เพราะอดีตเคยเกลียดภาษาอังกฤษ จึงถูกภาษาอังกฤษเกลียด และไม่ยอมให้เราเข้าใกล้
เพราะทอดทิ้งการเรียนภาษาอังกฤษ จึงถูกภาษาอังกฤษทอดทิ้ง
เพราะเรียนภาษาอังกฤษอย่างคนใจลอย ภาษาอังกฤษจึงลอยไปจากใจ
อาจมองเห็นได้แต่ไม่อาจจับต้อง
เพราะเคยทำกรรมไม่ดีไว้กับภาษาอังกฤษ จึงต้องรับกรรมที่ตัวเองก่อไว้
อย่างไรก็ตาม...
การรับกรรม มิควรเป็นการก้มหน้ารับ... อย่างหดหู่
แต่คือการเงยหน้ารับ... อย่างร่าเริง
อดีตผ่านไปแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้ หดหู่ใจไป ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
ชีวิตจึงมีเพียงวันนี้ และพรุ่งนี้
มีบางคนพูดว่า พรุ่งนี้คือภาพในความฝัน
เราสามารถฝันดีเพื่อสร้างกำลังใจ
แต่...
ถ้าไม่ยอมออกกำลังกาย กำลังใจก็อ่อนแรง ความฝันก็แห้งแล้ง
เมื่อเราเงยหน้ารับกรรมที่เคยทำไว้ในอดีต... อย่างร่าเริงใจ
มองไปยังวันพรุ่งนี้...
แม้เราอาจจะบอกไม่ได้ว่า วันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าเมื่อวานนี้
แต่เราสามารถบอกได้อย่างมั่นใจว่า....
พรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ เพราะเราจะทำดีอย่างนี้... ทุกวัน
ทำกรรมดีก็สะสมความดี
ทำทุกวันและทำวันนี้ เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า
บ่อยครั้งที่ความอ่อนล้าเพราะการเรียนภาษาอังกฤษ
เกิดจากใจที่ทำงานหนักมากเกินไป โดยไม่จำเป็น
วิ่งหนีกรรมเก่าและโชคร้ายในอดีต
วิ่งไล่อนาคตด้วยความร้อนใจ
ที่เกิดจากความอยากได้มากเกินไป... โดยไม่จำเป็น
ใจที่ล้าเพราะงานหนักเช่นนี้...
เหนื่อยมากเกินไป และหมดแรงเร็วเกินไป
จนทำเรื่องง่าย ๆ ไม่สำเร็จ
เรียนภาษาอังกฤษด้วยใจที่ง่าย ๆ เถอะครับ
ไม่แบกภาระและโชคร้ายในอดีต
และไม่ทำใจให้หนัก เพราะแบกภาระของอนาคต
เรียนภาษาอังกฤษอย่างนี้เถอะครับ.
พิพัฒน์
e4thai@live.com
4 ความคิดเห็น:
ขอบคุณมากค่ะ อ่านแล้วเบาใจขึ้นเยอะเลย จะเงยหน้ารับกรรมอย่างร่าเริงใจ
เห็นด้วยครับ เวลาจะมุมานะฝึกก็รู้สึกว่า อะไร ๆ มันน่าจะ.....ไปหมด มันก็เลยมีเยอะเกินไปฝึกไม่ไหว เลยพาลเบื่อ แล้วก็ไม่ฝึกอะไรเลย เริ่มต้นฝึกง่าย ๆ ในสิ่งที่ชอบอย่างเช่นฝึกตามหัวข้อ 1925 นี้ก็ดีนะครับ เวลาพักงานห้านาที สิบนาทีก็ฝึกได้ ฝึกฟัง ฝึกเขียน ฝึกพูดทีละประโยค ไม่เครียดมากครับ
จริงแฮ่ะ
ขอบคุณค่ะ เเวะเข้าดูประจำสม่ำเสมอ
ขอบอ่านเรื่องราวที่อาจารยืเขียนไว้
บางทีก็เข้ากับสถานการณ์ อาจไม่ตรงกันทีเดียว
แต่สามารถประยุกต์ใช้ในการทำงานด้านอื่นๆ
ได้ดีเสมอเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น