ในฐานะที่เป็นคนอยู่ไม่สุข ชอบซอกแซกไปหาเว็บฟรีที่สอนภาษาอังกฤษมาเสริ์ฟท่านผู้อ่าน ผมขอฟันธงว่า
-เว็บของสื่อมวลชนต่างประเทศที่ให้บริการฟรีที่ดีที่สุดในด้านการศึกษาภาษาอังกฤษก็คือเว็บของ BBC ซึ่งบล็อกนี้ก็ได้แนะนำหลายครั้งแล้ว คลิกดูที่นี่
-ส่วนเว็บสื่อมวลชนในประเทศไทย ที่ทำหน้าที่นี้อย่างดีที่สุด ก็คือเว็บ Bangkok Post และในบล็อกนี้ก็แนะนำไปแล้วเกินสิบครั้ง คลิกดูที่นี่
ในฐานะ blogger มีน้อยครั้งมากที่ผมจะแนะนำให้ท่านควักเงินไปซื้อหนังสือ CD หรือสิ่งนั้นสิ่งนี้มาฝึกภาษาอังกฤษ เพราะผมเห็นว่าของฟรีในเน็ตก็มีอยู่แล้วอย่างดาดดื่น แต่วันนี้ผมขอละเว้นกฎเคยชินสักวัน โดยขอแนะนำให้ท่านซื้อหนังสือภาษาอังกฤษที่ Bangkok Post เขาจัดจำหน่าย ผมเองเคยใช้หนังสือเหล่านี้สอนตัวเองมาหลายเล่ม ทุกเล่มดีทั้งนั้น และดีมาก ๆ ซะด้วย คลิกดูได้เลยครับ
ส่วนของฟรีที่ Bangkok Post ให้คนไทยนั้นก็มีมากมายตามที่ผมแนะนำข้างต้น
ไหน ๆ พูดแล้วก็ขอพูดอีกหน่อย ผมไม่รู้ว่า Bangkok Post เคยได้รับรางวัล ประกาศนียบัตร หรือโล่ ฯลฯ บ้างหรือยังจากหน่วนงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษแก่ประชาชน ถ้ายังไม่มีหน่วยงานใดเลยที่ให้การรับรองผลงานบริการประชาชนเช่นนี้ของ Bangkok Post ผมเห็นว่าน่าจะพิจารณาให้เป็นอย่างยิ่งครับ และน่าจะได้รับจากหลายหน่วยงานเสียด้วย
วันนี้ผมขอแนะนำสิ่งที่ผมเคยแนะนำมาแล้วในบล็อกนี้ คือ Bangkok Post Learning
ที่ลิงค์นี้: http://www.bangkokpost.com/learning/
[เว็บก่อนหน้า Bangkok Post Learning คือ www.readbangkokpost.com]
ผมเข้าใจว่าผู้ที่รับผิดชอบหน้า Bangkok Post Learning คือ อาจารย์ Terry Fredrickson ซึ่ง 4 ส่วนของ Learning คือ
อาจารย์จะคัดข่าวภาษาอังกฤษที่น่าสนใจจากหน้า Bangkok Post มาให้ศึกษา โดย
-มีเนื้อข่าวที่คัดมาแล้ว และ edit
-มีการให้คำนิยามศัพท์ที่ควรรู้เป็นภาษาอังกฤษ แถมด้วยคำแปลภาษาไทย
-มีเสียงอ่านข่าวให้ท่านคลิกฟัง หรือดาวน์โหลดเก็บไว้ฟังบ่อย ๆ ในภายหน้าก็ได้
บอกได้เลยว่า คุณภาพของเนื้อหาที่ท่านจะได้รับจากหน้า Bangkok Post Learning ดีมาก ๆ ซึ่งผมขอสรุปสั้น ๆ ว่า เป็นเนื้อหาที่เรียนแล้วท่านจะรู้สึกว่า เพลิดเพลิน – ท้าทาย – ได้ผล
ส่วนอีก 2 ส่วน คือ
ไม่มีเสียงให้ฟัง แต่เป็นหน้าที่ท่านสามารถใช้เพื่อเรียนรู้ ทบทวน และทดสอบ คำศัพท์ภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี
ที่พูดมาทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผมชื่นชม โดยส่วนตัว ผมอาศัย Bangkok Post และนิตยสารภาษาอังกฤษในเครือ คือ Student Weekly เป็นโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษส่วนตัวมาตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยม ถ้าใครถามว่าผมเรียนภาษาอังกฤษมาจากไหน ผมจะตอบว่า เรียนมาจากหลายแห่ง แต่มีอยู่ 2 แห่งที่สอนดีที่สุด คือ Bangkok Post School และBangkok Post University (ก็คือหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ 2 ฉบับนี่แหละครับ)
หมดจากเรื่องชื่นชม คราวนี้มาถึงเรื่องที่ผมอยากได้บ้าง
ผมเห็นเว็บข่าว 2 เว็บ คือ เว็บต่างประเทศ VOA Special English และเว็บเมืองไทย The Nation ซึ่งเขามีบริการ เมื่อคลิกเข้าไปในเนื้อข่าวและดับเบิ้ลคลิกที่คำศัพท์จะมี Definition ปรากฏ ผมอยากห็นอย่างนี้ที่ Bangkok Post บ้าง ไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ครับอาจารย์
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
2 ความคิดเห็น:
หนังสือของ Bangkokpost เคยซื้ออยู่เล่มเดียวครับ คือ You can read the Bangkok post ของอาจารย์ Terry เนี่ยล่ะครับ ...
อ่านหนังสือพิมพ์นี่มันยากขนาดต้องมีหนังสือ How to มาอ่านประกอบเลยนะเนี่ย ...
ซื้อมาตั้งสามปีแล้วเพิ่งอ่านไปได้แค่ 1/3 ของหนังสือเองครับ ฮ่าๆ ...
แต่หนังสือของเขาดีจริงครับ อันนี้ยอมรับ
ในส่วนของการฟังข่าวที่เขาอ่านใน Learning นี่ ผมว่าของเว็บ VOA กับ BBC น้ำเสียงมันน่าฟังกว่านะครับ
อันนี้ความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะครับ ...^_^
ที่บอกว่า เว็บ VOA กับ BBC น้ำเสียงมันน่าฟังกว่า อันนี้พอเป็นที่เข้าใจได้ แต่ผมมีเรื่องหนึ่งที่ขอแบ่งปัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมต้องต้อนรับคณะของชาวภูฏานที่เพิ่งจบปริญญาตรีจากประเทศของเขาและมาดูงานที่ประเทศไทย ผมบอกอาจารย์ชาวไทยที่เป็นผู้ประสานงานว่า เด็กพวกนี้พูดภาษาอังกฤษผมฟังแทบไม่รู้เรื่องเลย อาจารย์บอกผมว่า ไม่ต้องกังวลหรอก อาจารย์เองอยู่กับพวกเขาเป็นอาทิตย์แล้วก็ยังฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะฉะนั้นผมเห็นว่า ถ้าจะให้ดีในการฝึกฟังภาษาอังกฤษ เราก็ควรฝึกฟังมันทุกอย่าง พูดเร็ว-พูดช้า, พูดสำเนียงอังกฤษ-อเมริกัน-แขก-จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลี-แอฟริกา ในอนาคตถ้ามนุษย์ต่างดาวมายังโลกจนเป็นเรื่องปกติ และมนุษย์ต่างดาวต้องพูดภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษากลางของมนุษย์โลก เราก็ต้องฝึกฟังภาษาอังกฤษสำเนียงเอเลียน ฯลฯ ทั้งหมดที่พูดมานี่ผมต้องการจะบอกคำเดียวว่า เราในฐานะผู้เรียนคงต้องฝึกฟังทุกสำเนียง
แสดงความคิดเห็น