วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2552

[1266]ขอแนะนำเว็บ bkkonline.com (อีกครั้ง)

สวัสดีครับ
ผมเคยแนะนำเว็บ http://www.bkkonline.com/ ไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว
ที่ลิงค์นี้ [100] เรียนภาษาอังกฤษกับ bkkonline.com

ที่เว็บนี้มีคอลัมน์ที่เกี่ยวกับภาษาอังกฤษอยู่ทั้งหมด 13 คอลัมมน์ ในหลาย ๆ คอลัมน์เหล่านี้อธิบายภาษาอังกฤษด้วยภาษาไทย, เป็น Text อังกฤษ – ไทยควบกัน, มีแบบฝึกหัดเพิ่มความชำนาญ ฯลฯ และ ฯลฯ สรุปง่าย ๆ ก็คือ มีประโยชน์และน่าศึกษาทุกคอลัมน์ วันนี้ผมขอนำเอามาแนะนำอีกครั้ง ผมคงไม่ต้องแนะนำอะไรมาก เพราะเมื่อท่านคลิกเข้าไปก็จะเห็นคุณภาพของเว็บนี้ได้ด้วยตนเอง

ตามลิงค์ข้างล่างนี้ครับ
1-
English Corner 2- Hang Man 3- Everyday English 4- New Nanny 5- E-Dialog with Voice 6- พี่เลี้ยงภาษาอังกฤษ 7- Business Letter 8- Song of the Week 9- On Khao San Road 10- เพลินภาษาน่ารู้ 11- E-Diary 12- ศัพท์ทันโลก 13- E-Dialog

การฝึกภาษาอังกฤษนี่นะครับ ขอให้ท่านมองทั้ง 2 ด้าน คือ 1.เข้าใจ และ 2.ใช้เป็น

[A].เมื่อท่านอ่านหรือฟังอะไรก็ตามและรู้เรื่อง นี่เรียกว่าเข้าใจ ผมขอเรียกง่าย ๆ ว่า ท่านผ่านระดับประถม

[B].ขั้นต่อมาก็คือ ท่านลองทดสอบตัวเองซิว่า สิ่งที่ท่านได้อ่านหรือฟังแล้วนี้ ท่านสามารถเขียนหรือพูดออกมาด้วยถ้อยคำสำนวนของตัวท่านเอง ได้หรือไม่ ถ้าทำได้ ผมขอเรียกง่าย ๆ ว่า ท่านผ่านระดับมัธยม

[C].คราวนี้มาถึงขั้นสุดท้าย ท่านสามารถพูดหรือเขียนเรื่องอื่นๆที่ท่านต้องการพูดหรือเขียนที่คล้าย ๆ กันนี้ อาจจะสั้นกว่าหรือง่ายกว่าก็ได้ ท่านพอจะทำได้หรือไม่ ถ้าทำได้ ผมขอเรียกง่าย ๆ ว่า ท่านผ่านระดับมหาวิทยาลัย

เรื่องของเรื่องก็คือว่า ในขั้น [A]. นั้น ถ้าเราอ่านหรือฟังแล้วเข้าใจ เราก็จะพอใจ เพราะเราเช็กตัวเองได้ และรู้ตัวว่าเราสอบผ่าน พูดง่าย ๆ ก็คือ เราทำข้อสอบและตรวจข้อสอบให้คะแนนด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องรอฟังผลการสอบที่ครูจะประกาศ

แต่พอมาถึงขั้น [B]. และ [C]. ซึ่งเราต้องเขียนและพูดออกมา เมื่อไม่มีคนอ่านสิ่งที่เราเขียน และไม่มีคนฟังเสียงที่เราพูด เราก็ชักจะไม่แน่ใจแล้วว่า เราเขียนและพูดถูกต้องหรือเปล่า ก็เลยลังเลไม่แน่ใจ เมื่อบวกกับความท้อหลายคนที่ขยันจึงอาจจะพอใจแค่ได้อ่านหรือฟัง แต่ไม่ฝึกเลยไปถึงขั้นพูดหรือเขียน ยิ่งถ้าไม่ขยันก็หยุดหมดทุกอย่าง คือ หยุดอ่าน – หยุดฟัง – หยุดพูด –หยุด เขียน

ผมอยากจะบอกว่า ขอให้ท่านพยายามฝึกอ่านและฟังอยู่เสมอ ๆ คือให้สอบผ่านข้อ [A].ระดับประถมก่อน และตอนฝึกข้อ [B]. และ [C]. คือระดับมัธยมและระดับมหาวิทยาลัยนี้ แม้ไม่มีครูตัวเป็น ๆ ที่ท่านจะเรียนด้วย ก็ฝึกไปเรื่อย ๆ ด้วยตัวเองไปพลาง ๆ ก่อนก็ได้ครับ เมื่อมีโอกาสเรียนกับครู สิ่งที่ท่านฝึกไว้นี้ก็จะไม่ไปไหนหรอกครับ มันจะเป็นทักษะที่สะสมอยู่ซึ่งจะช่วยให้ท่านเขียนและพูดได้เร็วกว่าคนที่ไม่เคยซ้อมมาเลย

เปรียบง่าย ๆ กับนักมวยก็ได้ครับ การชกลมกับชกกระสอบทรายจะช่วยเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ก่อนที่จะเจอคู่ชกจริง ๆ ถ้าตอนนี้เรายังไม่มีคู่ชกและก็ไม่มีคู่ซ้อมที่เป็นคนจริง ๆ ก็ชกลมและชกกระสอบทรายไปพลาง ๆ ก่อนแล้วกันครับ

ผมเชื่อว่า คนไทยจำนวนมาก ที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานได้อย่างพอตัว คนเหล่านี้ก็ชกลม และชกกระสอบทรายมาก่อนที่จะมีคู่ซ้อมและคู่ชกที่เป็นคนจริง ๆ

ขอให้ทุกท่านที่หวังจะเก่งภาษาอังกฤษอย่าได้ท้อเลยครับ แม้ว่าเราจะไม่ได้มีโอกาสเรียนที่มหาวิทยาลัยดัง ๆ, ไม่ได้เรียนโรงเรียนอินเตอร์, ไม่ได้เรียนเมืองนอก, ฯลฯ แต่ขอทุกท่านอย่าได้ดูถูกการศึกษาด้วยตัวเอง หรือ self-study เลยครับ การ “ศึกษาด้วยตัวเอง” หรือ “ฝึกฝนด้วยตัวเอง” แม้จะเป็นคำที่ไม่หรูหรา แต่ถ้าท่านอดทนฝึกไปเรื่อย ๆ จนท่านสามารถอ่านภาษาอังกฤษรู้เรื่อง ฟังรู้เรื่อง พอจะเขียนได้ พูดได้ สื่อสารได้ แม้ไม่มีใบประกาศนียบัตรรับรอง แต่ถ้าท่านใช้งานมันได้ ก็เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดีอย่างยิ่งแล้วครับ

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

1 ความคิดเห็น:

  1. ได้อ่านแง่คิดในการฝึกภาษาอังกฤษแล้วรู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ จะพยายาม สู้!สู้!
    ขอบคุณสำหรับความเป็นคนดีของคุณพิพัฒน์ค่ะ

    ตอบลบ