วันเสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

[987]richreads.com –หลายเรื่องรอท่านเข้าไปเรียนรู้

สวัสดีครับ
เว็บที่จะแนะนำวันนี้คือ http://www.richreads.com/ โดยสโลแกนของเว็บคือ “Learn English with Rich Reads
พร้อมประโยคบรรยายเว็บว่า “Rich Reads is a huge directory of articles and news stories where you can learn English while discovering more about English language and culture. “ - Rich Reads เป็น directory ขนาดมหึมาซึ่งมีบทความและข่าวให้คุณได้อ่านเพื่อศึกษาภาษาอังกฤษพร้อม ๆ ไปกับเพิ่มความรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรมอังกฤษ

เขาแบ่งเรื่องที่อ่านออกเป็น 6 กลุ่ม คือ
1) All Categories
2) Business English
3) English Grammar
4) General
5) Speaking English
6) Vocabulary

ผมเข้าไปอ่านดูแล้วและพบว่า เว็บนี้ดีมาก ๆ เลยครับ เขาไปเอาข่าวและบทความต่าง ๆ ที่น่าสนใจจากเว็บอื่นมาลงไว้ในเว็บนี้ บางเรื่องมีเสียงให้ฟัง มีคำอธิบายอื่น ๆ ประกอบ และมีแบบฝึกหัดหรือแบบทดสอบให้ทำด้วย ขอชวนอย่างรุนแรงให้ท่านลองเข้าไปชม แล้วก็จะได้สิ่งที่เว็บเขาบอกไว้ คือ “...ได้อ่านเพื่อศึกษาภาษาอังกฤษพร้อม ๆ ไปกับเพิ่มความรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรมอังกฤษ”

* * * * *
เอาละครับ หมดเรื่องที่ผมจะแนะนำเกี่ยวกับเว็บ richreads.com แล้ว ต่อไปนี้ขออนุญาตให้ผมได้คุยเรื่องทั่ว ๆ ไปเกี่ยวกับการศึกษาภาษาอังกฤษสักนิดนะครับ

ผมได้อ่านมาหลายที่เกี่ยวกับสถิติการอ่านหนังสือของคนไทย ซึ่งได้ภาพกว้าง ๆ ว่า ในปีหนึ่ง ๆ เฉลี่ยแล้วคนไทยอ่านหนังสือคนละไม่เกิน 10 บรรทัด ซึ่งหลายคนก็บอกว่าเป็นสถิติที่ต่ำกว่าหลายประเทศรอบบ้านเราหรือหลายประเทศในโลกนี้ หลายหน่วยงานพยายามทำให้คนไทยขยันอ่านหนังสือมากกว่านี้ ผมไม่รู้ว่าทำได้สำเร็จแค่ไหน

เมื่อย้อนกลับมาดูการพัฒนาภาษาอังกฤษซึ่งก็เป็นวัตถุประสงค์ของบล็อกนี้ด้วย มีคำถามว่า ถ้าอ่านหนังสือน้อยมันจะเป็นยังไง?

มีเรื่องที่ผมอยากจะเรียนให้ท่านผู้อ่านทราบก็คือ ในการทำบล็อกนี้ คำถามส่วนใหญ่ที่ผมได้รับ มักจะป้วนเปี้ยนอยู่กับเรื่องการพูดมากที่สุด รองลงมาคือการฟัง เรื่องอ่านมีคนถามมาน้อย และเรื่องเขียนมีคนถามมาน้อยที่สุด ถ้าเอาคำถามเหล่านี้เป็นตัวชี้บอก ผมก็ต้องสรุปว่า หลายท่านอยากจะพูดได้ – ฟังรู้เรื่อง โดยไม่อยากจะข้องแวะหรือเสียเวลากับการอ่านหรือการเขียน!

แต่เราจะตัดการอ่านออกไปได้หรือครับ…?

