วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

[1065] เรียนอังกฤษต้องมีอะไรบ้าง?

สวัสดีครับ
วันนี้กลับจากที่ทำงานถึงบ้านนั่งหน้าคอมฯกำลังจะเริ่มพิมพ์เรื่องที่ตั้งใจไว้แล้ว พลันเกิดความคิดแทรกเข้ามาว่า ในเว็บ http://www.e4thai.com/ นี้ก็มีวัตถุดิบมากพอสมควรให้ท่านนำเอาไปปรุงเป็นความรู้ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ แต่นอกจากวัตถุดิบซึ่งได้แก่ ไฟล์หนังสือหรือข้อความ, ไฟล์เสียง, ไฟล์ภาพ, ไฟล์ภาพเคลื่อนไหว, เกม, โปรแกรม และอื่น ๆ ที่เรารู้เห็นผ่านหน้าคอมฯ ผู้เรียนภาษาอังกฤษต้องมีอะไรอื่นอีกบ้างที่จะช่วยให้การเรียนเป็นไปอย่างได้ผล ผมขอเสนอว่าน่าจะมีสิ่งต่อไปนี้

เรียนภาษาอังกฤษต้องมี... ความรัก: ถ้าใจไม่รักที่จะเรียน หรือไม่สามารถทำใจให้รักที่จะเรียน ก็จะต้องทนเรียนและเป็นทุกข์

เรียนภาษาอังกฤษต้องมี... ความอดทน: เหมือนการก้าวเท้าเดินทางไกล ต่อให้เป็นเส้นทางที่พอใจจะเดิน เมื่อเดินนาน ๆ ก็ต้องเหนื่อยบ้างเป็นธรรมดา จึงต้องอดทน

เรียนภาษาอังกฤษต้องมี... ความขยัน: ขยันแปลว่าไม่หยุด เพราะถ้าหยุดพักนานเกินไป ความรัก ความอดทน และความเก่งที่ค่อย ๆ สะสมมาจะค่อย ๆ เลือนหายไป การจะกู้ให้ความเก่งคืนกลับมา คงต้องฮึดให้ความรักและความอดทนที่อ่อนแรงไปแล้วฟื้นตัวมาอีกครั้ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะฉะนั้นขยันให้ต่อเนื่องไว้ดีกว่า

เรียนภาษาอังกฤษต้องมี... ความใจร้อน: ต้องวางเป้าหมายที่จะไปให้ถึง และให้ความรัก ความอดทน ความขยัน เป็นดั่งเชื้อเพลิงผลักเราให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างคนมีไฟ ถึงเป้าหมายอันเหมาะสมที่ตนเองวางไว้ หากไม่ตั้งเป้าหมายไว้ให้บรรลุ ก็จะเรียนอย่างเฉื่อยชาเพราะไม่ต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเอง

เรียนภาษาอังกฤษต้องมี... ความใจเย็น: มีภาษิตว่า 'อย่าอยู่อย่างอยาก' แต่การเรียนภาษาอังกฤษควรจะต้องมีความอยากอยู่บ้าง แต่ต้องเป็น 'ความอยากอย่างเยือกเย็น', เร่งรีบแต่ไม่รีบร้อน, และพอใจทุกครั้งในผลที่ได้รับหลังจากที่เราพยายามแล้ว ความใจเย็นจะทำให้เราเรียนได้ต่อเนื่องและยาวนาน เหมือนเครื่องยนต์ที่สภาพปกติไม่เกิดความร้อนสูงเกินไปก็จะใช้งานไปได้เรื่อย ๆ

เรียนภาษาอังกฤษต้องมี... สมาธิ: ขอให้ตั้งสมาธิน้อมใจไว้ที่ตาเมื่อฝึกอ่าน ไว้ที่หูเมื่อฝึกฟัง ไว้ที่ปากเมื่อฝึกพูด และไว้ที่มือเมื่อฝึกเขียน. หากสมาธิอ่อนแอ ตา หู ปาก และมือก็จะด้อยกำลังและเสื่อมสมรรถภาพไปโดยอัตโนมัติ เพราะฉะนั้น เวลาที่ศึกษาจะผ่านไปอย่างคุ้มค่าต้องบวกด้วยสมาธิ

