์ Oxford ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมอยากจะคุยกับท่านในวันนี้

collocation คืออะไร? ผมได้คำอธิบายจาก ที่นี่ ซึ่งบอกว่า “Collocation เป็นการเชื่อมคำ การจัดวางคำ หรือกลุ่มคำ (รวมทั้ง idioms) ที่จำเป็นต้องใช้ร่วมกันในประโยคต่างๆ ที่เจ้าของภาษานิยมใช้ และเห็นว่าถูกต้องตามมาตรฐาน ซึ่งคำที่ใช้ร่วมกันนั้น จะใช้คำอื่นแทนหรือสลับตำแหน่งกันไม่ได้ ถึงแม้ว่าคำที่จะใช้แทนจะมีความหมายเหมือนกันหรือใกล้เคียงกันก็ตาม” ถ้าอ่านแล้วยังงงๆ เชิญ คลิกที่นี่ เพื่ออ่านคำอธิบายเพิ่มเติมครับ

และ Collocations Dictionary ที่ผมได้รับนี้ได้รวบรวม Collocations ไว้อย่างสมบูรณ์มาก

และก็โชคดีอีกครับ ผมไปได้ไฟล์หนังสือเล่มนี้ เมื่อใช้ดูแล้วจึงพบว่า ใช้ง่ายกว่าหนังสือเล่มเสียอีก ตอนนี้ขอให้ท่านดาวน์โหลดไฟล์หนังสือเล่มนี้ซะก่อน เมื่อดาวน์โหลดเสร็จและเปิดไฟล์แล้ว จึงค่อยอ่านคำอธิบายที่ผมจะเขียนต่อไป
OXFORD Collocations Dictionary  
เมื่อเข้าไปแล้ว ท่านอาจเจอตัวอักษรลักษณะ code เป็นแถว ๆ ทำให้อ่านไม่รู้เรื่อง
ให้ท่านคลิก ที่คำว่า Index ที่คอลัมน์ซ้ายมือ ก็จะอ่านรู้เรื่องครับ และในคอลัมน์ซ้ายมือ จะเรียงคำศัพท์จากบนลงล่าง จาก A ถึง Z

และถ้าได้ใช้ร่วมกับตำราอีก 2 เล่มข้างล่างนี้ก็จะ perfect เลยครับ คือ
Collocations in use และ Dictionary of American Idioms and Phrasal Verbs

ถ้ามีคำถามว่า ทำอย่างไรเราถึงจะจำได้แม่น ๆ ว่า noun ตัวนี้ จะต้องใช้ร่วมกับ adjective หรือ verb หรือ preposition ตัวนั้น ๆ; หรือ verb ตัวนี้ จะต้องใช้ร่วมกับ adverb หรือ noun ตัวนั้น ๆ อะไรทำนองนี้ มันเยอะแยะไปหมด และไม่ใช่ภาษาของเราซะด้วย จะมีทางไหนที่จะทำให้จำได้ง่าย ๆ เพื่อจะได้ใช้ไม่ผิด

คำถามนี้ทำให้ผมนึกไปถึงสมัยเรียนชั้นมัธยม มีเพื่อนหลายคนบอกว่า เขาไม่ชอบเรียนภาษาอังกฤษเพราะไม่ชอบจำ ชอบเรียนประเภทคณิตศาสตร์เพราะเป็นวิชาที่ใช้ความคิดมากกว่า ฟังแล้วรู้สึกดูหมิ่นวิชาภาษาอังกฤษจังเลย กลายเป็นว่าคนที่ชอบเรียนภาษาอังกฤษเป็นคนที่เอาแต่จำ ใช้ความคิดไม่เป็น หรือไม่ชอบใช้ความคิด หรืออย่างน้อยก็แปลว่า คนที่ชอบเรียนคณิตศาสตร์เป็นคนที่ชอบใช้ความคิดมากกว่าคนที่ชอบเรียนภาษา

เรื่องคำในภาษาอังกฤษที่มักไปด้วยกันนี้ (ผมเพิ่งมารู้ตอนโตว่า ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า collocation) ผมไม่เคยท่องจำเลยครับ แต่ก็จำได้มากพอสมควร ที่จำได้ก็เพราะว่า ผมอ่านเยอะ และเมื่ออ่านไปเรื่อย ๆ (และสังเกต) ก็จะค่อย ๆ จำได้ไปเองทีละคำสองคำว่า คำอะไรมักจะใช้ร่วมกับคำอะไร หรือบางคนอาจจะใช้วิธีฟังบ่อย ๆ ก็จะค่อย ๆ จำได้เอง เพราะฉะนั้น ถ้าเราอ่านมาก ๆ - อ่านบ่อย ๆ หรือฟังมากๆ - ฟังบ่อยๆ (+สังเกต)มันจะค่อย ๆ ซึมเข้าไปเองโดยไม่ต้องยัดเยียดสมองให้ต้องจำ และเมื่อถึงเวลาที่เราต้องพูดหรือเขียน เราก็จะพูดหรือเขียนไปตามที่เราเคยอ่านหรือเคยฟังมา การอ่านหรือการฟังมากๆ บ่อย ๆ จึงมีประโยชน์อเนกอนันต์ด้วยประการฉะนี้ ใครที่อยากจะพูดเก่ง-เขียนเก่ง แต่ว่าฟังน้อย-อ่านน้อย ก็มักจะไม่สมหวังเป็นธรรมดา เพราะผลดีต้องมาจากเหตุดี

หนู ๆ ที่กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมลองพิจารณาคำพูดขอองลุงไว้บ้างก็ดีนะ ไม่ว่าหนูจะชอบวิชาภาษาอังกฤษหรือไม่ก็ตาม แต่โลกในปัจจุบันหรือโลกในอนาคต ใคร ๆ ก็หลีกเลี่ยงภาษาอังกฤษไม่พ้น

ไฟล์หนังสือ Collocations Dictionary for Students of English ที่ผมให้ท่านดาวน์โหลดข้างต้น จึงไม่ได้มีไว้เพื่อท่อง และมีไว้เพื่อเป็นที่ปรีกษา เพื่อเช็คว่ากลุ่มคำที่เรามักจะใช้ร่วมกันเมื่อเราพูดหรือเขียน มันเป็นภาษาปกติหรือภาษาตามธรรมชาติที่ฝรั่งเขาใช้กันหรือเปล่า และเช่นกันครับ ถ้าเราปรึกษา Collocations Dictionary บ่อย ๆ และสังเกตบ่อย ๆ เราก็มักจะจำได้ในไม่ช้า ส่วนอีก 2 เล่ม ก็อยู่ในฐานะตำราและแบบฝึกหัดที่เราสามารถใช้เป็นครูส่วนตัวได้อย่างดี

อนึ่ง ถ้าท่านรู้สึกว่า หนังสือ 3 เล่มที่ให้ท่านดาวน์โหลดข้างต้นยากเกินไป ก็ลองอ่านลิงค์เก่าที่ผมเคยเขียนไว้เพื่อปูพื้นไว้ก่อนก็ได้ครับ

ที่นี่ครับ
[127] vocabulary-collocation-phrasal verb-idiom
[422] ประสบการณ์ในการเขียนภาษาอังกฤษ

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2551

[820] ดาวน์โหลดไฟล์เรียนบทที่ 1(จริงๆ)ในภาษาอังกฤษ

สวัสดีครับ
ผมไปได้ไฟล์หนึ่งมาโดยบังเอิญ เป็นไฟล์ excel ของ Yindii.com และ chrisdelivery.com เนื้อหาประกอบด้วย

เนื้อหาด้านซ้ายมือ
1. อธิบายคำประเภทต่าง ๆ ในภาษาอังกฤษ
2. Tense
3. เนื้อหาจากรายการ Chrisdelivery

เนื้อหาด้านขวามือ
-ประโยคตัวอย่างภาษาอังกฤษที่มีคำแปลภาษาไทยกำกับ
ท่านสามารถดาวน์โหลดไฟล์ที่นี่ครับ คลิก

เมื่อดาวน์โหลด. กระจายไฟล์. และคลิกเพื่อเปิดไฟล์ Excel แล้ว ให้สังเกตว่าเมื่อเอาเมาส์วางที่คำใดและกลายเป็นรูปมือ แสดงว่านี่คือลิงค์ – ถ้าคลิกที่นี่ก็จะพาไปยังหน้าที่มีคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตอนจะย้อนกลับก็ให้คลิก “กลับไปยังหน้าเดิม” ซึ่งอยู่ที่บรรทัดบนสุดของคอลัมน์แรก

การเข้าใจเรื่อง 1.ประเภทของคำ และ 2. tense ต่าง ๆ ที่ใช้ในภาษาอังกฤษ จะเป็นบันไดขั้นแรกที่ช่วยให้เราก้าวไปสู่ความเข้าใจในเรื่องอื่น ๆ ต่อไป ผมขอแนะนำท่านที่ยังไม่ค่อยเข้าใจ 2 เรื่องนี้ ยอมเสียเวลาทำความเข้าใจกับมันให้ดีหน่อย เพราะมันเป็น A, B, C…. หรือ ก, ข, ค..... ของการเรียนภาษาอังกฤษเลยแหละครับ

ไฟล์ excel ชุดนี้อ่านเข้าใจง่าย ซึ่งก็ต้องขอบคุณ Yindii.com และคุณ Chris ไว้ ณ ที่นี้ด้วย

อันที่จริง มีอีกเว็บหนึ่งซึ่งผมเคยแนะนำไว้แล้ว มีเนื้อหาทำนองเดียวกัน ท่านจะเข้าไปอ่านด้วยก็ดีครับ คลิกที่นี่ [11] เว็บสำหรับท่านที่ต้องการเรียนตั้งแต่ บทที่ 1.