ผมขอเปรียบทักษะทั้ง 4 ของภาษาอังกฤษ คือ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เหมือนกับอิริยาบถทั้ง 4 ของคนเรา คือ การยืน การเดิน การนั่ง และการนอน ในวันหนึ่ง ๆ เราต้องมีครบทุกอิริยาบถ ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้เลย และแม้เราจะใช้เวลากับแต่ละอิริยาบถไม่เท่ากันแต่มันก็ควรจะสมดุลกัน ไม่เช่นนั้นร่างกายจะไม่แข็งแรงหรือถึงขั้นโรคภัยถามหา เช่นคนที่ทำงานนั่งโต๊ะนานเกินไปในแต่ละวันติดต่อกันหลายปี โดยแถบไม่ได้เดิน หรือเดินเร็ว ๆ หรือวิ่งมาถ่วงให้สมดุลกัน มักจะไม่แข็งแรงและเป็นโรค คนที่มีอิริยาบถไม่ครบ 4 ไม่แข็งแรงเช่นไร คนที่ฝึกภาษาอังกฤษไม่ครบ 4 ทักษะ ก็มักจะไม่แข็งแรงเรื่องภาษาอังกฤษฉันนั้น

ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น...?

ขอยกตัวอย่างท่านที่ต้องการพูดได้ – ฟังรู้เรื่อง แล้วกันครับ สมมุติว่าท่านเอาแต่ฝึกฟังและฝึกพูด แต่ไม่สนใจการอ่าน สิ่งที่ท่านจะได้รับก็คือ หูของท่านจะมีความชำนาญมากขึ้นในการจับสำเนียงที่คนอื่นพูด และเข้าใจสำนวนที่ได้ยินบ่อย ๆ และปากของท่านจะมีความชำนาญมากขึ้นในการเปล่งเสียงเป็นถ้อยคำที่ทำให้คนฟังรู้เรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยการใช้ศัพท์สำนวนที่ท่านได้ยินบ่อย ๆ

คำถามก็คือ ถ้าท่านต้องฟังหรือพูด เรื่องที่มีเนื้อหายาก ๆ มีศัพท์และสำนวนยาก ๆ มีโครงสร้างประโยคยาก ๆ ฯลฯ ท่านจะฟังรู้เรื่องหรือไม่? และ ท่านจะสามารถพูดให้คนอื่นฟังรู้เรื่องได้หรือไม่? คำตอบก็คือ อาจจะทำได้แต่จะยากหรือกระท่อนกระแท่นมาก หรือทำไม่ได้ ตรงนี้แหละครับที่ต้องอาศัยการอ่าน

การฝึกอ่าน ช่วยท่านในเรื่องการพูดและการฟังได้อย่างไร...?

เมื่อเราอ่าน เราจะมีเวลามากพอที่จะย่อยเรื่องที่อ่าน ทำให้มีความรู้ในเนื้อเรื่อง, ทำให้เข้าใจศัพท์ เข้าใจสำนวน เข้าใจโครงสร้างของประโยคที่เราจะต้องไปได้ยิน หรือโครงสร้างของประโยคที่เราจะต้องเปล่งออกไป, การย่อยหรือตีความเนื้อเรื่อง ศัพท์ สำนวน โครงสร้างภาษา ฯลฯ เหล่านี้อาจจะต้องใช้เวลามากพอสมควร และต้องทำล่วงหน้า ถ้าเราลุยออกไปฟังหรือพูดโดยไม่เตรียมตัว มีโอกาสสูงทีเดียวที่เราจะฟังหรือพูดไม่รู้เรื่อง พูดสั้น ๆ ให้จำง่ายก็คือ การอ่านช่วยเราให้มีความพร้อมเรื่อง ‘ศัพท์-สำนวน-โครงสร้างภาษา’ และเมื่อเราฟังหรือพูด เราก็มีหน้าที่เพียงแค่ฟัง ‘สำเนียง’ให้รู้เรื่อง และพูดด้วย ‘สำเนียง’ที่คนอื่นฟังรู้เรื่อง ถ้าขืนต้องแบกภาระทั้งเรื่องสำเนียงและสำนวนขณะพูดหรือฟัง มันจะหนัก และไปได้ช้ามาก และท่านอาจจะต้องบ่นกับตัวเองอยู่เนือง ๆ ว่า ‘ฝึกฟังมาตั้งนานแล้วทำไมฟังไม่รู้เรื่องสักที’ หรือ ‘ฝึกพูดตั้งนานแล้วก็ยังพูดไม่ได้ดังใจ’