เรียนภาษาอังกฤษต้องมี... แผนที่ดี: ต้องรู้ว่าเรามีจุดอ่อนตรงไหนที่จะทำให้การเรียนภาษาอังกฤษไม่ได้ผลดี เรามีจุดแข็งตรงไหนที่จะทำให้การเรียนสำเร็จ เราจะลดจุดอ่อนและเพิ่มจุดแข็งได้อย่างไร ฉะนั้น จึงต้องวางแผนให้ดีและทำตามแผนให้ได้

เรียนภาษาอังกฤษต้อง... เรียนรู้จากความผิด: คนที่กลัวทำผิด กลัวอ่านผิด พูดผิด เขียนผิด ก็จะไม่ได้อ่าน ไม่ได้พูด ไม่ได้เขียน และก็จะไม่เคยทำผิดเกี่ยวกับการอ่าน การพูด การเขียน แต่ในขณะเดียวกันก็จะไม่มีความผิดของตัวเองเป็นวัตถุดิบให้เรียนรู้ฝึกฝน ผลสุดท้ายก็คือ อ่านไม่เป็น พูดไม่เป็น เขียนไม่เป็น เพราะฉะนั้นขอให้กล้าฝึก ไม่กลัวทำผิด เรียนรู้จากความผิด และความผิดก็จะช่วยพาเราสู่ความสำเร็จ คนที่กลัวทำผิดก็ไม่ต่างจากคนที่กลัวประสบความสำเร็จทั้ง ๆ ที่อยากได้รับความสำเร็จ

เรียนภาษาอังกฤษต้อง... หาให้พบแง่มุมที่ทำให้เรียนแล้วมีความสุข: อาจจะเป็นเนื้อหาที่ศึกษาที่เราชอบ ความท้าทายในทักษะที่ฝึกฝน บรรยากาศในการศึกษา การสามารถใช้ทักษะที่ศึกษาทำสิ่งที่เรารักหรือหาความเพลิดเพลินให้แก่ตนเอง ฯลฯ นี่เป็นแง่มุมที่ต้องหาให้พบ เราอาจจะต้องออกแรง “หา” มัน เพราะมันมักจะไม่ได้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากกิจกรรมเล็ก ๆ ที่เราทำแล้วได้รับความสุข

เรียนภาษาอังกฤษต้อง... หาให้พบประโยชน์ที่ได้จากการฝึกภาษา: กล่าวง่าย ๆ ก็คือ ไม่ใช่สักแต่ว่าฝึกภาษาเพื่อให้ได้ฝึกภาษา แต่ต้องฝึกภาษาเพื่อให้ได้ใช้ภาษา จะต้องนำเอาทักษะจาก self – study หรือ class study ไปใช้ในโลกแห่งชีวิตจริงให้ได้ เช่น เพื่อการอ่านหาความรู้ ชมสารคดีหาความเพลิดเพลิน เพื่อการเขียนติดต่อกับเพื่อนต่างชาติหรือติดต่อทางการค้า เพื่อการพูดจาผูกมิตร ฯลฯ สิ่งเหล่านี้อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติแต่เราคงต้องพยายามทำให้มันเกิดขึ้นมา จากน้อยไปหามาก จากง่ายไปหายาก จากเรื่องเดียวไปหาหลาย ๆ เรื่อง จากการทำผิด ๆ ถูก ๆ และเชื่องช้าไปสู่ความคล่องแคล่วมากขึ้นและผิดพลาดน้อยลง ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากกิจกรรมเล็ก ๆ ที่เราทำแล้วได้รับประโยชน์