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

[819]ดาวน์โหลดไฟล์ Encyclopedia ฟรี ที่น่าใช้มาก ๆ

เพิ่ม 12 พย 52:
Britannica 2010 เป็น encyclopedia ฉบับปี 2010 ที่มีเนื้อหาสมบูรณ์มากครับ

สวัสดีครับ
ตัวเลขที่มีคนชอบอ้างบ่อย ๆ ว่าคนไทยอ่านหนังสือปีละไม่ถึง 10 บรรทัดนั้น ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ก็ตาม แต่เหมารวม ๆ ก็ต้องพูดว่า คนไทยเราอ่านหนังสือน้อย... น้อยกว่าคนชาติอื่นอีกหลายชาติ

ผมไม่อยากจะด่วนสรุปว่านี่เป็นเพราะคนไทยไม่มีนิสัยรักการอ่าน แต่สาเหตุส่วนหนึ่งน่าจะเพราะว่า เมื่อมองภาพรวมทั้งประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัด เรามีแหล่งหนังสือดี ๆให้ประชาชน (ผมหมายถึงห้องสมุด) น้อยเกินไป น้อยทั้งปริมาณและคุณภาพ คนไทยส่วนใหญ่ก็เลยอ่านแค่หนังสือพิมพ์รายวันเท่านั้น

แต่เมื่อเราเข้าสู่ยุคอินเตอร์เน็ต ผมว่าตัวเลข 10 บรรทัดที่อ้างกันข้างบนน่าจะเปลี่ยนไป คนไทยโดยเฉลี่ยต้องอ่านหนังสือมากขึ้นแน่นอน

เมื่อเราอยากอ่านอะไรสักเรื่องหนึ่ง เราก็ไปที่ http://www.google.com/ พิมพ์คำที่ต้องการค้นหาลงไปให้ Mr. Goo ช่วยหาให้ แต่เรื่องที่เราต้องยอมรับก็คือ ความรู้ที่มีให้เราอ่านในอินเตอร์เน็ตนี้มีการโฆษณาสินค้าแทรกอยู่มากมาย บางครั้งต้องหากันนานทีเดียวกว่าจะพบสิ่งที่ต้องการจะอ่าน

วิธีหนึ่งที่จะแก้ปัญหานี้ก็คือ เราตรงไปยังเว็บซึ่งเป็นแหล่งความรู้โดยตรง ก็คือเว็บพวกสารานุกรม หรือ encyclopedia นั่นเอง ผมเคยรวมรวมไว้แล้ว ทั้งสารานุกรมภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
[212] อ่านฟรี... สารานุกรมภาษาไทย หลายเว็บ
[244] อ่านฟรี... สารานุกรมภาษาอังกฤษ หลายเว็บ

เมื่อพูดถึงสารานุกรม ผมว่าคนไทยหลายคนอาจจะมีภาพในแง่ลบเกี่ยวกับหนังสือประเภทนี้ คือเห็นว่าเป็นหนังสือที่หนัก อ่านแล้วไม่สนุก ชวนปวดหัวและน่าเบื่อ สมัยก่อนตอนที่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยซึ่งยังไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้ มีสารานุกรมหรือ encyclopedia 2 ยี่ห้อซึ่งผมเข้าไปเปิดพลิกอ่านดูเป็นครั้งคราว คือ Britannica (ค่ายประเทศอังกฤษ) และ Americana (ค่ายประเทศสหรัฐอเมริกา) ซึ่งเป็นแหล่งขุมความรู้ที่ยิ่งใหญ่และอ่านได้อย่างน่าเบื่อน่านับถือยิ่งนัก ตอนนั้นผมมีความคิดว่า คนไทยเราน่าจะปลูกฝังให้เด็กได้มีนิสัยที่จะหาความรู้จากสารานุกรม หรือ encyclopedia ไว้บ้าง แต่พอเห็นสไตล์หนังสือ Britannica และ Americana ก็รู้สึกว่าไม่ไหวแน่ แค่เห็นหน้าปกยังไม่ทันเปิดเข้าไปข้างในก็น่ากลัวซะแล้ว และพอเปิดอ่านจริง ๆ ก็อยากจะปิดอย่างรวดเร็ว คือไม่ว่าจะเป็นการออกแบบหนังสือ หรือสไตล์การเขียนเรื่องราวในสารานุกรมมันน่าเบื่อไปหมดทุกย่าง

ต่อมาในระยะหลัง ๆ ผมพบว่ามีการจัดทำสารานุกรมขายในรูป CD ซึ่งที่ห้างพันทิพย์ก็มี CD encyclopedia ปลอมวางขายเยอะแยะ ซึ่งน่าใช้กว่าสารานุกรมเล่ม ๆ สมัยก่อนเยอะทีเดียว คือ บทความก็เขียนได้น่าอ่านมากขึ้น มีภาพและวีดิโอให้ดู การค้นหาก็ง่ายขึ้น และสามารถคลิกโยงเรื่องนี้ไปเรื่องนั้น – เรื่องโน้นได้ง่ายขึ้น ยิ่งการค้นหาเรื่องยิ่งทำได้ง่ายกว่าเดิมหลายเท่า และที่พิเศษเพิ่มขึ้นมาก็คือ มีดิกชันนารีแถมเข้ามา เมื่ออ่านล้วไม่รู้ศัพท์คำใดก็คลิกหาความหมายได้ทันที CD encyclopedia พวกนี้มีหลายยี่ห้อและ update แทบทุกปี น่าอ่านกว่า encyclopedia เล่ม ๆ สมัยเดิมเยอะทีเดียว

จากเดิมที่คนจะซื้อ encyclopedia สักชุดต้องใช้เงินหลายหมื่นบาท กลายเป็นเสียเงินไม่กี่ร้อยบาทซื้อ encyclopedia เป็น CD ไปเปิดดูจากเครื่องคอมพิวเตอร์

และต่อมาเมื่อมีอินเตอร์เน็ตใช้ ก็มี encyclopedia ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้อ่านฟรี ๆ ตามที่ผมว่าไว้ข้างบน ตอนนี้แม้แต่ CD encyclopedia ก็ไม่ต้องซื้อ เพราะเปิดอ่านจากเน็ตได้เลย

อย่างไรก็ตาม การจะฝึกให้เด็กไทยอ่าน encyclopedia นั้น น่าจะต้องเริ่มที่ฉบับง่าย ๆ ก่อน เพราะภาษาอังกฤษของเด็กไทยหรือคนไทยไม่ได้แข็งแรงมากมายเท่าเจ้าของภาษา

วันนี้ผมหามาให้ท่านได้ลองชิมอ่านสัก 2 เว็บก่อน ข้างล่างนี้

[1] http://www.enchantedlearning.com/Home.html
http://www.enchantedlearning.com/siteindex.shtml

[2] http://encyclopedia.kids.net.au/

ทั้ง 2 ชุดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุดที่ 1 เป็นชุดที่สมควรแนะนำให้เด็กคุ้นเคยเป็ยอย่างยิ่ง เพราะมีการจัดทำรูปเล่ม เนื้อหา และกิจกรรมประกอบได้อย่างน่าสนใจมาก มันคล้าย ๆ เป็น dictionary ภาพ และ encyclopedia ไปพร้อม ๆ กัน

และเมื่อไม่กี่วันมานี้ ผมโชคดีไปได้ไฟล์สารานุกรม e-Encyclopedia มา 1 ไฟล์ เป็นไฟล์ pdf ขนาดประมาณ 57 MB ท่านสามารถดาวน์โหลดได้เลยครับ
e_encyclopedia.zip
อาจจะต้องใช้เวลาดาวน์โหลดนานสักนิดนะครับ

สาเหตุที่ผมแนะนำให้ท่านดาวน์โหลด encyclopedia ชุดนี้ไปใช้ก็เพราะว่า
[1] เขารวบรวมความรู้ไว้มากมาย เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงคนบางคนที่ผมรู้จัก ไม่ว่าเราจะพูดเรื่องอะไร เขามักจะมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเป็นความรู้มาคุยร่วมด้วยเสมอ หนังสือพวก encyclopedia นี่แหละครับ ที่จะช่วยให้เรามีเสน่ห์สามารถร่วมคุยกับใคร ๆ ได้ทุกเรื่อง เพราะได้ตุนความรู้หลากหลายจาก encyclopedia ไว้

[2] เขาใช้ศัพท์และโครงสร้างภาษาที่ง่าย ๆ ในการเขียนบทความ แต่ละเรื่องมีขนาดสั้น ๆ (อ่านจบก่อนเบื่อ) พอที่จะทำให้เรามีความรู้พื้นฐานในเรื่องนั้น ๆ และสามารถเก็บเอาไปสนทนากับคนอื่น ๆ ได้ และทุกเรื่องมีภาพประกอบที่ช่วยทำให้เราเข้าใจเนื้อเรื่องได้ง่ายกว่าอ่านตัวหนังสืออย่างดียว ถ้าจะถือเอาการอ่าน encyclopedia เป็นการฝึก reading skill ก็เป็นการฝึกที่คุ้มค่ามาก คือได้ทั้งศัพท์ สำนวนภาษา และความรู้พร้อมกันไปในคราวเดียว

[3] ไฟล์ pdf encyclopedia ชุดนี้มี 450 หน้า เมื่อท่านเปิดไฟล์และดาวน์โหลดเรียบร้อยแล้ว ให้ท่านพิมพ์เลข 4 หรือเลข 5 (ซึ่งเป็นหน้าสารบัญ) ลงในช่องเลขหน้าด้านบนของหน้า ซึ่งเขาจะแบ่งเนื้อหาออกเป็น 9 หมวด ในแต่ละเรื่องของแต่ละหมวดจะมีตัวเลขหน้าพิมพ์ไว้ หากท่านต้องการอ่านเรื่องใดก็พิมพ์เลขหน้านั้นลงในช่องเลขหน้าที่ด้านบนของหน้า และกด Enter ท่านก็จะไปยังบทความที่ต้องการอ่านทันที ถ้าต้องการขยายฟอนค์ให้ตัวโตขึ้นก็เพิ่มให้มากกว่า 100% ท่านสามารถเปิดไฟล์นี้ดูได้โดยไม่ต้องต่อเน็ต

