สวัสดีครับ
ดิกชันนารีมิได้มีไว้เพียงเพื่อเปิดหาความหมายของศัพท์เท่านั้น แต่ดิกยังเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อีกหลายอย่างในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ
ที่ Blog นี้ผมได้แนะนำเว็บไซต์ดิกชันนารีหลายเว็บ มีทั้งที่ใช้ online และดาวน์โหลดโปรแกรมดิกมาใช้ offline โดยไม่ต้องต่อเน็ต
-ถ้าต้องการใช้ดิกชันนารี online เชิญไปที่นี่ครับ
รวม Search Box สุดยอด Dict.
-ถ้าต้องการดาวน์โหลดโปรแกรมดิกมาใช้ offline โดยไม่ต้องต่อเน็ต ก็มีโปรแกรมที่ดีหลายโปรแกรม ท่านลองเลือกดูจากลิงค์นี้ครับ พจนานุกรม dictionary
แต่ถ้าท่านยืนยันให้ผมแนะนำสัก 1 โปรแกรม, โปรแกรมดิกชันนารีอังกฤษ-ไทย & ไทย-อังกฤษ ที่ผมขอแนะนำคือ Buddy Dictionary [273] จะเก่งอังกฤษ ต้องมี Dict. เป็น Buddy
และโปรแกรมดิกชันนารีอังกฤษ- อังกฤษ ที่ผมขอแนะนำคือ WordWeb Dictionary http://intereladsd.blogspot.com/2007/12/429.html ผมขอให้ท่านอ่านคำแนะนำให้ละเอียดสักนิดเพราะ wordweb เป็นโปรแกรมดิกอังกฤษ – อังกฤษ ฟรี ที่คุณถาพเยี่ยมจริง ๆ ฉะนั้น เราควรสามารถใช้ให้ครบประโยชน์ที่เขามีให้เรา
และวันนี้ ผมได้มาอีก 1 โปรแกรม คือ Webster’s Talking Dictionary
คุณสมบัติของ Webster’s Talking Dictionary ที่เหนือ WordWeb Dictionary ก็คือ สามารถคลิกเพื่อให้ออกเสียงได้ทุกคำ ไม่ใช่เพียงคำศัพท์หลักเท่านั้น แต่สามารถออกเสียงคำอธิบายคำศัพท์ และ ทุกคำที่เรา highlight พูดง่ายๆ ก็คือ สามารถออกเสียงคำทุกคำที่มีอยู่ใน Webster Dictionary ทั้งเล่ม
วิธีดาวน์โหลดและติดตั้ง
1. ดาวน์โหลดโปรแกรมดิก คือ Webster’s Talking Dictionary ดาวน์โหลด
(ท่านต้องดูให้ดีนิดนึงนะครับ เพราะโปรแกรมนี้มีขนาด 14.1 MB, บางทีมันดาวน์โหลดได้เพียง 5 MB และก็บอกเราว่า complete ผลก็คือใช้งานไม่ได้ ถ้าท่านเจอแบบนี้ ให้ delete ไฟล์ที่ดาวน์โหลดไม่ครบทิ้งเสีย และดาวน์โหลดใหม่ให้ครบ)
2. ติดตั้งโปรแกรมตามขั้นตอนปกติ โดยในขั้นตอนที่ติดตั้ง ให้ท่านคลิกเลือก Install to my hard drive (13 MB disk space required)
สำหรับท่านที่ไม่คล่องในการติดตั้ง เชิญอ่านคำแนะนำที่นี่ครับ วิธีดาวน์โหลดและติดตั้งไฟล์โปรแกรม