สรุปง่าย ๆ ก็คือ ถ้าอยากพูดได้-ฟังรู้เรื่อง ต้องเตรียมตัวด้วยการอ่าน ยิ่งถ้าได้อ่านออกเสียงบ้างบางครั้งบางคราว ก็เท่ากับเป็นการฝึกปากให้เชื่อง พูดออกเสียงได้อย่างที่ใจสั่ง ไม่พยศเมื่อถึงเวลาที่ต้องพูดจริง ๆ

ขอย้อนกลับไปเรื่องสถิติการอ่านหนังสือของคนไทย ผมเข้าใจว่าการที่คนไทยไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือนี้ คงจะมีหลายสาเหตุ แต่เอาเป็นว่า เราไม่ต้องไปสนใจมันก็ได้ครับ ถ้าตัวท่านเองอยากจะพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อพูดจาสื่อสารกับชาวต่างประเทศ แต่ท่านมีนิสัยไม่ชอบอ่านหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ หรือภาษาอะไรก็ตามในโลกนี้ ท่านต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้อ่านมากขึ้นแล้วหละครับ เพราะเมื่อท่านอ่านมากขึ้น จะช่วยให้ท่านฟังได้ดีขึ้น พูดได้ดีขึ้น และเขียนได้ดีขึ้น ถ้าไม่อ่านหรืออ่านน้อยเกินไป ก็เหมือนทหารออกรบโดยไม่มีอาวุธ เมื่อไปเผชิญกับภาระหน้าที่หรือศัตรูข้างหน้าคือการพูดสื่อสาร ก็มีแต่จะแพ้ เท่านั้นเองครับ

[ศึกษาเพิ่มเติม: รวมเว็บเพื่อพัฒนา การอ่าน readingในบล็อกนี้]

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

[986] แปลทั้งหน้า 'จากไทยเป็นอังกฤษ' เพียง 2 คลิก

สวัสดีครับ
ขณะที่เราอ่านภาษาไทยและลองฝึกแปลภาษาไทยนั้นเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าฝึกเช่นนี้ทีละนิดทีละหน่อยแต่สม่ำเสมอ จะเป็นการฝึกเพียงนึกในใจหรือเขียนลงกระดาษด้วยก็ตาม ผมเชื่อแน่ว่า เราจะค่อย ๆ เก่งภาษาอังกฤษขึ้นทีละนิดทีละหน่อย และเก่งขึ้นอย่างสม่ำเสมอ เหมือนกับที่เราอดทนฝึกนั่นแหละครับ เพราะมีพุทธภาษิตว่า “ฝึกตนเช่นไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้น”

แต่ถ้าเจอปํญหาว่า ตอน start การฝึกนี่ จะ start ยังไง เริ่มไม่ถูก และนึกไม่ค่อยออก แต่ถ้ามีโปรแกรมอะไรสักอย่างที่ช่วยแปลภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ เหมือนมีครูคอยบอกในระยะแรก พอผ่านระยะตั้งไข่แล้วก็คงจะเดินเอาเองได้ และโปรแกรมที่ว่านี้มีไหมล่ะ?

