สวัสดีครับ
บล็อก http://myfirstdictionary.blogspot.com/
ที่ผมแนะนำในวันนี้ อาจจะไม่ได้มีอะไรโดดเด่นผิดธรรมดามากนัก แต่ที่ผมนำเอามาแนะนำก็เพราะว่า ศัพท์ไม่ถึง 200 คำที่เจ้าของบล็อกเขาอธิบายในบล็อกนี้ เป็นไฟล์ jpeg ซึ่งท่าน สามารถนำเอาไปทำ screensaver ได้
เว็บ http://myfirstdictionary.blogspot.com/
ศัพท์ ปี 2010 (ประมาณ 50 คำ – ถึง พย 53) ลิงค์ 1-ลิงค์ 2-ลิงค์ 3
ศัพท์ ปี 2009 (138 คำ) ลิงค์ 1-ลิงค์ 2-ลิงค์ 3
วิธีดาวน์โหลดไฟล์ภาพ
-คลิกขวาที่ภาพศัพท์
-คลิกซ้าย Save Picture As…
-สร้างโฟลดอร์เพื่อเก็บไฟล์ที่ save ทั้งหมดนี้ไว้ด้วยกัน
-ให้เข้าไปเยี่ยมบล็อกนี้เป็นระยะ ๆ เพื่อดาวน์โหลดศัพท์ใหม่ ที่ blogger เขาทำเพิ่มเติม
วิธีทำ Screensaver จากโฟลเดอร์ภาพ
ให้เริ่มต้นด้วยการไปที่ Desktop และทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
1) คลิกขวาที่พื้นที่ว่าง ๆ บน Desktop
2) คลิก Properties
3)คลิก Screensaver แล้วให้ดูที่บรรทัดใต้รูปหน้าจอคอมพิวเตอร์ จะมีคำว่า Screen saver
4) เมื่อคลิกที่หัวลูกศรชี้ลง จะมี Screen saver หลาย ๆ แบบให้เลือก, ให้คลิก My Pictures Slideshow
5) คลิกที่ Settings ซึ่งอยู่ ใต้รูปหน้าจอคอมพิวเตอร์
6) ใต้บรรทัด Use pictures in this folder ให้ท่านติ๊กเพื่อให้มีเครื่องหมายถูก / คงไว้หน้าข้อความ Stretch small pictures, Use transition…. และ Allow scrolling…
7) นอกจากนี้ ในหน้านี้ ท่านสามารถตั้งความเร็วของการเปลี่ยนภาพ ( How often should pictures change? จากเร็วสุด 6 วินาที – จนถึงช้าสุด 3 นาที ) และขนาดของภาพ ( How big should pictures be?) ได้ตามต้องการ[สำหรับระยะเวลาสำหรับการเปลี่ยนภาพ ‘ภาพศัพท์’ นี้ ผมขอแนะนำว่า ท่านตั้งให้นานเพียงพอที่จะอ่านประโยคภาษาอังกฤษสั้น ๆ นั้นจนจบประโยค]
8) คลิก Browse ซึ่งอยู่เหนือเยื้องขึ้นไป ทางขวานิดหน่อย
9) ให้ท่านไปที่ โฟลเดอร์ ซึ่งรวมภาพ jpeg ที่ท่านดาวน์โหลดไว้, คลิก 1 ครั้งเพื่อไฮไลต์โฟลเดอร์นั้น, คลิก OK
10) เมื่อกลับมาที่หน้าต่าง Display Properties อีกครั้ง, ให้ท่านคลิกเลือกว่า จะให้ My Pictures Slideshow ทำงานเมื่อจอนิ่งได้กี่นาที โดยตั้งจำนวนนาทีที่ Wait
11) คลิกที่ Power ซึ่งเยื้องมาทางมุมขวาล่าง, ตรงบรรทัด Turn off monitor ให้คลิกเลือก Never , คลิก Apply, คลิก OK
12) (คลิก Preview และ) คลิก OK ข้างล่าง
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
[1658]ชุดการสอนTeach Yourself English Vocabulary
สวัสดีครับ
ผมไปพบภาษาอังกฤษชุดหนึ่งชื่อ Teach Yourself English Vocabulary ซึ่งเห็นว่าน่าจะเหมาะสมที่คุณครูจะนำไปสอนนักเรียน มีไฟล์ pdf เป็นหนังสือ และไฟล์ mp3 ให้ฟัง
คลิกอ่านคำแนะนำตำรา
คลิกดาวน์โหลดไฟล์ mp3+pdf ขนาด 253 MB
เนื่องจากไฟล์มีขนาดใหญ่ ผมเกรงว่าท่านที่ไม่ได้ใช้ high speed Internet โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลายท่านที่อยู่ต่างจังหวัด จะประสบปัญหาในการดาวน์โหลดไฟล์ ผมจึงแตกเป็นไฟล์ย่อย ๆ ให้ท่านดาวน์โหลดได้ง่าย ๆ
ดับเบิ้ลคลิก ที่ลิงค์ mp3 และ ลิงค์ไฟล์ pdf ข้างล่างนี้เพื่อดาวน์โหลด
สำหรับลิงค์ mp3 ท่านจะฟัง online โดยไม่ดาวน์โหลดก็ได้
คลิกดาวน์โหลดตำราทั้งเล่ม (ไม่ต้องดาวน์โหลดทีละบท ตามลิงค์ข้างล่าง)
Teach Yourself English Vocabulary.pdf
คลิกดาวน์โหลด mp3 และ ตำรา pdf ทีละบท
01.Language to learn language.mp3
02.Ideas for learning language.mp3
03.Animals.mp3
04.Body (1).mp3
05.Body (2).mp3
06.Clothes (1).mp3
07.Clothes (2).mp3
08.Drink.mp3
09.Family.mp3
10.Food (1).mp3
11.Food (2).mp3
12.House and household (1).mp3
13.House and household (2).mp3
14.People and jobs.mp3
15.Shopping.mp3
16.Time (1).mp3
17.Time (2).mp3
18.Weather.mp3
Reading texts.mp3
Transcripts
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
ผมไปพบภาษาอังกฤษชุดหนึ่งชื่อ Teach Yourself English Vocabulary ซึ่งเห็นว่าน่าจะเหมาะสมที่คุณครูจะนำไปสอนนักเรียน มีไฟล์ pdf เป็นหนังสือ และไฟล์ mp3 ให้ฟัง
คลิกอ่านคำแนะนำตำรา
คลิกดาวน์โหลดไฟล์ mp3+pdf ขนาด 253 MB
เนื่องจากไฟล์มีขนาดใหญ่ ผมเกรงว่าท่านที่ไม่ได้ใช้ high speed Internet โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลายท่านที่อยู่ต่างจังหวัด จะประสบปัญหาในการดาวน์โหลดไฟล์ ผมจึงแตกเป็นไฟล์ย่อย ๆ ให้ท่านดาวน์โหลดได้ง่าย ๆ
ดับเบิ้ลคลิก ที่ลิงค์ mp3 และ ลิงค์ไฟล์ pdf ข้างล่างนี้เพื่อดาวน์โหลด
สำหรับลิงค์ mp3 ท่านจะฟัง online โดยไม่ดาวน์โหลดก็ได้
คลิกดาวน์โหลดตำราทั้งเล่ม (ไม่ต้องดาวน์โหลดทีละบท ตามลิงค์ข้างล่าง)
Teach Yourself English Vocabulary.pdf
คลิกดาวน์โหลด mp3 และ ตำรา pdf ทีละบท
01.Language to learn language.mp3
02.Ideas for learning language.mp3
03.Animals.mp3
04.Body (1).mp3
05.Body (2).mp3
06.Clothes (1).mp3
07.Clothes (2).mp3
08.Drink.mp3
09.Family.mp3
10.Food (1).mp3
11.Food (2).mp3
12.House and household (1).mp3
13.House and household (2).mp3
14.People and jobs.mp3
15.Shopping.mp3
16.Time (1).mp3
17.Time (2).mp3
18.Weather.mp3
Reading texts.mp3
Transcripts
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
[1657] แนะนำ “The Monk Who Sold His Ferrari ”
เพิ่ม 29 พฤศจิกายน2553
ดาวน์โหลด mp3 -The Monk Who Sold His Ferrari
สวัสดีครับ
ผมซื้อหนังสือเล่มนี้ “The Monk Who Sold His Ferrari ” จากงานสัปดาห์หนังสือเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่เพิ่งมีเวลาอ่าน 2 – 3 วันนี้เอง เขาบอกว่า หนังสือเล่มนี้มีการแปลสู่ 70 ภาษาทั่วโลก มีคนยกย่องมากว่าเป็นหนังสือที่ให้คำแนะนำ ความหวัง และแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตที่เป็นสุข ผมลองอ่านไปได้ไม่เท่าไรก็รู้สึกว่ามันน่าจะดีอย่างที่เขาพูดกัน จะรอให้อ่านจบเสียก่อนค่อยนำมาแนะนำก็กลัวว่าจะช้าเกินไป เลยขอนำมาให้ท่านดาวน์โหลดไปอ่านด้วยตัวเองซะเลย
The Monk Who Sold His Ferrari
คลิกดาวน์โหลด
อ่าน Comment หนังสือเล่มนี้จากผู้อ่านเว็บ amazon.com
คลิกอ่าน
อ่าน Comment จากเว็บไทย
คลิกอ่าน
อ่านเรื่องราวของผู้แต่ง คือ Robin Sharma จาก Wikipedia
http://en.wikipedia.org/wiki/Robin_Sharma
แถมอีก 1 เล่มจาก Robin Sharma
The Saint The Surfer And The CEO
คลิกดาวน์โหลด
ผมอยากจะชวนท่านผู้อ่านให้ลองหยิบนิยายต้นฉบับภาษาอังกฤษมาอ่านบ้าง
โดยส่วนตัวจุด start ของผมไม่ได้อยู่ที่ว่าต้องอ่านรู้เรื่อง 100 % แต่ผมใช้วิธีง่าย ๆ ในการเลือกนิยายมาอ่าน คือ
1.เป็น bestseller เพราะผมไม่รู้ว่าเล่มไหนดีหรือไม่ดี ก็ขอเหมาไว้ก่อนว่า ถ้าคนจำนวนมาก ๆ ชอบอ่าน ก็น่าจะเป็นหนังสือที่มีคุณภาพดี เหมือนไปต่างจังหวัด เข้าไปในตลาดเวลาเที่ยง จ้องหาร้านอาหารที่ทำอร่อย แต่ไม่รู้ว่าเป็นร้านไหน ก็ขอเดาก่อนแหละว่าร้านไหนมีลูกค้ารอคิวหรือนั่งกินกันเยอะ ๆ ก็น่าจะทำอร่อย
2.เป็นประเภทนิยายที่ผมชอบ นี่หมายความว่าเราต้องรู้ว่าเราชอบอ่านนิยายประเภทไหน ถ้าเป็นประเภทที่เราไม่ชอบต่อให้เป็น bestseller ที่คนจำนวนมากมายชอบ เราก็คงไม่ชอบอยู่นั่นเอง เช่น เป็นนิยาย bestseller ประเภทสืบสวนสอบสวนซึ่งเราไม่ชอบ เราก็ไม่สนใจอยู่นั่นเอง เหมือนผมไม่ชอบกินขาหมูและข้าวมันไก่ ต่อให้ใครบอกว่าที่ร้านนั้น ๆ มันอร่อยขนาดไหนผมก็ไม่สนใจแม้ใครจะเลี้ยงฟรี
ถ้าเราเริ่มอ่านนิยาย bestseller ประเภทที่เราชอบ แม้ศัพท์จะยากเราก็มีกำลังใจหรือสนุกที่จะอ่าน ท่านลองหาให้พบเล่มที่เข้า spec 2 ข้อนี้สักเล่มและอ่านให้จบ และภายหลังเมื่อเครื่องติดแล้ว ท่านอาจจะได้ช่องทางใหม่ในการฝึกภาษาอังกฤษที่สนุกมาก ๆ ก็เป็นได้
หนังสือนิยายภาษาอังกฤษที่อ่านสนุก และเป็นหนังสือที่ใช้แล้วราคาถูก ๆ ที่สวนจตุจักรวันเสาร์-อาทิตย์ มีให้เลือกเยอะครับ
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
ดาวน์โหลด mp3 -The Monk Who Sold His Ferrari
สวัสดีครับ
ผมซื้อหนังสือเล่มนี้ “The Monk Who Sold His Ferrari ” จากงานสัปดาห์หนังสือเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่เพิ่งมีเวลาอ่าน 2 – 3 วันนี้เอง เขาบอกว่า หนังสือเล่มนี้มีการแปลสู่ 70 ภาษาทั่วโลก มีคนยกย่องมากว่าเป็นหนังสือที่ให้คำแนะนำ ความหวัง และแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตที่เป็นสุข ผมลองอ่านไปได้ไม่เท่าไรก็รู้สึกว่ามันน่าจะดีอย่างที่เขาพูดกัน จะรอให้อ่านจบเสียก่อนค่อยนำมาแนะนำก็กลัวว่าจะช้าเกินไป เลยขอนำมาให้ท่านดาวน์โหลดไปอ่านด้วยตัวเองซะเลย
The Monk Who Sold His Ferrari
คลิกดาวน์โหลด
อ่าน Comment หนังสือเล่มนี้จากผู้อ่านเว็บ amazon.com
คลิกอ่าน
อ่าน Comment จากเว็บไทย
คลิกอ่าน
อ่านเรื่องราวของผู้แต่ง คือ Robin Sharma จาก Wikipedia
http://en.wikipedia.org/wiki/Robin_Sharma
แถมอีก 1 เล่มจาก Robin Sharma
The Saint The Surfer And The CEO
คลิกดาวน์โหลด
ผมอยากจะชวนท่านผู้อ่านให้ลองหยิบนิยายต้นฉบับภาษาอังกฤษมาอ่านบ้าง
โดยส่วนตัวจุด start ของผมไม่ได้อยู่ที่ว่าต้องอ่านรู้เรื่อง 100 % แต่ผมใช้วิธีง่าย ๆ ในการเลือกนิยายมาอ่าน คือ
1.เป็น bestseller เพราะผมไม่รู้ว่าเล่มไหนดีหรือไม่ดี ก็ขอเหมาไว้ก่อนว่า ถ้าคนจำนวนมาก ๆ ชอบอ่าน ก็น่าจะเป็นหนังสือที่มีคุณภาพดี เหมือนไปต่างจังหวัด เข้าไปในตลาดเวลาเที่ยง จ้องหาร้านอาหารที่ทำอร่อย แต่ไม่รู้ว่าเป็นร้านไหน ก็ขอเดาก่อนแหละว่าร้านไหนมีลูกค้ารอคิวหรือนั่งกินกันเยอะ ๆ ก็น่าจะทำอร่อย
2.เป็นประเภทนิยายที่ผมชอบ นี่หมายความว่าเราต้องรู้ว่าเราชอบอ่านนิยายประเภทไหน ถ้าเป็นประเภทที่เราไม่ชอบต่อให้เป็น bestseller ที่คนจำนวนมากมายชอบ เราก็คงไม่ชอบอยู่นั่นเอง เช่น เป็นนิยาย bestseller ประเภทสืบสวนสอบสวนซึ่งเราไม่ชอบ เราก็ไม่สนใจอยู่นั่นเอง เหมือนผมไม่ชอบกินขาหมูและข้าวมันไก่ ต่อให้ใครบอกว่าที่ร้านนั้น ๆ มันอร่อยขนาดไหนผมก็ไม่สนใจแม้ใครจะเลี้ยงฟรี
ถ้าเราเริ่มอ่านนิยาย bestseller ประเภทที่เราชอบ แม้ศัพท์จะยากเราก็มีกำลังใจหรือสนุกที่จะอ่าน ท่านลองหาให้พบเล่มที่เข้า spec 2 ข้อนี้สักเล่มและอ่านให้จบ และภายหลังเมื่อเครื่องติดแล้ว ท่านอาจจะได้ช่องทางใหม่ในการฝึกภาษาอังกฤษที่สนุกมาก ๆ ก็เป็นได้
หนังสือนิยายภาษาอังกฤษที่อ่านสนุก และเป็นหนังสือที่ใช้แล้วราคาถูก ๆ ที่สวนจตุจักรวันเสาร์-อาทิตย์ มีให้เลือกเยอะครับ
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
[1656] เรียนภาษาอังกฤษกับ ภาพ และ วีดิโอ
สวัสดีครับ
ภาพและวีดิโอเป็นสื่อการเรียนภาษาอังกฤษที่ช่วยให้เรียนได้สนุก ไม่เครียด ไม่เบื่อ ก็เลยทำให้เรียนได้นาน เข้าใจง่าย จำง่าย ลืมยาก ในบล็อกนี้ผมจึงทำรวมลิงค์ไว้โดยเฉพาะ
ภาพ
วีดิโอ
และวันนี้ผมเจอเว็บเรียนภาษาอังกฤษด้วยภาพและวีดิโออีก จึงนำมาฝาก
http://www.my-english-dictionary.com/
http://www.my-english-dictionary.com/index2.htm
http://www.my-english-dictionary.com/videos.htm
http://www.learn-english.co.il/
http://www.learn-english.co.il/videos/index.html
หมายเหตุ: ถ้าท่านใช้ browser IE แล้วคลิกฟังแต่ไม่มีเสียง
ขอให้ใช้ browser Google Chrome แทน
เรียนอังกฤษกับวีดิโอ YouTube คลิก
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
ภาพและวีดิโอเป็นสื่อการเรียนภาษาอังกฤษที่ช่วยให้เรียนได้สนุก ไม่เครียด ไม่เบื่อ ก็เลยทำให้เรียนได้นาน เข้าใจง่าย จำง่าย ลืมยาก ในบล็อกนี้ผมจึงทำรวมลิงค์ไว้โดยเฉพาะ
ภาพ
วีดิโอ
และวันนี้ผมเจอเว็บเรียนภาษาอังกฤษด้วยภาพและวีดิโออีก จึงนำมาฝาก
http://www.my-english-dictionary.com/
http://www.my-english-dictionary.com/index2.htm
http://www.my-english-dictionary.com/videos.htm
http://www.learn-english.co.il/
http://www.learn-english.co.il/videos/index.html
หมายเหตุ: ถ้าท่านใช้ browser IE แล้วคลิกฟังแต่ไม่มีเสียง
ขอให้ใช้ browser Google Chrome แทน
เรียนอังกฤษกับวีดิโอ YouTube คลิก
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
[1655]ฟัง-อ่าน-พูดตาม ทีละประโยค กับ audio dict.