วิธีใช้งานหลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว
1. ไปที่ Start, All Programs, Parsons Technology, Webster’s Talking Dictionary
2. เมื่อหน้าต่างดิกปรากฎแล้ว ท่านจะสังเกตเห็นว่า ที่แถบไอคอนใต้ Menu Bar มีตัว D, ตัว Tสีแดง, ตัว A (คลิกเพื่อขยาย font), และไอคอนรูปลำโพง 3 – 4 ไอคอน
- ตัว D คือ Dictionary ซึ่งโปรแกรมจะตั้งค่าเริ่มต้น (default) ไว้เป็นตัว D
- ตัว T คือ Thesaurus คือดิกแสดงคำเหมือน + คำตรงกันข้าม อย่างเช่น ถ้าเราพิมพ์คำว่า fat ลงไป และคลิกที่ตัว T โปรแกรมจะแสดงให้เราทราบว่า คำว่า fat นี้ มี synonyms(ศัพท์ที่มีความหมายเหมือนหรือคล้ายกัน) และมี antonyms(ศัพท์ที่มีคามหมายตรงกันข้าม) อะไรบ้าง โดย synonyms จะอยู่ข้างบน และ antonyms จะอยู่ข้างล่าง
- ผมขอให้ท่านสังเกตสักนิดหนึ่ง คือ ถ้าเราพิมพ์คำว่า fat และคลิกไอคอนตัว D (คือ เราจะหาความหมายจาก Dictionary) เราจะพบว่า คำว่า fat มีถึง 21 ความหมาย คือ
= ความหมายที่ 1 ถึง 5 เป็นคำนาม หรือ noun (n.)
= ความหมายที่ 6 ถึง 18 เป็นคำคุณศัพท์ หรือ adjective (adj.)
= ความหมายที่ 19 เป็นคำกริยา หรือ verb, ท่านจะเห็นคำย่อ คือ vt.= verb transitive คือ verb ที่ต้องมีกรรม, และ vi.=verb intransitive คือ verb ที่ไม่ต้องมีกรรม)
= ความหมายที่ 20 – 21 เป็น idiom หรือสำนวนที่มักใช้ร่วมกับคำอื่น
= และสุดท้าย คือการเอาคำศัพท์ ซึ่งในที่นี้ คือ fat มาเติม prefix ข้างหน้า หรือต่อท้ายด้วย suffix ข้างหลัง ซึ่งในที่นี้เขาต่อท้าย fat ด้วย less และ like กลายเป็นคำ adjective fatless และ fatlike และต่อท้ายด้วย ness กลายเป็นคำนาม fatness
- คราวนี้เมื่อท่านพิมพ์คำว่า fat และคลิกที่ไปคอนตัว T สีแดง ท่านก็จะพบว่า
= มี synonyms(ศัพท์ที่มีความหมายเหมือนหรือคล้ายกัน) ใน 5 ความหมายเท่านั้น และทุกความหมายเขาจะมีประโยคตัวอย่างให้ท่านดูเป็นตัวเอน เพื่อให้รู้ว่าในความหมายนี้หมายถึงอะไร แล้วจึงแสดง synonym หลังเครื่องหมาย:
ในที่นี่
· ความหมายที่ 1 เป็นคำนาม noun (n.)
· ความหมายที่ 2 – 5 เป็น adjective (adj.)