[4] ในกรณีที่ท่านต่อเน็ต ท่านสามารถอ่านเนื้อหาเพิ่มเติมจากลิงค์ที่ระบุไว้ในวงกลมสีเทาในบทความ โดยให้ท่านไปที่เว็บนี้
http://www.dke-encyc.com/
และพิมพ์คำศัพท์ในวงกลมสีเทาในบทความ ในช่อง Enter your next keyword here ลงไปม กด Enter, ลิงค์นี้ก็จะนำท่านไปยังบทความที่เขาคัดเลือกไว้โดยเฉพาะสำหรับประกอบบทความที่ท่านอ่านในไฟล์ pdf นี้ ทำให้การค้นคว้าของท่านสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

[5] เมื่อจะกลับไปยังสารบัญก็ให้พิมพ์เลข 4 หรือเลข 5 อีกครั้ง ตามที่อธิบายในข้อ 3 ข้างบน ผมอยากแนะนำให้ท่านอ่านสารบัญในหน้า 4 – 5 ให้ครบทั้ง 9 หมวด เพื่อให้ท่านจับได้ว่าในเนื้อหาหลากหลายนี้ ท่านชอบเรื่องอะไร อาจจะจดเลขหน้าไว้เลยก็ได้ครับ เมื่อจะอ่านก็เพียงพิมพ์เลขหน้านั้น ก็ใช้ได้แล้ว สะดวกมากครับ

[6] สำหรับท่านที่อ่านแล้วรู้สึกว่ามีศัพท์ที่ไม่รู้เยอะ ทำให้อ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง ผมขอแนะนำให้ท่านลงโปรแกรมดิกชันนารี ข้างล่างนี้
- ดิกชันนารี อังกฤษ – ไทย คือ-My Buddy Dictionary คลิกดูรายละเอียด ที่นี่
- ดิกชันนารี อังกฤษ – อังกฤษ คือ-WordWeb Dictionary คลิกดูรายละเอียด ที่นี่

และท่านก็จะไม่มีปัญหาเรื่องติดศัพท์อีกต่อไป เพราะเพียงคลิกที่คำศัพท์ในบทความ ก็จะมีคำแปลปรากฎทันที (อ่านรายละเอียดการใช้ดิก ข้างต้น)

ก็เป็นอันว่า วันนี้ผมได้แนะนำ encyclopedia ฉบับภาษาอังกฤษที่ใช้ง่าย น่าอ่าน ที่ท่านสามารถดาวน์โหลดเอาไปศึกษาได้โดยไม่ต้องต่อเน็ต ท่านจะศึกษาเองก็ได้ หรือถ้าท่านสามารถปลูกฝังการรู้จักใช้ encyclopedia ให้แก่บุตรหลานของท่าน ก็จะเป็นประโยชน์ต่อเขาอย่างมากในอนาคต

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2551

[818] หนังสือพูดได้สำหรับเด็ก สนุกมาก ๆ

สวัสดีครับ
ลิงค์ข้างล่างนี้มีหนังสือ online มากมายที่ผู้ใหญ่ฝรั่งเขาทำให้เด็กฝรั่งอ่าน สำหรับเด็กฝรั่งคงอ่านได้รู้เรื่องและสนุก แต่สำหรับเด็กไทย(หรือผู้ใกญ่ไทยบางท่าน) อาจจะอ่านไม่สนุกเพราะภาษาอาจจะไม่แข็งแรง

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ผมขอเชิญชวนให้ท่านเข้าไปชมเว็บข้างล่างนี้สัก 1 รอบ อาจจะเป็นประโยชน์ต่อตัวท่านเอง หรือลูกหลาน – ลูกศิษย์ของท่าน เขาทำเว็บให้อ่านและชมได้เพลิน ๆ ใช้ตัวหนังสือ เสียง ภาพเคลื่อนไหว เนื้อเรื่อง และกราฟิก ที่ทำให้การศึกษาภาษาอังกฤษไม่น่าเบื่อเลย แต่สนุกเอามาก ๆ

ถ้าเน็ตท่านช้า อาจจะชมเว็บเหล่านี้ได้ไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร ท่านพิจารณาเอาเองแล้วกันครับว่า ถ้าติดตั้ง high speed Internet ที่บ้านเพื่อศึกษาภาษาอังกฤษจะคุ้มหรือไม่

เชิญครับ.....
Online Talking Stories หนังสือพูดได้
Story สำหรับเด็กอายุ 1 – 3 ขวบ
Story สำหรับเด็กอายุ 4 – 7 ขวบ
Story มีเสียง สำหรับเด็กอายุ 1 – 7 ขวบ
รวม Collections of Stories
แถม: http://www.kidsplanet.org/

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

[817]อีก 1 ขุมทรัพย์แหล่งดาวน์โหลดหนังสือฟรีมหาศาล

*******


สวัสดีครับ
หลังจากที่ได้แนะนำขุมทรัพย์สำหรับดาวน์โหลดหนังสือฟรีไปแล้วเมื่อวันก่อน
ที่นี่:
[281]ดาวน์โหลดหนังสือดี & ฟรี ที่เพิ่งวางตลาด
[808] รวม free eBooks หลายประเภท

วันนี้มีท่านผู้อ่านแนะนำมาอีก 1 ขุมทรัพย์ คือ
http://www.languagesbooks.com/

เมื่ออ่านคำแนะนำหนังสือแต่ละเล่ม ที่บรรทัดสุดท้ายให้คลิก Read more... และหน้าถัดไปให้คลิกที่ Download Rapidshare.com/........

ผมไม่รับผิดชอบนะครับ ถ้าท่านดาวน์โหลดหนังสือที่ชอบใจจนเพลิน และ dard disk เต็มโดยไม่รู้ตัว

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

[816]เรียนอังกฤษผ่านเน็ตฯ ต้องรู้เรื่องคอมฯไว้บ้าง

สวัสดีครับ
ผมเดาเอาเองว่าน่าจะมีบางท่านที่รู้สึกว่าตัวเอง “ใช้คอมฯไม่เป็น” ก็เลยท้อที่จะหาทางเรียนภาษาอังกฤษผ่านเน็ตจากคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก

Blog นี้มีชื่อเป็นภาษาไทยว่า “เรียนภาษาอังกฤษผ่านเน็ต ฟรี” มันคล้าย ๆ กับว่าผมเหมาเอาเลยว่า ท่านต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับ “เน็ต” หรือ “คอมฯ” เป็นพื้นฐานไว้ก่อน ถ้าไม่รู้ก็ไม่สามารถ “เรียนภาษาอังกฤษผ่านเน็ต ฟรี” ได้

ผมไม่อยากให้เป็นอย่างนี้หรอกครับ คือผมอยากให้ทุกคนที่ตั้งใจจะพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษของตนเอง สามารถเรียนภาษาอังกฤษจาก Blog นี้ได้ ไม่ว่าท่านจะมีความรู้เรื่องการใช้คอมพิวเตอร์ หรือการใช้อินเตอร์เน็ตมากหรือน้อยเพียงใดก็ตาม

วันนี้ ผมพยายามหาเว็บที่ให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต อยู่ข้างล่างนี้ครับ หาได้ไม่เยอะนัก แต่ก็น่าจะพอเพียงสำหรับท่านที่รู้สึกว่าตัวเอง “ใช้คอมฯไม่เป็น” โดยผมอยากให้ท่านเรียนด้วยการปฎิบัติจริง คือท่านอาจจะ print เนื้อหาจากเว็บข้างล่างนี้ และอ่านไป – ลองทำไปขณะที่นั่งอยู่หน้าคอมฯ ของท่าน ผมเชื่อว่า ไม่นานนัก ท่านก็จะทำเป็นหรืออย่างน้อยก็รู้ในส่วนที่จำเป็นต้องรู้

ในเว็บข้างล่างนี้ ท่านก็เลือกดูแล้วกันครับว่า เรื่องใดที่ท่านน่าจะรู้ไว้ก่อน หรือทำให้เป็น ก็ศึกษาเรื่องนั้น ๆ – ฝึกหัดเรื่องนั้น ๆ ก่อน ส่วนเรื่องอื่น ๆ ก็ค่อย ๆ ศึกษาหรือฝึกหัดไปตามลำดับ

เว็บที่ควรศึกษาเบื้องต้น
- การใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้น (Microsoft Windows)
- บทที่ 2 การใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
- และศึกษาบทอื่น ๆ เพิ่มเติม คลิกที่นี่
-30 ทิปเล็กน้อย ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม ใน การใช้คอมพิวเตอร์ โดย น้ำแดง

ส่วนความรู้ที่หลากหลายมากขึ้น มีอยู่ข้างล่างนี้

--e-Knowlege ศูนย์รวมเนื้อหา สาระความรู้หลากหลาย สำหรับผู้สนใจทุกท่าน คลิก
--IT Digest เป็นวารสารอิเล็กทรอนิกส์ที่จัดทำขึ้น ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) คลิก
- eBook

- เรื่อง “เมื่อผมต้องสอนคอมพิวเตอร์ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่” อ่านสนุกดีครับ คลิก

ผมอยากขอร้องให้ท่านที่ทราบเว็บทำนองนี้ เอาที่ง่าย ๆ และเป็นเนื้อหาเบื้องต้นนะครับ ช่วยแจ้งผมด้วย จะได้ให้ท่านผู้อ่านที่เริ่มจาก ก.. ข... ค... จริง ๆ ไม่ท้อใจที่จะศึกษา

