วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

[1062] “ท่านชอบใจธรรมะของใคร?”

สวัสดีครับ
ถ้ามีใครพูดว่า “คนเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยสนใจธรรมะกัน เอาแต่ทำมาหากิน และเที่ยวเล่นสนุกสนาน” ผมไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับคำพูดนี้สักเท่าไรนัก ที่ไม่เห็นด้วยก็เพราะว่า คนเราไม่ว่าสมัยไหนต่างก็มีความทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น เมื่อมีความทุกข์ก็ต้องดิ้นรนหาทางดับทุกข์ไม่ว่าโดยรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม และความรู้และการปฏิบัติที่ทำให้ความทุกข์หมดไปนั้น ไม่ว่าภาษาสมัยใหม่จะเรียกมันว่า ความคิดเชิงบวก (positive thinking), จิตวิทยาในการใช้ชีวิต, หรืออะไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ถ้าคิดและทำอย่างถูกต้องแล้ว ก็ถือว่าเป็นธรรมะทั้งสิ้น

แต่ท่านสังเกตบ้างไหมครับว่า ทุกวันนี้เรามีแหล่งให้ศึกษาธรรมะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ เทป วิทยุ โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต และวัดหรือแหล่งปฏิบัติธรรมให้ผู้สนใจไปฝึกทำสมาธิวิปัสสนาก็มีไม่น้อย แต่ก็มีคนจำนวนมากไม่ได้รับประโยชน์จากแหล่งความรู้หรือแหล่งฝึกปฏิบัติธรรมเช่นนี้ เป็นเพราะอะไรครับ

คำตอบโดยประสบการณ์ส่วนตัวของผมก็คือ มันเหมือนกับคำพังเพยไทยที่ว่า “ลางเนื้อชอบลางยา” คือ เมื่อเราเป็นโรค ๆ หนึ่ง ยาขนานเดียวกันที่คนอื่นมากมายเขากินได้ผลแต่เรากินแล้วกลับไม่ได้ผล ในทำนองตรงกันข้าม ยาขนานที่เรากินได้ผลคนอื่นจำนวนมากอาจจะกินแล้วไม่ได้ผลเลย ข้อสรุปก็คือ โรคทางกายที่เราเป็นต้องรักษาด้วยยาที่ถูกกับโรคทางกายของเรา โรคทางใจคือความทุกข์ก็เช่นกัน ก็ต้องรักษาด้วยยาที่ถูกกับโรคทางใจของเรา เพราะฉะนั้นคนบางคนอาจจะเคยศึกษาธรรมะมาบ้าง และก็รู้สึกว่าไม่เห็นจะมีประโยชน์ต่อชีวิตจิตใจตรงไหนเลย นี่ไม่ได้แปลว่าเขาไม่ชอบธรรมะ แต่เป็นเพราะว่าเขาไม่ได้รับธรรมะที่ถูกกับใจของเขา และใจคนร้อยคนก็ร้อยใจ และในคน ๆ เดียวกันในร้อยวันอาจจะมีสภาพใจร้อยแบบ และธรรมะที่จะถูกฝาถูกตัวกับใจเขาในวันนั้นชั่วโมงนั้นจึงต้องเป็นธรรมะที่พอดิบพอดีกับใจของเขาในนาทีนั้นด้วย ถ้าเขาโชคดีได้พบธรรมะที่ “โดน” ใจในเวลาที่ใจเปิดรับธรรมะบทนั้น ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตบนเส้นทางแห่งธรรม อย่างนี้ถือว่าเขาทำบุญมาดีจึงพบธรรมะที่เป็นแสงสว่างนำทาง

ตั้งแต่วัยรุ่นมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ผมจะศึกษาธรรมะของหลายท่าน แต่ผมก็ชอบใจมาก ๆในธรรมะของ 2 ท่านเท่านั้น คือ ท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุและหลวงพ่อชา และได้ข้อสรุปว่า ยาทางใจคือธรรมะของพระสุปฎิบัติทั้ง 2 รูปนี้รักษาโรคทางใจของผมได้ ผมได้แง่คิดมาตั้งแต่หนุ่มแล้วว่า คนเราควรจะแสวงหาธรรมะที่เหมาะสมกับชีวิตจิตใจของตัวเอง ถ้าไม่แสวงหาก็อาจจะไม่พบและพลาดจากธรรมะอันเป็นอัญมณีของชีวิตที่โลกนี้มีให้แก่ทุกคน แต่มันอาจจะเป็นโชคร้ายของสังคมนี้ก็ได้ที่เรามีธรรมะอยู่มากมาย แต่วัฒนธรรมที่กระตุ้นให้ผู้คนหาให้พบธรรมะที่ทั้ง “ถูกต้อง” และ “ถูกฝาถูกตัว” กับตัวเอง วัฒนธรรมเช่นนี้ยังไม่รุนแรงพอ คนในสังคมนี้จำนวนไม่น้อยจึงยังไม่ได้รับประโยชน์จากธรรมะเท่าที่ควร