และเมื่อมองลงไปข้างล่าง จะพบว่า antonyms(ศัพท์ที่มีคามหมายตรงกันข้าม) จะมีเพียงในความหมายที่ 2, 3,4, และ 5 เท่านั้น (ความหมายที่ 1 ไม่มี antonym)
คราวนี้มาดูเรื่องการอออกเสียง
1. ให้ท่านพิมพ์คำว่า fat ลงไป และคลิกที่ไอคอนตัว D (Dictionary) ให้ท่านสังเกตที่ไอคอนรูปลำโพงใต้ Menu Bar
ไอคอนแรกเป็นรูปลำโพงและตัว W(=Word) เมื่อคลิกที่ไอคอนนี้ จะได้ยินเสียงคำศัพท์ คือ คำว่า fat เพียงคำเดียว
2. คราวนี้ท่านลอง highlight คำหรือกลุ่มคำใดก็ได้ ในหน้านี้ ท่านจะเห็นว่าที่ไอคอนรูปลำโพงตัวที่ 2 จะมีตัว H(=highlight)ปรากฎ เมื่อคลิกที่ไอคอนตัวนี้ ก็จะได้ยินเสียงอ่านคำหรือกลุ่มคำที่ท่าน highlight
3. ให้ท่านคลิกที่ไอคอนลำโพงตัวที่ 3 ที่มีตัว D(=definition=คำนิยามศัพท์) ท่านจะได้ยินเสียงอ่านคำทุกคำในหน้านี้ที่เป็นคำนิยามของคำว่า fat ตั้งแต่ความหมายแรกจนถึงความหมายสุดท้าย
ส่วนการฟังการออกเสียง ของ Thesaurus (synonym + antonym) ก็คล้าย ๆ กัน ต่างกันตรงที่มีไอคอนลำโพงอยู่ 4 ตัว คือ
(ตอนนี้ให้ท่านพิมพ์คำว่า fat และคลิกไอคอน T สีแดงนะครับ)
-ไอคอนลำโพงตัวที่ 1 (W=word) คลิกเพื่อฟังเสียงศัพท์หลัก คือ คำว่า fat คำเดียว
-ไอคอนลำโพงตัวที่ 2 (H) ให้ท่าน highlight คำหรือกลุ่มคำ และคลิกฟังเสียงอ่าน
-ไอคอนลำโพงตัวที่ 3 (S= synonym) เมื่อคลิกแล้วจะได้ฟังเสียงอ่าน synonym ทั้งหมด
-ไอคอนลำโพงตัวที่ 4 (A= antonym) เมื่อคลิกแล้วจะได้ฟังเสียงอ่าน antonym ทั้งหมด
สำหรับผม ผมชอบที่จะ highlight และฟังทีละความหมายมากกว่า เพราะฟังยาวเกินไปรู้สึกมึน
การฝึกฟังแบบนี้ทำได้สะดวกครับ เพราะจะฟังกี่เที่ยวก็ได้, ฟังตรงไหนก็ได้, ฟังจบแล้วจะฝึกออกเสียงตามก็ได้, หรือจะทดสอบเขียนตามแล้วตรวจดูว่าเราเขียนได้ถูกต้องหรือไม่ก็ได้, หรือจะอ่านสัก 1 เที่ยวก่อนฟัง, อ่านพร้อมฟัง, หรือฟังจบแล้วค่อยมาอ่าน - - - ท่านจะฝึกแบบไหนก็ได้ตามใจชอบ
บางท่านอาจจะรู้สึกว่า เสียงไม่เพราะ , เป็นเสียงหุ่นยนต์ ไม่เป็นธรรมขาติ
ท่านพูดถูกครับ แต่ผมอยากจะเรียนท่านว่า ทุกอย่างมีได้ก็มีเสีย มีเสียก็มีได้ ยกตัวอย่างเช่น โปรแกรมดิกชันนารี ถ้าหากเขาทำมาให้เสียงทุกคำที่อ่านเป็นเสียงธรรมชาติ (human voice)คุณภาพดี มันจะเปลืองเนื้อที่มากอย่างมาก เช่น อาจจะต้องใช้ CD ถึง 3 – 4 แผ่น ถึงจะพอใส่ไฟล์เสียง และถ้าเอาไฟล์ทั้งหมดลง hard disk ก็อาจจะทำให้เครื่องคอมฯอืดมาก และภายหลังท่านอาจจะรำคาญจนถึงขั้น uninstall โปรแกรมที่ท่านเห็นว่าสมบูรณ์นี้ทิ้ง เพราะฉะนั้นการใช้โปรแกรมเล็ก ๆ ก็มีประโยชน์อยู่เหมือนกัน คือดาวน์โหลดง่าย ติดตั้งง่าย และใช้งานง่ายไม่ทำให้เครื่องอืด