เพิ่มเติม 23 ธันวาคม 2553:
http://dictionary.reverso.net/english-cobuild/
1)พิมพ์คำศัพท์ & Enter 2)ลากไฮไลต์ประโยคตัวอย่าง 3)คลิกที่ไฮไลต์ & คลิก Speak
เพิ่มเติม 14 ธันวาคม 2553:
http://www.example-sentence.com/english
คลิกอ่านคำแนะนำเพิ่มเติม
สวัสดีครับ
หลายคนบ่นว่าดูหนัง-ฟังข่าว ไม่ค่อยรู้เรื่อง ผมว่า เราอาจจะต้องเริ่มการฝึกด้วยการ ฟัง-อ่าน-พูดตาม ทีละประโยค ซึ่งมีข้อดีเพราะว่า เราสามารถค่อย ๆ ฝึกหลาย ๆ เรื่องไปพร้อม ๆ กัน โดยทุกเรื่องจำเป็นต่อการฟังให้รู้เรื่อง และแหล่งที่เราจะฝึกนี้ก็คือ audio dictionary
ผมเคยแนะนำไว้ที่บทความนี้
[1395]ดิกOxford:อ่านประโยค ตย.ทั้งประโยค-ทุกประโยค
ซึ่งเราสามารถฝึก ฟัง – อ่าน- พูดตาม ได้ทีละประโยค
มีอยู่ 2 เว็บให้เราฝึก คือ
-http://eedic.naver.com/
-http://www.ldoceonline.com/
(เฉพาะคำที่เริ่มต้นด้วย d และ s )
อาจจะต้องเปิดด้วย Browser Google Chrome -คลิก
วันนี้ผมมีอีก 1 เว็บมาแนะนำ คือ http://www.diki.pl/ ซึ่งเป็น English-Polish-English DICTIONARIES
สิ่งที่เราจะขออาศัยจากเว็บนี้ก็คือ การฝึก ฟัง-อ่าน-และพูดตาม ประโยคตัวอย่างภาษาอังกฤษ ซึ่งมีมากกว่า 14,000 ประโยค และที่ผมชอบใจเป็นพิเศษก็คือ เสียงจากเว็บนี้เป็นเสียงมนุษย์ให้เราฟังชัด ๆ ไม่ใช่เสียงสังเคราะห์จากเครื่อง
วิธีใช้
1)เข้าไปที่เว็บ http://www.diki.pl/
2)พิมพ์คำศัพท์ภาษาอังกฤษลงไป, Enter
3)คลิกที่ไอคอนรูปลำโพง ที่อยู่ท้ายประโยคตัวอย่างภาษาอังกฤษ
-ผมขอแนะว่า อย่าเพิ่งอ่านประโยคนั้น ให้คลิกเพื่อฝึกฟังหลาย ๆ เที่ยวก่อน หลังจากนี้จึงค่อยเหลือบตาไปอ่าน และฝึกพูดตาม
-ศัพท์บางคำ อาจจะไม่มีประโยคตัวอย่าง ในกรณีเช่นนี้ ท่านก็คลิกฟังเสียงอ่านของคำศัพท์และฝึกออกเสียงตามแล้วกันครับ
4)ท่านสามารถดับเบิ้ลคลิกที่ศัพท์ภาษาอังกฤษในประโยคตัวอย่าง เว็บก็จะโชว์คำศัพท์นั้นพร้อมประโยคตัวอย่างต่อไปเรื่อย ๆ
ท่านสามารถคลิกเพื่อฝึกฟัง-พูด กับประโยคตัวอย่างในลักษณะเช่นนี้ ได้นานเท่าที่ท่านต้องการ โดยไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์คำใหม่ ๆ
สำหรับท่านที่ต้องการดาวน์โหลดเสียงอ่านประโยคตัวอย่างเป็นไฟล์ mp3 เก็บไว้ฝึกฟัง-ฝึกพูด เชิญอ่านวิธีดาวน์โหลด mp3 ที่ลิงค์นี้ครับ [1093] วิธีดูด mp3 จากเว็บ (ทุกเว็บที่ต้องการดูด)
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
http://dictionary.reverso.net/english-cobuild/
1)พิมพ์คำศัพท์ & Enter 2)ลากไฮไลต์ประโยคตัวอย่าง 3)คลิกที่ไฮไลต์ & คลิก Speak
เพิ่มเติม 14 ธันวาคม 2553:
http://www.example-sentence.com/english
คลิกอ่านคำแนะนำเพิ่มเติม
สวัสดีครับ
หลายคนบ่นว่าดูหนัง-ฟังข่าว ไม่ค่อยรู้เรื่อง ผมว่า เราอาจจะต้องเริ่มการฝึกด้วยการ ฟัง-อ่าน-พูดตาม ทีละประโยค ซึ่งมีข้อดีเพราะว่า เราสามารถค่อย ๆ ฝึกหลาย ๆ เรื่องไปพร้อม ๆ กัน โดยทุกเรื่องจำเป็นต่อการฟังให้รู้เรื่อง และแหล่งที่เราจะฝึกนี้ก็คือ audio dictionary
ผมเคยแนะนำไว้ที่บทความนี้
[1395]ดิกOxford:อ่านประโยค ตย.ทั้งประโยค-ทุกประโยค
ซึ่งเราสามารถฝึก ฟัง – อ่าน- พูดตาม ได้ทีละประโยค
มีอยู่ 2 เว็บให้เราฝึก คือ
-http://eedic.naver.com/
-http://www.ldoceonline.com/
(เฉพาะคำที่เริ่มต้นด้วย d และ s )
อาจจะต้องเปิดด้วย Browser Google Chrome -คลิก
วันนี้ผมมีอีก 1 เว็บมาแนะนำ คือ http://www.diki.pl/ ซึ่งเป็น English-Polish-English DICTIONARIES
สิ่งที่เราจะขออาศัยจากเว็บนี้ก็คือ การฝึก ฟัง-อ่าน-และพูดตาม ประโยคตัวอย่างภาษาอังกฤษ ซึ่งมีมากกว่า 14,000 ประโยค และที่ผมชอบใจเป็นพิเศษก็คือ เสียงจากเว็บนี้เป็นเสียงมนุษย์ให้เราฟังชัด ๆ ไม่ใช่เสียงสังเคราะห์จากเครื่อง
วิธีใช้
1)เข้าไปที่เว็บ http://www.diki.pl/
2)พิมพ์คำศัพท์ภาษาอังกฤษลงไป, Enter
3)คลิกที่ไอคอนรูปลำโพง ที่อยู่ท้ายประโยคตัวอย่างภาษาอังกฤษ
-ผมขอแนะว่า อย่าเพิ่งอ่านประโยคนั้น ให้คลิกเพื่อฝึกฟังหลาย ๆ เที่ยวก่อน หลังจากนี้จึงค่อยเหลือบตาไปอ่าน และฝึกพูดตาม
-ศัพท์บางคำ อาจจะไม่มีประโยคตัวอย่าง ในกรณีเช่นนี้ ท่านก็คลิกฟังเสียงอ่านของคำศัพท์และฝึกออกเสียงตามแล้วกันครับ
4)ท่านสามารถดับเบิ้ลคลิกที่ศัพท์ภาษาอังกฤษในประโยคตัวอย่าง เว็บก็จะโชว์คำศัพท์นั้นพร้อมประโยคตัวอย่างต่อไปเรื่อย ๆ
ท่านสามารถคลิกเพื่อฝึกฟัง-พูด กับประโยคตัวอย่างในลักษณะเช่นนี้ ได้นานเท่าที่ท่านต้องการ โดยไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์คำใหม่ ๆ
สำหรับท่านที่ต้องการดาวน์โหลดเสียงอ่านประโยคตัวอย่างเป็นไฟล์ mp3 เก็บไว้ฝึกฟัง-ฝึกพูด เชิญอ่านวิธีดาวน์โหลด mp3 ที่ลิงค์นี้ครับ [1093] วิธีดูด mp3 จากเว็บ (ทุกเว็บที่ต้องการดูด)
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
[1654]ให้ Google หา คำถาม – คำตอบ เรื่องที่อยากรู้
สวัสดีครับ
สาเหตุที่ Google เป็น Search Engine ที่คนนิยมมากก็เพราะว่า Google สามารถค้นหาเรื่องได้ตรงกับสิ่งที่เราหา และทำได้ดีกว่า Search Engine ตัวอื่น ๆ และ Google ยังพัฒนารูปแบบของเครื่องมือค้นหาขึ้นมาใหม่เรื่อย ๆ
วันนี้ผมขอแนะนำเครื่องมือของ Google ที่ช่วย Search คำถาม – คำตอบ เรื่องที่เราอยากรู้ โดยใช้ได้ทั้ง google.com และ google.co.th แต่ google.com จะให้คำตอบที่มากกว่า
วิธีที่ 1 หาโดย google.com
1)ไปที่ http://www.google.com/
2)พิมพ์คำค้น, Enter
3)ที่คอลัมน์ซ้ายมือ คลิก More, Discussions และ Q&As ตามลำดับ
วิธีที่ 2 หาโดย google.co.th
1)ไปที่ http://www.google.co.th/
2) พิมพ์คำค้น, Enter
3)ที่คอลัมน์ซ้ายมือ คลิก เพิ่มเติม, การสนทนา และ กูรู ตามลำดับ
คำค้นที่เราพิมพ์ลงไป จะไปปรากฏอยู่ในผลการค้นของ Google ในรูปคำถาม-คำตอบ ซึ่งบางลิงค์อาจจะตรงใจที่เราอยากได้ หรือดีเกินกว่าที่เราคาดคิดไว้ซะอีก
พิพัฒน์
GemTriple.com
สาเหตุที่ Google เป็น Search Engine ที่คนนิยมมากก็เพราะว่า Google สามารถค้นหาเรื่องได้ตรงกับสิ่งที่เราหา และทำได้ดีกว่า Search Engine ตัวอื่น ๆ และ Google ยังพัฒนารูปแบบของเครื่องมือค้นหาขึ้นมาใหม่เรื่อย ๆ
วันนี้ผมขอแนะนำเครื่องมือของ Google ที่ช่วย Search คำถาม – คำตอบ เรื่องที่เราอยากรู้ โดยใช้ได้ทั้ง google.com และ google.co.th แต่ google.com จะให้คำตอบที่มากกว่า
วิธีที่ 1 หาโดย google.com
1)ไปที่ http://www.google.com/
2)พิมพ์คำค้น, Enter
3)ที่คอลัมน์ซ้ายมือ คลิก More, Discussions และ Q&As ตามลำดับ
วิธีที่ 2 หาโดย google.co.th
1)ไปที่ http://www.google.co.th/
2) พิมพ์คำค้น, Enter
3)ที่คอลัมน์ซ้ายมือ คลิก เพิ่มเติม, การสนทนา และ กูรู ตามลำดับ
คำค้นที่เราพิมพ์ลงไป จะไปปรากฏอยู่ในผลการค้นของ Google ในรูปคำถาม-คำตอบ ซึ่งบางลิงค์อาจจะตรงใจที่เราอยากได้ หรือดีเกินกว่าที่เราคาดคิดไว้ซะอีก
พิพัฒน์
GemTriple.com
[1653]ทำไฟล์ ประโยค mp3 เก็บไว้ฝึกฟัง-ฝึกพูดตาม
สวัสดีครับ
สำหรับท่านที่ต้องการฝึกพูดภาษาอังกฤษ ในบล็อกนี้มีเว็บและไฟล์ให้ท่านศึกษา online และ offline มากพอสมควร คลิกที่นี่ครับ สนทนา มีประโยคและบทเรียนมากมายให้ท่านฝึกฟัง-ฝึกพูดตาม
แต่บางท่านอาจจะรู้สึกไม่ถูกใจในบทเรียนเหล่านี้นัก เนื่องจากประโยคที่เขามีให้เราฝึกพูด-ฝึกฟัง มันไม่ใช่ประโยคที่เราใช้พูดในชีวิตประจำวันหรือในงานที่เราทำ ถ้ามีครูฝรั่งอยู่ใกล้ ๆ เราก็คงสามารถขอให้พูดให้เราฟังเพื่อที่เราจะได้ฝึกฟัง-และฝึกพูดตาม
แต่เมื่อไม่มีครูฝรั่ง ผมขอแนะนำ 2 เว็บนี้แทน โดยให้ท่านพิมพ์ประโยคที่ต้องการลงไป เพื่อให้เว็บอ่านให้ท่านฟัง และท่านก็ฝึกพูดตาม
เว็บที่ 1 http://text-to-speech.imtranslator.net/speech.asp?dir=en
ขั้นตอนการใช้งาน
1) พิมพ์ หรือ paste ประโยคภาษาอังกฤษ ลงไป
2) ที่ปุ่มด้านบนที่เขียนว่า Language: English (male) ถ้าต้องการฟังเสียงผู้หญิงก็คลิก English (female)
3) ที่ปุ่มด้านบนที่เขียนว่า Speed 0: ถ้าต้องการให้อ่านช้าลง ก็เลือก -, 2- หรือ 3-
4) คลิก Say it
5) ถ้าต้องการฟังซ้ำ ให้คลิก เลข 1ในรูปสี่เหลี่ยม ซึ่งอยู่เยื้องขึ้นไปทางมุมบนด้านขวาของรูปหน้า
เว็บที่ 2 http://www.dictie.com/make-it-say
1)พิมพ์ข้อความภาษาอังกฤษลงไป ไม่เกิน 100 ตัวอักษร
2)คลิกปุ่ม say it now
3)คลิกที่ไอคอนรูปลำโพง ใต้ประโยค We have recorded text for you, so play it now เพื่อฟังเสียง
สำหรับเว็บที่ 2 นี้ นอกจากฟังเสียงขณะต่อเน็ตแล้ว ท่านยังสามารถดาวน์โหลดเสียงเป็นไฟล์ mp3 เก็บไว้ฝึกฟังและฝึกพูดตามได้ด้วย
วิธีทำ
1)ท่านต้องมีโปรแกรม Realplayer ติดตั้งไว้ในเครื่องเสียก่อน ถ้ายังไม่มีสามารถไปดาวน์โหลดได้ที่นี่
http://www.filehippo.com/download_realplayer/
เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้วก็ติดตั้งให้เรียบร้อย
2) เมื่อท่านเปิดใช้งาน เว็บที่ 2 http://www.dictie.com/make-it-say
ที่ใต้ประโยค We have recorded text for you, so play it now ซึ่งมีไอคอนรูปลำโพงนั้น, ให้ท่าน
-คลิกขวาที่ไอคอน
-คลิกซ้ายที่คำว่า Download This Video To Realplayer
3) ไปที่ My Documents - - My Videos - - RealPlayer Downloads, ไฟล์ mp3 ที่ท่านดาวน์โหลดจะอยู่ที่นั่น โดยมีชื่อไฟล์ว่า
Text to speech engine. Make your words live. - Dictie.com...
ท่านสามารถตั้งชื่อไฟล์ใหม่ (Rename) ได้ตามต้องการ
และถ้าคอมฯของท่านมีโปรแกรมเปิดไฟล์ mp3 หลายโปรแกรม ขอแนะนำให้ใช้โปรแกรม Realplayer เปิดไฟล์เสียงประโยคเหล่านี้
ตอนนี้ท่านสามารถนำไฟล์ mp3 ประโยคต่าง ๆ ที่ท่านสร้างไว้นี้...
-รวบรวมไว้ในโฟลเดอร์ที่ท่านสร้างขึ้นต่างหากในคอมฯ เพื่อใช้ฝึกฟังและพูดตาม
-นำไปใส่ใน mp3 player เพื่อเปิดฟังในขณะเดินทางได้โดยสะดวก
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
สำหรับท่านที่ต้องการฝึกพูดภาษาอังกฤษ ในบล็อกนี้มีเว็บและไฟล์ให้ท่านศึกษา online และ offline มากพอสมควร คลิกที่นี่ครับ สนทนา มีประโยคและบทเรียนมากมายให้ท่านฝึกฟัง-ฝึกพูดตาม
แต่บางท่านอาจจะรู้สึกไม่ถูกใจในบทเรียนเหล่านี้นัก เนื่องจากประโยคที่เขามีให้เราฝึกพูด-ฝึกฟัง มันไม่ใช่ประโยคที่เราใช้พูดในชีวิตประจำวันหรือในงานที่เราทำ ถ้ามีครูฝรั่งอยู่ใกล้ ๆ เราก็คงสามารถขอให้พูดให้เราฟังเพื่อที่เราจะได้ฝึกฟัง-และฝึกพูดตาม
แต่เมื่อไม่มีครูฝรั่ง ผมขอแนะนำ 2 เว็บนี้แทน โดยให้ท่านพิมพ์ประโยคที่ต้องการลงไป เพื่อให้เว็บอ่านให้ท่านฟัง และท่านก็ฝึกพูดตาม
เว็บที่ 1 http://text-to-speech.imtranslator.net/speech.asp?dir=en
ขั้นตอนการใช้งาน
1) พิมพ์ หรือ paste ประโยคภาษาอังกฤษ ลงไป
2) ที่ปุ่มด้านบนที่เขียนว่า Language: English (male) ถ้าต้องการฟังเสียงผู้หญิงก็คลิก English (female)
3) ที่ปุ่มด้านบนที่เขียนว่า Speed 0: ถ้าต้องการให้อ่านช้าลง ก็เลือก -, 2- หรือ 3-
4) คลิก Say it
5) ถ้าต้องการฟังซ้ำ ให้คลิก เลข 1ในรูปสี่เหลี่ยม ซึ่งอยู่เยื้องขึ้นไปทางมุมบนด้านขวาของรูปหน้า
เว็บที่ 2 http://www.dictie.com/make-it-say
1)พิมพ์ข้อความภาษาอังกฤษลงไป ไม่เกิน 100 ตัวอักษร
2)คลิกปุ่ม say it now
3)คลิกที่ไอคอนรูปลำโพง ใต้ประโยค We have recorded text for you, so play it now เพื่อฟังเสียง
สำหรับเว็บที่ 2 นี้ นอกจากฟังเสียงขณะต่อเน็ตแล้ว ท่านยังสามารถดาวน์โหลดเสียงเป็นไฟล์ mp3 เก็บไว้ฝึกฟังและฝึกพูดตามได้ด้วย
วิธีทำ
1)ท่านต้องมีโปรแกรม Realplayer ติดตั้งไว้ในเครื่องเสียก่อน ถ้ายังไม่มีสามารถไปดาวน์โหลดได้ที่นี่
http://www.filehippo.com/download_realplayer/
เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้วก็ติดตั้งให้เรียบร้อย
2) เมื่อท่านเปิดใช้งาน เว็บที่ 2 http://www.dictie.com/make-it-say
ที่ใต้ประโยค We have recorded text for you, so play it now ซึ่งมีไอคอนรูปลำโพงนั้น, ให้ท่าน
-คลิกขวาที่ไอคอน
-คลิกซ้ายที่คำว่า Download This Video To Realplayer
3) ไปที่ My Documents - - My Videos - - RealPlayer Downloads, ไฟล์ mp3 ที่ท่านดาวน์โหลดจะอยู่ที่นั่น โดยมีชื่อไฟล์ว่า
Text to speech engine. Make your words live. - Dictie.com...