ขอตอบว่า โปรแกรมที่สามารถแปลจากไทยเป็นอังกฤษได้อย่างถูกต้องหมดจด โปรแกรมนี้ไม่มีครับ หรืออย่างน้อยผมก็ไม่เคยเห็น แต่ถ้าเป็นโปรแกรมที่กล้อมแกล้มแปล พอให้เราเห็นร่องเห็นรอยว่าจะแปลต่อไปยังไง โปรแกรมอย่างนี้มีครับ และมีให้เราใช้ฟรีซะด้วย คือ Google Translate http://www.translate.google.co.th/ ครับ ผมเคยเขียนแนะนำการใช้โปรแกรมนี้ไว้ที่นี่ [984]แปลทั้งหน้า ภ.ไทย <- - > ภ. อังกฤษ โดย Google ท่านสามารถแปลทั้งหน้า จากไทยเป็นอังกฤษ และจากอังกฤษเป็นไทย โดยใช้โปรแกรมนี้ขณะต่อเน็ต

วันนี้ ผมขอแนะนำอีกวิธีหนึ่ง ที่เร็วกว่าเดิม สะดวกกว่าเดิม ง่ายกว่าเดิม ในการแปลภาษาไทยทั้งหน้า จากเว็บใดก็ได้ให้เป็นภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าท่านจะกำลังอ่านไทยรัฐ มติชน ผู้จัดการ สนุก หรือเว็บไทยไหน ๆ ก็ตาม เพียงแค่ 2 คลิก ท่านจะสามารถทำให้ทั้งหน้าภาษาไทยกลายเป็นภาษาอังกฤษไปในทันที โดยยังรักษา format หรือ design เดิมของหน้าไว้ทุกอย่าง

และยังไงอีก… ?

ภาษาอังกฤษที่แปลออกมานั้น (รอให้ Done ก่อน) เมื่อท่านเอาเมาส์ไปวาง จะปรากฏต้นฉบับภาษาไทย ทีละประโยค ส่วนที่คำแปลภาษาอังกฤษนั้น จะมีแลเงาคลุมประโยคภาษาอังกฤษที่ตรงกับต้นฉบับประโยคภาษาไทย ในกรณีเช่นนี้ท่านจะได้รับประโยชน์อย่างน้อย 2 – 3 อย่าง คือ
- แม้คำแปลภาษาอังกฤษอาจจะไม่ถูกต้อง 100 % ท่านก็สามารถศึกษาจากมันว่า ตรงไหนน่าจะแปลผิด ตรงไหนน่าจะแปลถูก และปรับปรุงให้มันถูกต้องยิ่งขึ้น
- บางทีภาษาไทยนั้นท่านก็สามารถแปลได้เองเป็นภาษาอังกฤษ แต่มันอาจจะติดขัดอยู่ตรงไหนสักนิดเดียว เช่นไม่รู้กริยาตัวนี้ คำนามตัวนั้นในภาษาอังกฤษ พอได้เครื่องมือตัวนี้ช่วยก็โล่งตลอดเลย

ในหน้าซึ่งเป็นคำแปลภาษาอังกฤษนี้ ถ้ามีลิงค์ ท่านก็คลิกลิงค์ต่อไปได้ และได้รับบริการแปลจากไทยเป็นอังกฤษเช่นนี้เหมือนกัน นับว่าสะดวกมาก

และจะนำยังไงจึงจะได้เครื่องมือนี้มาใช้.. ?

ก็เพียงแค่ติดตั้ง Google Toolbar โดยวิธีข้างล่างนี้
1.ดาวน์โหลด Google Toolbar โดย คลิกที่ลิงค์นี้ , ทางด้านขวาของจอภาพจะมีปุ่ม Install Google Toolbar สำหรับหน้าจอถัดไปให้คลิ้กปุ่ม Agree and Download

2.คลิก Save ไฟล์ดาวน์โหลดมาไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์

3.คลิก Run จะมีจอภาพแสดงการติดตั้งให้รอจนขึ้นคำว่า Installation Complete

4.คลิก Run Google Toolbar

5.ให้เปิด IE ขึ้นมาท่านจะพบว่าที่ด้านล่างของช่อง Address จะมีเครื่องมือของ Google เพิ่มขึ้นมา
(คำแนะนำในการติดตั้ง Google Toolbar นำมาจาก ลิงค์นี้ ขอบคุณท่านผู้เขียนอย่างมากครับ)