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2551

[815]เรียนพูดอังกฤษกับmp3 ที่ใช้สอนเด็กอนุบาลฝรั่ง

สวัสดีครับ
ผมเข้าใจว่าสำหรับคนไทย เรามีปัญหาเรื่องการพูดและการฟังมากกว่าการอ่าน
บางคนสามารถอ่านหนังสือภาษาอังกฤษได้รู้เรื่องเป็นเล่มๆ แต่พอมาถึงเรื่องการฟังและการพูด แม้เป็นข้อความเดียวกัน เราอ่านรู้เรื่องแต่อาจจะฟังไม่รู้เรื่อง ยิ่งให้พูดสด ๆ ยิ่งไปกันใหญ่

การฟังและการพูด ต้องฝึกไปพร้อม ๆ กัน ฝึกจากง่ายไปยาก

ผมไปเจอเว็บ ๆ หนึ่ง มีชุดการศึกษาภาษาอังกฤษ Stories to Read, Words to Know ตำราชุดนี้ประกอบด้วย หนังสือและไฟล์ mp3 ทั้งหมด 10 ชุด คือชุด A ถึง ชุด J แต่ละชุดมีทั้งหมด 12 Story รวมทั้งหมดก็เป็น 120 Story ที่เราจะได้เรียน

ตำราชุดนี้เขาใช้สอนเด็กฝรั่งระดับอนุบาลจนถึงชั้นประถมต้น แต่ผมเห็นว่าสำหรับเราคนไทยที่โตแล้วก็เรียนได้ไม่น่าอายอะไรหรอกครับ

วิธีการเรียนกับตำราชุดนี้มีดังนี้
เที่ยวที่ 1 Read Along: - เราซึ่งเป็นผู้เรียนฟังเสียงจากไฟล์ mp3 พร้อมกับอ่านหนังสือตามไปในใจโดยไม่ต้องออกเสียง (แต่ผมไม่สามารถหาไฟล์หนังสือให้ท่านได้) ผมขอแนะนำให้ท่านจดตามไปด้วยตามที่ได้ยิน จดได้ไม่ครบก็ไม่เป็นไรครับ ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น

เที่ยวที่ 2 Echo Reading: – เราซึ่งเป็นผู้เรียนฟังเสียง mp3 ทีละวลีหรือทีละประโยค หรือทีละย่อหน้าสั้น ๆ และใน mp3 นี้จะมีเสียงนักเรียนออกเสียงตาม เราเองก็ออกเสียงตามไปด้วยในเที่ยวนี้แหละครับ

ผมว่า mp3 ลักษณะนี้ดีมาก ไม่ว่าท่านจะเป็นครูที่เอาไปใช้สอนเด็ก หรือเป็นผู้ฝึกหัดด้วยตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนกันเป็นกลุ่ม บางทีเด็กอาจจะไม่กล้าออกเสียงเพราะกลัวออกเสียงผิด การที่เขาทำ mp3 ให้มีเสียงเด็กนักเรียนออกเสียงและเราในฐานะผู้เรียนก็ออกสียงตามไปด้วย จะทำให้เราไม่เขินและมั่นใจที่จะฝึกหัดพร้อมเพื่อน ๆ

ในฐานะที่เป็นบทเรียนสำหรับชาวต่างประเทศเช่นพวกเรา ผมเห็นว่าตำราชุดนี้ มีคุณภาพดีเรื่องทั้งสำนวน ภาษา เนื้อหา วลี ประโยค ที่เจ้าของภาษาใช้เป็นตำราสอนผู้เริ่มต้นศึกษาภาษาอังกฤษเช่นพวกเรา

โชคร้ายนิดนึงครับ คือผมหาตำราไม่ได้ ได้มาเฉพาะ mp3 แต่ก็เห็นว่าไม่น่าจะยากเกินไปสำหรับอาจารย์ที่จะใช้สอนเด็ก หรือท่านที่ต้องการฝึกออกเสียงหรือฝึกพูด เพราะมีแต่ถ้อยคำง่าย ๆ แม้ไม่มีตำราก็ฟังรู้เรื่อง หน้าที่ของเราคือ ฝึกฟัง, ฝึกเขียนตามไปบ้าง, ฝึกพูดตาม, และเอามาฝึกพูดเองทีหลัง ยิ่งฝึกมากเท่าไรยิ่งดีเท่านั้น

วิธีคลิก
1. ไปที่เว็บนี้
http://fiction.podcast.com/

2. พิมพ์คำว่า Stories to Read, Words to Know ลงในช่อง
search for podcasts: และคลิก Search

3. เราจะพบว่ามีบทเรียนให้เรา 10 บท (Level) ตามข้างล่างนี้, Level A ง่ายสุด, Level J ยากสุด แต่น่าจะไม่ยากเกินไปสำหรับพวกเราที่โตแล้ว

Stories to Read, Words to Know, Level A
Stories to Read, Words to Know, Level B
Stories to Read, Words to Know, Level J
Stories to Read, Words to Know, Level I
Stories to Read, Words to Know, Level C
Stories to Read, Words to Know, Level D
Stories to Read, Words to Know, Level G
Stories to Read, Words to Know, Level H
Stories to Read, Words to Know, Level E
Stories to Read, Words to Know, Level F


4. เมื่อท่านคลิกที่บรรทัด Level ใดก็ตาม (น่าจะเรียนไปตามลำดับ คือ Level A B C D E F G H I และ Level J) และรอจนดาวน์โหลดเสร็จ ให้ท่านคลิกที่ view all episodes ซึ่งอยู่เหนือ Story บนสุด ท่านจะเห็น Story ที่ 1 ถึง 12 แต่อาจจะไม่ได้เรียงตามลำดับเลขน้อย - มาก

5. เมื่อถึงเวลาศึกษา ผมขอแนะนำให้ท่านคลิกศึกษา ตั้งแต่ Story 1, 2, 3 ไปเรื่อย ๆ จนถึง Story 12 โดย
- หากต้องการฟังทันทีขณะต่อเน็ต ให้คลิกที่ปุ่มกลม Play Now ซึ่งอยู่ที่ด้านขวาของชื่อ Story
- หากต้องการดาวน์โหลดไฟล์ mp3 เพื่อเก็บไว้ฟัง ให้คลิกขวาที่คำว่า DOWNLOAD, และคลิกซ้าย Save Target As….

ที่เว็บนี้ ถ้าท่านมีปัญหาไม่สามารถคลิกย้อนกลับ (Back) ก็ให้ทำเหมือนเดิม คือ พิมพ์คำว่า Stories to Read, Words to Know ลงในช่อง
search for podcasts: และคลิก Search, คลิก Level, และ คลิก Story ที่ต้องการ

ขอให้สนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษนะครับ

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2551

[814] ข้อคิดเพื่อการกำจัดวัชพืชทางใจคือความกังวล

สวัสดีครับ
ความวิตกกังวล - ความเครียด - ความกดดัน ดูเหมือนจะเป็นศัตรูทางใจอันดับต้น ๆ ของผู้คนยุคนี้ บางคนพูดว่าเกิดเป็นคนมันก็ต้องมีความกังวลบ้าง จะไม่กังวลซะเลยมันจะเป็นไปได้ยังไง

อันนี้จริงครับผมไม่เถียง แต่เราก็ไม่ควรที่จะปล่อยให้ความวิตกกังวลบ้างอยู่กับเรานานเกินไป จนกลายเป็นความวิตกกังวลมาก เหมือนวัชพืชที่เกิดขึ้นในสวนคือใจของเรา ถ้าวัชพืชมีไม่มากเราก็น่าจะจัดการถอนทิ้งเสีย แต่ถ้าปล่อยให้วัชพืชงอกงามเต็มสวนคือใจดวงนี้ของเรา ถึงเวลานั้นเมื่อกลายเป็นความกังวลเรื้อรัง ก็จะแก้ไขหรือกำจัดได้ยาก และผู้ที่เป็นทุกข์มากที่สุดก็คือตัวเรานั่นแหละ

ไฟล์ข้างล่างนี้ผมได้มาจากท่านอื่น และนำเอามาฝากท่านผู้อ่าน เพราะเห็นว่าน่าจะช่วยบรรเทาโรค ความวิตกกังวล - ความเครียด - ความกดดันได้บ้างไม่มากก็น้อย

และที่จะขาดไม่ได้สำหรับ Blog นี้ก็คือ ได้ฝึกอ่านภาษาอังกฤษไปพร้อมกับคำแปลภาษาไทยด้วย (ดาวน์โหลดโดย คลิกขวา, คลิกซ้าย save Target As...)