ท่านสามารถตั้งชื่อไฟล์ใหม่ (Rename) ได้ตามต้องการ
และถ้าคอมฯของท่านมีโปรแกรมเปิดไฟล์ mp3 หลายโปรแกรม ขอแนะนำให้ใช้โปรแกรม Realplayer เปิดไฟล์เสียงประโยคเหล่านี้
ตอนนี้ท่านสามารถนำไฟล์ mp3 ประโยคต่าง ๆ ที่ท่านสร้างไว้นี้...
-รวบรวมไว้ในโฟลเดอร์ที่ท่านสร้างขึ้นต่างหากในคอมฯ เพื่อใช้ฝึกฟังและพูดตาม
-นำไปใส่ใน mp3 player เพื่อเปิดฟังในขณะเดินทางได้โดยสะดวก
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
[1652]ศัพท์วิ่ง Oxford 3000 คำ บนหน้าจอ เวอร์ชั่น2
สวัสดีครับ
ผมเคยเขียนลิงค์นี้
[1362]ศัพท์วิ่ง Oxford 3000 คำ วางไว้บนสุดของหน้า
ซึ่งเป็นโปรแกรมของคุณกิตติศักดิ์ที่นำคำศัพท์พื้นฐาน 3000 คำ จาก Oxford Dictionary มาทำเป็นตัววิ่งวางไว้บนสุดของหน้า ทำให้เราสามารถเหลือบดูและจำไปทีละคำสองคำขณะที่ทำงานหน้าคอมฯ โดยไม่ต้องปิดหน้าจอของงานอื่น
วันนี้ผมนำเวอร์ชั่นใหม่ (V2)มาแนะนำ คุณกิตติศักดิ์บอกว่าส่วนที่ปรับปรุงใหม่ก็คือ
เป็นส่วนของการ คอนฟิกครับ(V1 ใช้งานอย่างเดียวแก้ไขไม่ได้)ดังนี้
- สามารถจับย้ายที่ได้ โดยคลิกที่ปุ่มทางด้านซ้ายมือแล้วกดลากได้เลยครับ
- เพิ่มปุ่ม คอนฟิก (รูปเครื่องมือ) และย้ายตัวเลือกหมวดและ Run on start ไปอยู่ในเมนูคอนฟิก
อ่านคำแนะนำโดยละเอียด คลิก
คลิกดาวน์โหลดโปรแกรม RV3000v2
ลิงค์ที่ 1 หรือ ลิงค์ที่ 2
ศึกษาเพิ่มเติม บทความที่เกี่ยวกับ ศัพท์ตัววิ่งหน้าจอ คลิก
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
ผมเคยเขียนลิงค์นี้
[1362]ศัพท์วิ่ง Oxford 3000 คำ วางไว้บนสุดของหน้า
ซึ่งเป็นโปรแกรมของคุณกิตติศักดิ์ที่นำคำศัพท์พื้นฐาน 3000 คำ จาก Oxford Dictionary มาทำเป็นตัววิ่งวางไว้บนสุดของหน้า ทำให้เราสามารถเหลือบดูและจำไปทีละคำสองคำขณะที่ทำงานหน้าคอมฯ โดยไม่ต้องปิดหน้าจอของงานอื่น
วันนี้ผมนำเวอร์ชั่นใหม่ (V2)มาแนะนำ คุณกิตติศักดิ์บอกว่าส่วนที่ปรับปรุงใหม่ก็คือ
เป็นส่วนของการ คอนฟิกครับ(V1 ใช้งานอย่างเดียวแก้ไขไม่ได้)ดังนี้
- สามารถจับย้ายที่ได้ โดยคลิกที่ปุ่มทางด้านซ้ายมือแล้วกดลากได้เลยครับ
- เพิ่มปุ่ม คอนฟิก (รูปเครื่องมือ) และย้ายตัวเลือกหมวดและ Run on start ไปอยู่ในเมนูคอนฟิก
อ่านคำแนะนำโดยละเอียด คลิก
คลิกดาวน์โหลดโปรแกรม RV3000v2
ลิงค์ที่ 1 หรือ ลิงค์ที่ 2
ศึกษาเพิ่มเติม บทความที่เกี่ยวกับ ศัพท์ตัววิ่งหน้าจอ คลิก
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
[1651]ฝึกอ่าน โดยไม่ต้องอ่านคำแนะนำในการอ่าน ? !!!
สวัสดีครับ
ผมเคยไปเที่ยวนครวัดที่กัมพูชา ไปกับบริษัททัวร์ซึ่งเดินทางทางรถจากปอยเปตขึ้นตะวันออกฉียงเหนือไปจนถึงนครวัด มีไกด์ชาวเขมรที่พูดภาษาไทยได้คล่องมากคอยอธิบายสิ่งต่าง ๆ และเมื่อไปถึงนครวัดเขาก็ทำหน้าที่ของเขาเป็นอย่างดี
แต่กระนั้นก็ตามขณะที่ฟังไกด์เขมรอธิบายผมอดไม่ได้ที่จะรู้สึก 2 อย่าง
อย่างที่ 1 -สิ่งที่ไกด์อธิบายมิได้มีอะไรพิเศษ เราสามารถหาอ่านได้จากหนังสือท่องเที่ยวทั่วไปที่แนะนำนครวัด
อย่างที่ 2 -สิ่งที่ไกด์อธิบายบางครั้งก็ขาดสิ่งที่เราควรจะได้รู้แต่ไกด์เขาไม่รู้หรอกว่าเราสนใจหรืออยากรู้เขาจึงไม่ได้บอก และบางเรื่องเขาก็อธิบายผิด แม้จะไม่ได้ผิดฉกาจฉกรรจ์แต่ก็ผิด
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การศึกษาเรื่องอะไรก็ตาม หากเรามีแหล่งข้อมูล ตำรา หรือคำแนะนำที่ได้มาตรฐานให้อ้างอิงได้ จะช่วยป้องกันการรับข้อมูลผิด ๆ และยึดว่าเป็นของถูก หรือช่วยให้ไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกมากเกินไป
ผมยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดทำไม? มันเกี่ยวข้องอะไรกับบล็อกนี้ซึ่งเป็นเรื่องของการเรียนภาษาอังกฤษ?
เรื่องของเรื่องก็คือว่า ขณะที่ผมพยายามหาตำราเรียนภาษาอังกฤษดี ๆ มาเสนอให้ท่านผู้อ่านใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำราที่ฝึกการอ่านหรือ Reading ผมได้เจอตำราดี ๆ มากมาย เขาจะคัดเลือกเรื่องดี ๆ มาให้อ่าน มีหลายระดับง่าย-ยากให้ผู้เรียนเลือก, และยังมีแบบฝึกหัด, เฉลย, คำอธิบาย, คำแนะนำต่าง ๆ มากมาย เช่น เทคนิคการจับประเด็นสำคัญ, หลักแกรมมาร์ที่ควรรู้เพื่อความเข้าใจในเรื่องที่อ่าน, การเดาศัพท์, การเดาความหมายของวลี, การเพิ่มความเร็วในการอ่าน เป็นต้น
ขอเรียนตามตรงครับว่า ผมไม่ค่อยสนใจแบบฝึกหัดหรือคำอธิบายต่าง ๆ นานาเหล่านี้สักเท่าไรนัก เพราะผมรู้สึกว่าถ้าอ่านเนื้อเรื่องรู้เรื่องแล้วก็ถือว่าใช้ได้ ไม่ต้องไปทำแบบฝึกหัดหรืออ่านคำอธิบายต่าง ๆ ให้เสียเวลาหรอก ถ้าพูดเทียบกับเรื่องการเที่ยวนครวัดข้างต้นก็ต้องบอกว่า ผมใช้ความเข้าใจส่วนตัวขณะที่อ่านเป็น “ไกด์” โดยไม่สนใจคำแนะนำที่ตำราพิมพ์ไว้ให้ศึกษา
วิธีเรียน Reading เช่นนี้ถูกหรือผิด คำตอบก็คือ อาจจะถูกหรือผิดก็ได้
ในกรณีที่ถูก - - ก็คือผมมีความชำนาญมากเพียงพอในการอ่านภาษาอังกฤษ จนไม่จำเป็นต้องสนใจคำแนะนำหรือแบบฝึกหัดต่าง ๆที่ให้ไว้
ส่วนในกรณีที่ผิดก็คือ - - ผมยังมีความชำนาญในการอ่านไม่มากพอ การลุยอ่านไปเลยโดยไม่สนใจแบบฝึกหัดหรือคำแนะนำต่าง ๆ อาจจะทำให้ผมต้องใช้เวลามากเกินไปในการพัฒนา reading skill เพราะต้องลองผิดลองถูกในการสร้างความเข้าใจ แต่ถ้ายอมอ่านคำแนะนำหรือทำแบบฝึกหัด ก็จะช่วยให้การลองผิดมีจำนวนน้อยลง และการลองถูกมีมากขึ้น และเมื่อฝึกอ่านมากขึ้น ๆ ไปเรื่อย ๆ เราก็จะรู้ตัวเองว่า เรารู้แนวทางที่ถูกต้องแล้ว ต่อไปนี้ก็เป็นการลุยฝึกอ่านอย่างถูกต้องโดยไม่ต้องลองผิด
แต่ถ้าผมยังอ่านไม่เก่ง แต่ใช้การทำความเข้าใจส่วนตัวเป็น “ไกด์” ของการอ่าน โดยไม่สนใจไกด์มาตรฐานคือคำแนะนำและแบบฝึกหัดที่พิมพ์ไว้ ก็เหมือนการไปเที่ยวนครวัดโดยอาศัยเพียงไกด์ท้องถิ่น โดยไม่ใฝ่หาแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่สามารถเป็นไกด์ซึ่งมีมาตรฐานสูงกว่า
จากการไปเที่ยวมาแล้วหลายประเทศ ผมได้ข้อสรุปเกี่ยวกับไกด์ท้องถิ่นว่า
-เขาบอกเฉพาะสิ่งที่เขาอยากบอก ซึ่งบางอย่างก็ตรงกับสิ่งที่เราอยากรู้ แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เราอยากรู้แต่เขาไม่บอก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า เขาไม่รู้ว่าเราอยากรู้, เขาลืม, เขาปกปิดเรื่องที่ไม่อยากให้คนต่างชาติรู้, เขาไม่มีเวลาจะบอก, หรือแม้กระทั่งว่าบางทีเขาก็ไม่รู้เรื่องพื้นๆ ที่เราสงสัยใคร่รู้
-เขาบอกผิดอย่างไม่ตั้งใจ หรือบอกไม่ตรงด้วยสาเหตุอะไรสักอย่าง
การไปเที่ยวและเชื่อไกด์ท้องถิ่นทั้งหมดจึงไม่ปลอดภัยด้วยประการฉะนี้
การอ่านแบบเรียนเพื่อฝึก Reading Skill ก็เช่นกัน ถ้าเรายังไม่เก่งพอ แต่เราก็ใช้การเดาหรือตีความโดยส่วนตัวของเราเองเป็น “ไกด์ท้องถิ่น” โดยไม่ยอมอ่านคำแนะนำหรือทำแบบฝึกหัดที่ผู้รู้จัดไว้ให้ เราอาจจะเดาหรือฝึกอย่างผิดวิธี หรือแม้ไม่ผิดรุนแรงแต่ก็อาจจะเป็นวิธีฝึกที่ให้ผลช้าเกินไป
การอ่านตำราเพื่อฝึก Reading Skill โดยทำแบบฝึกหัด, ดูเฉลย, อ่านคำอธิบาย, คำแนะนำต่าง ๆ ที่ตำราจัดไว้ให้ จึงมีประโยชน์ด้วยประการฉะนี้
และวันนี้ผมมีตำราเพื่อฝึก Reading Skill ชุด Reading Power มาให้ท่านผู้อ่าน 1 ชุด ขอให้ท่านเลือกเล่มที่ง่าย-ยากเหมาะกับท่าน และฝึกอ่านพร้อมกับศึกษาและทำตามคำแนะนำตามที่ตำราให้ไว้แล้วกันครับ ไม่มากก็น้อย
คลิกดาวน์โหลด
Basic Readiing Power
Reading Power
More Reading Power
Advanced Reading Power
แถม: 501 Reading Comprehension Questions
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
ผมเคยไปเที่ยวนครวัดที่กัมพูชา ไปกับบริษัททัวร์ซึ่งเดินทางทางรถจากปอยเปตขึ้นตะวันออกฉียงเหนือไปจนถึงนครวัด มีไกด์ชาวเขมรที่พูดภาษาไทยได้คล่องมากคอยอธิบายสิ่งต่าง ๆ และเมื่อไปถึงนครวัดเขาก็ทำหน้าที่ของเขาเป็นอย่างดี
แต่กระนั้นก็ตามขณะที่ฟังไกด์เขมรอธิบายผมอดไม่ได้ที่จะรู้สึก 2 อย่าง
อย่างที่ 1 -สิ่งที่ไกด์อธิบายมิได้มีอะไรพิเศษ เราสามารถหาอ่านได้จากหนังสือท่องเที่ยวทั่วไปที่แนะนำนครวัด
อย่างที่ 2 -สิ่งที่ไกด์อธิบายบางครั้งก็ขาดสิ่งที่เราควรจะได้รู้แต่ไกด์เขาไม่รู้หรอกว่าเราสนใจหรืออยากรู้เขาจึงไม่ได้บอก และบางเรื่องเขาก็อธิบายผิด แม้จะไม่ได้ผิดฉกาจฉกรรจ์แต่ก็ผิด
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การศึกษาเรื่องอะไรก็ตาม หากเรามีแหล่งข้อมูล ตำรา หรือคำแนะนำที่ได้มาตรฐานให้อ้างอิงได้ จะช่วยป้องกันการรับข้อมูลผิด ๆ และยึดว่าเป็นของถูก หรือช่วยให้ไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกมากเกินไป
ผมยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดทำไม? มันเกี่ยวข้องอะไรกับบล็อกนี้ซึ่งเป็นเรื่องของการเรียนภาษาอังกฤษ?
