สวัสดีครับ
ภาพและข่าวน้ำท่วม ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ข้างล่างนี้ ผมนำมาจากเว็บ thealami.com และ bangkokpost.com
ประโยคที่ประทับใจผมมาก ๆ ก็คือ คำพูดของกำนันตำบลนี้ซึ่งเป็นมุสลิม
"เราคิดว่าเป็นความประสงค์ของพระเจ้าที่จะทดสอบเรา เพื่อดูว่าเรามีความแข็งแกร่ง ซึ่งวิธีที่ดีที่เราสามารถรับมือกับภัยพิบัตินี้ "
"We think God is trying to test us, to see how strong we are; how well we can cope with this disaster,"และ
"เราไม่คิดว่ามันเป็นความผิดของใคร และเราไม่ได้โทษใคร "
"We don't think it is anyone's fault and we don't blame anyone,"
เชิญอ่านข่าวโดยละเอียดได้เลยครับ...
น้ำท่วมมัสยิดชุมชนท่าอิฐ นนทบุรีอ่วม
สำ นักข่าวอะลามี่ : ชุมชนมุสลิมในตำบลท่าอิฐ ในพื้นที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เลวร้ายที่สุด จากน้ำท่วมรุนแรง โดยชาวบ้านส่วนใหญ่มองว่าภัยพิบัติที่เกิดขึ้น เป็นการทดสอบของพระเจ้า เพื่อให้เขาอดทนมากขึ้น
(ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
หญิงชาวมุสลิมพายเรือกับสมาชิกในครอบครัว เป็นหนึ่งในสมาชิกหรือสรรบุรุษภายในมัสยิด ท่าอิฐ ในเขตอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ที่กำลังเผชิญกับสภาพน้ำท่วมและภัยพิบัติครั้งรุนแรงอีกครั้งหนึ่งในรอบหลาย ปีที่ผ่านมา
"เราคิดว่าเป็นความประสงค์ของพระเจ้าที่จะทดสอบเรา เพื่อดูว่าเรามีความแข็งแกร่ง ซึ่งวิธีที่ดีที่เราสามารถรับมือกับภัยพิบัตินี้ " สมพล ลานทอง กำนันตำบลท่าอิฐ ในวัย 54 ปี กล่าว
สมพล บอกว่า ที่นี่ มีประชากรประมาณ 14,541 คน ทั้งนี้ชุมชนท่าอิฐ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่ล้อมรอบด้วยน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา ในทิศตะวันออก และคลองบางบัวทอง ทางตอนเหนือ
"ในช่วงน้ำท่วมปีที่ผ่านมา ระดับน้ำอยู่ที่ระดับระดับหัวเข่า แต่วันนี้น้ำมากขึ้น อยู่ที่ระดับหน้าอก “สวัสดิ์ ถิ่นงาม ชาวบ้านในตำบลท่าอิฐ กล่าว และว่า ทั้งนี้ชาวบ้านที่นี่ 4 ใน 5 ของชุมชน เป็นหมู่บ้านเป็นชาวมุสลิม ขณะนี้ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่บนชั้นสองของบ้าน
“ คนส่วนใหญ่ในชุมชนทำงานในห้างสรรพสินค้า, ร้านค้าปลีก และ บริษัทเอกชนในเมือง และพวกเขาจะต้องพึ่งพารถบรรทุกทหารที่จะเดินทางไปทำงาน ซึ่งพวกเขาก็ต้องลุยน้ำท่วมไปยังจุดนัดพบ ก่อนที่จะมีรถบรรทุกอีกทอดหนึ่ง " ชาวบ้านในชุมชนท่าอิฐ กล่าวและว่า
สำหรับเกษตรกรที่ปลูกพืช ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ ซึ่งเกือบ100 % ของพื้นที่เพาะปลูกทุเรียน นอกจากนี้น้ำที่ทะลักท่วมได้ทำให้ชาวมุสลิม ที่จะเดินทางไปมัสยิด เพื่อปฎิบัติศาสนกิจลำบาก เพราะมัสยิดถูกน้ำท่วมเช่นกัน
"เราไม่คิดว่ามันเป็นความผิดของใคร และเราไม่ได้โทษใคร " นายสมพลกล่าวว่า ชาวบ้านหลายสะท้อนความเชื่อมั่นนี้
อย่างไรก็ตามสำหรับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่พวกเขากำลังเชิญอยู่ในขณะนี้ คาดหวังว่าความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากรัฐบาลบ้าง
ขณะที่ นายปรีดา เชื้อผู้ดี คณะ กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งมีถิ่นฐานในพื้นที่ตำบลท่าอิฐบอกว่า นับตั้งแต่ระดับน้ำท่วมขังและน้ำไหลบ่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้นำรถใหญ่ออกตระเวนขนชาวบ้านเพื่อไปทำงานตลอด เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
*******
Villagers say crisis is 'God's will'
PRAGMATIC MUSLIMS BELIEVE CATASTROPHE IS A TEST OF THEIR CHARACTER
