คนไทยจำนวนไม่น้อย ที่มี 2 อย่างนี้ คือ
(1)รู้ศัพท์เยอะ (จากการท่อง)
(2)รู้แกรมมาร์ดี (จากการอ่านตำรา)
แต่ก็ยังพูดภาษาอังกฤษได้อย่างทุรกันดาร
สาเหตุก็คงมีเยอะ แต่สาเหตุใหญ่ข้อหนึ่งในความเห็นของผม ก็คือ สิ่งที่เรารู้ข้างต้น คือศัพท์และแกรมมาร์ เรารู้มาอย่างขืนธรรมชาติ แต่ถ้ารู้อย่างตามธรรมชาติ จะต้องรู้มาเพราะเราได้ยินสิ่งที่คนอื่นพูด และได้อ่านสิ่งที่คนอื่นเขียน
ในสิ่งที่เราได้ยินและได้อ่านนั้น มีทั้งศัพท์และหลักการใช้ศัพท์(แกรมมาร์)อยู่ครบถ้วน เราจึงรู้ความหมายหมายของศัพท์โดยไม่ต้องเปิดดิก และรู้หลักแกรมมาร์โดยไม่ต้องเปิดตำรา
เมื่อคนไทยเรียนภาษาอังกฤษในสิ่งแวดล้อมแบบไทย ๆ มันก็เป็นธรรมดาที่เราต้องเรียนอย่างขืนธรรมชาติบ้าง โดยการเปิดดิกและเปิดหนังสือแกรมมาร์ การเปิด 2 สิ่งนี้จึงไม่ใช่เรื่องผิด แต่เรื่องที่ผิดก็คือ ในขณะที่เราสนใจเรียนภาษาอังกฤษอย่างขืนธรรมชาติ เรากลับเอาใจใส่น้อยเกินไปในการเรียนภาษาอังกฤษอย่างตามธรรมชาติ
การเรียนภาษาอังกฤษอย่างตามธรรมชาติ คือ
เปิดหูกว้าง ๆ หา mp3,วีดิโอ, CD, ทีวี ที่มีคนพูดภาษาอังกฤษมาฟังเยอะ ๆ และ
เปิดตากว้าง ๆ หาภาษาอังกฤษมาอ่านเยอะ ๆ
เปิดหูกว้าง ๆ หา mp3,วีดิโอ, CD, ทีวี ที่มีคนพูดภาษาอังกฤษมาฟังเยอะ ๆ และ
เปิดตากว้าง ๆ หาภาษาอังกฤษมาอ่านเยอะ ๆ
XXX - ถ้าตอนนี้ท่านเปิดหูแล้ว และกำลังมองหาภาษาอังกฤษที่จะใช้ฝึกฟัง เชิญคลิกที่นี่ -ฟัง- และเลือกสิ่งที่ถูกใจท่านเอามาฟัง
XXX - และถ้าท่านเปิดตาแล้ว และกำลังมองหาภาษาอังกฤษที่จะใช้ฝึกอ่าน เชิญคลิกที่นี่ -อ่าน – และเลือกสิ่งที่ถูกใจท่านเอามาอ่าน
แต่สิ่งที่ผมตั้งใจเป็นพิเศษที่จะนำเสนอท่านผู้อ่านในวันนี้ คือ แหล่งรวบรวมประโยคตัวอย่าง โดยท่านเพียงพิมพ์คำศัพท์ลงไป ในช่อง Search ของเว็บนั้น ๆ, Enter, เว็บก็แสดงประโยคตัวอย่างมากมายที่มีศัพท์คำนั้นอยู่ เมื่อฝึกอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ท่านจะคุ้นเคยกับการใช้ศัพท์คำนั้น และเป็นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งได้ผล
ฝึกไปเรื่อย ๆ เถอะครับ ได้ผลแน่ ๆ ถ้าไม่ทอดทิ้งง่าย ๆ
พิพัฒน์
www.facebook.com/e4thai
e4thai@live.com
ขอบคุณค่ะคุณลุง ^^
ตอบลบขอบคุณมากกับสิ่งดีๆ ที่คุณทำให้กับสังคมมาตลอดค่ะ
ตอบลบผมเป็นคนหนึ่งที่ได้ใช้วิธีของคุณพิพัฒน์ที่แนะนำหลายวิธีและตั้งแต่หลสยปีที่ผ่านมาคือ ฟังมากๆ หาโอกาศใช้ ถ้าไม่มีโอกาส ก็ลองคุยกับตัวเองโดยสมมุติว่าคุณเป็น A และ B ลองโต้ตอบคุยไปคุยมาวิว่าเป็นอย่างไร และแน่นอนคนที่เริ่มฝึกใหม่ไตมที่ผมพูด ก็คงจะพูดไม่ได้มากหรือไม่นาน ก็ไม่รู้จะถามตอบอะไร นั่นแหละ มันกำลังจะบอกว่า คุณยังไม่มีภาษาอังกฤษ อยู่ในตัวหรือหัว ยังไม่มาก ที่ผมหมายถึงคือ การพุดเป็นประโยคต่อเนื่อง และผมก็เข้าใจด้วยว่าความรู้สึกมันเป็นอย่างไร เช่น จะคิดว่า ประธานคืออะไร หากริยา และกรรมบ้าง ถึงแม้ว่าคุณจะรู้ศัพท์มาก หรือ grammar มาก แต่พวกคุณก็พูดไม่ได้หรอก แล้วอะไรคือสาเหตูหลักละ 1 ไม่เคยฝึกพูดเป็นประโยคแบบต้อเนื่องเป็นเรื่องราว 2 ไม่มีประโยคที่จะพูดอยู่ในหัว จึงมัวหาประธาน