เรื่องของเรื่องก็คือว่า ขณะที่ผมพยายามหาตำราเรียนภาษาอังกฤษดี ๆ มาเสนอให้ท่านผู้อ่านใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำราที่ฝึกการอ่านหรือ Reading ผมได้เจอตำราดี ๆ มากมาย เขาจะคัดเลือกเรื่องดี ๆ มาให้อ่าน มีหลายระดับง่าย-ยากให้ผู้เรียนเลือก, และยังมีแบบฝึกหัด, เฉลย, คำอธิบาย, คำแนะนำต่าง ๆ มากมาย เช่น เทคนิคการจับประเด็นสำคัญ, หลักแกรมมาร์ที่ควรรู้เพื่อความเข้าใจในเรื่องที่อ่าน, การเดาศัพท์, การเดาความหมายของวลี, การเพิ่มความเร็วในการอ่าน เป็นต้น
ขอเรียนตามตรงครับว่า ผมไม่ค่อยสนใจแบบฝึกหัดหรือคำอธิบายต่าง ๆ นานาเหล่านี้สักเท่าไรนัก เพราะผมรู้สึกว่าถ้าอ่านเนื้อเรื่องรู้เรื่องแล้วก็ถือว่าใช้ได้ ไม่ต้องไปทำแบบฝึกหัดหรืออ่านคำอธิบายต่าง ๆ ให้เสียเวลาหรอก ถ้าพูดเทียบกับเรื่องการเที่ยวนครวัดข้างต้นก็ต้องบอกว่า ผมใช้ความเข้าใจส่วนตัวขณะที่อ่านเป็น “ไกด์” โดยไม่สนใจคำแนะนำที่ตำราพิมพ์ไว้ให้ศึกษา
วิธีเรียน Reading เช่นนี้ถูกหรือผิด คำตอบก็คือ อาจจะถูกหรือผิดก็ได้
ในกรณีที่ถูก - - ก็คือผมมีความชำนาญมากเพียงพอในการอ่านภาษาอังกฤษ จนไม่จำเป็นต้องสนใจคำแนะนำหรือแบบฝึกหัดต่าง ๆที่ให้ไว้
ส่วนในกรณีที่ผิดก็คือ - - ผมยังมีความชำนาญในการอ่านไม่มากพอ การลุยอ่านไปเลยโดยไม่สนใจแบบฝึกหัดหรือคำแนะนำต่าง ๆ อาจจะทำให้ผมต้องใช้เวลามากเกินไปในการพัฒนา reading skill เพราะต้องลองผิดลองถูกในการสร้างความเข้าใจ แต่ถ้ายอมอ่านคำแนะนำหรือทำแบบฝึกหัด ก็จะช่วยให้การลองผิดมีจำนวนน้อยลง และการลองถูกมีมากขึ้น และเมื่อฝึกอ่านมากขึ้น ๆ ไปเรื่อย ๆ เราก็จะรู้ตัวเองว่า เรารู้แนวทางที่ถูกต้องแล้ว ต่อไปนี้ก็เป็นการลุยฝึกอ่านอย่างถูกต้องโดยไม่ต้องลองผิด
แต่ถ้าผมยังอ่านไม่เก่ง แต่ใช้การทำความเข้าใจส่วนตัวเป็น “ไกด์” ของการอ่าน โดยไม่สนใจไกด์มาตรฐานคือคำแนะนำและแบบฝึกหัดที่พิมพ์ไว้ ก็เหมือนการไปเที่ยวนครวัดโดยอาศัยเพียงไกด์ท้องถิ่น โดยไม่ใฝ่หาแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่สามารถเป็นไกด์ซึ่งมีมาตรฐานสูงกว่า
จากการไปเที่ยวมาแล้วหลายประเทศ ผมได้ข้อสรุปเกี่ยวกับไกด์ท้องถิ่นว่า
-เขาบอกเฉพาะสิ่งที่เขาอยากบอก ซึ่งบางอย่างก็ตรงกับสิ่งที่เราอยากรู้ แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เราอยากรู้แต่เขาไม่บอก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า เขาไม่รู้ว่าเราอยากรู้, เขาลืม, เขาปกปิดเรื่องที่ไม่อยากให้คนต่างชาติรู้, เขาไม่มีเวลาจะบอก, หรือแม้กระทั่งว่าบางทีเขาก็ไม่รู้เรื่องพื้นๆ ที่เราสงสัยใคร่รู้
-เขาบอกผิดอย่างไม่ตั้งใจ หรือบอกไม่ตรงด้วยสาเหตุอะไรสักอย่าง
การไปเที่ยวและเชื่อไกด์ท้องถิ่นทั้งหมดจึงไม่ปลอดภัยด้วยประการฉะนี้
การอ่านแบบเรียนเพื่อฝึก Reading Skill ก็เช่นกัน ถ้าเรายังไม่เก่งพอ แต่เราก็ใช้การเดาหรือตีความโดยส่วนตัวของเราเองเป็น “ไกด์ท้องถิ่น” โดยไม่ยอมอ่านคำแนะนำหรือทำแบบฝึกหัดที่ผู้รู้จัดไว้ให้ เราอาจจะเดาหรือฝึกอย่างผิดวิธี หรือแม้ไม่ผิดรุนแรงแต่ก็อาจจะเป็นวิธีฝึกที่ให้ผลช้าเกินไป
การอ่านตำราเพื่อฝึก Reading Skill โดยทำแบบฝึกหัด, ดูเฉลย, อ่านคำอธิบาย, คำแนะนำต่าง ๆ ที่ตำราจัดไว้ให้ จึงมีประโยชน์ด้วยประการฉะนี้
และวันนี้ผมมีตำราเพื่อฝึก Reading Skill ชุด Reading Power มาให้ท่านผู้อ่าน 1 ชุด ขอให้ท่านเลือกเล่มที่ง่าย-ยากเหมาะกับท่าน และฝึกอ่านพร้อมกับศึกษาและทำตามคำแนะนำตามที่ตำราให้ไว้แล้วกันครับ ไม่มากก็น้อย
คลิกดาวน์โหลด
Basic Readiing Power
Reading Power
More Reading Power
Advanced Reading Power
แถม: 501 Reading Comprehension Questions
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
[1650]ศึกษาภาษาอังกฤษกับวีดิโอสนุก ๆ มากมาย
สวัสดีครับ
ในจำนวนสื่อการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองหลากหลายรูปแบบที่มีอยู่ในโลกอินเทอร์เน็ต ผมเห็นว่าวีดิโอเป็นสื่อการเรียนภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด เป็นธรรมชาติที่สุด ได้ผลดีที่สุด และสนุกที่สุด เพราะว่าเราได้ทั้งดูและฟังพร้อมกัน และแม้ว่าเราอาจจะไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่เราก็ได้รับแน่ ๆ ครับ โดยเราอาจจะไม่รู้ตัว
ผมไปเจอเว็บนี้ซึ่งมีวีดิโอภาพยนต์ การ์ตูน สารคดี ฯลฯ มากมายมหาศาลให้ท่านชม ได้ทั้งความสนุกและเพิ่มความเก่งภาษาอังกฤษไปพร้อม ๆ กัน
ที่ลิงค์นี้ครับ: http://englishtips.org/forum/index.php?board=13.0
แต่ท่านต้อง Register ก่อนที่ลิงค์นี้: http://englishtips.org/index.php?do=register
จึงจะสามารถเห็นลิงค์วีดิโอ
ข้อที่อาจจะไม่สะดวกนักก็คือ วีดิโอจากลิงค์นี้แม้จะดีและมีหลากหลายให้เลือก แต่ท่านไม่สามารถดู online ขณะต่อเน็ต ท่านต้องดาวน์โหลดไฟล์วีดิโอให้เสร็จเรียบร้อยก่อนจึงจะสามารถเปิดดูได้ และภาพยนต์แต่ละเรื่อง (ซึ่งยาวและสมบูรณ์)มักแตกเป็นไฟล์ RAR หลายไฟล์ ท่านต้องดาวน์โหลดให้ครบทุกไฟล์ จึงจะสามารถ extract ได้ และถ้าเน็ตที่ใช้ไม่ใช่ high speed ก็คงจะดาวน์โหลดไฟล์ไม่ได้สะดวกนัก หรืออาจจะดาวน์โหลดไม่สำเร็จเอาเลย ด้วยเหตุนี้แหละครับที่ผมเคยชักชวนว่า ถ้าไม่เป็นการลำบากมากนักก็ยอมลงทุนติดตั้ง high speed Internet เถอะครับ จะได้มีอุปกรณ์ในการศึกษาภาษาอังกฤษด้วยตัวเองอย่างสะดวกสบาย
สำหรับท่านที่ต้องการดูวีดิโอ online ขณะต่อเน็ต ไปที่เว็บนี้แล้วกันครับ
ภาพยนต์ และการ์ตูน เว็บ YouTube
http://www.youtube.com/videos?c=1
วีดิโอ เว็บ Google
http://video.google.com/?tab=wv
วีดิโอ เว็บ Yahoo
http://video.search.yahoo.com/video
Bing video
http://www.bing.com/videos/browse
เว็บ 4shared.com
(พิมพ์คำค้น – ถ้าต้องการดาวน์โหลดเก็บไฟล์ไว้ก็คลิก “ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้”)
http://search.4shared.com/q/BAQD/1/avi
สำหรับท่านที่ต้องการดาวน์โหลดเก็บไฟล์วีดิโอไว้ดูในโอกาสหน้า
คลิกอ่าน 4 วิธีในการดาวน์โหลดวีดิโอจากเว็บ
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
ในจำนวนสื่อการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองหลากหลายรูปแบบที่มีอยู่ในโลกอินเทอร์เน็ต ผมเห็นว่าวีดิโอเป็นสื่อการเรียนภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด เป็นธรรมชาติที่สุด ได้ผลดีที่สุด และสนุกที่สุด เพราะว่าเราได้ทั้งดูและฟังพร้อมกัน และแม้ว่าเราอาจจะไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่เราก็ได้รับแน่ ๆ ครับ โดยเราอาจจะไม่รู้ตัว
ผมไปเจอเว็บนี้ซึ่งมีวีดิโอภาพยนต์ การ์ตูน สารคดี ฯลฯ มากมายมหาศาลให้ท่านชม ได้ทั้งความสนุกและเพิ่มความเก่งภาษาอังกฤษไปพร้อม ๆ กัน
ที่ลิงค์นี้ครับ: http://englishtips.org/forum/index.php?board=13.0
แต่ท่านต้อง Register ก่อนที่ลิงค์นี้: http://englishtips.org/index.php?do=register
จึงจะสามารถเห็นลิงค์วีดิโอ
ข้อที่อาจจะไม่สะดวกนักก็คือ วีดิโอจากลิงค์นี้แม้จะดีและมีหลากหลายให้เลือก แต่ท่านไม่สามารถดู online ขณะต่อเน็ต ท่านต้องดาวน์โหลดไฟล์วีดิโอให้เสร็จเรียบร้อยก่อนจึงจะสามารถเปิดดูได้ และภาพยนต์แต่ละเรื่อง (ซึ่งยาวและสมบูรณ์)มักแตกเป็นไฟล์ RAR หลายไฟล์ ท่านต้องดาวน์โหลดให้ครบทุกไฟล์ จึงจะสามารถ extract ได้ และถ้าเน็ตที่ใช้ไม่ใช่ high speed ก็คงจะดาวน์โหลดไฟล์ไม่ได้สะดวกนัก หรืออาจจะดาวน์โหลดไม่สำเร็จเอาเลย ด้วยเหตุนี้แหละครับที่ผมเคยชักชวนว่า ถ้าไม่เป็นการลำบากมากนักก็ยอมลงทุนติดตั้ง high speed Internet เถอะครับ จะได้มีอุปกรณ์ในการศึกษาภาษาอังกฤษด้วยตัวเองอย่างสะดวกสบาย
สำหรับท่านที่ต้องการดูวีดิโอ online ขณะต่อเน็ต ไปที่เว็บนี้แล้วกันครับ
ภาพยนต์ และการ์ตูน เว็บ YouTube
http://www.youtube.com/videos?c=1
วีดิโอ เว็บ Google
http://video.google.com/?tab=wv
วีดิโอ เว็บ Yahoo
http://video.search.yahoo.com/video
Bing video
http://www.bing.com/videos/browse
เว็บ 4shared.com
(พิมพ์คำค้น – ถ้าต้องการดาวน์โหลดเก็บไฟล์ไว้ก็คลิก “ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้”)
http://search.4shared.com/q/BAQD/1/avi
สำหรับท่านที่ต้องการดาวน์โหลดเก็บไฟล์วีดิโอไว้ดูในโอกาสหน้า
คลิกอ่าน 4 วิธีในการดาวน์โหลดวีดิโอจากเว็บ
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
[1649] อ่าน คติ ข้อคิดดี ๆ เพื่อชีวิต
สวัสดีครับ
ผมชอบอ่านหนังสือธรรมะ แต่ผมก็รู้ว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกเฉย ๆ หรือถึงขั้นเกลียดหนังสือธรรมะ
การที่คนเกลียดหนังสือธรรมะ ไม่ได้แปลว่าเขาเกลียดธรรมะ ถ้าให้ผมวิเคราะห์ก็ต้องพูดว่า มันมีช่องว่างระหว่างเขากับหนังสือธรรมะ จนทำให้เขาไม่อยากแตะธรรมะที่อยู่ในหนังสือนั้น ช่องว่างนี้อาจจะมาจากสำนวนภาษาแบบวัด ๆ การอธิบายหรือการยกตัวอย่างที่ไม่ค่อยจะเข้ากับชีวิตของเขา หรือไม่สามารถตอบปัญหาชีวิตของเขา แต่เขาอาจจะไปชอบหนังสือประเภท How-to, Inspiration, Motivation, หรือหนังสือแนวจิตวิทยาของนักเขียนชื่อดังระดับโลก หรือหนังสือ bestseller ที่เป็นเช่นนี้ไม่ใช่เพราะว่าเขาเห่อฝรั่ง แต่เป็นเพราะว่าสิ่งนั้นเป็น “ธรรมะ” ที่ให้คำตอบแก่เขาได้ และจริง ๆ แล้วธรรมะเหล่านี้อาจจะมีเนื้อหาเดียวกันกับคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ได้ เพียงแต่พูดด้วยสำนวนภาษาที่อาจจะแตกต่างกันไปบ้าง หรือยกตัวอย่างที่ไม่เหมือนกัน ก็เท่านั้นเอง
ทุกครั้งที่มีงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ผมพบว่ามีหนังสือแปลพวกนี้วางขายไม่น้อย อยากจะบอกท่านผู้อ่านที่รักการฝึกภาษาอังกฤษและรักหนังสือพวกนี้ว่า ลองอดใจอย่าไปอ่านหนังสือแปล ลองอ่านที่เป็นต้นฉบับภาษาอังกฤษด้วยตัวเองดีกว่าครับ แม้มันจะรู้เรื่องไม่ครบ 100 % แต่ถ้าฝึกอ่านเรื่อย ๆ มันก็จะค่อย ๆ รู้เรื่องมากขึ้น ๆ จนวันหนึ่งก็จะรู้เรื่อง 100 % โดยไม่ต้องพึ่งหนังสือแปล
วันนี้ ผมไปเจอเว็บของฝรั่งเว็บหนึ่ง คือเว็บนี้
http://www.mixbagworld.com/category/must-read
ซึ่งมีหลายบทความที่น่าจะเป็นคติ หรือข้อคิดดี ๆ เพื่อการใช้ชีวิต
ผมเลือกมาได้ 6 บทความข้างล่างนี้ที่ผมเห็นว่าน่าอ่าน และได้อำนวยความสะดวกให้แก่ท่านผู้อ่าน โดยเมื่อท่านคลิกเข้าไปแล้ว เมื่อติดศัพท์คำใดก็เพียงดับเบิ้ลคลิกที่คำนั้น คำแปลภาษาไทยก็จะปรากฏทันที
Alphabet of happiness
อ่านต้นฉบับ
อ่านเวอร์ชั่นที่ดับเบิ้ลคลิกแล้วมีคำแปล
Winners VS Losers
อ่านต้นฉบับ
อ่านเวอร์ชั่นที่ดับเบิ้ลคลิกแล้วมีคำแปล
10 principles for peace of mind
อ่านต้นฉบับ
อ่านเวอร์ชั่นที่ดับเบิ้ลคลิกแล้วมีคำแปล
Think Positive: Find Positive Out Of Every Negative
อ่านต้นฉบับ
อ่านเวอร์ชั่นที่ดับเบิ้ลคลิกแล้วมีคำแปล
Simple Rules of LIFE
อ่านต้นฉบับ
อ่านเวอร์ชั่นที่ดับเบิ้ลคลิกแล้วมีคำแปล
Modern Human Addictions
อ่านต้นฉบับ
อ่านเวอร์ชั่นที่ดับเบิ้ลคลิกแล้วมีคำแปล
ถ้าต้องการอ่านบทความอื่น ๆ ก็ไปที่ 5 ลิงค์ของเว็บนี้ ยังมีที่น่าสนใจอีกเยอะครับ
1-2-3-4-5
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
ผมชอบอ่านหนังสือธรรมะ แต่ผมก็รู้ว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกเฉย ๆ หรือถึงขั้นเกลียดหนังสือธรรมะ
การที่คนเกลียดหนังสือธรรมะ ไม่ได้แปลว่าเขาเกลียดธรรมะ ถ้าให้ผมวิเคราะห์ก็ต้องพูดว่า มันมีช่องว่างระหว่างเขากับหนังสือธรรมะ จนทำให้เขาไม่อยากแตะธรรมะที่อยู่ในหนังสือนั้น ช่องว่างนี้อาจจะมาจากสำนวนภาษาแบบวัด ๆ การอธิบายหรือการยกตัวอย่างที่ไม่ค่อยจะเข้ากับชีวิตของเขา หรือไม่สามารถตอบปัญหาชีวิตของเขา แต่เขาอาจจะไปชอบหนังสือประเภท How-to, Inspiration, Motivation, หรือหนังสือแนวจิตวิทยาของนักเขียนชื่อดังระดับโลก หรือหนังสือ bestseller ที่เป็นเช่นนี้ไม่ใช่เพราะว่าเขาเห่อฝรั่ง แต่เป็นเพราะว่าสิ่งนั้นเป็น “ธรรมะ” ที่ให้คำตอบแก่เขาได้ และจริง ๆ แล้วธรรมะเหล่านี้อาจจะมีเนื้อหาเดียวกันกับคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ได้ เพียงแต่พูดด้วยสำนวนภาษาที่อาจจะแตกต่างกันไปบ้าง หรือยกตัวอย่างที่ไม่เหมือนกัน ก็เท่านั้นเอง
ทุกครั้งที่มีงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ผมพบว่ามีหนังสือแปลพวกนี้วางขายไม่น้อย อยากจะบอกท่านผู้อ่านที่รักการฝึกภาษาอังกฤษและรักหนังสือพวกนี้ว่า ลองอดใจอย่าไปอ่านหนังสือแปล ลองอ่านที่เป็นต้นฉบับภาษาอังกฤษด้วยตัวเองดีกว่าครับ แม้มันจะรู้เรื่องไม่ครบ 100 % แต่ถ้าฝึกอ่านเรื่อย ๆ มันก็จะค่อย ๆ รู้เรื่องมากขึ้น ๆ จนวันหนึ่งก็จะรู้เรื่อง 100 % โดยไม่ต้องพึ่งหนังสือแปล
วันนี้ ผมไปเจอเว็บของฝรั่งเว็บหนึ่ง คือเว็บนี้
http://www.mixbagworld.com/category/must-read
ซึ่งมีหลายบทความที่น่าจะเป็นคติ หรือข้อคิดดี ๆ เพื่อการใช้ชีวิต
ผมเลือกมาได้ 6 บทความข้างล่างนี้ที่ผมเห็นว่าน่าอ่าน และได้อำนวยความสะดวกให้แก่ท่านผู้อ่าน โดยเมื่อท่านคลิกเข้าไปแล้ว เมื่อติดศัพท์คำใดก็เพียงดับเบิ้ลคลิกที่คำนั้น คำแปลภาษาไทยก็จะปรากฏทันที
Alphabet of happiness
อ่านต้นฉบับ
อ่านเวอร์ชั่นที่ดับเบิ้ลคลิกแล้วมีคำแปล
Winners VS Losers
อ่านต้นฉบับ
อ่านเวอร์ชั่นที่ดับเบิ้ลคลิกแล้วมีคำแปล
10 principles for peace of mind
อ่านต้นฉบับ
อ่านเวอร์ชั่นที่ดับเบิ้ลคลิกแล้วมีคำแปล
Think Positive: Find Positive Out Of Every Negative
อ่านต้นฉบับ
อ่านเวอร์ชั่นที่ดับเบิ้ลคลิกแล้วมีคำแปล
Simple Rules of LIFE
อ่านต้นฉบับ
อ่านเวอร์ชั่นที่ดับเบิ้ลคลิกแล้วมีคำแปล
Modern Human Addictions
อ่านต้นฉบับ
อ่านเวอร์ชั่นที่ดับเบิ้ลคลิกแล้วมีคำแปล
ถ้าต้องการอ่านบทความอื่น ๆ ก็ไปที่ 5 ลิงค์ของเว็บนี้ ยังมีที่น่าสนใจอีกเยอะครับ
1-2-3-4-5
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
