วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2553

[1382]Ancient Chinese Stories(คลิกดูคำแปลได้ทุกคำ)

สวัสดีครับ
ไม่ว่าเราจะชอบการอ่านหรือไม่ก็ตาม แต่การอ่านก็เป็นเรื่องจำเป็นและมีประโยชน์ต่อการทำงาน ต่อการศึกษาหาความรู้ และช่วยพัฒนาทักษะอีก 3 ทักษะ คือ การพูด การฟัง และการเขียน การอ่านจึงมีคุณอนันต์

อย่างไรก็ตาม คำบ่นพื้นฐานที่ผมได้ยินบ่อย ๆ ก็คือ ไมรู้ศัพท์ทำให้อ่านไม่รู้เรื่อง และจึงไม่ฝึกอ่าน

ถ้าพูดเฉพาะปัญหาเรื่องคำศัพท์ (ยังไม่ต้องพูดเรื่องแกรมมาร์) ที่ทำให้อ่านไม่รู้เรื่อง ผมขอแยกแยะง่าย ๆ อย่างนี้ครับ คือ เมื่อเราหยิบหนังสือภาษาอังกฤษขึ้นมาอ่านสัก 1 หน้า เราเจอปัญหาอะไร

ปัญหาที่ 1 เราไม่รู้ศัพท์ เราอาจพยายามเดาแต่ก็เดาไม่ออก เราจึงเปิดดิก
ปัญหาที่ 2 พอเปิดดิกแล้ว เราพบว่าคำที่เราค้น, ดิกให้ความหมายไว้เยอะเหลือเกิน เราจึงต้องพยายามเลือกเอามา 1 ความหมายที่เข้ากับเนื้อเรื่องที่เรากำลังอ่าน
ปัญหาที่ 3 เมื่ออ่านที่ประโยคเดิมอีกครั้ง เราก็ยังต้องตีความความหมายของศัพท์เพื่อให้อ่านเนื้อเรื่องเข้าใจ

มีหนังสือหรือนิตยสารฝึกภาษาอังกฤษประเภทหนึ่ง ที่มีต้นฉบับภาษาอังกฤษและคำแปลภาษาไทยให้เทียบอ่าน ผมกำลังสงสัยอยู่ว่า หนังสือประเภทนี้ถ้าเราใช้ผิดวิธีอาจเป็นโทษ คือทำให้ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของเราแย่ลง ๆ ตามลำดับ เพราะเราอาจจะไม่เจอปัญหาและไม่ต้องแก้ปัญหาอะไรเลยในการฝึกอ่าน คือ
ปัญหาที่ 1 – เราไม่ต้องฝึกเปิดดิก
ปัญหาที่ 2 – เราไม่ต้องฝึกเลือกความหมายที่สอดคล้องกับเนื้อเรื่อง
ปัญหาที่ 3 – เราไม่ต้องฝึกตีความความหมายของคำศัพท์เพื่อให้เข้าใจเนื้อเรื่องที่อ่าน

ผลที่เกิดขึ้นก็คือ เราเข้าใจเรื่องที่อ่าน โดยไม่ได้พัฒนา reading skill ของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราฝึกโดยอ่านคำแปลภาษาไทยก่อนแล้วจึงย้อนไปอ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษ หรือเราอ่านภาษาอังกฤษก่อนแต่เพียงคร่าว ๆ และก็ก้าวสายตามาอ่านคำแปลเลย การฝึกอย่างนี้ ก้อนสมองส่วนที่ต้องใช้ในการตีความ – เดาศัพท์ – และระลึกถึงคำศัพท์ที่เคยผ่านตา สมองก้อนนี้จะได้รับการพัฒนาน้อยมาก เพราะเราเอาแต่อ่านคำแปลที่คนอื่นเขาแปลไว้ให้ หรือตีความเนื้อเรื่องตามที่คนอื่นเขาตีความไว้ให้

สำหรับท่านที่รู้สึกตัวเองว่า ยังอ่านได้ไม่ดีอย่างที่ตัวเองต้องการ ผมขอเรียนว่าท่านต้องอดทนฝึกอย่างต่อเนื่องและใจเย็น อะไร ๆ ก็ไม่พ้นความพยายามหรอกครับ

ในบล็อกนี้ ผมได้ทำหน้าบล็อกที่ช่วยท่านฝึกการอ่านและแก้ปัญหาที่ 1 คือ ช่วยให้ท่านไม่ต้องเปิดดิก ท่านเพียงเข้าไปที่หน้านั้น ๆ และดับเบิ้ลคลิกคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ก็จะมีคำแปลภาษาไทยปรากฏทันที ถึงตรงนี้ท่านก็มีภาระเพียงแค่ 2 อย่าง คือ เลือกความหมายและตีความ ด้วยการฝึกอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ อย่างอดทน – ต่อเนื่อง – และใจเย็น reading skill ของท่านก็จะค่อย ๆ มากขึ้น ๆ โดยท่านไม่รู้ตัว หรือพอรู้สึกตัวก็เก่งซะแล้ว
แบบฝึกหัดที่ว่านี้ มีอยู่ในหน้าข้างล่างนี้ครับ