ในประเทศอินเดียยุคสมัยที่พระพุทธเจ้ายังเดินเหินอยู่ที่นั่นเป็นยุคสมัยของการแสวงหา “โมกขธรรม” คือความหลุดพ้นทางจิตวิญญาณ พระพุทธเจ้ามิใช่คน ๆ เดียวที่เป็น “ผู้แสวงหา” แต่มีคนร่วมสมัยอีกเยอะแยะที่เดินกระทบไหล่อยู่บนเส้นทางเดียวกัน หลายคนก็ “ค้นพบ” อะไรบางอย่างและเผยแพร่ “ข่าวประเสริฐ” ให้คนอื่นรู้ การสอนโดยครูและการเรียนโดยศิษย์ในเรื่องโมกขธรรม จึงเป็นวัฒนธรรมของสังคมอินเดียยุคนั้น ซึ่งผมเห็นว่าเป็นวัฒนธรรมที่ดีมาก ๆ เมื่อคนแปลกหน้ามาเจอกันและถามกันว่า “ท่านชอบใจธรรมะของใคร?” จึงเป็นเรื่องที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมแห่งการแสวงหาอย่างชัดเจน

และ ณ นาทีนี้ ที่ท่านผู้อ่านกำลังอ่านบรรทัดนี้ ถ้าผมถามท่านด้วยคำถามเดียวกันนี้ “ท่านชอบใจธรรมะของใคร?” ท่านจะตอบผมว่าอย่างไรครับ ถ้าท่านยังไม่มีคำตอบ หรือคำตอบยังไม่แน่ชัด วันนี้ผมได้รวบรวมธรรมะของสมณะผู้รู้ไว้มากมายพอสมควรที่ลิงค์ข้างล่างนี้

ผมขอตั้งจิตอธิษฐานว่า ด้วยใจที่เปิดรับ ท่านจะได้พบกับธรรมะของสมณะที่ท่านชอบใจ เป็นธรรมะที่ถูกต้องและถูกฝาถูกตัวกับท่าน

ขอให้ผมและท่านผู้อ่านทุกท่านได้เดินบนเส้นทางแห่งธรรม ที่มีพร้อมทั้งความดี ความงาม และความสุข ขอให้เราได้เดินไปด้วยกันนะครับ

ธรรมะภาษาไทย
อ่าน
http://www.dharma-gateway.com/monk/preach/monk-preach-index.htm
http://www.dhammajak.net/book/index.php
http://www.dhammajak.net/download/index.php (ดาวน์โหลด)
http://www.thawsischool.com/dhamma-ajarh.html
http://pirun.ku.ac.th/~fagisvtc/buddhism/nanasara/ajan/dharmatalk1.htm
http://www.dhammajak.net/directory/?c=8
http://www.luangphor.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=368371

ฟัง
http://www.fungdham.com/sound/sound.html
http://www.jozho.net/index.php?mo=3&art=200803
http://www.dhammajak.net/audio/dhamma/index.php

ธรรมะภาษาอังกฤษ
อ่าน

http://www.what-buddha-taught.net/index.htm
http://www.accesstoinsight.org/lib/thai/index.html (อาจารย์สายวัดป่่าของไทย)
http://www.accesstoinsight.org/index-author.html

ฟัง
http://www.kanlayanatam.com/vdo/Meditation1b.htm (video พระฝรั่งสอนทำสมาธิ)
http://www.accesstoinsight.org/outsources/audio.html

รวมเว็บธรรมะ
http://www.dhammajak.net/directory/index.php

พิพัฒน์
GemTripe@gmail.com

2 ความคิดเห็น:

I'm Naree, กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

Kasma กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ

ว่างๆจะแวะไปศึกษาดูนะคะ อิอิ