[829] ขอพูดเรื่องแกรมมาร์อีกสักครั้งเถอะครับ

สวัสดีครับ
ผมได้ยินคนกล่าวหาแกรมมาร์ไว้มาก บางคนฟ้องร้องด้วยข้อหาอุกฉกรรจ์ว่าเป็นตัวการทำให้คนไทยทั้งประเทศพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เพราะเอาแต่เรียนแกรมมาร์เลยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้สักคำ “แกรมมาร์” ก็เลยแปลว่า “กรรมมาก”, “ครูสอนแกรมมาร์” เลยกลายเป็น “คนสร้างกรรมมามาก”, “คนเรียนแกรมมาร์” จึงกลายเป็น “คนรับกรรมมาก”

ถ้าท่านใดรู้สึกว่า ย่อหน้าข้างบนนี้ผมพูดเว่อเกินไป ต้องกราบขออภัยด้วยนะครับ ที่ผมพูดเช่นนี้เพราะผมรู้สึกว่า ถ้า Mr Grammar เป็นคนไทย เขาก็เป็นคนที่น่าสงสารมาก เพราะเป็นคนที่ใคร ๆ ก็ไม่รัก

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมอยากขอให้ท่านผู้อ่านเชื่อผมสักครั้งเถอะครับ ว่าแกรมมาร์ไม่ได้เป็นคนชั่วช้าสารเลวเหมือนที่ถูกปรักปรำ และเราซึ่งเป็นคนไทย เรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียนไทย สิ่งแวดล้อมทั้งหลายล้วนเป็นภาษาไทย ถ้าหวังที่จะเก่งภาษาอังกฤษ ยังไง ๆ ก็ต้องศึกษาแกรมมาร์ไว้บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแกรมมาร์ขั้นพื้นฐาน

ผมขอเปรียบเทียบอย่างนี้ครับ ถ้าท่านเล่นแบตมินตันเพื่อเอามันลูกเดียว ท่านไม่ต้อง start from basic ก็ได้, มีไม้แบตอยู่ในมือพอเข้าคอร์ตแบตก็ตีลูกขนไก่ได้เลย แต่ถ้าหวังจะเล่นให้เก่งและเป็นแชมป์, basic ต้องแน่นครับ อย่างน้อยที่สุดต้องตีลูก forehand, backhand, ลูกตบ – โยก – หยอด ได้ดังใจ

คนจะเรียนฟัง – พูด – อ่าน – เขียน ภาษาอังกฤษให้เก่งก็เช่นดียวกันครับ ถ้าท่านเป็นแม่ค้าที่ขายของให้ฝรั่งชนิดไม่อาศัยการพูด แต่ใช้เครื่องคิดเลขเป็นล่าม ใช้กดตัวเลขบอกราคา และต่อรองราคากันอย่างเดียว ท่านก็ขายของได้เหมือนกัน แต่ถ้าท่านต้องการเพิ่มคุณค่าที่เขาชอบเรียกกันว่า value-added ให้แก่สินค้าของท่าน ท่านก็น่าจะต้องสามารถพูดอะไรได้บ้าง ว่าสินค้าของท่านดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ ราคาที่ฝรั่งบอกว่าแพงจริง ๆ แล้วมันแสนจะคุ้มค่าถ้าซื้อไปใช้ และประโยคที่ท่านใช้พูดโฆษณาสินค้านี้ ท่านก็ไม่ต้องจำให้ได้เป็นร้อย ๆ พัน ๆ ประโยคหรอกครับ ท่านอาจจะจำให้ได้แค่ 10 – 20 ประโยค แล้วเลือกเอามาใช้พูดโฆษณาสินค้าเป็นร้อย ๆ พัน ๆ อย่างในร้านของท่าน เลือกใช้พูดให้เหมาะกับสินค้า แค่นี้ก็ใช้ได้แล้วครับ

ผมกำลังจะบอกท่านว่า แกรมมาร์ที่หลายคนหวาดกลัว – ชิงชัง – สาบแช่งนั้น (ผมพูดเว่ออีกแล้ว?) ท่านยอมลงทุนเรียนให้รู้จักหลักพื้นฐานไม่กี่เรื่องก็พอครับ และหลังจากนี้เมื่อท่านฝึก ฟัง – พูด – อ่าน – เขียน ไปเรื่อย ๆ ความรู้เรื่องแกรมมาร์มันจะต่อยอดของมันเอง เหมือนแชมป์แบตมินตันเก่ง basic สามารถตีลูก forehand, backhand, ลูกตบ – โยก – หยอด ได้ดังใจ ต่อไปก็ตีลูกเล่นอย่างอื่นได้ หรือเหมือนแม่ค้ารู้จักโฆษณาสินค้าด้วยการลงทุนท่องภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยไม่กี่ประโยค มันเหมือนกันเด๊ะเลยครับ

หลักแกรมมาร์พื้นฐานที่น่าเรียนให้รู้ไว้ ผมเคยแนะนำไว้แล้วที่ ลิงค์นี้ เชิญคลิก
[820] ดาวน์โหลดไฟล์เรียนบทที่ 1(จริงๆ)ในภาษาอังกฤษ

แต่วันนี้ผมขอเพิ่มเติมจากคราวที่แล้วนิดหน่อย คือผมไปพบตำราภาษาอังกฤษ 2 เล่ม ชื่อ Basic English Grammar Book เล่ม 1 – 2 เขาเขียนอธิบายหลักแกรมมาร์พื้นฐานจริง ๆ ด้วยสำนวนภาษาที่ง่าย ๆ อ่านแล้วจะช่วยให้เรามี basic แน่นขึ้นอีกเยอะ นอกจากนี้ยังได้ฝึกทักษะการอ่าน หรือ reading skill ไปในตัวอีกด้วย เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกทั้งฝูง และสำหรับท่านใดที่รู้สึกว่าการอ่านตำราภาษาอังกฤษเป็นเหมือนเดินขึ้นภูเขา ผมขอรับรองว่า หนังสือ Basic English Grammar Book เป็นแค่เนินเขาเตี้ย ๆ ไม่โหดหินเหมือนปีนขึ้นภูกระดึงหรอกครับ ท่านเชื่อผมได้เลย ผมเพิ่งรับศีลมา ผมไม่โกหกหรอกครับ

เชิญดาวน์โหลด 2 เล่มนี้ได้เลยครับ
Basic English Grammar Book 1
Basic English Grammar Book 2

และถ้าท่านติดลมต้องการศึกษาเพิ่มเติม เชิญศึกษาตำราแกรมมาร์ที่สูงขึ้นไปได้จากตำราข้างล่างนี้ครับ
Swan Basic English Usage

อันที่จริง มีอีก 1 เล่มที่เป็นหนังสือแบบฝึกหัด ชื่อ Basic English Usage: Exercises แต่ผมยังหาที่ให้ดาวน์โหลดฟรีไม่เจอ เจอเมื่อไหร่จะเอามาบอกครับ

เขียนมาถึงบรรทัดนี้ ผมเข้าข้างตัวเองว่า ผมน่าจะโน้มน้าวท่านได้นิดนึงว่า แกรมมาร์เป็นของดีที่น่าลิ้มลองศึกษา แกรมมาร์จึงไม่ใช่กรรมมากเหมือนที่ถูกกล่าวหา และถ้าท่านลองศึกษาทั้งเว็บภาษาไทยและตำราภาษาอังกฤษที่ผมแนะนำข้างต้น ผมเชื่อว่าท่านจะเชื่อสิ่งที่ผมพูดมากกว่านี้

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com