[1248] อ่านนิทานอีสป แปลศัพท์ทุกคำ แค่ดับเบิ้ลคลิก
http://english-for-thais-2.blogspot.com/2009/11/1248.html

นิทานอีสป (คลิกคำไทยเพื่อดูคำแปลภาษาอังกฤษ)
http://translateitbangkokpost.blogspot.com/2010/01/blog-post.html

[1251] อ่าน กามนิต - วาสิฏฐี (click-dict version)
http://english-for-thais-2.blogspot.com/2009/11/1251-click-dict-version.html

” The Life of The Buddha ” พุทธประวัติ
http://translateitbangkokpost.blogspot.com/2010/02/life-of-buddha.html

[1279] “หลวงปู่ฝากไว้” ภาษาไทยเทียบอังกฤษ
http://english-for-thais-2.blogspot.com/2009/12/1279.html

52 of the Best-Ever Success Quotes
http://translateitbangkokpost.blogspot.com/2009/12/52-of-best-ever-success-quotes.html

Soap operas encourage the worst of social norms
http://translateitbangkokpost.blogspot.com/2010/01/soap-operas-encourage-worst-of-social.html

และวันนี้ผมมีเพิ่มอีก 1 เรื่อง คือ
Ancient Chinese Stories
http://translateitbangkokpost.blogspot.com/2010/03/ancient-chinese-stories.html
เป็นนิทาน คติ ขำขัน เรื่องเล่า ประวัติศาสตร์สั้น ๆ ฯลฯ ของจีน ที่น่าอ่านครับ
*********
ท่านอาจจะมีคำถามว่า แล้วเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า การแปลของเรามันถูกต้อง จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ผมฝึกอ่านภาษาอังกฤษด้วยตัวเองมาตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยม ผมขอเรียนท่านผู้อ่านอย่างนี้ครับ
1.ผมจะเริ่มฝึกอ่านเรื่องที่ผมชอบ หรือเรื่องที่ผมมีความรู้พื้นฐานอยู่บ้าง หรือเรื่องที่ไม่ยากเกินไป และเมื่ออ่านภาษาอังกฤษ... และงงหรือไม่แน่ใจ อย่างน้อยผมก็พอจะรู้ว่าคำแปลมันควรจะเป็นไปในทางไหน

2.ผมเอาดิกเป็นอาจารย์ครับ โดยเฉพาะอย่างยิงดิกอังกฤษ – อังกฤษ ที่มีศัพท์และความหมายมากเพียงพอต่อการใช้งาน ดิกอังกฤษ – ไทย นั้นก็ดีอยู่ครับ แต่หลายครั้งก็ไม่มีความหมายที่เราต้องการตีพิมพ์ไว้ ก็จึงทำให้การฝึกอ่านติดขัดอยู่เหมือนกัน ในบล็อกนี้ ผมได้รวบรวมดิกคุณภาพดีทั้ง อังกฤษ – อังกฤษ และ อังกฤษ – ไทย ไว้ที่ลิงค์นี้ครับ เปิดดิก

3. ผมได้รวมรวมหลักแกรมมาร์พื้นฐานซึ่งควรรู้เพื่อทำให้เราอ่านภาษาอังกฤษรู้เรื่องโดยไม่ตีความผิด อยู่ที่ลิงค์นี้ครับ
[1312]อ่านอังกฤษคล่องต้องเข้าใจแกรมมาร์ 4เรื่องนี้
http://english-for-thais-2.blogspot.com/2010/01/1312-4.html

4. ข้อสุดท้ายเป็นข้อปฎิบัติสั้น ๆ ที่จำง่าย ๆ คือ... ถ้าวันไหนมีเวลาเยอะก็อ่านเยอะ, วันไหนมีเวลาน้อยก็อ่านน้อย, วันไหนแทบไม่มีเวลาเลยก็พยายามอ่านสักนิดหน่อย เพียง 2 – 3 ประโยคก็ยังดี แต่ต้องอ่านทุกวัน

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

1 ความคิดเห็น:

Saowananta กล่าวว่า...

เห็นด้วยกับคุณพิพัฒนืค่ะ ว่าทำไมคนไทยถึงไม่จับมือกัน ทำมาหากินพัฒนาบ้านเมืองให้ก้าวหน้า ณ วันนี้เขาจะรู้ไหมชาวบ้านเดือดร้อน เช่นเพื่อนจองรถไฟจะพาลูกไปสมัครเรียนต่อที่กรุงเทพฯแต่ต้องมางด เด็กๆเสียขวัญ และขอบคุณสำหรับความรู้ที่ท่านมอบให้