1: A Glass

2: ข้อคิดที่ดี

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

[813] เทคนิคฝึกภาษาอังกฤษกับ UBC

สวัสดีครับ
ท่านที่รับรายการของ UBC จะมีช่องชมภาษาอังกฤษหลายช่อง เช่น
- ภาพยนต์พากษ์ภาษาอังกฤษ, subtitle ภาษาไทย
- ข่าวภาษาอังกฤษ CNN, BBC และช่องภาษาฝรั่งเศส 1 ช่อง

วันนี้ผมขอแนะนำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับการชมรายการของ UBC เพื่อเสริมการฝึกทักษะภาษาอังกฤษ

- ท่านลองซื้อหูฟังที่มีสายยาว ๆ มาเสียบที่ช่อง earphone ของทีวี การฝึกฟังด้วยหูฟังบ้าง บางครั้งบางคราว มีประโยชน์อย่างไร?
1. จะฟังสำเนียงได้ชัดขึ้น และเข้าใจได้มากขึ้น กว่าการฟังด้วยหูเปล่า หลาย % ทีเดียวครับ และท่านสามารถรู้เรื่องมากขึ้นแม้จะอ่าน subtitle ภาษาไทยน้อยลง
2. การดูทีวี การได้เห็นภาพจะช่วยเสริมการฟังให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น แต่ผมขอเสนอให้ท่านลองฟังโดยหลับตา หรือไม่มองจอทีวี ท่านจะมีสมาธิกับเสียงที่ได้ยินได้มากขึ้น ลองทำวิธีนี้กับรายการที่ภาพไม่ใช่สิ่งสำคัญ เช่น รายการสัมภาษณ์ หรือรายงานข่าวที่ไม่มีภาพประกอบ

- เลือกชมภาพยนต์ที่มีบทพูดมาก ๆ จะได้ฝึก listening skill มากกว่าหนัง action และถ้าได้อ่านสรุปย่อเนื้อเรื่องหนังในหนังสือที่ UBC ส่งไปให้ก็จะช่วยปูพื้นความเข้าใจสำหรับความตั้งใจที่จะดูหนังฝรั่งโดยไม่ดู subtitle ภาษาไทย

- สำหรับท่านที่ยังฟังไม่ค่อยคล่อง ท่านลองเปรียบเทียบดูนะครับว่า รายการที่ต่างกัน คือ ภาพยนต์(โดยไม่อ่าน subtitle) สารคดี และข่าว รายการ 3 ประเภทนี้ ประเภทไหนท่านฟังได้รู้เรื่องมากที่สุด อาจจะชมรายการนั้นมากหน่อย จะได้มีกำลังใจว่าฟังรู้เรื่อง และเห็นความก้าวหน้าเรื่อง listening skill ของตัวเอง

- ถ้าฟังช่องข่าว ก็พยายามฟังทั้ง 2 สำเนียงนะครับ คือ CNN –อเมริกัน และ BBC – อังกฤษ

- ถ้าฟังข่าวไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็เตรียมฟังโดยการอ่านก็ดีครับ
1. ที่ลิงค์นี้มีศัพท์ข่าวให้ศึกษา:
[330]เรียนศัพท์กับ Bangkok Post,The Nation, BBC
2. อ่านข่าวจากเว็บข่าว CNN:
http://edition.cnn.com/
3. อ่านข่าวจากเว็บข่าว BBC:
http://www.bbcworldnews.com/Pages/default.aspx
4. อ่านข่าวต่างประเทศ จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ:
http://thairath.co.th/content_international.html
5. อ่านข่าวต่างประเทศ จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์:
http://www.dailynews.co.th/web/html/world/default.htm

- มีช่องหนึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศส ถ้าจะเปลี่ยนบรรยากาศ ไปดูช่องนั้น โดยเลือกรายการที่มี subtitle ภาษาอังกฤษ ก็จะเป็นการฝึก reading skill ได้ดีครับ

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551

[812]รวมวีดิโอเรียนภาษาอังกฤษกับ YouTube (อีกครั้ง)

สวัสดีครับ
ทุกท่านที่เป็นแฟน blog นี้จะทราบดีว่า เราสามารถใช้เว็บYouTube เป็นห้องเรียนภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี

ผมขอให้ข้อสังเกตอย่างหนึ่งเกี่ยวกับ URL ของ วีดิโอYouTube ประเภทนี้

ข้างล่างนี้เป็นวีดิโอสอนภาษาอังกฤษคุณภาพดีทั้งสิ้น ท่านสังเกตตัวดำที่ท้าย URL นะครับ คือบางทีเขาเอาชื่อตัวของเขาเอง หรือชื่อหน่วยงานมาต่อท้าย URL ของ YouTube เลย
http://www.youtube.com/user/duncaninchina
(คลิก Learning English Videos)

http://www.youtube.com/user/JenniferESL
(คลิกที่ลิงค์ใต้คำว่า Playlists)

http://www.youtube.com/bbc

http://www.youtube.com/cnn

http://www.youtube.com/Thailand

คราวหน้าที่ท่านค้นหาวีดิโอในเว็บ YouTube ก็ลองสังเกตจุดนี้ด้วยครับ

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2551

[810] The Whispering Palms- story ที่น่ารักมาก ๆ

สวัสดีครับ
ผมขอชวนให้ท่านดาวน์โหลดวีดิโอ เรื่อง The Whispering Palms ไปชม เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นสำหรับเด็กตัวเล็ก ๆ แต่ผู้ใหญ่อย่างผมรู้สึกว่า เป็นเรื่องที่น่ารักมาก ๆ เลยครับ และอยากให้ทุกคนได้ชม

ดาวน์โหลด โดยคลิกขวา, และคลิกซ้าย save Target As…:
The Whispering Palms

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

[811]ไฟล์ ppt แนะนำผู้ที่จะไปทำงานต่างประเทศ

สวัสดีครับ
ผมมีโอกาสไปเข้ารับการอบรมครั้งหนึ่ง ซึ่งมีการแนะนำวิทยากรซึ่งจะเป็นผู้อบรมแรงงานไทยที่จะไปทำงานต่างประเทศ และผมได้ไฟล์ PowerPoint มาชุดหนึ่ง มี 101 เฟรม เนื้อหาแบ่งออกเป็น 4 ช่วง ดังนี้ ครับ
ช่วงที่ 1 เตรียมการก่อนเดินทาง
ช่วงที่ 2 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ช่วงที่ 3 ในเครื่องบิน
ช่วงที่ 4 เมื่อเดินทางถึงสนามบินปลายทางในต่างประเทศ

แม้ใน ไฟล์ PowerPoint ที่ผมนำมาให้ท่านดาวน์โหลดในวันนี้จะประกอบด้วยภาพและคำชี้แจงในแต่ละเฟรมเพียงสั้น ๆ แต่ผู้ที่เคยเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ พอมองปั๊บก็จะสามารถเข้าใจรายละเอียดได้ทันที ท่านที่ทำหน้าที่เป็นวิทยากรเกี่ยวกับเรื่องนี้น่าจะได้รับประโยชน์จากไฟล์ชุดนี้มากพอสมควรทีเดียว

สำหรับผู้ที่ไม่เคยขึ้นเครื่องบินหรือไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศเลย ผมก็คิดว่าแม้จะไม่มีคำอธิบายเป็นรายละเอียด แต่ถ้าพยายามทำความเข้าใจภาพและข้อความ ก็น่าจะได้เนื้อหาอะไรพอสมควรทีเดียว
goabroad_1.ppt
goabroad_2.ppt
goabroad_3.ppt
goabroad_4.ppt

ขอขอบคุณ อาจารย์อิสเรศ รุ่งณรงค์รักษ์ หัวหน้าฝ่ายฝึกอบรมของบริษัทการบินไทยเป็นอย่างยิ่งครับ ที่อนุญาตให้นำ PowerPoint ชุดนี้เผยแพร่ต่อสาธารณชนได้

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

[809]ช่วยผมด้วย-มีตำราภ.อังกฤษให้ดาวน์โหลดมากจนล้น

สวัสดีครับ
ตั้งแต่ผมเจอเว็บ http://www.4shared.com/ มันเหมือนผมพบแหล่งขุมทรัพย์หนังสือขนาดมหึมา ที่มีหนังสือให้ดาวน์ฟรี ๆ มากมาย ในแทบจะทุกเรื่องที่อยากอ่าน ผมได้เขียนคำแนะนำในการดาวน์โหลดหนังคือไว้ที่ลิงค์นี้
[281]ดาวน์โหลดหนังสือดี & ฟรี ที่เพิ่งวางตลาด

เฉพาะหนังสือที่เกี่ยวกับการศึกษาภาษาอังกฤษ มันก็มีมากมายจริงๆ มากมายทั้งปริมาณและคุณภาพ จนผมเลือกไม่ถูกว่าควรจะแนะนำเล่มไหนเพราะมันดีไปหมด

ข้างล่างนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนังสือการศึกษาภาษาอังกฤษ ที่ผมเลือกหามาให้ท่านดู ถ้าชอบใจเล่มไหนก็ดาวน์โหลดเอาเองแล้วกันครับ

มีเรื่องที่ขอเรียนให้ทราบนิดหน่อยครับ
1. ควรดาวน์โหลดทีละเล่ม จบเล่มหนึ่งแล้วค่อยดาวน์โหลดเล่มใหม่ ถ้าดาวน์โหลดมากกว่าครั้งละ 1 เล่ม เว็บ 4shared.com นี้อาจจะไม่ยอมให้เราทำ
2. ตอนคลิกแต่ละขั้นตอนในการดาวน์โหลด ให้รอจนดาวน์โหลดเสร็จก่อน เช่น มีเครื่องหมายที่มันวิ่ง ๆ หรือ count down ก็ให้มันเสร็จก่อนไปทีละขั้น ๆ อย่ารีบร้อนเกินไปที่จะคลิก เดี๋ยวจะดาวน์โหลดไม่สำเร็จ
3. ถ้าใช้อินเตอร์เน็ต speed ปกติ อาจจะต้องใช้เวลาดาวน์โหลดนานหน่อย หรือถ้าช่วงไหนเน็ตของท่านช้ามาก ๆ บางทีตอนดาวน์โหลดมันก็เดี้ยงเอาดื้อ ๆ แต่ถ้าใช้ high speed Internet ก็จะใช้เวลาไม่นานนัก
4. บางเล่มอาจจะเป็นลิงค์ตาย แต่ก็มีไม่มากนัก ส่วนมากจะดาวน์โหลดได้ แต่ต้องสังเกตนิดนึงนะครับ เช่น บางเล่มมีขนาด 9 MB แต่พอดาวน์โหลดไปได้แค่ 2 MB มันบอกว่าดาวน์โหลดเสร็จแล้ว หรือ Done และพอเราเปิดไฟล์ที่ดาวน์โหลดก็เปิดไม่ได้ ถ้าเจออย่างนี้ต้องลบทิ้งและเริ่มดาวน์โหลดใหม่ให้ได้ไฟล์ที่มีขนาดครบถ้วนจริง ๆ

