สวัสดีครับ
เมื่อวันเสาร์ผมได้เล่าให้ท่านผู้อ่านฟังเรื่องที่ทำงานของผมเขาส่งผมไปเข้าอบรมในหลักสูตร Presentation Skills ในโครงการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ และผมได้ขอไฟล์ PowerPoint ของวิทยากร คืออาจารย์อุสนา วงษ์นาคเพ็ชร์ จากสถาบันการต่างประเทศเทวะวงศ์วโรปการ กระทรวงการต่างประเทศ มาเผยแพร่ด้วย คลิก
และเมื่อผมลองค้นในเน็ตก็ทำให้รู้ว่าอาจารย์อุสนา วงษ์นาคเพ็ชร์ เคยบรรยายหัวข้อนี้มาแล้ว และมีผู้สรุปการบรรยายของอาจารย์ไว้ที่ลิงค์นี้
เทคนิคการนำเสนอข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ
แต่ต้องขอเรียนไว้ ณ ที่นี่ด้วยนะครับว่า ทุกครั้งที่อาจารย์บรรยายหัวข้อเดียวกันนี้ในครั้งใหม่ อาจารย์จะปรับปรุงเนื้อหาให้ดีกว่าเดิมทุกครั้ง หรืออย่างน้อยก็ปรับปรุงให้สอดคล้องกับผู้รับการอบรมกลุ่มใหม่
ผมเองวันนี้เรียนกับอาจารย์เป็นวันที่สี่แล้ว ได้รับความรู้มากขึ้นเยอะทีเดียว และที่สำคัญคือทุกคนได้ฝึกปฏิบัติและได้รับคำวิจารณ์จากอาจารย์เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขการ present งานของตัวเองให้ดีขึ้น
วันนี้ ผมขอเก็บบางประเด็นจากห้องอบรมมาเล่าสู่กันฟังนะครับ
คือการ present ข้อมูลต่อหน้าคนนี่นะครับ มันก็คือการพูดอย่างหนึ่งนั่นแหละครับ แต่มีลักษณะพิเศษ คือเราต้องออกไปยืนหรือนั่งพูดต่อหน้ากลุ่มคน จึงมีเรื่องของท่าทาง การใช้น้ำเสียง การใช้ภาษา ขั้นตอนที่ถูกต้องในการพูด การศึกษาผู้ฟังและปรับการพูดให้เหมาะสม สิ่งที่ควรเน้น ควรระวัง ฯลฯ อาจจะถือได้ว่าการพูดเพื่อนำเสนอเป็นการพูดแบบทางการอย่างหนึ่ง นอกจากนี้ก็ยังมีการกล่าวสุนทรพจน์ และการเป็นพิธีกร ซึ่งเป็นการพูดแบบทางการเช่นกัน
เมื่อดูเพื่อนร่วมห้องที่เข้าอบรมด้วย ผมมีข้อสังเกตอย่างหนึ่งคือ หลายคนบอกว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้ารับการอบรมเรื่องทักษะการนำเสนอ แถมต้องฟังภาคทฤษฎีและฝึกภาคปฏิบัติเป็นภาษาอังกฤษอีกด้วย จึงมีงาน 2 อย่างพร้อมกัน คือ 1)เรื่องการนำเสนอ และ 2)เรื่องภาษาอังกฤษ คือต้องนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษ และดูเหมือนหลายคนจะหนักใจข้อ 2 มากกว่าข้อ 1 พูดง่ายๆก็คือ ถ้าให้ present เป็นภาษาไทยละก้อ เท่าไหร่เท่ากัน แต่นี่ต้องฝึก present เป็นภาษาอังกฤษ บางคนจึงเกิดอาการกึ๊กๆกั๊กๆ ยึกๆยักๆ บ้าง และบางคนก็ถามผมว่า ควรจะฝึกพูดยังไง?
ผมเองไม่มีคำตอบทางวิชาการครับเพราะไม่เคยเรียนมา และก็ไม่มีคำตอบโดยประสบการณ์ครับเพราะไม่เคยพูดต่อหน้าคนอย่างเป็นทางการมาก่อนเลย ผมมีเพียงประสบการณ์ในการพูดอย่างไม่เป็นทางการ ถ้าให้เล่าการฝึกพูดแบบนี้ก็พอเล่าได้ครับ
ขอเริ่มเลยนะครับ...
เท่าที่สังเกตดู เมื่อมีคำถามว่าทำยังไงจึงจะพูดได้เก่งหรือพูดได้คล่อง หลายคนก็จะเพ่งเล็งไปที่การ “พูด”โดยเฉพาะ ซึ่งทำยังกับว่าการพูดเป็นทักษะเอกเทศที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับอีก 3 ทักษะ คือ การฟัง – การอ่าน – และการเขียน ถ้าคิดอย่างนี้คงฝึกการพูดได้สำเร็จน้อย
ถ้าการพูดคือกล้องที่เขาใช้ถ่ายตอนรับปริญญา การฟัง – การอ่าน – และการเขียน ก็คือ 3 ขาที่ใช้ตั้งกล้อง ขาดไม่ได้ครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเราคนไทยที่อยู่เมืองไทยไม่มีฝรั่งให้คุยด้วยทุกวัน เพราะฉะนั้น แม้เราจะเน้นเรื่องการพูด แต่อีก 3 ทักษะเราก็ทิ้งไม่ได้ เพราะอะไร...? ก็เพราะว่า...