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมได้ไปที่สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ผมเห็นเจ้าหน้าที่คอมฯท่านหนึ่งใช้คอมพิวเตอร์อย่างคล่องแคล่ว เขามองไม่เห็นตัวหนังสือบนจอ แต่เขาทำงานได้เพราะมีโปรแกรมที่อ่านออกเสียง เสียงนั้นเป็นเสียงอิเล็กทรอนิกส์ คล้าย ๆ กับโปรแกรม Webster’s Talking Dictionary ที่ผมเอามาแนะนำในวันนี้แหละครับ ผมสังเกตได้อย่างหนึ่งว่า เขาฟังเสียงภาษาอังกฤษที่โปรแกรมอ่านให้ฟังได้อย่างสบาย ผมถามเขาว่าทำไมไม่เอาโปรแกรมที่ออกเสียงชัดกว่านี้มาลง เขาบอกว่า โปรแกรมแบบนั้นมันใหญ่และทำให้เครื่องคอทฯทำงานช้า ผมถามอีกว่า คุณคุ้นเคยกับเสียงอิเล็กทรอนิกส์อย่างนี้ เมื่อไปฟังข่าวทีวี เช่น CNN, BBC รู้เรื่องไหม เขาบอกว่าสบายมาก ขนาดเสียงไม่ค่อยชัดอย่างนี้ยังฟังได้ ถ้าเป็นเสียงคนชัด ๆ จากทีวียิ่งฟังได้ง่ายใหญ่เลย
ผมจึงขอสรุปว่าแม้เสียงจาก Webster’s Talking Dictionary จะไม่เป็นเสียงธรรมชาติ แต่การได้ฝึกฟังก็ยังมีประโยชน์อยู่นั่นเอง
ขอแนะนำการใช้ Webster’s Talking Dictionary อีกสักนิดครับ
1. เมื่อท่านพิมพ์งาน หรืออ่านงานภาษาอังกฤษจากเอกสาร Word
และท่านเปิดโปรแกรม Webster’s Talking Dictionary ไว้, หากท่านต้องการทราบความหมายของศัพท์ภาษาอังกฤษใน word ก็ให้ท่าน highlight ศัพท์คำนั้น และกด control+shift และกดตัว D ที่ keyboard, ความหมายของศัพท์ก็จะปรากฎในหน้าต่างของ dictionary แต่บางทีมันก็ขึ้นกับจังหวะการกดเหมือนกันครับ ท่านลองเล่นดูสักพักแล้วกันครับ น่าจะไม่ยากเกินไป
2. อีกอย่างหนึ่งที่ขอแนะนำก็คือ ถ้าท่านอ่านคำนิยามศัพท์แล้วไปเจอศัพท์ที่ไม่รู้จัก ให้ท่านดับเบิ้ลคลิกที่ศัพท์คำนั้น ก็จะเป็นลิงค์ที่โชว์ความหมายของคำที่ถูกคลิก การฝึกคลิก, ฝึกอ่าน. ฝึกตีความ อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ โดยเริ่มจากศัพท์ง่าย ๆ ที่เรารู้ความหมายอยู่แล้ว เช่น dog, cat จะช่วยให้เราค่อย ๆ อ่านเก่งขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าจะย้อนกลับก็คลิกที่ Previous Words ที่คอลัมน์ซ้ายมือด้านล่าง
3. ท่านสามารถใช้เมาส์ลากหน้าต่างของดิกให้กว้างยาวได้ตามต้องการ
เอาละครับ พูดมามากแล้ว เดี๋ยวท่านจะเบื่อซะก่อน ลองเอาไปเล่นดูนะครับ อาจจะยากสักนิดนึง แต่ก็ท้าทายความสามารถดี อย่าลืมว่า Webster ไม่ใช่ learner’s dictionary สำหรับนักศึกษา แต่เป็นดิกชันนารีสำหรับผู้ใหญ่ของประเทศอเมริกา มันก็อาจจะยากนิดหน่อย แต่อะไร ๆ ก็ไม่พ้นความพยายามหรอกครับ
