หมายเหตุ:
ทางเว็บ www.learningpune.com ได้แนะนำลิงค์ที่สามารถอ่านคำคมทั้งหมดพร้อมคำแปล
http://learningpune.com/?page_id=3588
ขอบคุณมากครับ
พิพัฒน์
สวัสดีครับ
วันนี้ผมมีเว็บที่ให้อ่านถ้อยคำเสริมสร้างกำลังใจหรือแรงบันดาลใจ เป็นถ้อยคำภาษาอังกฤษสั้น ๆและมีคำแปลภาษาไทยเทียบ
แต่ก่อนจะแนะนำเว็บ ผมขออนุญาตพูดอะไรนิดนึงนะครับ
คือเท่าที่มองดู หนังสือที่เกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจหรือแรงบันดาลใจแปลจากอังกฤษเป็นไทย มีวางขายมากมายพอสมควรในเมืองไทย และบางเล่มก็ขายดี หนังสือพวกนี้โดยมากฝรั่งแต่ง ในอินเทอร์เน็ตก็มีให้หาอ่านได้ไม่น้อย
เช่นที่นี่
จะดูวีดิโอ ที่ YouTube ก็มีเยอะ
หนังสือและวีดิโอพวกนี้ เมื่อใครได้อ่านก็คงจะรู้สึกคล้าย ๆ กันคือ เกิดกำลังใจที่จะสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้น
เมื่อมองย้อนดูสังคมไทย ถ้าถามว่าคนไทยโดยทั่วไปทุกวันนี้ใช้ความพยายามมากขึ้นหรือเปล่าเพื่อทำให้ตัวเองพบความสำเร็จ คำตอบก็น่าจะเป็น “ใช่” เราไม่ได้เพียงแข่งขันกับคนไทยกันเองเท่านั้น แต่โลกไร้พรมแดนเช่นทุกวันนี้ทำให้เราต้องแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านและโลกทั้งโลก
นักเรียนต้องแข่งขันกันเข้ามหาวิทยาลัยดังให้ได้ – ข้าราชการหรือพนักงานบริษัทต้องแข่งขันกันเพื่อให้ได้ตำแหน่งสูงกว่าคนอื่น – นักธุรกิจ นักการเมือง ต้องแข่งขันกันทั้งนั้น
การ “แข่งขัน” ที่มากขึ้น ทำให้เราต้อง “ขยัน” มากขึ้น ทำให้เราต้อง “แก่งแย่ง”
หรือนี่จะเป็นวิถีชีวิตปกติของมนุษย์ในโลกยุคโลกาภิวัตน์นี้ หรือก่อนหน้านี้ด้วย?
คำถามข้อที่ 1 ของผมก็คือ หนังสือพวก inspiration ที่ช่วยเสริมสร้างกำลังใจหรือแรงบันดาลใจ มันออกมาแล้วมีประโยชน์อะไรต่อผู้คนบ้าง มีประโยชน์อะไรต่อมนุษยชาติโดยรวมบ้าง
ที่มองเห็นได้ชัด ๆ ประโยชน์ของหนังสือพวกนี้คือ มันทำให้คนที่ท้อแท้มีกำลังใจ ทำให้คนที่รู้สึกอ่อนแอกลับเข้มแข็งขึ้น ทำให้คนที่ล้มเหลวพบเส้นทางที่จะเดินไปสู่ความสำเร็จ
ในระยะหลัง ๆ มีศัพท์ใหม่ที่เกิดขึ้น คือ positive thinking ซึ่งบอกวิธีคิดที่สร้างสรร – ทำให้ใจเป็นสุข – ทำให้งานสำเร็จ แม้จะพบกับเหตุการณ์ที่ชวนให้ท้อแท้ – เป็นทุกข์ ก็ตาม
และคนไทยบางคนหรือหลายคนก็รับเทคโนโลยีทางความคิดเช่นนี้จากฝรั่ง นอกเหนือจากเทคโนโลยีทางวัตถุที่คนไทยแทบทุกคนก็รับเป็นปกติอยู่แล้ว
คำถามข้อที่ 2 ของผมก็คือ เทคโนโลยีทางความคิดเช่นนี้มีข้อบกพร่อง หรือ defect หรือเปล่า และ วัฒนธรรมของไทยเรามีสิ่งนี้หรือสิ่งที่ดีกว่านี้อยู่แต่เดิมหรือเปล่า?