หนังสือในลิงค์ข้างล่างนี้ มีเป็นร้อย ๆ เล่ม เลือกดาวน์โหลดเอาเองนะครับ ถ้าท่านต้องการดาวน์โหลดหนังสืออื่น ๆ ที่นอกเหนือจากนี้ ก็ Search หาเอาเองได้ตามใจชอบครับ

English
International English FAPA
Learning English
Basic English
Longman
Oxford
Cambridge
TOEFL
TOEIC
English dictionary
Phrasal Verbs
English conversation
Vocabulary
Speaking
เพิ่ม: E-books & Literature จาก download.com

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551

[807] แนะนำ เว็บไซต์ I’m Learning English

สวัสดีครับ
คุณ "แฟนพันธุ์แท้" ของ Blog นี้ ส่งลิงค์เว็บไซต์นิตยสาร I’m Learning English มาให้
ลิงค์นี้ครับ: http://ile.li.kmutt.ac.th/ILE/Welcome.html

เว็บไซต์ I’m Learning English เป็นเว็บไซต์ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
จัดทำโดยสถาบันการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

ผมเข้าไปดูแล้ว เป็นเว็บที่ดีทีเดียวครับ และอยากให้ท่านเข้าไปดูด้วยตัวเอง
หนังสือฉบับนี้ เป็นหนังสือรวบรวมโปสเตอร์ I’m Learning English ซึ่งติดตามอาคารในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เนื้อหาของโปสเตอร์ครอบคลุมหัวเรื่องต่างๆ เช่น เทศกาล ทักษะการเรียนรู้ เคล็ดลับ บทสนทนา คำศัพท์ และอาหารสมอง ผู้อ่านจะได้สนุกสนานกับเรื่องราวไปพร้อมๆ กับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ตั้งแต่หน้าแรกไปจนถึงหน้าสุดท้ายอย่างแน่นอน

ขอบคุณทั้งคุณ ‘แฟนพันธุ์แท้’ และ "มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี" อย่างมากครับ

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

[808] รวม free eBooks หลายประเภท

สวัสดีครับ
วันก่อนผมแนะนำ eBook ที่สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีที่ลิงค์นี้
[281]ดาวน์โหลดหนังสือดี & ฟรี ที่เพิ่งวางตลาด

วันนี้ขอแนะนำ free eBooks เพิ่มเติม
http://manybooks.net/
http://endsearchhere.blogspot.com/
www.ebookhood.com/catalog
http://www.gutenberg.org/wiki/Main_Page http://www.planetebook.com/

และที่แบ่งออกเป็นประเภท ๆ ข้างล่างนี้

free audio books

free children's ebooks

free business ebooks

free ebooks harry potter

free ebooks for ipod

free fantasy ebooks

free ebooks romance

free programming ebooks

download ebooks free

medical ebooks free download

romance ebooks free

pdf ebooks free

mobipocket ebooks free

Free textbooks

ท่านใดพบเว็บ free eBooks ดี ๆ ช่วยแจ้งด้วยนะครับ จะได้เอามาเพิ่มต่อจากเว็บข้างบน

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

[806] ดาวน์โหลดตำราและ mp3 บทสนทนาพื้นฐาน 20 บท

สวัสดีครับ
สำหรับท่านที่ไม่มีโอกาสไปเรียนสนทนาภาษาอังกฤษที่โรงเรียนสอนภาษา วันนี้ผมมีตำราบทสนทนาภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน (ไฟล์ pdf) และไฟล์ mp 3 เพื่อใช้ฟังประกอบตำรา

ตำรา และ ไฟล์ mp3 ที่ให้ท่านดาวน์ในวันนี้ดียังไง? ขอเรียนว่า ถ้าท่านฝึกฝนร่ำเรียนกับตำราและ mp3 ชุดนี้อย่างขยันขันแข็ง ท่านจะสามารถฟัง-พูด-อ่าน-เขียนภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นอย่างมาก

รูปแบบในการเรียนมีดังนี้
[1]
ท่านเปิดตำราขณะเรียนไปทีละบท ทีละหน้า
[2] เปิดไฟล์ mp3 ซึ่งจะมีลำดับดังนี้
- เที่ยวที่ 1 มีบทสนทนาให้ท่านฟังด้วย speed ปกติ
- เที่ยวที่ 2 ฟังการสนทนาบทเดิม ทีละประโยค แต่ speed ช้า, ท่านสามารถฝึกพูดตามไปได้ทีละประโยค ๆ
- ยกเอาศัพท์และประโยคสำคัญที่ใช้ในบทสนทนา มาออกเสียงให้ฟังช้า ๆ ทีละคำ / ทีละประโยค โดยพูดช้า ๆ , เว้นระยะให้ท่านฝึกพูดตามได้ ทีละคำ / ทีละประโยค
ในการฟังไฟล์ mp3 นี้ ท่านสามารถใช้วิธี play, pause, forward, backward ท่านจะฟังซ้ำ – พูดซ้ำ – พูดตาม กี่ครั้ง - กี่สิบครั้งก็ได้ตามใจท่าน
[3]
เมื่อจบการฟังแล้ว ในตำราจะนำเอาคำศัพท์ หรือวลีมาสร้างเป็นประโยคให้ท่านได้ศึกษา, มีแบบฝึกหัดให้ท่านทำ, และมีเฉลยให้ท่านตรวจ (ต้องซื่อสัตย์ต่อตัวเอง อย่าดูเฉลยก่อนทำแบบฝึกหัดนะครับ)

ข้อที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับตำราและ mp3 ชุดนี้ก็คือ บทสนทนา, คำศัพท์, วลี,สำนวน, ประโยคที่นำมาใช้สอนนั้น ท่านสามารถจดจำเอาไปใช้พูดได้จริง ๆ และในตำรายังมีภาพลายเส้นประกอบทำให้เป็นตำราที่เข้าใจง่ายและไม่น่าเบื่อ

ถ้าท่านต้องการเปิดดิกชันนารี อังกฤษ – ไทย เชิญคลิกใช้ ดิกชันนารีเล่มนี้

เอาละครับ เชิญดาวน์โหลดไฟล์ไปศึกษาได้เลยครับ


Lesson 01 - Hellol
Lesson 02 - Where are you from
Lesson 03 - What's thisl
ตำรา Lesson 1 - 3

Lesson 04 - Welcome to my house
Lesson 05 - Is this your disk
Lesson 06 - Who's that
ตำรา Lesson 4- 6

Lesson 07 - What number is this
Lesson 08 - Is the post office open today
Lesson 09 - What do you do on Saturday
ตำรา Lesson 7- 9

Lesson 10 - Let's go to the beach today
Lesson 11 - Where do you work
Lesson 12 - Where's the cereal
ตำรา Lesson 10-12

Lesson 13 - How much does this shirt cost
Lesson 14 - What do you do
Lesson 15 - I'd like to make an appointment
ตำรา Lesson 13-15

Lesson 16 - I don't feel good today
Lesson 17 - Do you want to come with me
Lesson 18 - We're going to take a trip this weekend
ตำรา Lesson 16-18

Lesson 19 - Where were you
Lesson 20 - I haven't seen you in a long time
ตำรา Lesson 19-20


พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2551

[805] ฝึกฟังข่าวภาษาอังกฤษเกี่ยวกับเมืองไทย

สวัสดีครับ
ในความเห็นของผม ในการฝึกภาษาอังกฤษ เราจะต้อง Start from we are คือ ไม่ว่าจะเป็นการฝึก ฟัง – พูด – อ่าน - หรือเขียน เราต้องรู้ว่าขณะนี้ทักษะของเรามันอยู่ระดับไหน แล้วเราก็ฝึกต่อไปจากตรงนั้น โดยเนื้อหาที่เราฝึก ฟัง – พูด – อ่าน - หรือเขียน นั้น จะต้องไม่ง่ายหรือไม่ยากจนเกินไป และควรจะหาเรื่องที่มันสนุกหรือเราเข้าใจ หรือเรื่องที่เราคุ้นเคย เราก็จะได้ทำความเข้าใจหรือเดาเรื่องได้ไม่ยาก จะได้มีกำลังใจในการฝึกต่อไปได้เรื่อย ๆ

ในเรื่องฝึกอ่านเพื่อพัฒนา reading skill ผมจึงได้พูดบ่อย ๆ ว่า ควรหาเรื่องที่เราชอบหรือคุ้นเคย และในเรื่องการฝึกฟังเพื่อฝึก listening skill ก็เช่นกัน ถ้าเรื่องที่เราฟังเป็นเรื่องที่เราคุ้นเคยหรือมีความรู้อยู่บ้าง เราก็จะฟังเข้าใจได้ง่าย

การฟังข่าวเป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการฝึกฟัง สำหรับเว็บวิทยุออนไลน์ กรมประชาสัมพันธ์ ก็มีข่าวในประเทศอ่านเป็นภาษาอังกฤษให้เราฟังทุกวัน ที่เว็บนี้
http://www.prd.go.th/main.php?filename=Radio_online
ดูที่คอลัมน์ขวามือ ข่าวภาคเช้า-เที่ยง-ค่ำ คลิกที่ชื่อวันซึ่งเป็นภาษาอังกฤษ


แต่ขอเรียนท่านผู้อ่านตรง ๆ ว่า ผมไม่ค่อยได้เข้าไปใช้บริการเว็บนี้เลย เพราะฟังติด ๆ ขัด ๆ และมีปัญหาในการเปิดฟังบ่อยมาก