ง่ายมากครับใน 5 ขั้นนี้ ทำเดี๋ยวเดียวก็เสร็จ ถ้าตอนนี้ท่านอยู่ที่หน้าคอมฯของท่านและกำลังต่อเน็ต ผมขอชวนให้ดาวน์โหลดและติดตั้ง Google Toolbar เลยครับ

พอติดตั้งแล้ว…
1. ก็ไปที่หน้าเว็บภาษาไทยอะไรก็ได้ ทดลองหน้าเว็บหนังสือพิมพ์ไทยรัฐแล้วกันนะครับ คลิก http://www.thairath.co.th/ รอให้ Done

2. คลิกขวาที่ตรงไหนก็ได้ในหน้า, เลื่อนเมาส์ไปที่บรรทัดบรรทัด Page Info, คลิกซ้ายบรรทัด Translate Page into English

เสร็จแล้วครับ เพียงเท่านี้ทั้งหน้าภาษาไทยก็จะกลายเป็นภาษาอังกฤษไปในทันที โดยยังคงรักษา design และรูปภาพในหน้านั้นไว้เหมือนเดิมทุกอย่าง

เพื่อความง่ายในการศึกษา ผมขอแนะนำให้ท่านเอาเมาส์ไปวางที่ภาษาอังกฤษ และดูต้นฉบับประโยคภาษาไทยในหน้าต่างเปรียบเทียบกัน ตัวผมเองจะดูประโยคภาษาไทยก่อน แล้วจึงค่อยดูประโยคภาษาอังกฤษ

ถ้าท่านอ่านภาษาอังกฤษแล้วไม่รู้เรื่อง อย่าไปต่อว่า Google เลยครับว่าแปลไม่ได้เรื่อง เขาทำมาให้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีแล้วครับ ท่านก็ค่อย ๆ ดูไปอย่างใจเย็น, ดูว่าศัพท์อังกฤษตัวนี้มันตรงกับศัพท์ไทยตัวไหน ใช้ได้ไหม น่าจะเปลี่ยนไปใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษตัวอื่นหรือเปล่า, ภาษาอังกฤษตัวไหนที่ใส่เข้ามาแต่เกินความจำเป็น, ตัวไหนที่น่าจะเอามาใส่เพิ่มเพื่อให้ใจความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น หรือควรจะปรับรูปประโยคสักนิดหน่อยตรงไหน ฯลฯ ค่อย ๆ ดูไปเรื่อย ๆ ทำนองนี้แหละครับ

ผมขอแนะอีกอย่างหนึ่งว่า ให้ท่านหาหน้าภาษาไทยที่ท่านชอบอ่านเป็นพิเศษ หรือภาษาไทยที่มีสำนวนการเขียนที่ได้มาตรฐาน แล้วก็มาแปลเป็นภาษาอังกฤษด้วยวิธีนี้

ลองฝึกไปเรื่อย ๆ นะครับ ไม่นานเกินรอครับท่านจะเห็นผลดีขึ้นแน่ ๆ

บางท่านอาจจะสงสัยว่า และบริการแปลจากหน้าภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยไม่มีหรือ? มีซีครับ ! แต่ต้องใช้วิธีปกติ ขอให้กลับไปอ่านคำชี้แจงที่ผมเขียนไว้ในลิงค์นี้ครับ [984]แปลทั้งหน้า ภ.ไทย <- - > ภ. อังกฤษ โดย Google