กริยาและ กรรม ฝรั่งไปแล้วไม่รอหรอก 3เพราะไม่เคยฟังภาษาอังกฤษที่พูดเป็นประโยคต่อเนื่องและเป็นธรรมชาติ เช่นจากฝรั่งที่คุยกัน จากหนัง จากข่าว ผมจะบอกอะไรให้ ถ้าใครมีศัพท์และเก่งแกรมมาร์มาก วิธที่ผมกล่าวไป 3 ข้อ ข้างต้น จะทำให้คุณพูดภาษอังกฤษได้ ภายในเวลา 4-6 เดือนเป็นอย่างน้อย ไม่เชื่อลองทำดู แล้วเพื่อนๆที่ทำงานกับคุณ เขาจะบอกคุณเองว่า ทำไมพูดภาษาดีขึ้น หลังจากคุณก็ทำให้ 3 ข้อ ที่ผมกล่าวไปเข้มข้นมากขึ้น โดยทำให้มากขึ้น ก็เท่านั้นเอง ฟังเหมือนง่าย แต่ตอนทำหรือฝึก มันก็ก็ต้องยากแน่นอน แต่คุณอย่าท้อก็แล้วกัน วิธีการ ฝึกใหม่มันจะเบื่อ เพราะฟังไม่ทันบ้างและโดยเฉพาะฟังแล้วไม่รู้เรื่องว่าเขาพูดอะไร เร็วไป หรือ ไม่เคยได้ยินคำหรือประโยคนี้เลย อย่าเพิ่งท้อ ผมก็เป็นเหมือนทุกๆคนนั้นแหละ เพราะไม่ใช่ภาษาของเราที่ใช้มาตั้งแต่เกิด ดังนั้นก็ต้องอาศัยระยะเวลาให้หูปรับหน่อย และปัญหาที่คนฝึกภาษไม่สำเร็จคือ เบื่อ ไม่ได้ ไม่รู้สักที ผมก็เป็น แต่จะบอกอะไรให้ซึ่งเป็นความลับที่สำคัญ สำหรับคนที่ต้องการฝึกให้สำเจโดยที่มไต้องไปอยู่หรือเรียนที่เมืองนอกเหมือนผม เรียนโดรงเรียนวัดตอนเด็กต่างจังหวัด โตไม่เคยเรียน inter แต่ผมสามารถพูดกัปฝรั่งได้ทุกคน นานเป็นชั่วโมงหรือนานกว่านั้น ไม่ได้คุยแต่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่า พวกคุณก็ทำได้ ไม่ว่าจะชาติไหน โดยเฉพาะ พวกที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาเหมือน american english autralian พวกนี้เสร็จเรา เพาระเราฝึกจากเจ้าของภาษา 3 ชาตินั้น โม้มากเกือบลืมบอกความลับ มันก็คือ ถ้าคุณฝึกและไม่หยุดกลางคันต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือน ไม่หยุดกลางคันหมายความว่า วันไหนขี้เกียงก็ฝึกน้อย แต่ภ้าวันไหนขยันก็ฝึกมาก คุณเจอเหตุการณ์นี้แน่รับรอง ต่อเนื่อง อย่างน้อย 3 เดือน แล้วคุณจะเจอความลับคือ คุณจะชอบภาษา ไม่อยากไปไหนอยากอยู่บ้าน ดูหนัง CNN BBC CNBC แต่ถ้าคุณจำเป็นต้องไปข้างนอกจริงๆ คุณจะเอาไปด้วยด้วย โดยผมก็ copy ลงมือถึอ หรือ MP3 ถ้าใครมี เพื่อเอาไปฟังนั่นเอง อันนี้แหละคือความลับสำคัญ เพรสะคนส่วนใหญ่ 1-2 อาทิตย์ก็ท้อแล้ว ก็เลยไม่ถึงความลับที่ผมบอกไงครับ ดังนั้นทุกคนรู้แล้วนะว่า ถ้าฝึกไปเรื่อย่อย่างน้อย 3-6 เดือนคุณจะรักมัน และชอบมัน และมากขึ้นๆๆๆๆ จนคุณเก่ง ปัจจุบันผมก็ยังฝึกอยู่เลย พูดมาตั้งนานอย่าไปเสียเลยครับกับโรงเรียนสอนภาษาแล้วพูดได้ มันอยู่ที่ตัวทุกๆคนว่าจะอดทนและจริงจังกับมันจริงหรือเปล่าก็เท่านั้น แต่ผมบอกให้อย่าง ถ้าอยากหางานได้ง่ายสำหรับจบใหม่ หรือทำงานแล่วแต่อยากได้เงินเป็นแสน จริงๆนะครับไม่ได้เขียนผิด เป็นแสน เพียงแต่คุณพูดภาษาได้ เพราะประเทศเราเปิดให้ต่างชาติมาลงทุน ดังนั้นภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางที่ใช้พูดคุยกันทั่วโลกครับ ถ้าใครสนใจว่าฝึออย่างไร โทรหาผมได้ครับ และยินดีฝึกให้ด้วย 0812552863 พี่ นัท
ตอบลบพระนิสิต มจร. เจริญพรขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆ
ตอบลบเป็นการสร้างปัญญาบารมีอย่างท่องแท้