[1648] เรียนภ.อังกฤษกับเว็บสอนฝรั่งพูดภาษาไทย
สวัสดีครับ
มีบางเว็บที่เขาสอนฝรั่งให้พูดภาษาไทย ผมเข้าไปดูแล้วและก็รู้สึกว่า เราคนไทยที่หัดพูดภาษาฝรั่งก็ใช้ประโยชน์จากเว็บนี้ได้
คือเว็บนี้ครับ เมื่อเข้าไปแล้วให้คลิกประโยคใต้คำว่า Title และคลิก 1 2 3 4 ... ด้านล่างเพื่อดูหน้าถัดไป
http://bangkoklibrary.com/taxonomy/term/238/all
เขาจะให้ประโยคหรือวลีภาษาอังกฤษที่แปลมาจากภาษาไทย เมื่ออ่านประโยคนี้แล้วก็ลองเดาในใจก่อนนะครับว่า ภาษาไทยมันคืออะไร และคลิกประโยคนั้น และอ่านคำอธิบายที่เขาสอนฝรั่ง เว็บนี้จะช่วยให้เราฝึกอ่านประโยคง่าย ๆ ที่สามารถจำเอาไปใช้พูดได้ หรือจะใช้สอนฝรั่งหรือคนต่างชาติที่ต้องการเรียนภาษาไทยก็ได้
ผมเคยเขียนแนะนำเว็บทำนองนี้ไว้แล้ว ถ้าสนใจไปที่นี่ครับ
[78] เรียนภาษาอังกฤษกับคุณ Andrew Biggs
[1021] รวบรวมเว็บ สอนฝรั่งพูดภาษาไทย
แถม: Thailand news
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
มีบางเว็บที่เขาสอนฝรั่งให้พูดภาษาไทย ผมเข้าไปดูแล้วและก็รู้สึกว่า เราคนไทยที่หัดพูดภาษาฝรั่งก็ใช้ประโยชน์จากเว็บนี้ได้
คือเว็บนี้ครับ เมื่อเข้าไปแล้วให้คลิกประโยคใต้คำว่า Title และคลิก 1 2 3 4 ... ด้านล่างเพื่อดูหน้าถัดไป
http://bangkoklibrary.com/taxonomy/term/238/all
เขาจะให้ประโยคหรือวลีภาษาอังกฤษที่แปลมาจากภาษาไทย เมื่ออ่านประโยคนี้แล้วก็ลองเดาในใจก่อนนะครับว่า ภาษาไทยมันคืออะไร และคลิกประโยคนั้น และอ่านคำอธิบายที่เขาสอนฝรั่ง เว็บนี้จะช่วยให้เราฝึกอ่านประโยคง่าย ๆ ที่สามารถจำเอาไปใช้พูดได้ หรือจะใช้สอนฝรั่งหรือคนต่างชาติที่ต้องการเรียนภาษาไทยก็ได้
ผมเคยเขียนแนะนำเว็บทำนองนี้ไว้แล้ว ถ้าสนใจไปที่นี่ครับ
[78] เรียนภาษาอังกฤษกับคุณ Andrew Biggs
[1021] รวบรวมเว็บ สอนฝรั่งพูดภาษาไทย
แถม: Thailand news
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
[1647]ฝึกภ.อังกฤษกับภาพ-วีดิโอNation,Bangkok Post
สวัสดีครับ
ทุกท่านทราบแล้วว่า ในเมืองไทย มีหนังสือพิมพ์รายวันใหญ่ ๆ อยู่ 2 ฉบับ คือ Bangkok Post และ The Nation ผมเองเท่าที่อ่านภาษาอังกฤษได้ทุกวันนี้ก็เพราะฝึกกับ นสพ.2 ฉบับนี้แหละครับ
นอกจาก “อ่าน”, ที่เว็บไซต์ของนสพ. 2 ฉบับนี้ ยังมีภาพให้อ่านคำอธิบายประกอบภาพ และมีวีดิโอให้ชม การศึกษาภาษาอังกฤษทำนองนี้อาจจะเพลิดเพลินกว่าการอ่านข่าวยาว ๆ นอกจากนี้ การทำความเข้าใจกับข่าวเมืองไทยที่เราคุ้นเคยสามารถช่วยให้เราอ่านภาพข่าวและชมวีดิโอได้เข้าใจได้ง่ายกว่าการอ่านข่าวต่างประเทศที่เราไม่ค่อยคุ้นเคย ลองดูนะครับ
[1] bangkokpost.com
photo
video
ภาพ panorama
[2] nationmultimedia.com
video
photo
ที่คอลัมน์ซ้ายมือ ให้พิมพ์คำในช่อง By keyword, หรือ เลือกภาพข่าว By categories หรือ By date
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
ทุกท่านทราบแล้วว่า ในเมืองไทย มีหนังสือพิมพ์รายวันใหญ่ ๆ อยู่ 2 ฉบับ คือ Bangkok Post และ The Nation ผมเองเท่าที่อ่านภาษาอังกฤษได้ทุกวันนี้ก็เพราะฝึกกับ นสพ.2 ฉบับนี้แหละครับ
นอกจาก “อ่าน”, ที่เว็บไซต์ของนสพ. 2 ฉบับนี้ ยังมีภาพให้อ่านคำอธิบายประกอบภาพ และมีวีดิโอให้ชม การศึกษาภาษาอังกฤษทำนองนี้อาจจะเพลิดเพลินกว่าการอ่านข่าวยาว ๆ นอกจากนี้ การทำความเข้าใจกับข่าวเมืองไทยที่เราคุ้นเคยสามารถช่วยให้เราอ่านภาพข่าวและชมวีดิโอได้เข้าใจได้ง่ายกว่าการอ่านข่าวต่างประเทศที่เราไม่ค่อยคุ้นเคย ลองดูนะครับ
[1] bangkokpost.com
photo
video
ภาพ panorama
[2] nationmultimedia.com
video
photo
ที่คอลัมน์ซ้ายมือ ให้พิมพ์คำในช่อง By keyword, หรือ เลือกภาพข่าว By categories หรือ By date
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
[1646] ฟังวิทยุ FM 107 ทางเน็ต
สวัสดีครับ
ธรรมดาผมไม่ค่อยได้ฟังวิทยุ แต่วันนี้นั่งแท็กซี่และได้ฟังวิทยุที่คนขับเปิด เป็นรายการเพลงฝรั่ง พูดคุยกับคนขับแล้วได้ความว่า คนขับชอบฝึกภาษาอังกฤษโดยการฟัง เพราะจะได้โต้ตอบกับผู้โดยสารที่เป็นชาวต่างประเทศได้ เขาบอกว่าฟังทุกวัน จะไม่รู้เรื่องบ้างก็ให้มันรู้ไป และก็รู้เรื่องมากขึ้นทีละนิดทีละหน่อยทุกวัน ผมชอบที่เขาบอกว่า ถึงแม้จะฟังแทบตายแต่ไม่ยอมกล้าพูดก็ไม่มีความหมาย สำคัญที่ว่ากล้าพูดหรือเปล่า ผมชอบจริง ๆ ที่เขาพูดเช่นนี้
และคลื่นที่เขาฟังก็คือ FM 107 เขาบอกว่ามีรายการตลอด 24 ชั่วโมง มีข่าวบ้าง เพลงบ้าง สลับให้ฟังทั้งวันทั้งคืน บางทีก็มีคนไทยพูดแปลภาษาอังกฤษให้ฟัง FM 107 เป็นคลื่นเดียวที่มีภาษาอังกฤษให้ฟังทั้งวัน นี่เขาบอกนะครับ
ผมหาดูในเน็ต และก็พบว่า สามารถเปิดฟัง FM 107 ผ่านเน็ตได้
ขอแนะนำ 2 ลิงค์ข้างล่างนี้
http://radio.siamha.com/popupfm.php?station=station1070 http://radio.kapook.com/107_met_fm.php
ซึ่งทั้ง 2 ลิงค์ข้างบนก็มีคลื่นอื่น ๆ ให้คลิกฟังด้วย
เอาเป็นว่า ลองเข้าไปฟังดูนะครับ และถ้าท่านใดมีข้อมูลจะแจ้งมากกว่านี้ช่วยบอกด้วยนะครับ
ขอบคุณมากครับ
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
ธรรมดาผมไม่ค่อยได้ฟังวิทยุ แต่วันนี้นั่งแท็กซี่และได้ฟังวิทยุที่คนขับเปิด เป็นรายการเพลงฝรั่ง พูดคุยกับคนขับแล้วได้ความว่า คนขับชอบฝึกภาษาอังกฤษโดยการฟัง เพราะจะได้โต้ตอบกับผู้โดยสารที่เป็นชาวต่างประเทศได้ เขาบอกว่าฟังทุกวัน จะไม่รู้เรื่องบ้างก็ให้มันรู้ไป และก็รู้เรื่องมากขึ้นทีละนิดทีละหน่อยทุกวัน ผมชอบที่เขาบอกว่า ถึงแม้จะฟังแทบตายแต่ไม่ยอมกล้าพูดก็ไม่มีความหมาย สำคัญที่ว่ากล้าพูดหรือเปล่า ผมชอบจริง ๆ ที่เขาพูดเช่นนี้
และคลื่นที่เขาฟังก็คือ FM 107 เขาบอกว่ามีรายการตลอด 24 ชั่วโมง มีข่าวบ้าง เพลงบ้าง สลับให้ฟังทั้งวันทั้งคืน บางทีก็มีคนไทยพูดแปลภาษาอังกฤษให้ฟัง FM 107 เป็นคลื่นเดียวที่มีภาษาอังกฤษให้ฟังทั้งวัน นี่เขาบอกนะครับ
ผมหาดูในเน็ต และก็พบว่า สามารถเปิดฟัง FM 107 ผ่านเน็ตได้
ขอแนะนำ 2 ลิงค์ข้างล่างนี้
http://radio.siamha.com/popupfm.php?station=station1070 http://radio.kapook.com/107_met_fm.php
ซึ่งทั้ง 2 ลิงค์ข้างบนก็มีคลื่นอื่น ๆ ให้คลิกฟังด้วย
เอาเป็นว่า ลองเข้าไปฟังดูนะครับ และถ้าท่านใดมีข้อมูลจะแจ้งมากกว่านี้ช่วยบอกด้วยนะครับ
ขอบคุณมากครับ
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
[1645] อ่าน 1000 ประโยค ภาษิต อังกฤษ-ไทย
สวัสดีครับ
สุภาษิตหรือคำพูดที่เป็นคติของประเทศต่าง ๆ นี่นะครับ แม้บางอย่างจะใช้ได้เหมาะเฉพาะกับประเทศเจ้าของภาษิต แต่หลาย ๆ ภาษิตก็มีเนื้อหาเป็นสากล ให้แนวทางการดำเนินชีวิตแก่คนทุกชาติทุกภาษา เป็นเทคโนโลยีทางจิตวิญญาณที่คนรุ่นก่อนมอบเป็นมรดกแก่คนรุ่นหลัง ช่วยให้คนรุ่นหลังไม่ต้องใช้ชีวิตอย่างลองผิดลองถูกไปซะทุกเรื่อง และจริง ๆ แล้วชีวิตของคนเรานั้นสั้น ถ้าเสียเวลากับการลองผิดมากเกินไป ก็จะมีเวลาน้อยเกินไปที่จะฝึกหัดและทำสิ่งที่ถูก
จำได้ว่าสมัยเด็ก ๆผมชอบหยิบหนังสือภาษิตนานาชาติจากตู้หนังสือของตามาอ่าน มันเป็นภาษาไทย พอโตขึ้นมาก็มีโอกาสได้อ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษของหลายภาษิตนั้น เมื่อได้อ่าน 2 ภาษา ก็เกิดความรู้สึกขึ้นมา 2 – 3 อย่าง คือ
-ภาษิตของคนรุ่นเก่า จำนวนไม่น้อย เป็นความจริงอันอมตะ อ่านเมื่อใดก็ได้ประโยชน์เมื่อนั้น หลาย ๆ ข้อความแม้จะสั้น ๆ แต่ก็มีเนื้อหาลึกซึ้งและเข้าใจได้ง่าย กว่าหนังสือประเภท self-improvement ที่เป็น bestseller หลาย ๆ เล่มด้วยซ้ำ
-ในด้านสำนวนภาษา บางข้อความก็ง่าย ๆ และเข้าใจได้ทันที แต่อาจจะมีอยู่บ้างไม่มากนักที่อ่านแล้วงงเล็กน้อย
-บางภาษิต มีความหมาย หรือแม้แต่ข้อความที่ตรงกับสุภาษิตหรือคำพังเพยของไทย
วันนี้ผมมี 1000 English Proverbs and Sayings (อ่าน 1000 ประโยค ภาษิต อังกฤษ-ไทย) มาให้ท่านศึกษา ขอแนะนำว่า บางภาษิตแม้อ่านและเข้าใจว่าเขาพูดอะไร แต่อาจจะไม่แน่ใจว่าจริง ๆ แล้วเขาหมายถึงอะไร ในกรณีเช่นนี้ให้ตีความในแง่ที่เป็นกุศลธรรมไว้ก่อนแล้วกันครับ
เชิญอ่านครับ ที่ลิงค์นี้
http://translateitbangkokpost.blogspot.com/2010/11/1000-english-proverbs-and-sayings.html
(1) ถ้าต้องการทราบคำแปลของศัพท์ภาษาอังกฤษคำใด ก็ดับเบิ้ลคลิกที่คำนั้น
(2) ศัพท์บางคำเมื่อคลิกแล้วถ้าไม่มีคำแปลภาษาไทยแสดง ท่านอาจจะต้องตัด -s, -es, -ed, -ing, ฯลฯ ที่ท้ายคำศัพท์ออก หรือตัด im-, in-, ir-, un-, ฯลฯ ที่นำหน้าคำศัพท์ออก และ Enter
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
สุภาษิตหรือคำพูดที่เป็นคติของประเทศต่าง ๆ นี่นะครับ แม้บางอย่างจะใช้ได้เหมาะเฉพาะกับประเทศเจ้าของภาษิต แต่หลาย ๆ ภาษิตก็มีเนื้อหาเป็นสากล ให้แนวทางการดำเนินชีวิตแก่คนทุกชาติทุกภาษา เป็นเทคโนโลยีทางจิตวิญญาณที่คนรุ่นก่อนมอบเป็นมรดกแก่คนรุ่นหลัง ช่วยให้คนรุ่นหลังไม่ต้องใช้ชีวิตอย่างลองผิดลองถูกไปซะทุกเรื่อง และจริง ๆ แล้วชีวิตของคนเรานั้นสั้น ถ้าเสียเวลากับการลองผิดมากเกินไป ก็จะมีเวลาน้อยเกินไปที่จะฝึกหัดและทำสิ่งที่ถูก
จำได้ว่าสมัยเด็ก ๆผมชอบหยิบหนังสือภาษิตนานาชาติจากตู้หนังสือของตามาอ่าน มันเป็นภาษาไทย พอโตขึ้นมาก็มีโอกาสได้อ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษของหลายภาษิตนั้น เมื่อได้อ่าน 2 ภาษา ก็เกิดความรู้สึกขึ้นมา 2 – 3 อย่าง คือ
-ภาษิตของคนรุ่นเก่า จำนวนไม่น้อย เป็นความจริงอันอมตะ อ่านเมื่อใดก็ได้ประโยชน์เมื่อนั้น หลาย ๆ ข้อความแม้จะสั้น ๆ แต่ก็มีเนื้อหาลึกซึ้งและเข้าใจได้ง่าย กว่าหนังสือประเภท self-improvement ที่เป็น bestseller หลาย ๆ เล่มด้วยซ้ำ
-ในด้านสำนวนภาษา บางข้อความก็ง่าย ๆ และเข้าใจได้ทันที แต่อาจจะมีอยู่บ้างไม่มากนักที่อ่านแล้วงงเล็กน้อย
-บางภาษิต มีความหมาย หรือแม้แต่ข้อความที่ตรงกับสุภาษิตหรือคำพังเพยของไทย
วันนี้ผมมี 1000 English Proverbs and Sayings (อ่าน 1000 ประโยค ภาษิต อังกฤษ-ไทย) มาให้ท่านศึกษา ขอแนะนำว่า บางภาษิตแม้อ่านและเข้าใจว่าเขาพูดอะไร แต่อาจจะไม่แน่ใจว่าจริง ๆ แล้วเขาหมายถึงอะไร ในกรณีเช่นนี้ให้ตีความในแง่ที่เป็นกุศลธรรมไว้ก่อนแล้วกันครับ
เชิญอ่านครับ ที่ลิงค์นี้
http://translateitbangkokpost.blogspot.com/2010/11/1000-english-proverbs-and-sayings.html
(1) ถ้าต้องการทราบคำแปลของศัพท์ภาษาอังกฤษคำใด ก็ดับเบิ้ลคลิกที่คำนั้น
(2) ศัพท์บางคำเมื่อคลิกแล้วถ้าไม่มีคำแปลภาษาไทยแสดง ท่านอาจจะต้องตัด -s, -es, -ed, -ing, ฯลฯ ที่ท้ายคำศัพท์ออก หรือตัด im-, in-, ir-, un-, ฯลฯ ที่นำหน้าคำศัพท์ออก และ Enter
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
[1644]นวนิยาย,การ์ตูนภาพ-ลายเส้น,วีดิโอพุทธประวัติ
สวัสดีครับ
วันนี้ผมมีเรื่องพุทธประวัติมานำเสนอเพื่อการศึกษาภาษาอังกฤษและธรรมะ
(1) นวนิยายเรื่อง Buddha: A Story of Enlightenment โดย Deepak Chopra
http://www.4shared.com/get/OZa8sziq/DEEPAK-CHOPRA-BUDDHA.html
(2) การ์ตูนภาพเรื่อง Buddha: A Story of Enlightenment โดย Deepak Chopra
อ่านออนไลน์ http://tinyurl.com/2a2xshz
ดาวน์โหลดไฟล์ http://search.4shared.com/q/1/DEEPAK-CHOPRA-BUDDHA
(3) เรื่องและภาพลายเส้น Story of the Buddha อ่านง่าย (ให้รอจนดาวน์โหลดครบ 4.56 MB ก่อนจึงอ่านได้)
http://www.buddhanet.net/pdf_file/storybuddha.pdf
(4) วีดิโอ พุทธประวัติ
สามารถคลิกฟังออนไลน์ หรือ ดาวน์โหลดไฟล์เก็บไว้ฟังก็ได้ แต่ขนาดค่อนข้างใหญ่ เกิน 100 MB มาจาก 3 แหล่งครับ
ดูออนไลน์: ถ้าจะดูเต็มจอ ให้คลิกที่มุมล่างขวาของจอถัดจากตัวเลขจำนวนนาทีของวีดิโอ
ENGLISH language BBC Life Of The Buddha
http://www.4shared.com/video/aULCyTCq/ENGLISH_language_BBC_Life_Of_T.htm
The Buddha's Life Produced by Singapore
http://www.4shared.com/video/CtpAeBxR/2i2_ENGLISH_language_-_The_Bud.htm
แถม LITTLE BUDDHA
http://www.4shared.com/video/afET6F94/3i3_Little_Buddha.htm
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันนี้ผมมีเรื่องพุทธประวัติมานำเสนอเพื่อการศึกษาภาษาอังกฤษและธรรมะ
(1) นวนิยายเรื่อง Buddha: A Story of Enlightenment โดย Deepak Chopra
http://www.4shared.com/get/OZa8sziq/DEEPAK-CHOPRA-BUDDHA.html
(2) การ์ตูนภาพเรื่อง Buddha: A Story of Enlightenment โดย Deepak Chopra
อ่านออนไลน์ http://tinyurl.com/2a2xshz
ดาวน์โหลดไฟล์ http://search.4shared.com/q/1/DEEPAK-CHOPRA-BUDDHA
(3) เรื่องและภาพลายเส้น Story of the Buddha อ่านง่าย (ให้รอจนดาวน์โหลดครบ 4.56 MB ก่อนจึงอ่านได้)
http://www.buddhanet.net/pdf_file/storybuddha.pdf
(4) วีดิโอ พุทธประวัติ
สามารถคลิกฟังออนไลน์ หรือ ดาวน์โหลดไฟล์เก็บไว้ฟังก็ได้ แต่ขนาดค่อนข้างใหญ่ เกิน 100 MB มาจาก 3 แหล่งครับ
ดูออนไลน์: ถ้าจะดูเต็มจอ ให้คลิกที่มุมล่างขวาของจอถัดจากตัวเลขจำนวนนาทีของวีดิโอ
ENGLISH language BBC Life Of The Buddha
http://www.4shared.com/video/aULCyTCq/ENGLISH_language_BBC_Life_Of_T.htm
The Buddha's Life Produced by Singapore
http://www.4shared.com/video/CtpAeBxR/2i2_ENGLISH_language_-_The_Bud.htm
แถม LITTLE BUDDHA
http://www.4shared.com/video/afET6F94/3i3_Little_Buddha.htm
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
[1643]ให้Google translate อ่านประโยคภ.อังกฤษให้ฟัง
สวัสดีครับ
เราสามารถให้เว็บ Google translate http://translate.google.com/
อ่านประโยคภาษาอังกฤษให้เราฟัง เพื่อเราจะได้ฝึกอ่านออกเสียงหรือพูดตาม
เสียงอ่านอาจจะไม่เพราะนัก แต่ก็พอฟังไหวครับ
วิธีใช้
1.ไปที่เว็บ Google translate http://translate.google.com/
2.คลิกให้มีคำว่า English หลังคำว่า From และ To (เป็น From English To English)
3.พิมพ์ข้อความภาษาอังกฤษลงไปไม่เกิน 100 ตัวอักษร เช่น I will read English every day.