เรียนภาษาอังกฤษต้อง...ไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น: ทักษะภาษาอังกฤษก็เหมือนทักษะอื่น ๆ ของคนเราซึ่งมาจากปัจจัยอย่างน้อย 3 อย่าง คือ พรสวรรค์ ความพยายาม และโอกาส ที่ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหรือเท่ากัน เมื่อเราเห็นว่าภาษาอังกฤษมีประโยชน์และเราพยายามอย่างที่สุดแล้วที่จะทำให้ตัวเองมีความสามารถด้านนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นให้รู้สึกเป็นทุกข์หรือลำพองใจ เพราะในคนร้อยคนที่พยายามอย่างเต็มที่เหมือน ๆ กัน ก็อาจจะเก่งไม่เท่ากันเพราะพรสวรรค์หรือโอกาสที่ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นขอให้พยายามอย่างเต็มที่แต่อย่าเป็นทุกข์ไปกับมัน คนจำนวนมากที่เรียนภาษาอังกฤษ เขาใช้ความพยายามไม่เต็มที่ แต่กลับปล่อยใจอย่างเต็มที่ให้พลอยทุกข์ไปกับผลลัพธ์ที่ไม่สมใจ นี่ไม่ใช่เพราะถูกภาษาอังกฤษกระทำให้เป็นทุกข์ แต่เป็นทุกข์เพราะกระทำตัวเองต่างหาก เราจึงต้องตั้งสติให้ดีเมื่อคลุกคลีกับภาษาอังกฤษ

และไม่ว่าท่านจะเก่งภาษาอังกฤษหรือไม่ก็ตาม ผมขออวยพรให้ทุกท่านมีชีวิตที่เป็นสุขและดีงามครับ

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

8 ความคิดเห็น:

Ddy กล่าวว่า...

เป็นข้อแนะนำที่ดีมีประโยชน์มากเลยครับ

ต่อให้เรามีปัจจัยภายนอกที่ดีสักเท่าไหร่ แต่หากขาดปัจจัยภายในแล้วก็เรียนไม่สำเร็จจริงๆ

pipat - blogger กล่าวว่า...

Ddy
ลุงถามหน่อยเถอะ เวลา ตี 3 ครึ่งที่ post ข้อความนี่ แปลว่า นอนดึกเป็นพิเศษ หรือ ตื่นเช้าเป็นพิเศษ
ลุงพิพัฒน์

Jofasear กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ อ่านทุกวันครับ

I'm Naree กล่าวว่า...

ทุกถ้อยคำ จากใจคุณ มีคุณค่า
บริสุทธิ์ เปี่ยมเมตตา ไม่เจือสาร
เป็นพลัง ทุกบทความ เป็นธรรมทาน
บรรจงอ่าน ด้วยความภักดิ์ และรักคุณ.

Nuch & Tor กล่าวว่า...

เพิ่มเติมครับ....

เรียนภาษาอังกฤษต้อง.....มี www.e4thai.com เป็นเพื่อน

ขอบคุณครับ

Ddy กล่าวว่า...

นอนดึกเป็นพิเศษอะครับ ช่วงนี้ เล่นnetตอนดึกๆ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

หนูอยากไปเรียนต่อต่างประเทศกำลังเตรียมตัวหาทุนการศึกษาอยู่ เลยมาหาความรู้ในเว็บนี้ มีประโยชน์มากๆค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ฉันหาความรู้จากเว็บนี้มานานแล้วค่ะ วันนี้มีโอกาสขอบคุณคุณนะค่ะ นำไปใช้ประโยชน์ได้มาก เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบภาษาอังกฤษมาก แต่ไม่เก่งสักที เพราะไม่มีโอกาสได้คุยกับชาวต่างชาติเท่าไหร่ และกลัวว่าจะพูดผิด แต่ตอนนี้ไม่กลัวแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณคุณมากนะค่ะ ^^ ขอให้มีความสุขมากๆ ในชีวิตนะค่ะ ^^