วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554

[2063]อยากจะฟิตภาษาอังกฤษแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดี !!

สวัสดีครับ
มีคน ๆ หนึ่งชอบบ่นกับเพื่อนบ่อย ๆ ว่า อยากได้เสื้อใหม่สักตัว ทำยังไงดี?


และวันหนึ่งเขาก็เดินผ่านบริเวณที่มีร้านขายเสื้อผ้ามากมาย  ย่านนั้นยาวมาก  เขาเดินผ่านตั้งแต่ร้านแรกไปจนถึงร้านสุดท้าย  แต่ก็แค่เดินผ่าน ไม่ได้แวะเข้าไปชมหรือจับต้องเสื้อผ้าแม้แต่ตัวเดียว  พอเจอเพื่อนและถูกถามว่า อยากได้ไม่ใช่หรือ ทำไมไม่ซื้อมาสักตัวล่ะ  เขาตอบว่าไม่มีเวลาเลือกเพราะต้องรีบไปธุระ


ครั้งที่สองเขาเดินผ่านร้านเสื้อผ้าแถบนั้นอีก   เขาเดินผ่านตั้งแต่ร้านแรกไปจนถึงร้านสุดท้ายเหมือนคราวแรก   แต่ก็ ไม่ได้แวะเข้าไปชมหรือจับต้องเสื้อผ้าแม้แต่ตัวเดียวเหมือนเดิม  พอเจอเพื่อนและถูกถามคำถามเดิม เขาตอบว่าเสื้อมันเยอะจัดเลือกไม่ถูกเลยไม่ได้ซื้อมา


ครั้งที่สามก็เหมือนสองครั้งแรก แต่ก็ยังไม่ได้เสื้อผ้ามาอยู่ดี เมื่อถูกถามก็ตอบว่า มีแต่เสื้อผ้าราคาแพงซื้อไม่ไหว เมื่อถูกแย้งว่าเสื้อสวย ๆ ราคาไม่แพงก็มีไม่ใช่หรือทำไมไม่ซื้อมาสักตัว   เขาตอบว่า เสื้อที่อยากได้มันราคาแพงแต่ไม่มีเงินพอซื้อ  ส่วนเสิ้อที่มีเงินพอซื้อก็ไม่ใช่เสื้อที่อยากได้จริง ๆ ก็เลยไม่ซื้อ


ครั้งที่สี่เขาตั้งใจว่าคราวนี้ต้องซื้อให้ได้ เมื่อไปถึงก็เลือกซื้อมาได้ตัวหนึ่งเป็นสีชมพู และกะว่าจะใส่เสื้อสีนี้ที่ชอบในวันอังคารให้ถูกโฉลก   แต่พอไปทำงานวันจันทร์กลับพบว่ามีเพื่อนร่วมงานอีกคนหนึ่งใส่เสื้อแบบเดียวกันสีเดียวกันเดี๊ยะเหมือนที่ตัวเองซื้อมา พอถึงวันอังคารก็เลยเปลี่ยนใจไม่ยอมใส่ไปทำงานเพราะกลัวถูกล้อว่าแต่งตัวเลียนแบบเพื่อน


ผมขอเล่าแค่สี่ครั้งเท่านี้แล้วกันครับ  เพราะครั้งที่ห้า ครั้งที่หก และครั้งที่เจ็ด ก็มีเหตุการณ์ทำนองนี้อีก ผลสุดท้ายคน ๆ นี้ก็ไม่ได้ซื้อเสื้อตัวใหม่มาใส่ ยังคงใส่เสื้อผ้าชุดเก่าไปทำงานเหมือนเดิม   แต่ก็ยังไม่เลิกบ่นกับเพื่อนว่า อยากได้เสื้อตัวใหม่ ทำไงดี?

คราวนี้ถึงคราวที่ผมขอบ่นบ้างละครับ แต่ไม่ใช่บ่นเกี่ยวกับเรื่องคนอยากมีเสื้อใหม่ อย่างที่เล่ามาข้างบนนี้   แต่ขอบ่นเรื่องคนอยากเรียนภาษาอังกฤษ

บ่อยทีเดียวครับที่มีคนพูดให้ผมได้ยินว่า อยากจะฟิตภาษาอังกฤษแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดี   โดยอ้างสารพัดสาเหตุ เช่น
1.ทิ้งภาษาอังกฤษมานาน  จึงไม่รู้จะเริ่มใหม่ตรงไหน
2.มีบทเรียนให้เลือกเยอะจัด จึงเริ่มไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเลือกเรียนอะไรดี
3.พื้นฐานเดิมอ่อนมาก จะจับอะไรมาเรียนดูมันยากไปหมด ก็เลยไม่รู้ว่าควรจะจับอะไรมาเรียนให้มันรู้เรื่อง
4. ... ฯลฯ ....

คนที่บ่นว่า อยากได้เสื้อใหม่สักตัวแต่ก็ไม่ได้ใส่สักที  กับคนที่บ่นว่า อยากเรียนภาษาอังกฤษม๊ากมาก... แต่ก็ไม่ได้เรียนสักที  สองคนนี้ไม่ต่างกันเลยครับ คือ มีเหตุผลเสมอที่จะไม่ทำ แต่ชอบยืนยันว่าตัวเองอยากทำ  และก็ชอบถามคนอื่นว่าฉันควรจะทำอย่างไรดี?


คำตอบของผมก็คือ ทำอะไรก็ได้ครับลงไปสักอย่าง ถ้าทำแล้วไม่ได้ผลหรือได้ผลช้า ก็ค่อย ๆ ปรับวิธีการทำ   แต่ที่สำคัญคือต้องลงทุนทำด้วยตัวเอง เมื่อทำแล้วก็จะรู้ว่าต้องปรับยังไงให้มันดีขึ้น 

ในการฟิตภาษาอังกฤษก็ไม่ต่างกันหรอกครับ ท่านอย่ารอเลยครับที่จะให้คนอื่นบอกคำตอบสำเร็จรูปในวิธีเรียนที่ดีและเหมาะกับท่านมากที่สุด เพราะวิธีเรียนที่ดีที่สุดสำหรับท่าน... ท่านต้องลงทุนหาเองครับ   เมื่อท่านหา... ท่านก็จะพบ เมื่อท่านพบ... ก็ทำตามวิธีที่พบ มีแค่นี้เองครับ

พิพัฒน์

5 ความคิดเห็น:

pp กล่าวว่า...

ตรงกับใจมากเลยครับ อยากทำ แต่ไม่รู้จะทำยังไง เริ่มยังไง เลยไม่ได้ทำสักที แต่ของผมจะเพิ่มเติมว่า รู้อยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไร แต่ไม่มั่นใจว่าทำไปแล้วจะได้ผลไหม คุ้มกับเวลาที่เสียไปไหม ความตั้งใจและวินัย ยังไม่มากพอ คงต้องปรับปรุงตรงนี้ให้มาก

ติดตามบล็อกของอาจารย์เป็นประจำมากกว่า 5 ปีแล้ว มีประโยชน์มากครับ
หากครั้งหน้ามีบล็อกประเภทนี้ แต่สอนภาษาจีน รบกวนแจ้งด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ

pipat - blogger กล่าวว่า...

ภาษาจีน ไปที่นี่ครับ
http://intereladsd2.blogspot.com/2007/06/blog-post_12.html
พิพัฒน์

Unknown กล่าวว่า...

I am sure we can all be a master of English :D

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

นู๋เคยเป็นอย่างนี้เหมือนกันค่ะ อยากได้ของใหม่ แต่เสียดายเงินเลยไม่ได้อะไรใหม่สักอย่าง อ่านข้อความคุณพิพัฒน์แล้วโดนในมากเลยค่ะ จะตั้งใจใหม่ค่ะ

แล้วแต่ กล่าวว่า...

ตรงใจมากครับ...แล้วผมจะพยายามดำน้ำต่อไป