4.คลิกไอคอน Listen
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
เราสามารถให้เว็บ Google translate http://translate.google.com/
อ่านประโยคภาษาอังกฤษให้เราฟัง เพื่อเราจะได้ฝึกอ่านออกเสียงหรือพูดตาม
เสียงอ่านอาจจะไม่เพราะนัก แต่ก็พอฟังไหวครับ
วิธีใช้
1.ไปที่เว็บ Google translate http://translate.google.com/
2.คลิกให้มีคำว่า English หลังคำว่า From และ To (เป็น From English To English)
3.พิมพ์ข้อความภาษาอังกฤษลงไปไม่เกิน 100 ตัวอักษร เช่น I will read English every day.
4.คลิกไอคอน Listen
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
[1642] ฟัง Spoken Articles ที่เว็บ Wikipedia.org
สวัสดีครับ
ท่านที่ชอบค้นคว้าหาความรู้ คงรู้จักเว็บ Wikipedia.org เป็นอย่างดี
มีหน้าสำคัญที่ขอแนะนำ 3 หน้า
1) Wikipedia.org บทความภาษาอังกฤษ
http://en.wikipedia.org/
2) Wikipedia.org บทความภาษาอังกฤษ ง่าย ๆ
http://simple.wikipedia.org/
3) Wikipedia.org บทความภาษาไทย
http://th.wikipedia.org/
แต่บางท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า Wikipedia.org มีบทความเสียงภาษาอังกฤษให้ท่านฟังด้วย
ที่ลิงค์นี้ http://en.wikipedia.org/wiki/Wikipedia:Spoken_articles
เมื่อเข้าไปแล้วก็คลิกฟัง หลากหลายบทความได้ตามใจชอบ
นี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ในการแสวงหาความรู้ และในการฝึกภาษาอังกฤษ
ผมมีข้อชี้แจงและแนะนำนิดหน่อยครับ
1.เมื่อคลิกบทความหนึ่ง ๆ เพื่อฟัง, อาจฟังไม่ได้, กรณีนี้ท่านอาจจะต้องดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติม ซึ่งทางเว็บ Wikipedia.org ก็มีบริการไว้ให้ดาวน์โหลดหลายโปรแกรมที่ลิงค์นี้
http://www.mediawiki.org/wiki/Extension:OggHandler/Client_download
สำหรับผมเอง ชอบโปรแกรม VLC เพราะเป็นโปรแกรมดูหนังฟังเสียงที่คุณภาพหลากหลายกว้างขวาง
ดาวน์โหลด http://www.videolan.org/vlc/
2.ทางเว็บจะบอกว่า ไฟล์เสียงมีความยาวเท่าไร เช่น ใต้ปุ่ม Play มีข้อความ
Child.ogg (Ogg Vorbis sound file, length 2m59s, 77kbps)
แสดงว่า Spoken Article เรื่อง Child มีความยาว 2 นาที 59 วินาที
3.เมื่อคลิกฟังได้นิดเดียวไฟล์เสียงอาจจะหยุด, ให้ท่านคลิก More ใต้ปุ่ม Play
และคลิก Download file เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้ว ให้เปืดด้วยโปรแกรม VLC ที่ท่านติดตั้งเสร็จแล้วเมื่อตะกี้
4.บางบทความเสียงนี้ มี text ให้อ่านด้วย ให้สังเกตว่ามีบรรทัดที่เขียนทำนองนี้หรือไม่
อย่างเช่นบทความเรื่อง Child
จะมีบรรทัดที่เขียนว่า...
This is a spoken word version of the article Child.
หรือ
Corresponding article version: Click here to see the article as it was read
ลองทำความคุ้นเคยกับ Spoken Articles ที่เว็บ Wikipedia.org สักหน่อยนะครับ น่าสนใจทีเดียวครับ
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
ท่านที่ชอบค้นคว้าหาความรู้ คงรู้จักเว็บ Wikipedia.org เป็นอย่างดี
มีหน้าสำคัญที่ขอแนะนำ 3 หน้า
1) Wikipedia.org บทความภาษาอังกฤษ
http://en.wikipedia.org/
2) Wikipedia.org บทความภาษาอังกฤษ ง่าย ๆ
http://simple.wikipedia.org/
3) Wikipedia.org บทความภาษาไทย
http://th.wikipedia.org/
แต่บางท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า Wikipedia.org มีบทความเสียงภาษาอังกฤษให้ท่านฟังด้วย
ที่ลิงค์นี้ http://en.wikipedia.org/wiki/Wikipedia:Spoken_articles
เมื่อเข้าไปแล้วก็คลิกฟัง หลากหลายบทความได้ตามใจชอบ
นี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ในการแสวงหาความรู้ และในการฝึกภาษาอังกฤษ
ผมมีข้อชี้แจงและแนะนำนิดหน่อยครับ
1.เมื่อคลิกบทความหนึ่ง ๆ เพื่อฟัง, อาจฟังไม่ได้, กรณีนี้ท่านอาจจะต้องดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติม ซึ่งทางเว็บ Wikipedia.org ก็มีบริการไว้ให้ดาวน์โหลดหลายโปรแกรมที่ลิงค์นี้
http://www.mediawiki.org/wiki/Extension:OggHandler/Client_download
สำหรับผมเอง ชอบโปรแกรม VLC เพราะเป็นโปรแกรมดูหนังฟังเสียงที่คุณภาพหลากหลายกว้างขวาง
ดาวน์โหลด http://www.videolan.org/vlc/
2.ทางเว็บจะบอกว่า ไฟล์เสียงมีความยาวเท่าไร เช่น ใต้ปุ่ม Play มีข้อความ
Child.ogg (Ogg Vorbis sound file, length 2m59s, 77kbps)
แสดงว่า Spoken Article เรื่อง Child มีความยาว 2 นาที 59 วินาที
3.เมื่อคลิกฟังได้นิดเดียวไฟล์เสียงอาจจะหยุด, ให้ท่านคลิก More ใต้ปุ่ม Play
และคลิก Download file เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้ว ให้เปืดด้วยโปรแกรม VLC ที่ท่านติดตั้งเสร็จแล้วเมื่อตะกี้
4.บางบทความเสียงนี้ มี text ให้อ่านด้วย ให้สังเกตว่ามีบรรทัดที่เขียนทำนองนี้หรือไม่
อย่างเช่นบทความเรื่อง Child
จะมีบรรทัดที่เขียนว่า...
This is a spoken word version of the article Child.
หรือ
Corresponding article version: Click here to see the article as it was read
ลองทำความคุ้นเคยกับ Spoken Articles ที่เว็บ Wikipedia.org สักหน่อยนะครับ น่าสนใจทีเดียวครับ
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
[1641] รวมเว็บ test – answers TOEIC และ TOEFL
เพิ่ม 11 ธันวาคม 2553
TOEIC Tests
สวัสดีครับ
ในบล็อกนี้ ผมรวบรวมเว็บ ข้อสอบ และ เฉลย TOEIC และ TOEFL ไว้หลายเว็บ ที่นี่ครับ
TOEIC คลิก
TOEFL คลิก
วันนี้ผมหามาเพิ่ม ข้างล่างนี้ครับ
TOEIC
http://www.testden.com/challenge/free-toeic.asp *(ผมชอบ)
http://www.engvid.com/english-exams/toeic/
http://www.4tests.com/exams/examdetail.asp?eid=74
http://www.emse.fr/~yukna/business/businessemporium.html
TOEIC จาก TouTube.com
TOEFL
http://www.englishdaily626.com/tfvocab.php?062
http://www.testden.com/challenge/free-toefl.asp *(ผมชอบ)
http://www.vocaboly.com/vocabulary-test/
http://www.engvid.com/english-exams/toefl/
http://www.4tests.com/exams/examdetail.asp?eid=57
http://www.eslpod.com/toefl/scripts/scripts.html
TOEFL จาก TouTube.com
ศึกษาเพิ่มเติม:
http://www2.elc.polyu.edu.hk/CILL/default4.htm
http://www.answers.com/main/words.jsp
แหล่งค้นคว้า:
http://www.englishstudymaterials.com/
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
TOEIC Tests
สวัสดีครับ
ในบล็อกนี้ ผมรวบรวมเว็บ ข้อสอบ และ เฉลย TOEIC และ TOEFL ไว้หลายเว็บ ที่นี่ครับ
TOEIC คลิก
TOEFL คลิก
วันนี้ผมหามาเพิ่ม ข้างล่างนี้ครับ
TOEIC
http://www.testden.com/challenge/free-toeic.asp *(ผมชอบ)
http://www.engvid.com/english-exams/toeic/
http://www.4tests.com/exams/examdetail.asp?eid=74
http://www.emse.fr/~yukna/business/businessemporium.html
TOEIC จาก TouTube.com
TOEFL
http://www.englishdaily626.com/tfvocab.php?062
http://www.testden.com/challenge/free-toefl.asp *(ผมชอบ)
http://www.vocaboly.com/vocabulary-test/
http://www.engvid.com/english-exams/toefl/
http://www.4tests.com/exams/examdetail.asp?eid=57
http://www.eslpod.com/toefl/scripts/scripts.html
TOEFL จาก TouTube.com
ศึกษาเพิ่มเติม:
http://www2.elc.polyu.edu.hk/CILL/default4.htm
http://www.answers.com/main/words.jsp
แหล่งค้นคว้า:
http://www.englishstudymaterials.com/
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
[1640]กัดฟันเดินขึ้นยอดภูได้ 1 ภู, ภูต่อไปก็ไม่ยาก
สวัสดีครับ
การฝึกภาษาอังกฤษที่แต่ละคนใช้มีได้หลากหลายรูปแบบ แต่ทุกรูปแบบควรมีองค์ประกอบอย่างน้อย 2 อย่าง คือ ฝึกด้วยใจรัก และ ฝึกทุกวัน, หมายความว่า ต้องฝึกทั้งใจและกาย ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้
ผมอยากจะเสนอวิธีการฝึกอย่างหนึ่ง คือ การฝึกอย่างท้าทายตนเอง คือ การอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเล่มหนากว่าปกติ ให้จบสัก 1 เล่ม โดนอ่านทุกคำ ทุกหน้า ตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้าย
และถ้าท่านสามารถอ่านจบอย่างนี้ได้ 1 เล่ม, เล่มต่อไปก็ไม่ยาก เหมือนกัดฟันเดินขึ้นยอดภูได้ 1 ภู, ภูต่อไปก็ไม่ยาก ความเชื่อมั่นในตนเองที่แท้จริงมาจากความสำเร็จที่เกิดจากความพยายามของตนเอง เมื่อมีความสำเร็จครั้งที่ 1 ประสบการณ์ที่สะสมไว้ก็จะทำให้ความสำเร็จครั้งที่ 2 เกิดได้ง่ายขึ้น
ตอนท้ายบทความนี้ ผมมีไฟล์นิยายภาษาอังกฤษมากพอสมควรให้ท่านดาวน์โหลดไปอ่าน
ตอนนี้ขอแนะนำขั้นตอนการฝึกอ่าน
(1) เลือกหนังสือภาษาอังกฤษสัก 1 เล่ม ให้เป็นเนื้อเรื่องที่ท่าน 1)ชอบ, สนุก หรือ 2)ได้รับประโยชน์ ถ้ามีทั้ง 2 อย่างยิ่งดี ไม่ต้องรีบร้อนเลือกนะครับ สำหรับผมเอง ตอนฝึกผมใช้การอ่านนิยายเพราะสนุก
(2) ถ้าไม่ใช่นิยาย, เป็นหนังสือพวกวิชาการหรือความรู้, ให้พยายามทำความเข้าใจกับคำนำและสารบัญให้ชัดเจนเพื่อจะได้รู้คร่าว ๆ ว่า เรากำลังอ่านเรื่องอะไรอยู่, แต่ถ้าเป็นนิยาย ถ้าท่านรู้สึกว่ามันยากเกินไป ถ้ามีฉบับแปลเป็นภาษาไทย จะหามาอ่านให้รู้เรื่องไว้ก่อนก็ได้ครับ (ถ้ามี)
(3) ถ้าอ่านได้ช้า หรือรู้เรื่องน้อย ก็ไม่ต้อง serious หรอกครับ ถ้าอ่านไปเรื่อย ๆ ก็จะค่อย ๆ อ่านได้เร็วขึ้นและรู้เรื่องมากขึ้น ปริมาณจะนำสู่คุณภาพเองแหละครับ การทำอะไรบ่อย ๆ อาจจะทำให้เกิด 2 สิ่ง คือ ความเบื่อกับความชำนาญ ถ้าทนเบื่อไม่ได้ก็คงไม่มีวันชำนาญ หรือถ้าดีกว่านี้ก็คือ ปล่อยใจไม่ไปยึดมันกับความเบื่อที่เกิดขึ้นในใจ มันจะเบื่อก็ช่างมัน ไม่สนใจความเบื่อที่ใจรู้สึก แต่สนใจตัวหนังสือที่ตามองเห็นผมมีคำแนะนำเล็ก ๆ น้อย สำหรับท่านที่ต้องการฝึกการอ่าน ที่ 2 ลิงค์นี้ครับ
[175] เทคนิคการอ่าน นสพ.ฝรั่งให้รู้เรื่อง (ภาค 2)
[1312]อ่านอังกฤษคล่องต้องเข้าใจแกรมมาร์ 4เรื่องนี้
(4)เมื่ออ่านไปได้สักระยะหนึ่ง ให้ท่านกำหนดวันที่ท่านต้องอ่านจบ โดยไม่ตึงเกินไป แต่ก็อย่าหย่อนเกินไป และเมื่อกำหนดวันที่ท่านตั้งใจอ่านให้จบแล้ว ก็พยายามทำให้อ่านจบก่อนวัน deadline ให้ได้ อาจจะเป็น 2 สัปดาห์, 1 เดือน, 2 เดือน เป็นต้น ขอแนะว่า ถ้าวันใดมีเวลาเยอะโดยกะทันหัน ก็ควรจะอ่านมากหน่อย เพราะวันถัดไปท่านอาจจะมีเวลาน้อยโดยกะทันหันได้เช่นกัน
เอาละครับ ขอแนะนำไฟล์หนังสือนิยายที่ให้ท่านดาวน์โหลดไปอ่าน
1.นิยายที่เคยแนะนำในบล็อกนี้ คลิก
2.นิยายจาก 4shared.com คลิก
ที่ตอนท้ายของหน้า คลิกเลือก 1-2-3-4-5 …. ไปเรื่อย ๆ
3.นิทานที่เคยแนะนำในบล็อกนี้ คลิก
คิดง่าย ๆ แล้วกันครับว่า ก่อนที่คนเราจะชำนาญเรื่องใดก็ต้องฝึกทำสิ่งนั้นนาน ๆ การจะอ่านภาษาอังกฤษได้ชำนาญก็ต้องยอมฝึกอ่านนาน ๆ อย่าใจร้อนและเลิกฝึกง่าย ๆ ครับ
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
การฝึกภาษาอังกฤษที่แต่ละคนใช้มีได้หลากหลายรูปแบบ แต่ทุกรูปแบบควรมีองค์ประกอบอย่างน้อย 2 อย่าง คือ ฝึกด้วยใจรัก และ ฝึกทุกวัน, หมายความว่า ต้องฝึกทั้งใจและกาย ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้