"We think God is trying to test us, to see how strong we are; how well we can cope with this disaster," said Sompol Larnthong, the 54-year -old village headman of Moo 7 village.
With a population of around 14,541 people, Tha It is a wetland surrounded by two water courses _ the Chao Phraya River in the east and Bang Bua Thong canal in the north.
"During last year's flood, the water level was about knee level. Today it has gone up a lot more, even to chest-level in some places," said Sawad Thinkham, a tambon Tha It kamnan.
"Since our dykes broke on Oct 8, we can't handle the overflow any more," he added.
Around 2,000 households in five villages are severely affected by flooding.
Chiwa Paiboon, deputy chief of Tha It tambon administration organisation, said four of these five villages are Muslim-dominated. Most residents are now living on the second floors of their homes.
Most people in the communities are workers for department stores, retail shops and private companies in the city and they have to rely on military trucks to commute to work. However, they have to wade through floods to the meeting point to get on the trucks.
Some people who can afford to do so have already moved out to rent flats elsewhere, but most people are afraid burglars may target their homes if they leave, said Mr Chiwa.
"We often receive complaints about valuable things being stolen, especially during a crisis like this," he added.
Life is harder still for farmers whose crops were damaged by floods, particularly fruit growers.
"It's 100% of our durian plantations that have been destroyed," said Mr Sompol.
"Last year we could cope with the floods, but not this year."
In his Moo 7 village, there are about 30 farming families, of which 10 are durian growers and the rest growing various fruits such as mangosteen, rose apple and mango.
"I have informed the agriculture district office and asked for financial support for destroyed orchards," he said.
"However, the office requires more details, such as photographs and household registration certificates."
The high level of flooding has made it impossible for Muslim villagers to travel to their nearest mosque, in Moo 10 village, to conduct their daily prayers. The mosque has been flooded as well.
"We don't think it is anyone's fault and we don't blame anyone," said Mr Sompol. Many villagers echoed this sentiment.
But if the residents do not wish to apportion blame for a natural disaster, they do expect more assistance from government.
"For now, we are very much in need of more high-raised vehicles and longtail boats that can transport people from their flooded homes to work and back," Mr Sompol said.
"If possible, we want the government to build some kind of embankment for us along the Chao Phraya," he added.
2 ความคิดเห็น:
ขอแสดงความเห็นตรงข้อความนี้หน่อยครับ
to see how strong we are; how well we can cope with this disaster
น่าจะมาจาก 2 ส่วนนี้รวมกัน
1 to see how strong we are
2 to see how well we can cope with this disaster
,,,เพื่อที่จะทดสอยว่าเราเข้มแ็ย็งเพียงใด และ(ทดสอบว่า)สามารถจัดการกับภัยพิบัตินี้ไ้ดีดีเพียงใด
น้ำท่วมเกิดจากน้ำมือมนุษย์
แสดงความคิดเห็น