ถ้าเราไม่ฝึกฟัง...
-พอฝรั่งพูด เราจะฟังไม่รู้เรื่อง
-เราจะออกเสียงผิดได้ง่ายที่สุด ไม่รู้การ stress พยางค์ที่ต้องลงเสียงหนัก, ไม่รู้การออกเสียงท้ายคำ, ไม่รู้จักการเน้นเสียงหนักตรงข้อความที่สำคัญ ฯลฯ ซึ่งความผิดพลาดในการออกเสียงเช่นนี้อาจจะทำให้คู่สนทนาของเราฟังเราพูดไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้นต้องฝึกฟังครับ เพราะเสียงที่เราฟังจะเป็นตัวอย่างให้เราฝึกพูดตาม และพูดได้... พูดเป็น... พูดเก่ง... ขึ้นเรื่อย ๆ
คราวนี้มาถึงการอ่านบ้าง ทำไมเมื่อต้องการพูดเป็น จะต้องฝึกอ่านด้วย คำตอบก็คือ...
-การอ่านทำให้เราเห็นตัวอย่างการนำคำศัพท์มาผูกเรียงกันเป็นวลีและประโยค เราจะทำอย่างนี้ได้ก็โดยได้เห็นตัวอย่างเยอะ ๆ จนคุ้นเคย และเมื่อเวลาที่เราจะพูด เราก็จะพูดไปตามลีลาภาษาที่เราคุ้นเคยจากการอ่านนี้ บางท่านอาจจะถามว่าทำให้ตัวเองคุ้นเคยจากการฟังเยอะ ๆ ไม่พอหรือ? คำตอบของผมคือ ให้คุ้นเคยกับลีลาของวลีและประโยคภาษาอังกฤษทั้งจากการฟังและการอ่านเถอะครับ ฟังอย่างเดียวอาจจะไม่พอ หรือได้ผลช้าเกินไป
เรื่องสุดท้าย ทำไมเมื่อต้องการพูดเป็น จะต้องฝึกเขียนด้วย คำตอบสั้น ๆ ของผมก็คือ...
-การเขียนคือการซ้อมพูดด้วยมือ และเมื่อถึงเวลาที่ต้องพูดด้วยปาก งานก็จะเบาลงเยอะ
คราวนี้มาถึงคำถามที่สำคัญที่สุด คือ สำหรับพวกเราที่ยังไม่คล่อง ไม่เก่ง และต้องฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองเป็นส่วนใหญ่ เราจะฝึกพูดอะไร? ฝึกฟังอะไร? อ่านอะไร? เขียนอะไร?
คำตอบของผมก็คือ ให้ฝึกกับสิ่งที่เรารู้สึกว่าง่าย และเราชอบ ถ้าไปฝึกกับเรื่องที่ยาก หรือเราเกลียด สมองมันจะปิดครับ start ด้วยเรื่องง่าย ๆ นี่แหละครับดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม ผมบอกไม่ได้จริง ๆ ครับ ว่าเรื่องใดหรือเว็บใดที่ง่ายและน่าเรียน แต่ละคนไม่เหมือนกันครับ ท่านต้องไปหาเอาเอง และในรวมลิงค์ข้างล่างนี้ผมได้รวบรวมเว็บที่ผมคิดว่าง่ายต่อการฝึกพูด และฝึกฟัง-อ่าน-เขียน
เชิญศึกษาเว็บข้างล่างนี้ได้เลยครับ และผมขออวยพรให้ทุกท่านประสบความสำเร็จจากการฝึกดังที่ตั้งใจไว้
เทคนิคการฝึกพูด
[199] วิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษโดยไม่มีครูสอน
ฝึกฟังและอ่าน
[1056] ด/ล 'audio & picture book' หลายร้อยเล่ม [ชุดที่ 1]
[1071]ด/ล 'audio book' หลายร้อยเล่ม [ชุดที่ 2]
[1364] ด/ล 'audio book' หลายร้อยเล่ม [ชุดที่ 3]
[1374]ด/ล 'audio book' หลายร้อยเล่ม [ชุดที่ 4]
[1194]รวมเรื่อง 'สนุกและง่าย'ที่แนะนำไว้ในบล็อกนี้
[432] เว็บ ‘อ่านข่าว-ฟังข่าว’ ง่าย ๆ
[360] เว็บเรียนภาษาอังกฤษง่าย ๆ มีบ้างไหม?
ฝึกเขียน
[349] ท่านสามารถฝึก writing skill ได้ทุกวัน
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
มีประโยชน์ต่อเด็กๆและคนไทยที่ต้องการเรียนรู้ภาาอังกฤษด้วยตัวเองเป็นอย่างมากค่ะ ขอยคุณมากๆค่ะ
ตอบลบ