ตามความเห็นของผม เทคโนโลยีทางความคิดของฝรั่งเช่นนี้ แม้จะมีข้อดีอยู่เยอะ แต่ก็มีข้อบกพร่อง หรือ defect แน่ ๆ เพราะมันน่าจะมีส่วนอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย ที่ทำให้ 3 สิ่งข้างล่างนี้เป็นสิ่งปกติของสังคม คือ
1)-คนไร้น้ำใจตัวใครตัวมันมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ผิดกฎหมาย
2)- คนเอาเปรียบกันมากขึ้น ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ไม่ผิดกฎหมายอีกเช่นกัน ถ้าสามารถเอาเปรียบในขอบเขตที่กฎหมายอนุญาต
3)- คนเคร่งเครียดมีความทุกข์มากขึ้น
ในประเทศขวัญใจคนไทยหลายคน คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน มีสถิติการฆ่าตัวตาย อยู่ในลำดับต้น ๆ คือ
คนญี่ปุ่น ฆ่าตัวตายมากเป็นอันดับ 4 ของโลก
คนเกาหลีใต้ ฆ่าตัวตายมากเป็นอันดับ 8 ของโลก
คนจีนแผ่นดินใหญ่ ฆ่าตัวตายมากเป็นอันดับ 19 ของโลก
(คนไทย ฆ่าตัวตายมากเป็นอันดับ 58 ของโลก)
ลิงค์อ้างอิง 1
ลิงค์อ้างอิง 2
และเมื่อถามว่า วัฒนธรรมของไทยเรามีสิ่งนี้หรือสิ่งที่ดีกว่านี้อยู่แต่เดิมหรือเปล่า? คำตอบของผมก็คือ มีครับ ก็คือคำสอนเรื่อง
อิทธิบาท 4 ฉันทะ-วิริยะ-จิตตะ-วิมังสา คือมี ใจรักและใจสู้ ที่จะผลักดันทุกสิ่งที่ทำเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ
แต่ควบคู่กับอิทธิบาท 4 เราก็ยังมี บุญกิริยาวัตถุ 3 (ทาน – ศีล – ภาวนา) เป็นหลักประคองใจให้การใช้ความพยายามดำเนินไปอย่างมนุษย์ผู้มีธรรม ไม่ใช่เพียงดำเนินไปตามสัญชาตญาณที่คนและสัตว์มีเหมือนกัน
ทาน คือ ความมีน้ำใจ ไม่ใช่เอาแต่ตัวใครตัวมัน
ศีล คือ การไม่เอาเปรียบกัน ไม่ว่าจะมองจากกรอบของศาสนา หรือกรอบของกฎหมายก็ตาม
ภาวนา คือการฝึกสติ (สมถะ-วิปัสสนา) เพื่อกำกับจิตใจมิให้ไหลไปตามความเครียดและความทุกข์
แต่น่าเสียดายที่หลายคนยุคนี้ทิ้งหลัก ทาน – ศีล – ภาวนา จนทำร้ายตัวเองและทำร้ายผู้อื่น ทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว
ขอย้อนกลับไปถึงเรื่อง คำคมสร้างแรงบันดาลใจ ที่ผมพูดไว้ตั้งแต่ต้น ในความรู้สึกส่วนตัว ไม่ว่าคำคมเหล่านี้จะฟังดูดีลึกซึ้งน่าเลื่อมใสปานใดก็ตาม ผมก็ยังมีความรู้สึกอยู่เสมอมาว่า ในการเดินทางไปสู่ความสำเร็จใด ๆ ก็ตามที่เรามุ่งหวัง เรามิได้มีชีวิตอยู่คนเดียวในโลกนี้ เพราะฉะนั้น เส้นทางแห่งความสำเร็จของเรา
-ควรเป็นเส้นทางแห่งทาน คือ การมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์
-ควรเป็นเส้นทางแห่งศีล คือ การไม่เอาเปรียบเพื่อนมนุษย์
-ควรเป็นเส้นทางแห่งภาวนา คือ การไม่ปล่อยใจตัวเองให้ขาดสติจนเป็นทุกข์
ความสำเร็จในชีวิต ควรมีทั้งอิทธิบาทธรรม และบุญกิริยาวัตถุไปพร้อมกัน
ผมคงต้องขอหยุดการเกริ่นนำการเข้าไปยังเว็บ Inspirational Quote ไว้เพียงแค่นี้
ต่อจากนี้ก็ขอแนะนำเว็บนั้นเลยครับ คือ เรียนอินเดีย ปูเณ่
เมื่อเข้าไปแล้ว ให้ดูที่คอลัมน์ขวามือ ใต้คำว่า Inspirational Quote จะมีคำคมเป็นภาษาอังกฤษและคำแปลเป็นภาษาไทยให้อ่าน
เมื่ออ่านจบแล้วก็คลิก Next quote » ไปเรื่อย ๆ
ศึกษาเพิ่มเติม: quoteworld.org
ในเว็บเดียวกันนี้ ยังมีรวบรวมบทความ ฝึกภาษาอังกฤษ ให้เก่ง ณ วันนี้มีทั้งหมด 39 บทความ รวม 3 ลิงค์ 1 - 2 - 3
วันหน้าคงจะมีมากกว่านี้ คือ 4 - 5 - 6
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
อาจารย์พิพัฒน์คะ คำเกริ่นนำของอาจารย์มีคุณค่ามากค่ะ อย่าคิดว่าเราเป็นสิ่งมีชีวิตสิ่งเดียวบนโลกนี้เพียงแค่เผาเราก็เป็นฝุ่นธุลี
ตอบลบต้องการคำคมทั้งหมดพร้อมคำแปล เข้าไปที่ลิงก์นี้ได้เลยค่ะ http://learningpune.com/?page_id=3588
ตอบลบขอบคุณมากค่ะที่ช่วยแนะนำ
www.learningpune.com
สวัสดีครับคุณอาพิพัฒน์
ตอบลบผมอ่าน Reader's Digest Asia ฉบับเดือน พฤษภาคม 2010 หน้า 112 เรื่อง back scratcher's T-shirt และผมมีปัญหาภาษาอังกฤษจะรบกวนถามคุณอาครับ คำถามคือว่ามีประโยคหนึ่งเขาเขียนว่า: Those days are gone thanks to this utilitarian garment, which is part Battleship, part itch's worst eneny. ตรงคำว่า
"itch's worst" ควรออกเสียงยังไงครับ และความหมายของประโยคนี้หมายความว่าอย่างไรครับ
รบกวนคุณอาด้วยครับ หรือท่านใดรู้กรุณาด้วยครับ
ผมติดประโยคนี้มาสองวันแล้วครับ
ลิงค์ของเนื้อหาที่ผมอ่านครับ
ตอบลบhttp://www.rdasia.com/MAD_Science