วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554

[1893] นึกถึงความหลังสมัยเป็นนักศึกษาออกค่ายชนบท

สวัสดีครับ
วันนี้ขณะที่ท่องเน็ตเพื่อหาอะไรดี ๆ มาฝากท่านผู้อ่าน ผมก็ไปเจอเพลง อยากให้ความรักแก่คนทั้งโลก ในเว็บ YouTube ขณะที่ฟังเพลงความรู้สึกที่เต็มตื้นขึ้นมาในใจก็คือความรู้สึกเดิม ๆ เมื่อสมัยอยู่ธรรมศาสตร์และออกค่ายชนบท พวกเราออกค่ายกันค่อนข้างบ่อย จนแซวกันเองว่า ออกค่ายเป็นงานหลัก เรียนเป็นงานรอง

เวลาเช่นนั้น ในค่ำคืนยามหนาว พวกเราจะนั่งนอนล้อมกองไฟที่ก่อขึ้นกลางลาน และจะมีคนหนึ่งดีดกีตาร์ให้พวกเราร่วมร้องเพลงเพื่อชีวิต เพลง อยากให้ความรักแก่คนทั้งโลก เป็นพลงหนึ่งที่พวกเราชอบมากที่สุด ร้องแล้วร้องอีกไม่รู้จักเบื่อ ส่วนเพลงอื่นที่ติดอันดับก็คือ แสงดาวแห่งศรัทธา, รางวัลแด่คนช่างฝัน, เดือนเพ็ญ, ดอกไม้จะบาน


เมื่อฟังเพลง อยากให้ความรักแก่คนทั้งโลก และมองย้อนกลับไปยังอดีตประมาณ 30 ปีที่แล้ว มันทำให้ผมเห็นชัดว่า ในชีวิตนักศึกษาช่วงเวลาหนึ่งที่ดีมีคุณค่าและให้ความสุขแก่ชีวิตมากที่สุด ก็คือช่วงเวลาออกค่ายชนบทนี่แหละครับ สมัยนั้นเมืองหลวงและชนบทมีช่องว่างมากกว่าสมัยนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับรู้ข่าวสารบ้านเมือง แต่ทุกวันนี้ความต่างก็ยังมีอยู่ ผมเห็นว่าในขณะที่คนชนบทมากมายรู้เรื่องราวความเป็นไปของเมืองมากขึ้น แต่คนเมืองจำนวนไม่มากนักที่รู้เรื่องราวความเป็นไปของชนบท ที่มากกว่าเรื่องราวที่ถูกรายงานทางหนังสือพิมพ์หรือโทรทัศน์ เมื่อคนเมืองจำนวนน้อยที่เสียงดังไม่เข้าใจคนชนบทจำนวนมากที่เสียงค่อย หรือเสียงดังแต่อยู่ไกลทำให้ไม่ค่อยได้ยิน ความไม่พอใจจึงเกิดขึ้นได้มาก... มากขนาดที่ความเห็นใจซึ่งขาดความเข้าใจแก้ไขอะไรได้ยาก

ผมย้อนมานึกถืงตัวเองและคนรุ่นผมซึ่งเรียนจบและแยกย้ายกันไปทำงานในที่ต่าง ๆ ผมถามตัวเองว่า พวกเรายังคงมีอุดมคติอันบริสุทธิ์เหมือนสมัยที่นั่งล้อมกองไฟในคืนหนาวร่วมร้องเพลงเพื่อชีวิต และพวกเรายังร้องเพลงเพื่อชีวิตเพลงเดิมอยู่หรือเปล่า? พวกนักศึกษารุ่นเราสมัยนั้น ที่บัดนี้กลายเป็นนักธุรกิจ นักการเมือง ข้าราชการ ยังคงมีอุดมคติของวัยเยาว์อยู่หรือเปล่า?

มีอยู่ไม่บ่อยนักที่พวกเราได้มาเจอกัน ผมรู้สึกเป็นสุขที่ได้เห็นว่า พวกเราส่วนใหญ่ไม่ได้เปลี่ยนปลงไปมากนัก ยังคงมีอุดมคติของนักศึกษาที่ไร้เดียงสา แต่ก็พยายามทำเพื่อผู้อื่นเหมือนเดิมในอาชีพที่ต่างกันไปในวัยที่รู้จักโลกมากขึ้น

อยากจะบอกเพื่อนว่า ถ้าเพื่อนได้เข้ามาอ่านถึงบรรทัดนี้ เราขอมอบเพลงเหล่านี้ให้เพื่อน และขอให้เราได้ร้องร่วมกัน เหมือนที่เคยนั่งล้อมกองไฟร่วมร้องเพลงเหล่านี้ในชนบทสมัยนั้น

อยากให้ความรักแก่คนทั้งโลก


แสงดาวแห่งศรัทธา


รางวัลแด่คนช่างฝัน


เดือนเพ็ญ


ดอกไม้จะบาน



พิพัฒน์
www.facebook.com/e4thai
e4thai@live.com

ไม่มีความคิดเห็น: