สวัสดีครับ
โดยส่วนตัวผมเห็นว่า ฟังภาษาอังกฤษยากกว่าอ่าน เพราะอ่านไม่เข้าใจก็อ่านอีกได้จนกว่าจะเข้าใจ แต่ถ้าฟังคนพูดสด ๆ จะบอกให้เขาพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกคงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าหวังจะพูดเก่งก็ต้องฝึกฟังให้รู้เรื่อง เพราะคงไม่มีใครในโลกนี้ที่พูดกับคนอื่นได้โดยไม่ต้องฟังให้เข้าใจเรื่องที่เขาพูด เพราะฉะนั้นการฝึกฟังจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่อย่างที่บอกแล้ว การฟังเป็นเรื่องที่ฝึกยากกว่าฝึกอ่าน แล้วจะฝึกฟังกันอย่างไรล่ะ? เทคนิคส่วนตัวของผมคือ
1. ฝึกฟังเรื่องง่ายก่อนเรื่องยาก จะได้มีกำลังใจไม่ท้อตั้งแต่แรก ทั้งนี้ รวมทั้งที่เป็น slow speed เพราะในระยะแรกเราอาจจะไม่คุ้นเคยกับที่เป็น normal speed ที่ลิงค์นี้ครับ
[176]ฝึกฟังช้า ๆ จะได้ทั้ง 'สำเนียง' และ 'สำนวนพูด'
[833] ฟังภาษาอังกฤษช้า ๆ มีประโยชน์มากกว่าที่คิด
2. หาฟังเรื่องที่เราถูกใจ เพราะจะนำไปสู่ความสุขใจ – ใส่ใจ – และเข้าใจ มากกว่าฟังเรื่องที่เราไม่ค่อยสนใจหรือต้องทนฟัง
3. ในระยะเริ่มต้น ให้ฝึกฟังเรื่องที่จบภายในเวลาสั้น ๆ ถ้าฝึกฟังเรื่องที่ยาวเกินไปจะทำให้สมองล้ารับไม่ไหว
4. ฟังพร้อมอ่าน หรืออ่านก่อนฟัง(ทำความเข้าใจศัพท์และเนื้อเรื่องก่อนฟัง) หรือฟังแล้วอ่าน จะฝึกแบบไหนก็ตามถนัด การอ่านจะช่วยผ่อนแรงในการสร้างความเข้าใจเรื่องที่ฟัง ท่านจะสังเกตได้ว่าในบล็อกนี้ ผมพยายามหาเว็บที่มีทั้ง Text, Script และ mp3 มาแนะนำท่าน
5. ฟังพร้อมดูวีดิโอ การที่สามารถรับสารผ่าน 2 ประสาท คือ ทางหูและทางตา จะช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น ยิ่งถ้ามี subtitle ให้อ่านพร้อมกับชมภาพวีดิโอที่เคลื่อนไหว ยิ่งช่วยให้เข้าใจยิ่งขึ้นไปอีก
[275] เรียนภาษาอังกฤษกับ Subtitle ของ YouTube
[320]ชมทุกวีดิโอของ YouTube ที่มี English subtitle
[323] ดูละครทีวีไทยที่มี Subtitle เป็นภาษาอังกฤษ
ฟังสุนทรพจน์ของประธานาธิบดี Barack Obama ที่มี subtitle บนหน้าจอ`
Captioned Media for Obama
6. ฝึกฟังน้อย ๆ แต่ฟังบ่อย ๆ ดีกว่าฝึกฟังนาน ๆ แต่นาน ๆ จะฟังสักที เพราะฉะนั้น การฝึกฟังวันละ 15 นาทีแต่ฟังทุกวันใน 1 สัปดาห์ (= 105 นาที) ดีกว่าในสัปดาห์หนึ่งฟังนานถึง 2 ชั่วโมง แต่ฟังครั้งเดียว (เรื่องการพูด อ่าน เขียน ก็ในทำนองเดียวกัน)
7. ลองฟังโดยใช้หูฟังดูหน่อยซีครับ จะได้ยินสำเนียงชัดขึ้น ช่วยให้ง่ายในการฝึกออกเสียงตาม แต่อย่าเปิดเสียงดังเกินไปนะครับ ฟังนาน ๆ เดี๋ยวจะหูตึง
8. ฝึกฟังพร้อมพูดตาม การฝึกพูดตามจะช่วยสร้างความมั่นใจว่า เราฟังได้ถูกต้อง เพราะถ้าเราฟังได้ถูกต้องเราก็น่าจะพูดได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ การฟังโดยมีภาระที่จะต้องพูดให้ได้ตามที่ฟังจะทำให้เราใส่ใจในการฟังมากขึ้น ไม่ใช่ฟังสักแต่ว่าฟัง ลองอ่านคำแนะนำที่ลิงค์นี้ประกอบนะครับ
[409]สูตรสำเร็จในการฝึกพูดกับเว็บ:Play-Pause-Repeat
9. ฟังอย่างตั้งใจ ถ้าเราจะอุทิศเวลาวันละ 20 – 30 นาทีเพื่อการฝึกฟังภาษาอังกฤษ ก็ต้องให้ทั้ง 1 ใจไปพร้อมกับ 2 หู ถ้าให้แต่หูไม่ให้ใจฝึกฟังเท่าไร ๆ ก็มักไม่ค่อยได้ผล แต่ถ้าท่านจะเปิดฟังพร้อมกับทำงานอย่างอื่นที่เป็นงานหลัก ให้การฟังเป็นผลพลอยได้อย่างนี้ก็ไม่เป็นไรครับ แต่การ “ฟังอย่างตั้งใจ” ควรจะเป็นกิจกรรมหลักด้วย การฝึกฟังภาษาอังกฤษไม่ควรจะเป็นแค่กิจกรรมรองเพียงอย่างเดียว
10. ฟังด้วยความสุข ถึงยัง “ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง” ก็ไม่ได้แปลว่า “ฟังไม่ได้เรื่อง” ผมขอรับรองอย่างหนักแน่นจากประสบการณ์ของตัวเองว่า ได้เรื่องครับ ได้เรื่องแน่ ๆ แม้ในระยะแรก ๆ เราอาจจะรู้สึกว่ามันไม่ค่อยได้เรื่อง – ไม่ค่อยรู้เรื่องก็ตาม ตอนระยะที่ผมฝึกฟังภาษาอังกฤษหลายปีแรก ๆ ผมรู้สึกว่า ทำไมมันฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเอาซะเลย ก็เลยถามผู้อาวุโสหลายคนว่า “ทำอย่างไรจึงจะฟังภาษาอังกฤษให้รู้เรื่องเร็ว ๆ ?” ก็มักจะได้รับคำตอบเหมือน ๆ กันว่า “ฟังไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็รู้เรื่องเองแหละ” ตอนนั้นผมมักจะรู้สึกว่าคำตอบเช่นนี้ตอบอย่างเสียไม่ได้ ไม่เห็นชี้แนวทางอะไรสักนิด ผมมาสำนึกตอนหลังว่า นี่เป็นคำตอบที่ตรงและถูกต้องที่สุด การเรียนภาษาอังกฤษไม่มีทางลัด คนที่เอาแต่มองหาทางลัดและไม่ค่อยตั้งใจเดินไปตามทางตรงที่มีให้เดิน จะเดินไปถึงปลายทางได้ช้ากว่าคนที่ตั้งใจเดินไปตรง ๆ เพราะฉะนั้น อย่าสนใจทางลัดเลยครับ ตั้งใจเดินไปตามทางตรง ๆ นี่แหละครับ
ผมอยากเรียนว่า อย่าใจร้อน เพราะถ้าร้อนใจจะให้ถึงหรือฟังรู้เรื่องเร็ว ๆ แต่เมื่อไม่รู้เรื่องทันใจ ก็หงุดหงิดรำราญตัวเอง ร่างกายจะหลั่งสารที่บล็อกการทำงานของสมอง ยิ่งทำให้เรียนได้ช้า แต่ถ้าทำใจให้โล่ง ๆ เรียนไปอย่างปล่อยวางและมีความสุข ฝึกฟังไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวมันก็ค่อย ๆ รู้เรื่องเองแหละครับ (เรื่องการพูด อ่าน เขียน ก็ในทำนองเดียวกันนี่แหละครับ)
ขอสรุปบัญญัติ 10 ประการของการฝึกฟังภาษาอังกฤษ เพื่อจำง่าย ๆ ดังนี้ครับ
1. ฝึกฟังเรื่องง่าย, slow speed
2. หาฟังเรื่องที่เราถูกใจ
3. เริ่มฝึกฟังเรื่องที่จบภายในเวลาสั้น ๆ
4. ฟังพร้อมอ่าน
5. ฟังพร้อมดูวีดิโอ
6. ฝึกฟังน้อย ๆ แต่ฟังบ่อย ๆ
7. ลองฟังโดยใช้หูฟัง
8. ฝึกฟังพร้อมพูดตาม
9. ฟังอย่างตั้งใจ
10. ฟังด้วยความสุข
ผมขอตบท้ายด้วยเว็บฝึกฟังภาษาอังกฤษเว็บนี้
http://hearingvoices.com/sitemap.php
Sitemap
Links to stories, specials, webworks, producers, subjects, and series…
และท่านสามารถค้นหาเรื่องฟัง โดยใช้ Search ในเว็บได้
ส่วนที่นี่มี Transcript ให้อ่านพร้อมฟัง คลิก
ฟังเพิ่มเติม:
[1] ฟัง
[2] วีดิโอ
[3] http://www.englishclub.com/webguide/Listening/
ศึกษาเพิ่มเติม:
http://www.englishclub.com/webguide/index.htm
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
7 ความคิดเห็น:
ได้ไอเดียครับ
ได้ไอเดียเลยทีเดียว
..บุญรักษาครับ...
เหมือนมีครูคอยสอนเลยครับ แม้เรื่องเดิมๆ แต่เนี้อหาใหม่ ทำให้ไม่เบื่อหน่ายและคอยกระตุ้นให้ฝึกฝน
ผมว่าคนที่เรียนรู้อะไรเอง ที่เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลานานนั้นหากมีครูคอยสอนคอยชี้แนะจะช่วยได้มากเลย หลายคนที่หยุดไปก็เพราะไม่มีครูคอยสอนคอยกระตุ้นนี่แหล่ะครับ (ผมเองก็หนึ่งในนั้น)
แต่ตอนนี้ผมมีครูเป็นของตัวเองแล้วครับ เย้ เย้
ขอบคุณมากครับ...
ถ้าปฏิบัติดังที่ท่านบัญัติใว้ทั้ง 10 ประการแล้ว
ต้องจุดธูปไหว้เจ้าเพื่อขอพรอีกหรือไม่
คุณ Rux ครับ
ถ้ามีเวลาก็เข้าไปอ่านที่ลิงค์นี้ต่อได้เลยครับ
คุยกับคนเขียนบล็อก
พิพัฒน์
Blog Writer
คุณ we're friends ครับ
รู้จักเจ้าที่ไหนขลัง ๆ ช่วยบอกด้วยนะครับ ผมจะได้เอามาแนะนำที่บล็อกนี้
พิพัฒน์
Blog Writer
จริงอย่างอาจารย์พูดเลยคะ ฟังนั้นยากกว่าอ่านมาก
แต่ตอนนี้กำลังฝึกอ่านอยู่ค่ะ เอาจากลิ้งที่อาจารย์แนะนำ
มีประโยชน์มากเลยทีเดียว ทำให้อ่านได้ดีขึ้นเยอะ
ต้องขอบคุณอาจารย์มากๆ และจะทำตามที่อาจารย์สอนเรื่องการฟังนี้นะคะ
เข้ามาอ่านเมื่อ 22 กันยายน 2554 ค่ะ ฟังฝรั่งพูดไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไร ได้คำแนะนำจากอาจารย์จะกลับไปฝึกให้มาก ๆ ค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดี ๆ ค่ะ
แสดงความคิดเห็น