วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552

[1265] ดาวน์โหลดหนังสือ How to ask questions?

สวัสดีครับ
ระหว่างการพูดคุยแทบทุกครั้งของคนเรา จะต้องมีการถามและตอบ เพราะฉะนั้น การจะพูดอะไรกับคนอื่นได้ จะต้องถามเป็นและตอบเป็น

ถ้าใครพูดภาษาใดมาตั้งแต่เกิดก็คงไม่มีปัญหาว่าจะต้องตั้งคำถามยังไง ตอนตอบจะเรียงถ้อยคำยังไง เขาจะทำได้โดยธรรมชาติ แต่ถ้าเป็นภาษาที่มาเรียนภายหลัง เช่นคนไทยเรียนภาษาอังกฤษ และไม่มีโอกาสพูดภาษาอังกฤษทุกวัน การเรียนรู้โครงสร้างประโยคคำถาม-คำตอบ และจำให้ได้เป็นพื้นฐานไว้ก่อนในใจ ก็คงเป็นสิ่งจำเป็นอยู่บ้าง อย่างน้อยก็ในระยะแรก ซึ่งยังพูดไม่ค่อยคล่อง

ผมนึกถึงตัวเองสมัยเริ่มได้รับมอบหมายงานซึ่งต้องพูดภาษาอังกฤษ ตอนเริ่มก็ติดขัดมากทีเดียว ไอ้ที่เรียนมาเกี่ยวกับการตั้งประโยคโดยใช้ 5W+1H (what, who, when, where, why, how) พอถึงเวลาจะพูดมันติด ๆ ขัด ๆ ตะกุกตะกักจริง ๆ ชวนให้ท้อ!

พออ่านมาถึงบรรทัดนี้ หลายท่านอาจจะเคยได้ยินคำแนะนำมาตรฐาน ว่า ก็ให้พยายามฝึกพูดบ่อย ๆ ก็จะค่อย ๆ พูดคล่องมากขึ้นเรื่อย ๆ เองแหละ ผมเห็นว่าแม้ว่าคำแนะนำเช่นนี้จะเป็นความจริง 100 % แต่ท่านเคยสังเกตไหมครับว่า ทำไมแต่ละท่านที่ฝึกพูดภาษาอังกฤษจึงผ่านช่วงเวลาแห่งความขรุขระเช่นนี้ได้เร็วหรือช้าต่างกัน ผมขอถามให้เจาะจงกับเรื่องที่จะแนะนำในวันนี้ คือ เรื่องการตั้งคำถาม ทำไมคน 2 คนที่มีเวลาเท่า ๆ กันในการฝึกพูดภาษาอังกฤษ จึงพูดคล่องได้ไม่เหมือนกัน

ตรงนี้แหละครับที่ผมอยากจะบอกว่า ถ้าจำหลักเกณฑ์ได้ขึ้นใจ และเมื่อถึงเวลาจะพูดก็พูดตามหลักเกณฑ์ที่ระลึกได้ เมื่อพูดไปเรื่อย ๆ ก็จะคล่องขึ้นโดยไม่ต้องระลึกถึงหลักเกณฑ์นั้นอีก แต่ถ้าไม่แม่นเรื่องวิธีการตั้งคำถาม พอพูดแต่ละครั้งก็อึดอัดขัดใจทุกที คือไม่มีความมั่นใจในการพูด อย่างนี้ก็แย่หน่อยครับ พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าพื้นฐานไม่ดีก็ปราชัยไปกว่าครึ่ง แต่ถ้าพื้นฐานดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง

ผมขอยกตัวอย่างมาเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ สัก 1 เรื่องนะครับ คิดว่าทุกท่านคงเล่นแบตมินตันเป็น การเล่นก็ง่าย ๆ คือถือไม้แบตตีกันไปตีกันมาก็เล่นได้แล้ว นี่พูดตามประสาเล่นแบบชาวบ้านที่ไม่ต้องมีโคช แต่สำหรับนักแบตชาวบ้านทั้งหลายอย่างพวกเรานี่ ท่านสังเกตไหมครับลูกแบบไหนที่ตียาก ถ้าเราตีด้วยมือขวาและลูกมาทางซ้ายยาว ๆ การจะตีลูกกลับไปก็ต้องใช้วิธีแบ็คแฮนด์ และลูกแบ็คแฮนด์นี่นะครับ ถ้าไม่ได้หัดตีให้ดีจะตีไม่ได้แรง เพราะฉะนั้น การตีลูกแบ็คแฮนด์ให้ได้แรง ๆ จากเส้นหลังด้านเราไปถึงเส้นหลังฝ่ายตรงข้าม จึงเป็นทักษะพื้นฐานที่ควรฝึกทำให้ได้ อาจจะต้องใช้เวลานานหน่อยฝึกตีซ้ำ ๆ แบ็คแฮนด์อย่างเดียวก่อนแข่งจริง