จำได้หลายปีที่แล้วเคยได้อ่านคำคมของโกวเล้งในนิยายจีนของเขา โดยมือกระบี่ในเรื่องพูดว่า คนที่จะฝึกกระบี่ได้สำเร็จต้องเป็นคนที่ “หลงใหล” ในเพลงกระบี่ หากไม่มีใจถึงขั้นหลงใหลจะไม่มีทางฝึกเพลงกระบี่ได้สำเร็จ พวกเราที่สนใจฝึกฝนเพื่อพัฒนาความสามารถด้านภาษาอังกฤษของตัวเอง ผมว่าไม่ต้องหลงใหลเหมือนที่โกวเล้งพูดหรอกครับ เพียงแค่ “ใฝ่ใจ” ผมก็ยังเชื่อเหมือนที่ผมเคยเชื่อมาแต่ไหนแต่ไรแล้วว่า “ฟ้าไม่รานน้ำใจคนพยายาม”
พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com
แวะเวียนอยู่ในบ้านหลังนี้ รู้สึกดี จนไม่อยากไปไหน
ตอบลบปกติเป็นคนไม่ชอบของฟรี"ทุกกรณี" แต่มาที่นี่เห็นของฟรี กลับรู้สึกว่าทรัพย์สินทั้งหมดที่มี น้อยกว่าของฟรีที่นี่ซะอีก
เราเพื่อนกัน
พึ่งซื้อแอร์การ์ดมาใช้ค่ะ ที่บ้านไม่มีโทรศัพท์ ได้ของใหม่ก็เลยคลิกดูนั่นดูนี่ เจอบล็อคนี่จาก google เรียนภาษาอังกฤษ ถูกใจมาก เพราะเป็นคนที่ชอบเรียนภาษาอังกฤษมาก แต่ไม่เก่งซักที เสียเงินไปมากมาย แต่ไม่เคยเสียดายนะคะ จะพยายามเข้ามาศึกษาทุกวันค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
ตอบลบมันดีตรงที่คุณนั่งอยู่หน้าคอมพ์ แต่การค้นหาคำศัพท์บางครั้งคุณอาจไม่ได้อยู่หน้าคอมพ์ หากการค้นหาคำศัพท์ต้องมานั่งเปิดคอมพ์ทุกครั้งมันก็ไม่สะดวกในทางปฏิบัติ
ตอบลบผมแนะนำท่านที่ต้องการเรียนรู้หรือฝึกฝนเรื่องภาษาจริงๆ ซื้อ Talkingdict ราคา 2-3 พันบาทมาใช้ดีกว่า เด๋วนี้ไม่แพงแล้วคับ ค้นหาคำศัพท์ได้ทั้ง E-T, T-E, T-T, Cambridge E-E ตอนนี้มี Oxford River Book E-T แปลได้ถึงรากถึงโคน มีคำอ่านที่เป็น Phonetic และคำอ่านไทย ออกเสียงได้ทั้งสำเนียงอังกฤษและอเมริกัน มีทั้งคำเหมือน คำตรงกันข้าง คำพ้องเสียง หากเป็นคำกริยาก็จะผันทั้ง 3 ช่องอย่างชัดเจนรวมทั้งแสดง v.t หรือ v.i หากมี Prefix และ Suffic ก็จะแสดงด้วย ถ้าเป็นคำนามก็มีรูปพหูพจน์ แถมบอกด้วยว่า เป็น C(Countable noun) หรือ U (Uncountable noun)นอกจากนี้ยังแสดงตัวอย่างประโยคได้ด้วย
คุณสามารถนำ TalkingDict มากางหน้าคอมพ์ ถ้าต่อสาย Mini USB ก็ชาร์จแบตฯ ไปในตัว สามารถพกพาติดตัวไปได้ทุกที่ เปิดดูได้ทุกเวลา สามารถ save คำศัพท์ที่ใช้บ่อยมาไว้ทบทวนภายหลังได้ มีบทสนทนา ฝึกฝนการเรียงประโยค และเกมส์ทดสอบทักษะเกี่ยวกะภาษา
เห็นด้วยกะคุณข้างบนอย่างยิ่งค่ะ
ตอบลบ