ฉะนั้นเมื่อใดก็ตามที่ผมต้องการฟังข่าวเมืองไทยเป็นภาษาอังกฤษ ผมจึงไปหาเว็บของสำนักข่าวฝรั่งที่มีชื่อเสียงระดับโลก วิธีฟังก็ง่าย ๆ ครับ คือเลือกที่เป็น audio หรือ video แล้วพิมพ์คำว่า Thai ลงไป ก็จะมีข่าวเกี่ยวกับเมืองไทยเป็นไฟล์ mp3 ให้เราฟัง หรือไฟล์วีดิโอให้เราชมมากมาย และหลายเว็บมีไฟล์เก่าเก็บไว้ให้เราค้นย้อนหลังได้อีกด้วย

ผมเปรียบเทียบตัวเอง เมื่อฟังข่าวที่เว็บเหล่านี้ ถ้าเป็นข่าวเกี่ยวกับเมืองไทย ผมจะฟังได้รู้เรื่องมากกว่าฟังข่าวเกี่ยวกับประเทศอื่น ๆ ฉะนั้น ผมจึงขอเชิญชวนท่านผู้อ่านที่ต้องการฝึก listening skill ลองฟังข่าวเมืองไทยจากเว็บพวกนี้ อาจจะได้ผลเป็นที่น่าพอใจมากกว่าเดิม

ข้อที่ต้องขอพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกก็คือ การฟัง mp3 หรือวีดิโอ อาจจะต้องใช้ high speed Internet จึงจะฟังหรือชมข่าวได้ไม่ติดขัด ท่านใดที่ยังไม่ได้ติดตั้งอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ลองพิจารณาดูแล้วกันครับว่าถ้าติดตั้งจะคุ้มค่าไหมกับการได้ฝึกภาษาอังกฤษเช่นนี้

ต่อไปนี้ก็ลองฟังข่าวเมืองไทยจากเว็บสำนักข่าวระดับโลกข้างล่างนี้ เชิญครับ...

ข่าว CNN: ที่ลิงค์ซึ่งเป็นหัวข้อข่าว ถ้ามีไอคอนรูปกล้องนักข่าวโทรทัศน์ แสดงว่าข่าวนั้นมีคลิปวิโอข่าวให้คลิกชมด้วย
http://topics.cnn.com/topics/thailand

ข่าว BBC: เมื่อคลิกเข้าไปยังข่าวใดข่าวหนึ่งแล้ว นอกจากมีเนื้อข่าวให้อ่าน บางข่าวยังมีปุ่มให้คลิกฟังหรือชมวีดิโออีกด้วย ต้องสังเกตเอาหน่อยครับ
http://www.bbc.co.uk/search/local/thailand

ข่าว นสพ. The Nation: เมื่อคลิกเข้าไปแล้ว ที่คอลัมน์ขวามือให้คลิก see all ก็จะแสดงคลิปวีดิโอทั้งหมด
http://www.youtube.com/user/TheNationDigital

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

[804] นิยาย-นิทาน-เกม-เพลง สำหรับเด็ก(และผู้ใหญ่)

สวัสดีครับ
ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ที่ต้องการปัดฝุ่นภาษาอังกฤษ ผมเห็นว่าควรจะต้องเริ่มต้นด้วยเรื่องง่าย ๆ สนุก ๆ และไม่ยาวเกินไปนัก และวันนี้ผมก็รวบรวมเว็บพวกนี้ไว้ให้นักศึกษาภาษาอังกฤษ ทั้งวัยเด็กและวัยผู้ใหญ่ทุกคน เลือกเอาเองแล้วกันครับว่า ท่านชอบอะไรบ้างข้างล่างนี้

[1] Story ที่เขียนขึ้นมาให้เด็กวัยต่าง ๆ อ่าน ถ้าเด็กอายุยังน้อย บางทีพ่อแม่ต้องนั่งอ่านเป็นเพื่อน แต่ถ้าท่านโตแล้วก็เอา ดิกชันนารีเล่มนี้ เป็นที่ปรึกษาตอนติดศัพท์แล้วกันครับ
เว็บ: http://www.magickeys.com/books/
สำหรับ
Young Children
Older Children
Young Adult

[2] Story ที่เขียนให้ผู้ใหญ่อ่าน แต่เอามาเขียนใหม่ให้สั้นและง่ายขึ้น แต่ยังคงความสนุกไว้ เพื่อให้เด็กอ่าน ไปที่ลิงค์นี้ครับ
][361] ดาวน์โหลดหนังสืออ่านนอกเวลาภ.อังกฤษ 48 เล่ม

[3] โปรแกรม story-เกม-เพลงที่สนุกมาก
ผมอยากเชิญขวนให้ท่านดาวน์โหลดไฟล์ 5 ไฟล์ข้างล่างนี้เก็บไว้ เพราะเป็นไฟล์ที่ดีมาก มีทั้งเรื่อง เกม และเพลง ให้คลิกอ่าน – ฟัง – ชม ไฟล์มีคุณภาพดีมาก อาจจะดีกว่า CD สอนภาษาอังกฤษที่ท่านเสียเงินซื้อในท้องตลาดเมืองไทยซะอีก
เมื่อท่านเข้าไปในแต่ละไฟล์แล้ว ท่านจะพบว่ามี
1)ไฟล์ data
2)ไฟล์ pdf ซึ่งมักจะเป็น script หรือ แบบฝึกหัดให้ท้านศึกษา และ
3)ไฟล์รูปสี่เหลี่ยม เป็นไฟล์ application ให้คลิกที่ไฟล์นี้เพื่อใช้งาน
file1
file2
file3
file4
file5

[4] หรือถ้าท่านจะใช้ online ขณะต่อเน็ต ก็ไปที่ลิงค์นี้
[74]วีดิโอการ์ตูนภ.อังกฤษเด็กอนุบาล (ผู้ใหญ่ดูได้)
http://www.bbc.co.uk/cbeebies/tweenies/storytime/
และมีอีกมากมายให้ท่านเล่นและศึกษา: ที่นี่

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2551

[803] American และ British English ต่างกัน ตรงไหน?

สวัสดีครับ
ผมเกิดสงสัยขึ้นมาดื้อ ๆ ว่า American English ต่างจาก British English ตรงไหน และพยายามค้นหาคำตอบ แล้วก็ได้พบว่า จากเดิมที่เคยคิดว่าอังกฤษแบบอเมริกันกับแบบอังกฤษต่างกันเพียงการใช้คำศัพท์บางคำ แต่พออ่านไปมากขึ้นเรื่อย ๆ กลับได้รู้ว่า ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต่างกันแต่เราไม่รู้ เพราะมันละเอียดอ่อนมาก มีบางท่านพูดไว้ว่า สำหรับพวกเราที่เป็นคนต่างชาติและต้องใช้ภาษาอังกฤษ มันไม่มีแบบไหนถูกแบบไหนผิดหรอก เราชอบแบบไหนก็ใช้แบบนั้นให้ตลอดก็เป็นอันว่าใช้ได้ เช่นการสะกดคำ แต่การพูดเช่นนี้ พูดง่ายแต่ทำคงจะไม่ง่ายนักหรืออาจจะทำไม่ได้ด้วยซ้ำ

ผมลองหาใน Google โดยพิมพ์คำว่า American and British English differences ก็ได้คำอธิบายมามากมายหลายเว็บเหลือเกิน เว็บที่อธิบายได้ละเอียดมาก น่าจะเป็นเว็บของสารานุกรม Wikipedia และยังมีอีกมากมายให้เราเลือกอ่าน (คลิกดูที่นี่)

ผมลองค้นหาเว็บภาษาไทยบ้าง โดยไปที่ Google และพิมพ์ "American English" ต่าง "British English" ลงไป ก็มีเว็บภาษาไทยที่ให้คำอธิบายอยู่มากพอสมควร (คลิกดู)

ถ้ามีเวลาลองเข้าไปอ่านบทความสั้น ๆ เล่น ๆ ดูก็ดีเหมือนกันครับ

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

คลิกดูสารบัญหัวข้อที่ 801 - 900

[900] โปรแกรมฟรีเรียนภาษาอังกฤษ
[899] วิธีง่าย ๆ ในการหาวีดิโอดี ๆมาดูจาก YouTube
[898] เรียนศัพท์จาก video YouTube
[897] Voice of America เว็บฝึกภาษาของทุกคน
[896] เรียนภาษาอังกฤษกับรายการวิทยุ-โทรทัศน์ มสธ.
[895] ศัพท์ 47 หมวด รวบรวมจากดิกชันนารี สอ เสถบุตร
[894] ฟุด ฟิด ฟอ ไฟ สไตล์อเมริกัน
[893] ไม่ต้องอายที่ต้องพูดภาษาอังกฤษสำเนียงไทย ๆ
[892] ฝึกพูด 1,000 ประโยคในชีวิตประจำวัน
[891]ตำราสอนพูดภาษาอังกฤษ และตัวช่วย A+ตัวช่วย B

* * * * *
[890] ดาวน์โหลดเกมแก้เซ็ง ที่ช่วยเติมศัพท์ใส่สมอง
[889] แนะนำ www.thaiware.com
[888] ธรรมะวันปีใหม่
[887] !!! ประกาศ !!! จาก Blog Writer
[886] เรียนและฝึกศัพท์กับปฏิทินปี 2009
[885] New Year's resolution 2009
[884] นึกศัพท์ได้ทัน กี่พันเรื่องก็พูดได้
[883]แปลคำศัพท์ภาษาไทยไป-มากับกว่า 30 ภาษาทั่วโลก
[882]D/Lหนังสือธรรมะของพระชาวพุทธที่ดังที่สุดในโลก
[881] Dict.ที่ผมตั้งใจทำเพื่อท่านผู้อ่านโดยเฉพาะ