ผมอยากจะเสนอวิธีการฝึกอย่างหนึ่ง คือ การฝึกอย่างท้าทายตนเอง คือ การอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเล่มหนากว่าปกติ ให้จบสัก 1 เล่ม โดนอ่านทุกคำ ทุกหน้า ตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้าย
และถ้าท่านสามารถอ่านจบอย่างนี้ได้ 1 เล่ม, เล่มต่อไปก็ไม่ยาก เหมือนกัดฟันเดินขึ้นยอดภูได้ 1 ภู, ภูต่อไปก็ไม่ยาก ความเชื่อมั่นในตนเองที่แท้จริงมาจากความสำเร็จที่เกิดจากความพยายามของตนเอง เมื่อมีความสำเร็จครั้งที่ 1 ประสบการณ์ที่สะสมไว้ก็จะทำให้ความสำเร็จครั้งที่ 2 เกิดได้ง่ายขึ้น
ตอนท้ายบทความนี้ ผมมีไฟล์นิยายภาษาอังกฤษมากพอสมควรให้ท่านดาวน์โหลดไปอ่าน
ตอนนี้ขอแนะนำขั้นตอนการฝึกอ่าน
(1) เลือกหนังสือภาษาอังกฤษสัก 1 เล่ม ให้เป็นเนื้อเรื่องที่ท่าน 1)ชอบ, สนุก หรือ 2)ได้รับประโยชน์ ถ้ามีทั้ง 2 อย่างยิ่งดี ไม่ต้องรีบร้อนเลือกนะครับ สำหรับผมเอง ตอนฝึกผมใช้การอ่านนิยายเพราะสนุก
(2) ถ้าไม่ใช่นิยาย, เป็นหนังสือพวกวิชาการหรือความรู้, ให้พยายามทำความเข้าใจกับคำนำและสารบัญให้ชัดเจนเพื่อจะได้รู้คร่าว ๆ ว่า เรากำลังอ่านเรื่องอะไรอยู่, แต่ถ้าเป็นนิยาย ถ้าท่านรู้สึกว่ามันยากเกินไป ถ้ามีฉบับแปลเป็นภาษาไทย จะหามาอ่านให้รู้เรื่องไว้ก่อนก็ได้ครับ (ถ้ามี)
(3) ถ้าอ่านได้ช้า หรือรู้เรื่องน้อย ก็ไม่ต้อง serious หรอกครับ ถ้าอ่านไปเรื่อย ๆ ก็จะค่อย ๆ อ่านได้เร็วขึ้นและรู้เรื่องมากขึ้น ปริมาณจะนำสู่คุณภาพเองแหละครับ การทำอะไรบ่อย ๆ อาจจะทำให้เกิด 2 สิ่ง คือ ความเบื่อกับความชำนาญ ถ้าทนเบื่อไม่ได้ก็คงไม่มีวันชำนาญ หรือถ้าดีกว่านี้ก็คือ ปล่อยใจไม่ไปยึดมันกับความเบื่อที่เกิดขึ้นในใจ มันจะเบื่อก็ช่างมัน ไม่สนใจความเบื่อที่ใจรู้สึก แต่สนใจตัวหนังสือที่ตามองเห็นผมมีคำแนะนำเล็ก ๆ น้อย สำหรับท่านที่ต้องการฝึกการอ่าน ที่ 2 ลิงค์นี้ครับ
[175] เทคนิคการอ่าน นสพ.ฝรั่งให้รู้เรื่อง (ภาค 2)
[1312]อ่านอังกฤษคล่องต้องเข้าใจแกรมมาร์ 4เรื่องนี้
(4)เมื่ออ่านไปได้สักระยะหนึ่ง ให้ท่านกำหนดวันที่ท่านต้องอ่านจบ โดยไม่ตึงเกินไป แต่ก็อย่าหย่อนเกินไป และเมื่อกำหนดวันที่ท่านตั้งใจอ่านให้จบแล้ว ก็พยายามทำให้อ่านจบก่อนวัน deadline ให้ได้ อาจจะเป็น 2 สัปดาห์, 1 เดือน, 2 เดือน เป็นต้น ขอแนะว่า ถ้าวันใดมีเวลาเยอะโดยกะทันหัน ก็ควรจะอ่านมากหน่อย เพราะวันถัดไปท่านอาจจะมีเวลาน้อยโดยกะทันหันได้เช่นกัน
เอาละครับ ขอแนะนำไฟล์หนังสือนิยายที่ให้ท่านดาวน์โหลดไปอ่าน
1.นิยายที่เคยแนะนำในบล็อกนี้ คลิก
2.นิยายจาก 4shared.com คลิก
ที่ตอนท้ายของหน้า คลิกเลือก 1-2-3-4-5 …. ไปเรื่อย ๆ
3.นิทานที่เคยแนะนำในบล็อกนี้ คลิก
คิดง่าย ๆ แล้วกันครับว่า ก่อนที่คนเราจะชำนาญเรื่องใดก็ต้องฝึกทำสิ่งนั้นนาน ๆ การจะอ่านภาษาอังกฤษได้ชำนาญก็ต้องยอมฝึกอ่านนาน ๆ อย่าใจร้อนและเลิกฝึกง่าย ๆ ครับ
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
[1639] เว็บแสดงประโยคตัวอย่างภาษาอังกฤษ (2)
สวัสดีครับ
ผมได้รวบรวมเว็บที่แสดงประโยคตัวอย่างการใช้คำศัพท์ที่เราต้องการศึกษา ไว้ที่ลิงค์นี้
[1581]10 วิธีในการหาประโยคตัวอย่างภ.อังกฤษจากเน็ต
ในความเห็นส่วนตัว ประโยคตัวอย่างเป็นสิ่งจำเป็นมากในการศึกษาภาษาอังกฤษ เพราะต่อให้เรารู้ความหมายของศัพท์เป็นหมื่น ๆ คำ แต่ถ้าเราไม่คุ้นเคยกับคำศัพท์นั้นที่วางอยู่ในประโยค เราก็คงจะงงเมื่ออ่านหรือได้ยินประโยคที่มีคำศัพท์นั้น และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเอาศัพท์นั้นไปผูกประโยคเพื่อเขียนหรือพูด ก็คงจะยิ่งงงไปกันใหญ่ เพราะฉะนั้นประโยคตัวอย่าง ที่มีให้เราศึกษาในเบื้องต้นจึงสำคัญมาก ๆ
วันนี้ผมมีอีก 2 เว็บ มาให้ท่านศึกษา
เว็บที่ 1: http://tatoeba.org/eng/
วิธีใช้
วิธีที่ 1: พิมพ์คำที่ต้องการลงในช่อง Example sentences…,ตรงช่อง From และ To ให้คลิกเลือก English, คลิก search
วิธีที่ 2: ตรง Random sentence (All languages) ให้คลิกเลือก English, และคลิก show another ไปเรื่อย ๆ
วิธีที่ 3: คลิกดู ALL SENTENCES IN ENGLISH (157854 RESULTS) ไปทีละหน้า
HTTP://TATOEBA.ORG/ENG/SENTENCES/SHOW_ALL_IN/ENG/NONE/NONE
วิธีที่ 4: ดู list ประโยคต่าง ๆ ในเว็บนี้ และคลิก list ที่ท่านสนใจ
HTTP://TATOEBA.ORG/ENG/SENTENCES_LISTS/INDEX
เว็บที่ 2: HTTP://IN-A-SENTENCE.COM/
วิธีใช้: คลิกพยัญชนะตัวแรกของคำศัพท์ที่ท่านต้องการศึกษาประโยคตัวอย่าง, เมื่อเข้าไปแล้วก็คลิกศัพท์คำที่ต้องการ, ศัพท์บางคำที่ประโยคตัวอย่างหลากหลายให้ท่านเลือกศึกษา น่าสนใจทีเดียวครับ
GemTriple@gmail.com
ผมได้รวบรวมเว็บที่แสดงประโยคตัวอย่างการใช้คำศัพท์ที่เราต้องการศึกษา ไว้ที่ลิงค์นี้
[1581]10 วิธีในการหาประโยคตัวอย่างภ.อังกฤษจากเน็ต
ในความเห็นส่วนตัว ประโยคตัวอย่างเป็นสิ่งจำเป็นมากในการศึกษาภาษาอังกฤษ เพราะต่อให้เรารู้ความหมายของศัพท์เป็นหมื่น ๆ คำ แต่ถ้าเราไม่คุ้นเคยกับคำศัพท์นั้นที่วางอยู่ในประโยค เราก็คงจะงงเมื่ออ่านหรือได้ยินประโยคที่มีคำศัพท์นั้น และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเอาศัพท์นั้นไปผูกประโยคเพื่อเขียนหรือพูด ก็คงจะยิ่งงงไปกันใหญ่ เพราะฉะนั้นประโยคตัวอย่าง ที่มีให้เราศึกษาในเบื้องต้นจึงสำคัญมาก ๆ
วันนี้ผมมีอีก 2 เว็บ มาให้ท่านศึกษา
เว็บที่ 1: http://tatoeba.org/eng/
วิธีใช้
วิธีที่ 1: พิมพ์คำที่ต้องการลงในช่อง Example sentences…,ตรงช่อง From และ To ให้คลิกเลือก English, คลิก search
วิธีที่ 2: ตรง Random sentence (All languages) ให้คลิกเลือก English, และคลิก show another ไปเรื่อย ๆ
วิธีที่ 3: คลิกดู ALL SENTENCES IN ENGLISH (157854 RESULTS) ไปทีละหน้า
HTTP://TATOEBA.ORG/ENG/SENTENCES/SHOW_ALL_IN/ENG/NONE/NONE
วิธีที่ 4: ดู list ประโยคต่าง ๆ ในเว็บนี้ และคลิก list ที่ท่านสนใจ
HTTP://TATOEBA.ORG/ENG/SENTENCES_LISTS/INDEX
เว็บที่ 2: HTTP://IN-A-SENTENCE.COM/
วิธีใช้: คลิกพยัญชนะตัวแรกของคำศัพท์ที่ท่านต้องการศึกษาประโยคตัวอย่าง, เมื่อเข้าไปแล้วก็คลิกศัพท์คำที่ต้องการ, ศัพท์บางคำที่ประโยคตัวอย่างหลากหลายให้ท่านเลือกศึกษา น่าสนใจทีเดียวครับ
a b c d e f g h i j k l m n o p q r s t u v w x y z
พิพัฒน์GemTriple@gmail.com
วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
[1638]เว็บฝึก ภ.อังกฤษสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาฝึก
สวัสดีครับ
ถ้าต้องการฝึกให้เก่งอังกฤษ เพื่อความรู้, ความเพลิดเพลิน, เพื่ออาชีพ, หรือเพื่ออะไรก็ตาม แต่มีเวลาน้อย, มีพื้นภาษาอังกฤษน้อย จะฝึกยังไง?
คำตอบของผมคือ มีเวลาน้อยหรือพื้นน้อยนั้นไม่สำคัญหรอกครับ ขอให้มีความรักมากก็ใช้ได้ เพราะเมื่อมีความรักย่อมสามารถหาเวลาให้แก่สิ่งที่รักได้ แต่ถ้าไม่รักแม้มีเวลาก็มักเอาไปใช้อย่างอื่น
เอาละครับ ผมถือว่าตอนนี้ท่านรักที่จะฝึกให้เก่งภาษาอังกฤษแล้ว แต่ติดขัดตรงที่มีเวลาน้อย ๆ ไม่มีเวลาอ่านหนังสือเป็นเล่ม ๆ, ไม่มีเวลาไปเข้าคอร์สที่โรงเรียนสอนภาษา, ฯลฯ สิ่งที่พอจะมีให้แก่ภาษาอังกฤษก็คือเวลาฝึกอยู่หน้าเน็ตวันละไม่เกิน 15 นาที จะต้องฝึกอย่างไร?
ผมมานั่งทบทวนดูอยู่หลายครั้งแล้ว ได้ข้อสรุปว่า วิธีที่ง่ายและได้ผลมากที่สุด ก็คือ เรียนภาษาอังกฤษทีละ 1 ประโยค, มีเวลาน้อยก็เรียนน้อยประโยค, มีเวลามากก็เรียนมากประโยค, แต่ต้องเจียดเวลาเรียนให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 ประโยค ขาดตัวห้ามต่อ
และใน 1 ประโยคที่เรียนนี้ ต้องเรียนอะไรบ้าง
[1]ฟัง: คือฟังให้รู้เรื่อง
[2]พูด: คือพูดออกเสียงมาดัง ๆ ตามที่ได้ยิน อย่าฝึกพูดในใจ หรืออย่าพูดเบา ๆ ให้ตัวเองได้ยินเพียงคนเดียว
[3]อ่าน:คืออ่านให้รู้เรื่อง ถ้าไม่รู้เรื่องก็ต้องทำยังไงก็ได้ให้รู้เรื่อง ประโยคเดียวนี่แหละ, จะด้วยการเปิดดิก ตีความ เดา หรือถามคนอื่น(ควรเป็นวิธีสุดท้าย)ก็ได้
การฟังกับอ่านนี่นะครับ ท่านจะฝึกไปพร้อมกัน, หรือจะอ่านก่อนฟัง, หรือฟังก่อนอ่าน เชิญเลือกฝึกได้ตามถนัดครับ สลับไปสลับมาก็ได้
[4]เขียน: ลองฝึกเขียน สิ่งที่ได้ฟังหรืออ่าน โดยไม่ต้องดูประโยคบนจอ
นี่แหละครับประโยคเดียว ฝึกให้ได้ทั้ง 4 แบบ คือ ฟัง – พูด - อ่าน – เขียน แค่ประโยคเดียวนี่แหละครับ ในการฝึกระยะแรก ๆ มันอาจจะงก ๆ เงิ่น ๆ แต่ถ้าฝึกไปเรื่อย ๆ ไม่ยอมหยุด ผลที่ได้รับจะค่อย ๆ งอกงามอย่างงดงาม
เอาละครับ คราวนี้มาถึงบทเรียนที่ผมเสนอเพื่อการฝึกภาษาอังกฤษทีละประโยค
ไปที่เว็บนี้ครับ: http://www.example-sentence.com/english
วิธีใช้เว็บ
1.ท่านจะเริ่มด้วยการอ่านประโยคให้เข้าใจดีเสียก่อน หรือ จะคลิกที่ปุ่ม play เพื่อฟังอย่างเดียวหลาย ๆ เที่ยว, หรือฟังพร้อมอ่าน จะฝึกอย่างไรก็ได้ครับตามใจท่าน แต่ให้ได้ฝึกทั้งการ ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ครบ 4 อย่างที่ผมบอกข้างต้น
2.เมื่อจะฝึกประโยคถัดไป ให้คลิก Refresh, ก็จะมีประโยคใหม่มาให้ท่านฝึก ทำไปได้เรื่อย ๆ
ผมสังเกตว่าประโยคที่เว็บนี้มีให้เราฝึก เป็นประโยคพื้นฐานที่สามารถจดจำไปใช้ได้, ศัพท์ก็พื้นฐานที่เจอบ่อย, ภาษาก็เรียบง่าย ถือเอาเป็นแบบฝึกหัดได้อย่างดีเลยครับ
อนึ่ง ถ้าท่านต้องการดาวน์โหลดเสียงอ่านประโยคเพื่อเอาไว้ฟังขณะที่ไม่ได้ต่อเน็ต ก็ให้คลิกขวาที่ปุ่ม play, และคลิกซ้าย Download This Video To Realplayer, ไฟล์ mp3 จะไปอยู่ที่ My Documents\My Videos\RealPlayer Downloads\Example Sentence English
ตัวช่วย
[1] ถ้ายังไม่ได้ลงโปรแกรม RealPlayer คลิกดาวน์โหลดได้ที่นี่ http://download.cnet.com/RealPlayer/3000-13632_4-10073040.html
[2] ถ้าต้องการเปิดดิก อังกฤษ – ไทย ไปที่นี่ครับ
http://www.google.co.th/dictionary
ผมขอให้ความเห็นก่อนจบเกี่ยวกับการฝึกภาษาอังกฤษสักนิดนะครับ...
ถ้าท่านเปิดพจนานุกรมไปที่ตัว ง งู, และพบคำว่า งง, ถ้าไล่ไปเรื่อย ๆ จะพบคำดังต่อไปนี้: ง่วง, งอกแงก, งอแง, ง่อนแง่น, ง่อย, งาน, งาม, และ ง่าย ตามลำดับ ผมขอบอกว่า เมื่อท่าน งง สิ่งที่มักจะตามมาก็ คือ ง งู ตามลำดับคำเหล่านี้แหละ คือ ง่วง, งอกแงก, งอแง, ง่อนแง่น, และ ง่อย แต่อย่าท้อครับ เพราะถ้าท่านสู้ไม่ถอย ในท้ายที่สุด ท่านก็จะถึงคำว่า งาน, งาม, ง่าย และแม้ว่ากว่าจะถึงคำว่า ง่าย ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่ก็เป็นสิ่งงดงามจากงานที่เราทำ ซึ่งถึงอย่างไรก็ดีกว่า การปล่อยให้ตัวเองติดแหงกอยู่กับสภาพ ง่วง, งอกแงก, งอแง, ง่อนแง่น, และ ง่อย
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
ถ้าต้องการฝึกให้เก่งอังกฤษ เพื่อความรู้, ความเพลิดเพลิน, เพื่ออาชีพ, หรือเพื่ออะไรก็ตาม แต่มีเวลาน้อย, มีพื้นภาษาอังกฤษน้อย จะฝึกยังไง?
คำตอบของผมคือ มีเวลาน้อยหรือพื้นน้อยนั้นไม่สำคัญหรอกครับ ขอให้มีความรักมากก็ใช้ได้ เพราะเมื่อมีความรักย่อมสามารถหาเวลาให้แก่สิ่งที่รักได้ แต่ถ้าไม่รักแม้มีเวลาก็มักเอาไปใช้อย่างอื่น
เอาละครับ ผมถือว่าตอนนี้ท่านรักที่จะฝึกให้เก่งภาษาอังกฤษแล้ว แต่ติดขัดตรงที่มีเวลาน้อย ๆ ไม่มีเวลาอ่านหนังสือเป็นเล่ม ๆ, ไม่มีเวลาไปเข้าคอร์สที่โรงเรียนสอนภาษา, ฯลฯ สิ่งที่พอจะมีให้แก่ภาษาอังกฤษก็คือเวลาฝึกอยู่หน้าเน็ตวันละไม่เกิน 15 นาที จะต้องฝึกอย่างไร?
ผมมานั่งทบทวนดูอยู่หลายครั้งแล้ว ได้ข้อสรุปว่า วิธีที่ง่ายและได้ผลมากที่สุด ก็คือ เรียนภาษาอังกฤษทีละ 1 ประโยค, มีเวลาน้อยก็เรียนน้อยประโยค, มีเวลามากก็เรียนมากประโยค, แต่ต้องเจียดเวลาเรียนให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 ประโยค ขาดตัวห้ามต่อ
และใน 1 ประโยคที่เรียนนี้ ต้องเรียนอะไรบ้าง
[1]ฟัง: คือฟังให้รู้เรื่อง
[2]พูด: คือพูดออกเสียงมาดัง ๆ ตามที่ได้ยิน อย่าฝึกพูดในใจ หรืออย่าพูดเบา ๆ ให้ตัวเองได้ยินเพียงคนเดียว
[3]อ่าน:คืออ่านให้รู้เรื่อง ถ้าไม่รู้เรื่องก็ต้องทำยังไงก็ได้ให้รู้เรื่อง ประโยคเดียวนี่แหละ, จะด้วยการเปิดดิก ตีความ เดา หรือถามคนอื่น(ควรเป็นวิธีสุดท้าย)ก็ได้
การฟังกับอ่านนี่นะครับ ท่านจะฝึกไปพร้อมกัน, หรือจะอ่านก่อนฟัง, หรือฟังก่อนอ่าน เชิญเลือกฝึกได้ตามถนัดครับ สลับไปสลับมาก็ได้
[4]เขียน: ลองฝึกเขียน สิ่งที่ได้ฟังหรืออ่าน โดยไม่ต้องดูประโยคบนจอ
นี่แหละครับประโยคเดียว ฝึกให้ได้ทั้ง 4 แบบ คือ ฟัง – พูด - อ่าน – เขียน แค่ประโยคเดียวนี่แหละครับ ในการฝึกระยะแรก ๆ มันอาจจะงก ๆ เงิ่น ๆ แต่ถ้าฝึกไปเรื่อย ๆ ไม่ยอมหยุด ผลที่ได้รับจะค่อย ๆ งอกงามอย่างงดงาม
เอาละครับ คราวนี้มาถึงบทเรียนที่ผมเสนอเพื่อการฝึกภาษาอังกฤษทีละประโยค
ไปที่เว็บนี้ครับ: http://www.example-sentence.com/english
วิธีใช้เว็บ
1.ท่านจะเริ่มด้วยการอ่านประโยคให้เข้าใจดีเสียก่อน หรือ จะคลิกที่ปุ่ม play เพื่อฟังอย่างเดียวหลาย ๆ เที่ยว, หรือฟังพร้อมอ่าน จะฝึกอย่างไรก็ได้ครับตามใจท่าน แต่ให้ได้ฝึกทั้งการ ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ครบ 4 อย่างที่ผมบอกข้างต้น
2.เมื่อจะฝึกประโยคถัดไป ให้คลิก Refresh, ก็จะมีประโยคใหม่มาให้ท่านฝึก ทำไปได้เรื่อย ๆ
ผมสังเกตว่าประโยคที่เว็บนี้มีให้เราฝึก เป็นประโยคพื้นฐานที่สามารถจดจำไปใช้ได้, ศัพท์ก็พื้นฐานที่เจอบ่อย, ภาษาก็เรียบง่าย ถือเอาเป็นแบบฝึกหัดได้อย่างดีเลยครับ
อนึ่ง ถ้าท่านต้องการดาวน์โหลดเสียงอ่านประโยคเพื่อเอาไว้ฟังขณะที่ไม่ได้ต่อเน็ต ก็ให้คลิกขวาที่ปุ่ม play, และคลิกซ้าย Download This Video To Realplayer, ไฟล์ mp3 จะไปอยู่ที่ My Documents\My Videos\RealPlayer Downloads\Example Sentence English
ตัวช่วย
[1] ถ้ายังไม่ได้ลงโปรแกรม RealPlayer คลิกดาวน์โหลดได้ที่นี่ http://download.cnet.com/RealPlayer/3000-13632_4-10073040.html
[2] ถ้าต้องการเปิดดิก อังกฤษ – ไทย ไปที่นี่ครับ
http://www.google.co.th/dictionary
ผมขอให้ความเห็นก่อนจบเกี่ยวกับการฝึกภาษาอังกฤษสักนิดนะครับ...
ถ้าท่านเปิดพจนานุกรมไปที่ตัว ง งู, และพบคำว่า งง, ถ้าไล่ไปเรื่อย ๆ จะพบคำดังต่อไปนี้: ง่วง, งอกแงก, งอแง, ง่อนแง่น, ง่อย, งาน, งาม, และ ง่าย ตามลำดับ ผมขอบอกว่า เมื่อท่าน งง สิ่งที่มักจะตามมาก็ คือ ง งู ตามลำดับคำเหล่านี้แหละ คือ ง่วง, งอกแงก, งอแง, ง่อนแง่น, และ ง่อย แต่อย่าท้อครับ เพราะถ้าท่านสู้ไม่ถอย ในท้ายที่สุด ท่านก็จะถึงคำว่า งาน, งาม, ง่าย และแม้ว่ากว่าจะถึงคำว่า ง่าย ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่ก็เป็นสิ่งงดงามจากงานที่เราทำ ซึ่งถึงอย่างไรก็ดีกว่า การปล่อยให้ตัวเองติดแหงกอยู่กับสภาพ ง่วง, งอกแงก, งอแง, ง่อนแง่น, และ ง่อย
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
[1637]ฝึกพูด 27,000 ประโยคง่าย ๆที่นำไปใช้ได้ทันที
สวัสดีครับ
การพูดภาษาอะไรก็ตาม ในระยะแรก ๆ เป็นเรื่องของการจดจำและเลียนแบบ แต่เมื่อพูดไปเรื่อย ๆ ทุกคนก็จะมี style การพูดเป็นของตัวเอง มีเอกลักษณ์ของตัวเอง โดยไม่ต้องเลียนแบบใคร
แต่กระนั้นก็ตาม ถ้าเป็นการสื่อสารพื้นฐาน คนก็มักจะใช้ประโยคเหมือน ๆ กัน โดยไม่มีใครกล่าวหาใครว่า จำประโยคคนอื่นมาพูด แต่เมื่อพ้นจากระดับพื้นฐานขึ้นไปแล้ว สำนวนที่แต่ละคนชอบใช้พูดก็มักต่างกันไปบ้าง
27,000 ประโยคภาษาอังกฤษง่าย ๆที่ผมนำมาเสนอในวันนี้ ถ้าท่านจำได้ และพูดได้ทันทีที่ต้องการพูด ก็จะมีประโยชน์มาก เพราะจะเป็นบันไดให้เราสามารถพูดเรื่องอื่น ๆได้ไม่รู้จบ
ลิงค์ข้างล่างนี้ มีลิงค์ละ 1,000 ประโยค โปรดอย่าอ่านในใจนะครับ แต่ให้ฝึกพูดออกมาดัง ๆ คำไหนออกเสียงไม่ถูกหรือไม่รู้คำแปล ก็ดับเบิ้ลคลิกคำนั้น จะมีคำแปลเป็นภาษาไทยปรากฏให้เห็น และคลิกที่รูปลำโพงเพื่อฟังเสียงคำศัพท์นั้น
ทั้ง 27,000 ประโยคนี้ เป็นภาษาง่าย ๆ ที่ใช้พูดจาสื่อสารกัน หลายท่านอ่านก็เข้าใจทันที ปัญหาของท่านคงไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้ แต่น่าจะอยู่ที่มันนึกไม่ออกทันทีเมื่อถึงนาทีที่ต้องพูด เพราะฉะนั้น ก็ฝึกพูดออกเสียงดัง ๆ ซะตอนนี้เลยครับ
ผมขอรับรองว่า ถ้าท่านฝึกกับ 27,000 ประโยคนี้ไปเรื่อย ๆ ท่านไม่เพียงแต่จะพูดภาษาอังกฤษได้คล่องขึ้นเท่านั้น แต่ท่านจะคิดเป็นภาษาอังกฤษอีกด้วย เมื่อถึงเวลานั้นก็เหมือนพยัคฆ์ติดปีก ถ้าไม่เชื่อตามที่ผมพูด ผมท้าให้พิสูจน์โดยลองฝึกดูครับ
1- 2- 3- 4- 5- 6- 7- 8- 9- 10- 11- 12- 13- 14- 15- 16- 17- 18- 19- 20-
21- 22- 23- 24- 25- 26- 27
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
การพูดภาษาอะไรก็ตาม ในระยะแรก ๆ เป็นเรื่องของการจดจำและเลียนแบบ แต่เมื่อพูดไปเรื่อย ๆ ทุกคนก็จะมี style การพูดเป็นของตัวเอง มีเอกลักษณ์ของตัวเอง โดยไม่ต้องเลียนแบบใคร
แต่กระนั้นก็ตาม ถ้าเป็นการสื่อสารพื้นฐาน คนก็มักจะใช้ประโยคเหมือน ๆ กัน โดยไม่มีใครกล่าวหาใครว่า จำประโยคคนอื่นมาพูด แต่เมื่อพ้นจากระดับพื้นฐานขึ้นไปแล้ว สำนวนที่แต่ละคนชอบใช้พูดก็มักต่างกันไปบ้าง
27,000 ประโยคภาษาอังกฤษง่าย ๆที่ผมนำมาเสนอในวันนี้ ถ้าท่านจำได้ และพูดได้ทันทีที่ต้องการพูด ก็จะมีประโยชน์มาก เพราะจะเป็นบันไดให้เราสามารถพูดเรื่องอื่น ๆได้ไม่รู้จบ
ลิงค์ข้างล่างนี้ มีลิงค์ละ 1,000 ประโยค โปรดอย่าอ่านในใจนะครับ แต่ให้ฝึกพูดออกมาดัง ๆ คำไหนออกเสียงไม่ถูกหรือไม่รู้คำแปล ก็ดับเบิ้ลคลิกคำนั้น จะมีคำแปลเป็นภาษาไทยปรากฏให้เห็น และคลิกที่รูปลำโพงเพื่อฟังเสียงคำศัพท์นั้น
ทั้ง 27,000 ประโยคนี้ เป็นภาษาง่าย ๆ ที่ใช้พูดจาสื่อสารกัน หลายท่านอ่านก็เข้าใจทันที ปัญหาของท่านคงไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้ แต่น่าจะอยู่ที่มันนึกไม่ออกทันทีเมื่อถึงนาทีที่ต้องพูด เพราะฉะนั้น ก็ฝึกพูดออกเสียงดัง ๆ ซะตอนนี้เลยครับ
ผมขอรับรองว่า ถ้าท่านฝึกกับ 27,000 ประโยคนี้ไปเรื่อย ๆ ท่านไม่เพียงแต่จะพูดภาษาอังกฤษได้คล่องขึ้นเท่านั้น แต่ท่านจะคิดเป็นภาษาอังกฤษอีกด้วย เมื่อถึงเวลานั้นก็เหมือนพยัคฆ์ติดปีก ถ้าไม่เชื่อตามที่ผมพูด ผมท้าให้พิสูจน์โดยลองฝึกดูครับ
1- 2- 3- 4- 5- 6- 7- 8- 9- 10- 11- 12- 13- 14- 15- 16- 17- 18- 19- 20-
21- 22- 23- 24- 25- 26- 27
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
[1636]ดิกฟรีที่ใช้กับ Word,PowerPoint ขณะต่อเน็ต
สวัสดีครับ
ขณะต่อเน็ต เราสามารถใช้บริการ ดิก อังกฤษ – อังกฤษ Encarta Dictionary ในเอกสาร Word หรือ PowerPoint ได้ง่าย ๆ ซึ่งเป็นดิกที่แสดงผลค่อนข้างเร็วทีเดียว
วิธีใช้งาน
1.ดับเบิ้ลคลิก หรือ ไฮไลต์ที่คำศัพท์ ในเอกสาร Word หรือ PowerPoint ขณะที่คอมฯของท่านต่อเน็ต
2.กด Shift+F7
3.ใต้ช่อง Search for: ด้านขวามือ มีดิก อังกฤษ – อังกฤษ 2 ยี่ห้อให้เลือกคลิกใช้ คือ
-Encarta Dictionary: English (North America)
-English Assistance: English (U.K.)
Tip:
-ท่านสามารถใช้เมาส์ลากขนาดหน้าดิก ให้กว้าง-แคบ ตามต้องการ
-ใช้เสร็จแล้ว คลิก X ที่มุมบนขวาของหน้าดิก เพื่อปิด
-ท่านสามารถ copy ข้อความภาษาอังกฤษจากหน้าเว็บ มา paste ใน Word และใช้บริการดิกด้วยวิธีที่แนะนำนี้
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
ขณะต่อเน็ต เราสามารถใช้บริการ ดิก อังกฤษ – อังกฤษ Encarta Dictionary ในเอกสาร Word หรือ PowerPoint ได้ง่าย ๆ ซึ่งเป็นดิกที่แสดงผลค่อนข้างเร็วทีเดียว
วิธีใช้งาน
1.ดับเบิ้ลคลิก หรือ ไฮไลต์ที่คำศัพท์ ในเอกสาร Word หรือ PowerPoint ขณะที่คอมฯของท่านต่อเน็ต
2.กด Shift+F7
3.ใต้ช่อง Search for: ด้านขวามือ มีดิก อังกฤษ – อังกฤษ 2 ยี่ห้อให้เลือกคลิกใช้ คือ
-Encarta Dictionary: English (North America)
-English Assistance: English (U.K.)
Tip:
-ท่านสามารถใช้เมาส์ลากขนาดหน้าดิก ให้กว้าง-แคบ ตามต้องการ
-ใช้เสร็จแล้ว คลิก X ที่มุมบนขวาของหน้าดิก เพื่อปิด
-ท่านสามารถ copy ข้อความภาษาอังกฤษจากหน้าเว็บ มา paste ใน Word และใช้บริการดิกด้วยวิธีที่แนะนำนี้
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
[1635] รวมข้อมูลดิจิตอล"ในหลวง-ราชินี"
สวัสดีครับ
วันนี้ผมพบ เว็บที่แนะนำ รวมข้อมูลดิจิตอล "ในหลวง-ราชินี"
ที่ลิงค์ http://tinyurl.com/2u63d87
ย่อหน้าแรกของลิงค์เขียนไว้ว่า
เว็บไซต์สำนักราชเลขาธิการ http://www.ohmpps.go.th/ จัดทำเสร็จสมบูรณ์แบบ ทำหน้าที่เผยแพร่พระราชดำรัส พระบรมราโชวาท และพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 1 ปี
ภายในเว็บไซต์บรรจุข้อมูลที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดทำและเผยแพร่สู่พสกนิกรชาวไทยด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศทันสมัย ทั้งในรูปแบบไฟล์ภาพ มัลติมีเดีย และพีดีเอฟ แบ่งเป็นหมวดหมู่ชัดเจน นับเป็น "เว็บไซต์ทรงคุณค่าตลอดกาล" ของคนไทยทั้งชาติ และยังมีคำแปลเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษสำหรับชาวต่างประเทศอีกด้วย
ลิงค์ในเว็บที่ขอแนะนำมีดังนี้ครับ
-สำนักพระราชวัง และ คลิก เมนูหลัก
-พระราชดำรัสและพระบรมราโชวาท
-การค้นหาขั้นสูง
-คำแนะนำในการค้นหา
ผมขอแนะนำว่า เป็นเว็บที่มีคุณค่าจริง ๆ ท่านสามารถพิมพ์คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ท่านต้องการค้นลงไป ในช่อง “สืบค้น” เช่นคำว่า Birthday, birthday, goodness, honesty, economy,Buddha,Buddhism เป็นต้น
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันนี้ผมพบ เว็บที่แนะนำ รวมข้อมูลดิจิตอล "ในหลวง-ราชินี"
ที่ลิงค์ http://tinyurl.com/2u63d87
ย่อหน้าแรกของลิงค์เขียนไว้ว่า
เว็บไซต์สำนักราชเลขาธิการ http://www.ohmpps.go.th/ จัดทำเสร็จสมบูรณ์แบบ ทำหน้าที่เผยแพร่พระราชดำรัส พระบรมราโชวาท และพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 1 ปี
ภายในเว็บไซต์บรรจุข้อมูลที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดทำและเผยแพร่สู่พสกนิกรชาวไทยด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศทันสมัย ทั้งในรูปแบบไฟล์ภาพ มัลติมีเดีย และพีดีเอฟ แบ่งเป็นหมวดหมู่ชัดเจน นับเป็น "เว็บไซต์ทรงคุณค่าตลอดกาล" ของคนไทยทั้งชาติ และยังมีคำแปลเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษสำหรับชาวต่างประเทศอีกด้วย
ลิงค์ในเว็บที่ขอแนะนำมีดังนี้ครับ
-สำนักพระราชวัง และ คลิก เมนูหลัก
-พระราชดำรัสและพระบรมราโชวาท
-การค้นหาขั้นสูง
-คำแนะนำในการค้นหา
ผมขอแนะนำว่า เป็นเว็บที่มีคุณค่าจริง ๆ ท่านสามารถพิมพ์คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ท่านต้องการค้นลงไป ในช่อง “สืบค้น” เช่นคำว่า Birthday, birthday, goodness, honesty, economy,Buddha,Buddhism เป็นต้น
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
[1634] แนะนำ Study Zone – Victoria University
สวัสดีครับ
ถ้าถามว่า เว็บเรียนภาษาอังกฤษฟรี ๆ ที่มีให้ในเน็ตนี้ อย่างไรจึงเป็นเว็บที่น่าเข้าไปใช้ ความเห็นของผมคือ
1.เนื้อหาดี
2.ใช้ง่าย สนุก น่าสนใจ น่าท้าทาย น่าตื่นเต้น
-บางเว็บดีทั้งเนื้อหา และน่าสนใจ
-บางเว็บเนื้อหาดีมาก แต่ทำเว็บไม่น่าสนใจ
-บางเว็บทำเว็บได้น่าสนใจมาก แต่เนื้อหาไม่ค่อยดี
-และก็มีบางเว็บที่เนื้อหาไม่ดี และนำเสนอได้ไม่น่าใจ
แต่เว็บทุกประเภทก็ยังเป็นเว็บที่น่าชมเชยอยู่นั่นเอง เพราะ ฟรี !!
วันนี้ผมมีเว็บประเภทแรกมาเสนอ คือ ดีทั้งเนื้อหา และน่าสนใจ
ลองใช้ดูนะครับ
Welcome to the Study Zone!
Choose your English language level:
Upper Beginner (Level 200)
Lower Intermediate (Level 330)
Intermediate (Level 410)
Upper Intermediate (Level 490)
Advanced (Level 570)
แถม:
http://www.rhlschool.com/
http://www.rhlschool.com/english.htm
http://www.rhlschool.com/reading.htm
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
ถ้าถามว่า เว็บเรียนภาษาอังกฤษฟรี ๆ ที่มีให้ในเน็ตนี้ อย่างไรจึงเป็นเว็บที่น่าเข้าไปใช้ ความเห็นของผมคือ
1.เนื้อหาดี
2.ใช้ง่าย สนุก น่าสนใจ น่าท้าทาย น่าตื่นเต้น
-บางเว็บดีทั้งเนื้อหา และน่าสนใจ
-บางเว็บเนื้อหาดีมาก แต่ทำเว็บไม่น่าสนใจ
-บางเว็บทำเว็บได้น่าสนใจมาก แต่เนื้อหาไม่ค่อยดี
-และก็มีบางเว็บที่เนื้อหาไม่ดี และนำเสนอได้ไม่น่าใจ
แต่เว็บทุกประเภทก็ยังเป็นเว็บที่น่าชมเชยอยู่นั่นเอง เพราะ ฟรี !!
วันนี้ผมมีเว็บประเภทแรกมาเสนอ คือ ดีทั้งเนื้อหา และน่าสนใจ
ลองใช้ดูนะครับ
Welcome to the Study Zone!
Choose your English language level:
Upper Beginner (Level 200)
Lower Intermediate (Level 330)
Intermediate (Level 410)
Upper Intermediate (Level 490)
Advanced (Level 570)
แถม:
http://www.rhlschool.com/
http://www.rhlschool.com/english.htm
http://www.rhlschool.com/reading.htm
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com