ผมกำลังจะบอกว่า ถ้าท่านใดพูดภาษาอังกฤษแล้วตั้งคำถามไม่เป็นหรือถามกลับได้ช้าเกินไป หรือใช้เวลาคิดนานเกินไปในการผูกประโยคคำถาม ก็อาจจะทำให้การสนทนาสะดุด ฉะนั้น จึงขอให้พยายามฝึกเฉพาะเรื่องนี้ให้คล่อง ถ้าสามารถผูกประโยคตั้งคำถามได้คล่องเหมือนใจ ก็จะช่วยให้การพูดภาษาอังกฤษง่ายขึ้นเยอะ

คำว่า drill ในการเรียนภาษาคือ การฝึกซ้ำแล้วซ้ำอีก การ drill เช่นนี้มักจะได้ 2 สิ่งมาพร้อม ๆ กัน คือ 1.ความเก่ง 2.ความเบื่อ ถ้าอยากเก่งก็อย่าเบื่อ ถ้าเก่งแล้วก็จะหายเบื่อไปเอง

และหนังสือเรื่อง How to ask questions ที่ผมนำมาให้ท่านดาวน์โหลดในวันนี้ก็มีทุกเรื่องที่จะบอกท่านว่า จะตั้งคำถามยังไงในการพูดภาษาอังกฤษ มีตัวอย่างอธิบายอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่น่าสนใจมาก คือ Language Help ซึ่งเป็นข้อแนะนำการตั้งคำถามที่เป็นภาษาพูด, มีแบบฝึกหัดให้ทำ, และมีเฉลยให้ตรวจ นอกจากนี้ก็มีตัวอย่างแสดงลักษณะของคำตอบให้ดูด้วย
เชิญ คลิกเพื่อดาวน์โหลด
ที่มา

หนังสือเรื่อง How to ask questions แม้จะเป็นตำรา แต่ก็เป็นตำราที่อ่านง่ายครับ

ศึกษาเพิ่มเติม:
[1219] ฝึกพูดด้วยการฝึกถาม !
[177] การตั้งคำถามโดยใช้ 8 W และ 1 H

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

5 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ผมจะตั้งใจเรียนให้ได้

pipat - blogger กล่าวว่า...

ขออวยพรให้คุณมีความสุขใจในการทำสิ่งที่ตั้งใจ ทุกวัน ครับ
พิพัฒน์

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆๆนะคะ คุณพิพัฒน์

ไม่รู้จะพูดขอบคุณอีกสักกี่ครั้งถึงจะตอบแทนกับน้ำใจงามๆที่คุณพิพัฒน์มอบให้กับคนที่กำลังอยากพัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเองให้ดีกว่านี้ค่ะ

ตอนแรกที่เข้ามาเจอเว็ปของคุณพิพัฒฯ์เนี่ยโดยบังเอิญค่ะ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองโชคดีจริงๆที่ได้มีโอกาสมาเจอกับเว็ปที่มีประโยชน์มากมายขนาดนี้

จะพยายามฝึกภาษาอังกฤษให้ดีกว่านี้ค่ะ เพราะว่าตอนนี้ค่อนข้างอ่อนแอเหลือเกิน อิอิ


ขอให้ผลบุญที่คุณพิพัฒน์ได้ทำประโยชน์ให้กับสังคมนี้จงส่งผลให้คุณพิพัฒน์และครอบครัว พบเจอแต่สิ่งดีดีเข้ามาในชีวิต และสุขภาพร่างกายแข็งแรงนะคะ


ขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ

ปล.จะเข้ามาอ่านและติดตามทุกวันนะคะ

TTKTIK กล่าวว่า...

ขอขอบคุณในความรู้ที่แบ่งปันครับ ขอให้คุณมีแต่ความสุข มีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามา ขอบคุณจริง ๆ ครับ "ความรู้จะมีค่า ถ้าแบ่งปัน"

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบพระคุณค่ะ ขอให้สิ่งดีดีจงประสบเเด่ท่าน