สวัสดีครับ
ไม่ทราบว่าท่านผู้อ่านที่อยู่ในกรุงเทพเคยใช้บริการ ไหว้พระ ๙ วัด กับ ขสมก. เขตการเดินรถที่ ๑ (อู่บางเขน)บ้างหรือไม่ครับ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เขาจะมีบริการจัดบัสรถนำเที่ยว 9 วัด ในจังหวัดที่ส่วนใหญ่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก เชิญคลิกที่ ลิงค์นี้ เพื่อดูรายละเอียด
ผมเองไปเที่ยวไหว้พระ ๙ วัด กับ ขสมก.เกือบจะทุกเส้นทางแล้ว ถ้าถามว่าไปเที่ยวกับเขา มีอะไรให้ดูให้ทำบ้าง ขอสรุปสั้น ๆ ว่า พอรถไปถึงวัดใดวัดหนึ่งตามโปรแกรมของเขาแล้ว เขาจะให้เวลาเราประมาณ 30 นาทีต่อ 1 วัด ให้เราทำสิ่งต่อไปนี้
-ไหว้พระประธาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในวัด
-เช่าวัตถุมงคล จากวัด
-อาจจะมีการทำสังฆทาน หรือพิธีอื่น ๆ ให้ลูกทัวร์ของ ขสมก.ได้เข้าร่วม
ส่วนในเขตกรุงเทพมหานครเอง ก็มีความนิยมในการไหว้พระ 9 วัด เช่นกัน คลิกดูรายละเอียด
ท่านผู้อ่านครับ ในความรู้สึกลึก ๆ ส่วนตัว ผมอดสงสัยไม่ได้ว่า เมื่อเราเข้าวัดและไหว้พระประธานในโบสถ์นั้น เราไหว้อะไรกันแน่? ถ้าพระประธานคือตัวแทนของพระพุทธเจ้า สมมุติว่า เมื่อเราไหว้พระพุทธชินราช หรือหลวงพ่อโสธร หรือพระแก้วมรกต หรือพระประธานในโบสถ์ของวัด no-name ที่ไหนสักแห่ง มันก็น่าจะไม่มีความแตกต่างกันเลย เพราะพระประธานทุกองค์ต่างก็เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าดุจเดียวกัน มันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า แม้ในใจของท่านที่ไหว้พระจะไม่ได้รู้สึกชัด ๆ อย่างนี้ แต่ท่านอาจจะไหว้ “เทพ” ซึ่งปกปักรักษาพระพุทธรูปนั้น ซึ่งจะอวยพรให้แก่ศาสนิกผู้ศรัทธาเดินทางมากราบไหว้พระพุทธรูป หรือถ้าสามารถแบ่งสัดส่วนของใจได้ ชาวพุทธจำนวนไม่น้อยซึ่งไหว้พระประธานในโบสถ์ อาจจะ “ไหว้พระ” สักครึ่งใจ ส่วนอีกครึ่งใจนั้น “ไหว้เทพ” หรือนี่ผมวิเคราะห์เลยเถิดเกินไปหน่อย ท่านผู้อ่านว่าอย่างไรครับ
ถ้าความเข้าใจในพระพุทธศาสนาของผมไม่ผิดเพี้ยน มันก็น่าจะเป็นว่า พระพุทธเจ้ามอบภาระให้แก่ทุกคนในการเข้าถึง “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” หรือความรู้แจ้ง ด้วยตัวเอง ความสุข ความทุกข์ ความเจริญขึ้น หรือตกต่ำของชีวิต เป็นไปตามกรรมของแต่ละคน การอ้อนวอนร้องขอจากสิ่งอื่น หรือจากพระพุทธเจ้า ย่อมไม่มีผล หรือถ้าจะมีผลก็เป็นผลด้านจิตใจ ทำให้เรามีที่พึ่งทางใจ มีพลังที่จะต่อสู้ชีวิตและทำความดีต่อไป ผมเข้าใจอย่างนี้
และด้วยคำสอนเช่นนี้ทำให้พุทธศาสนา ไม่มี “ที่อยู่” ในอินเดีย, อินเดีย เป็นเพียง “ที่เกิด” และ “ที่ตาย” ของพุทธศานาในประเทศนั้นเท่านั้น แต่พุทธศาสนากลับไปเจริญเติบโตที่อื่น เช่น ในเอเชีย อเมริกา และยุโรป ตอนที่ผมไปเที่ยวอินเดียและมีโอกาสเข้าไปชมโบสถ์คริสต์บางแห่ง ขณะที่มองดูรูปพระเยซูในโบสถ์คริสต์ที่ประเทศอินเดีย มันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า การที่คนอินเดียยอมรับ Jesus ซึ่งเป็น “คนนอก” มากกว่ายอมรับ Buddha ซึ่งเป็นลูกหลานของชาวอินเดียเอง ก็เพราะว่า การนับถือพระเยซู ไม่ได้ทำลาย “กรอบ” ความนับถือแต่ดั้งเดิม คนอินเดียเพียงหยิบ พระพรหม พระวิษณุ พระพิฆเณศ พระ ฯลฯ ออกไป และหยิบพระเยซูใส่ลงไปแทนที่ในใจเขาเท่านั้นเอง [สำหรับท่านที่ชอบตัวเลข ขอเรียนว่า คนอินเดียนับถือศาสนาฮินดู 80.5 %, อิสลาม 13.4%, คริสต์ 2.3%, ซิกข์ 1.9% ส่วนศาสนาพุทธ ไม่ถึง 1%]