* * * * *
[880]ทำความคุ้นเคยกับศัพท์ 6000 คำและจำไปใช้ให้ได้
[879] สภาพของ 'พลเอกอนุพงษ์' และพวกเราหลายคน?
[878]ติดตั้งดิกอังกฤษ–ไทยจากแผ่น Setup-MS Office
[877] คำคม - สุภาษิต อังกฤษเทียบภาษาไทย
[876] ถาม – ตอบ ภาษาอังกฤษ โดย ดร.สิระ สุทธิคำ
[875] "ประโยคเด็ด – เคล็ดลับการเขียนอีเมล"
[874] ดาวน์โหลดตำราภาษาอังกฤษ 100 เล่ม (ไฟล์ pdf)
[873]อ่าน text+ดาวน์โหลด mp3 นิทานอีสป 284 เรื่อง
[872] แหล่งค้นหาข้อมูลของผม
[871] ดาวน์โหลดหนังสือนิทานภาพอีสป
* * * * *
[870] test แกรมมาร์ & vocab ตามความเก่งของเรา
[869] video-mp3 ฟัง-ออกเสียง-สนทนา ภาษาอังกฤษ
[868] อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นภาษาอังกฤษ
[867] แนะนำเว็บ Test Your Words
[866] ท่องเที่ยวไปในโลกทำได้หลายวิธี
[865]เกร็ดภ.อังกฤษจากงานแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน
[864] ขอคุยก่อนลาพักงาน 10 วัน
[863]ดาวน์โหลดหนังสือภาพ English through Pictures
[862]รู้ศัพท์ทุกตัวแต่ก็ยังอ่านไม่รู้เรื่อง ทำไงดี?
[861] ฝากดิกอังกฤษ - ไทย ขนาดเล็ก ๆ เอาไปใช้งาน

* * * * *
[860] ดาวนืโหลด MP3 เพลงฝรั่งและเพลงไทย
[859]ฟังเล็กเชอร์ที่มหาวิทยาลัยเมืองนอกจากหน้าคอมฯที่บ้าน
[857]ศัพท์ใช้บ่อย+คำแปล 5,000 คำ(แยก n/v/adj/adv)
[856] เชิญดาวน์โหลดภาพศัพท์ทำ Screen saver
[855 ทำ pictures of the day ของตัวเอง
[854] แนะนำโรงเรียนสอนพูดภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด
[853] ใช้ดิกคลิก online (อังกฤษ-ไทย, ไทย-อังกฤษ)
[852] เรื่องของนาย Joe Plumber
[851] ดาวน์โหลด mp3 นิทาน + script หลายสิบเรื่อง

* * * * *
[850]ศึกษาคำแปลแถลงการณ์ของ 'ทักษิณ' ต่อสื่อ ตปท.
[849] ESL ย่อมาจากอะไร?
[848] ดาวน์โหลดดิกชันนารีลงมือถือ
[847]นิทานอีสปแปลไทยเทียบอังกฤษ(บรรทัดต่อบรรทัด)
[846]โหลด Songs Stories and Games For Children
[845] ดาวน์โหลดโปรแกรมดิกชันนารี สอ เสถบุตร
[844]โหลดโปรแกรม Webster’s 11th Collegiate Dict
[843] “The Last Lecture”
[842] ชวนท่องดิกชันนารี Webster 3,000 คำ
[841] แกรมมาร์น่าสนุก (พูดจริง ๆ !)

* * * * * * * * *
[840] 52 คำแนะนำสำหรับชีวิตที่งานก็ได้ใจก็เป็นสุข
[839] ตอบคำถามเรื่อง pronunciation และ grammar
[838] เข้าเว็บนี้เหมือนเข้าวัด
[837] ฟิตภาษาอังกฤษเป็นกิจวัตร
[836] วิธีแก้ปัญหา เมื่อท่านดาวน์โหลดไม่สำเร็จ
[835] ชม photo music ที่สร้างกำลังใจในชีวิต
[834]เรื่องของ “คนบ้าดิก” & การใช้ดิกหน้าที่ต่าง ๆ
[833] ฟังภาษาอังกฤษช้า ๆ มีประโยชน์มากกว่าที่คิด
[832]ทำให้ดีที่สุด และอย่าเป็นทุกข์เพราะภาษาอังกฤษ
[831] แจกไฟล์ pdf ดิกชันนารีภาพ 8 เล่ม

*********
[830] แนะนำและดาวน์โหลดเว็บดี englishdaily626.com
[829] ขอพูดเรื่องแกรมมาร์อีกสักครั้งเถอะครับ
[828] อ่านนิทานนัสรูดิน (Nasruddin)
[827] ฝึกภาษาอังกฤษกับ "ข่าวดัง"
[826] แนะนำ Webster's English Learner's Dictionary
[825] Webster’s Talking Dict-อ่านทุกคำ-ทั้งเล่ม
[824] ดาวน์โหลด “ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร” 2 เล่ม
[823]ข้อสอบ error identification1,150 ข้อพร้อมเฉลย
[822] ศึกษาคำศัพท์ที่มักใช้ร่วมกัน ( Collocations)
[821] คู่มือพูดโทรศัพท์ฉบับสมบูรณ์

* * * * *
[820] ดาวน์โหลดไฟล์เรียนบทที่ 1(จริงๆ)ในภาษาอังกฤษ
[819]ดาวน์โหลดไฟล์ Encyclopedia ฟรี ที่น่าใช้มาก ๆ
[818] หนังสือพูดได้สำหรับเด็ก สนุกมาก ๆ
[817]อีก 1 ขุมทรัพย์แหล่งดาวน์โหลดหนังสือฟรีมหาศาล
[816]เรียนอังกฤษผ่านเน็ตฯ ต้องรู้เรื่องคอมฯไว้บ้าง
[815]เรียนพูดอังกฤษกับmp3 ที่ใช้สอนเด็กอนุบาลฝรั่ง
[814] ข้อคิดเพื่อการกำจัดวัชพืชทางใจคือความกังวล
[813] เทคนิคฝึกภาษาอังกฤษกับ UBC
[812]รวมวีดิโอเรียนภาษาอังกฤษกับ YouTube (อีกครั้ง)
[811]ไฟล์ ppt แนะนำผู้ที่จะไปทำงานต่างประเทศ

* * * * *
[810] The Whispering Palms- story ที่น่ารักมาก ๆ
[809]ช่วยผมด้วย-มีตำราภ.อังกฤษให้ดาวน์โหลดมากจนล้น
[808] รวม free eBooks หลายประเภท
[807] แนะนำ เว็บไซต์ I’m Learning English
[806] ดาวน์โหลดตำราและ mp3 บทสนทนาพื้นฐาน 20 บท
[805] ฝึกฟังข่าวภาษาอังกฤษเกี่ยวกับเมืองไทย
[804] นิยาย-นิทาน-เกม-เพลง สำหรับเด็ก(และผู้ใหญ่)
[803] American และ British English ต่างกัน ตรงไหน?
[802] ค้นหาเรื่องที่ต้องการจากคอลัมน์ ถาม-ตอบ
[801] หาอ่านประวัติคนไทยได้จากเว็บไหน

[802] ค้นหาเรื่องที่ต้องการจากคอลัมน์ ถาม-ตอบ

เพิ่ม 29 สค 53
ถาม/ตอบปัญหาภาษาอังกฤษ กับ คุณวงศ์

[801] หาอ่านประวัติคนไทยได้จากเว็บไหน

15  ตุลาคม 2554:
ขอแนะนำเว็บค้นคว้าประวัติบุคคล ที่ให้ข้อมูลละเอียดกว่าเว็บอื่น
http://www.notablebiographies.com/


สวัสดีครับ
ผมอยากจะหาเว็บที่รวบรวมประวัติคนไทยซึ่งเขียนเป็นภาษาอังกฤษ เท่าที่เคยพบก็เห็นมีแห่งเดียนวคือที่สารานุกรม Wikipedia ซึ่งผมเคบรวบรวมไว้ที่ลิงค์นี้ครับ
[164] อ่านประวัติคนดังของไทย ที่อยู่ใน วิกิพีเดีย
ตอนนี้จะมีการเอกตั้ง ผู้ว่า กทม ผมก็อยากจะรู้ว่า ผู้สมัครเกือบ 20 คนนี้มีประวัติที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษไว้ที่ไหนหรือไม่ ก็ยังหาเว็บที่ต้องการนี้ไม่ได้
เอาง่าย ๆ อย่างนี้แล้วกันครับ ถ้าท่านต้องการรู้ประวัติคนดังหรือบุคคลสำคัญของไทยที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษ ก็ลองไปที่ www.google.com/ สมมุติว่าต้องการประวัติคุณจำลอง ศรีเมือง ที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษ ก็อาจจะพิมพ์อย่างนี้
“จำลอง ศรีเมือง” ประวัติ และ Enter
ลองมองหาดูว่าในเว็บไทยที่ได้มานั้น ได้เขียนชื่อ จำลอง ศรีเมือง เป็นภาษาอังกฤษไว้ตรงไหนบ้างไหม ถ้ามี ก็ copy มา paste ลงใน www.google.com/ หรือลองเดาเอาก็ได้ครับว่า น่าจะเขียนยังไง แล้วพิมพ์ต่อไปว่า biography OR profile OR newsmaker อย่างเช่น "chamlong Srimuang" biography OR profile OR newsmaker
ก็อาจจะเจอบ้าง ไม่มากก็น้อย
หรือจะไปที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Main_Page พิมพ์ชื่อ และนามสกุล เช่น Chamlong Srimuang ลงไปในช่อง Search และคลิก Go ถ้าเป็นคนดังจริง ๆ ก็อาจจะมีครับ
พิพัฒน์
pptstn@yaho.com