วันนี้ ผมขออนุญาตแนะนำอะไรที่เป็นวัด ๆ หน่อยนะครับ ถ้าท่านสนใจก็คลิกเข้าไปอ่านได้เลย
รายชื่อวัดของแต่ละจังหวัดในปรเทศไทย
รายชื่อเจ้าอาวาส
(คลิกเลือกจังหวัด, คลิกค้นหา, คลิกที่ลิงค์ชื่อวัดเพื่ออ่านประวัติวัด)
รายชื่อวัดไทยในต่างประเทศ (ภาษาไทย)
เว็บ wikipedia.org วัดพุทธศาสนาในประเทศต่าง ๆ (ภาษาอังกฤษ)
สำหรับเว็บของ wikipedia.org นี้ ในแต่ละบทความ ให้ท่านเลื่อนลงไปข้างล่าง จนพบ External links ตรงนั้นอาจจะมี website ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับชื่อบทความ
สำหรับท่านที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติม ผมขอแนะนำให้ท่านพิมพ์ชื่อวัด (หรือชื่อเรื่องที่ท่านต้องการค้นหา)ลงไปใน google.com ท่านจะเห็นที่คอลัมน์ซ้ายมือมีคำว่า
Everything
Images
Videos
News
ตรงนั้นแหละครับ ที่ท่านสามารถคลิกเพื่อ ดูภาพ ชมวีดิโอ อ่านข่าว เกี่ยวกับเรื่องที่ท่านต้องการ
ในตอนที่ค้นหาเรื่องเพื่อมาเขียนในวันนี้ ผมไปพบเว็บพระไตรปิฎกซึ่งแปลกจากที่ผมเคยพบ คือ มีสรุปเนื้อหาให้ด้วย ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งต่อการอ่านเบื้องต้นสำหรับท่านที่ไม่ค่อยมีเวลา ข้างล่างนี้ครับ
เรียนรู้พระธรรม จากพระไตรปิฎก
พุทธวัจนะ
ชาดก
คติธรรม
ศึกษาเพิ่มเติม: รวมทุก 'เว็บพระไตรปิฎก' มาไว้ที่นี่
แถม: ท่องเที่ยวทั่วไทย
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
3 ความคิดเห็น:
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ สำหรับส่วนตัวเห็นด้วยกับคุณพิพัฒน์ที่ว่าพระประธานเป็นตัวแทนให้เราระลึกถึงพระพุทธเจ้า ดังนั้นไม่ว่าไหว้พระที่ไหนด้วยใจเคารพและระลึกถึงพระคุณ คำสั่งสอนของพระองค์ อยู่ที่ไหนคงไม่ต่างกัน แต่การไปตระเวนไหว้พระหลาย ๆ ที่ คิดว่าเป็นการต่อยอดพระพุทธศาสนา ช่วยทำนุบำรุงวัดให้คงอยู่ได้ นี่เป็นความคิดส่วนตัวตอนที่ตระเวนทำบุญค่ะ ^________^
ผมเองเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่ชอบศึกษาธรรมะ(และวิทยาศาสตร์) ก็เพราะธรรมมะมีความเป็นเหตุเป็นผล สามารถเข้าใจได้ด้วยตัวเราเอง ในคำสอนที่เรียบง่ายต่างๆ มีแง่คิดต่างๆมากมายที่ผมนำไปประยุกต์ใช้กับตัวผมเองได้เป็นอย่างดี เข้าใจความทุกข์มากขึ้น แก้ความทุกได้ตรงจุดมากขึ้น จากการที่ผมได้ศึกษาธรรมะมาพอสมควรก็พอจะเข้าใจพระพุทธศาสนาลางๆ คือ พระพุทธเจ้าได้วางแนวทางไว้ให้เรา และตัวเรานั่นคือผู้ที่จะรับไปปฏิบัติ ตัวเรานั่นเองที่ขจัดความทุกข์ให้หมดไปได้ด้วยตัวเราเองได้ ทุกอย่างเริ่มที่ตัวเรา เริ่มต้นที่จิตของเรา....
โดยส่วนผมเข้าใจว่า การที่ทำไมเราต้องไปไหว้พระ 9 วัดนั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีครับ อาจจะเป็นคนละเรื่องกับคำสอนหรือไม่ได้เกี่ยวข้องกับคำสอนเลย อย่างน้อยๆ เข้าใจว่าเป็นอุบายของคนรุ่นก่อนที่ทำให้เรามีจิตใจที่ผ่องแผ้ว มีจิตใจที่เบิกบาน เกิดจิตใจที่ดีงามขึ้นมา เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการละเว้นการทำความชั่วต่างๆได้ครับ.....
สุสานสวรรค์
ได้อ่านความเห็นของน้องแล้วพี่ก็พอใจ เพราะเห็นได้ชัดว่าน้องมองอะไรลึกกว่าธรรมดา
พิพัฒน์ - blogger
แสดงความคิดเห็น