ขอให้ได้รับประโยชน์และความสุขจากการศึกษาภาษาอังกฤษโดยทั่วกันครับ

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

[985] โปรแกรมฟรี แปลงไฟล์วีดิโอเป็น mp3

สวัสดีครับ
บางท่านมีไฟล์วีดิโอที่ต้องการแปลงให้เป็นไฟล์ mp3 เพื่อที่ไฟล์จะได้เล็กลงหรือว่าสามารถ save ใส่เครื่องเล่น mp3 เพื่อพกพาฟังได้ขณะเดินทาง ผมขอแนะนำ 2 โปรแกรมฟรีข้างล่างนี้ครับ

[1] Free Video to MP3 Converter 3.1.3.51
Download Now (5.72MB)

[2] Any Audio Converter 1.1
Download Now (13.27MB)

ขอแถมอีก 1 โปรแกรม คือ
FormatFactory 1.65 ” ซึ่งสามารถแปลงไฟล์ DVD เป็น WMV
Download Now (16.55MB)

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

[984]แปลทั้งหน้า ภ.ไทย <- - > ภ. อังกฤษ โดย Google

สวัสดีครับ
ผมเพิ่งเห็นวันนี้ว่า Google เขามีบริการแปลไปมา ระหว่างภาษาไทยกับภาษาอื่น ๆ อีกประมาณ 40 ภาษา ซึ่งรวมทั้งภาษาอังกฤษด้วย โดยแปลได้ถึง 2 แบบ คือ

[1] พิมพ์ หรือ copy ข้อความลงไป, คลิกเลือกภาษาต้นทาง - - > ภาษาปลายทาง, คลิก ‘แปล’

[2] พิมพ์ หรือ copy ชื่อเว็บไซต์ หรือ url ลงไป (คือ www. ….com นั่นแหละครับ หรือลิงค์ของเว็บที่ยาว ๆ ก็ได้), คลิกเลือกภาษาต้นทาง - - > ภาษาปลายทาง, คลิก ‘แปล’
.... ให้สังเกตที่มุมล่างซ้ายของหน้า ถ้าขึ้นคำว่า 'Done' แล้ว, เมื่อเอาเมาส์วางบนคำแปล(ภาษาปลายทาง)ของ Google, จะแสดงต้นฉบับ (ภาษาต้นทาง) ให้เห็น ประโยคต่อประโยค...

เข้าไปที่เว็บนี้ครับ
http://translate.google.co.th/

ผมเองสนใจเฉพาะการแปลสลับไปมาระหว่าง ภาษาอังกฤษกับภาษาไทย ลองใช้งานดูแล้วก็พบว่า ยิ่งข้อความที่ให้แปลยาวและซับซ้อนมากเท่าใด ความคลาดเคลื่อนก็มีมากเท่านั้น แสดงให้เห็นว่า คงมีอะไรที่ต้องปรับปรุงอีกพอสมควร อย่างไรก็ตาม ที่ทำออกมาให้เราได้ใช้ฟรีได้เท่านี้ ก็ต้องขอขอบคุณ Google อย่างมากครับ

ถ้าท่านผู้อ่านพบว่า เมื่อให้ Google แปลทั้งหน้าเว็บหรือแปลข้อความยาว ๆ มีความคลาดเคลื่อนเยอะ ก็ลองลดงานลงสักหน่อย โดยให้ Google แปลศัพท์คำเดียว, แปลประโยคที่สั้น ๆ ไม่ค่อยซับซ้อน, หรือให้แปลวลี ถ้อยคำที่พูดติดปาก, หรือสำนวนที่ได้ยินติดหู แต่เราไม่รู้หรือไม่แน่ใจว่า อีกภาษาหนึ่งเขาว่ายังไง ถ้าลดให้งานเบาลงอย่างนี้ ผมสังเกตว่า หลายครั้ง Google แปลได้ดีน่าพอใจ สรุปก็คือ ผมขอแนะว่า อย่าไปใช้ Google ทำงานหนักเกินไป และต้องระมัดระวัง ผลงานที่ Google แปลให้ อย่าไว้ใจมากนัก ควรพินิจพิเคราะห์ให้ดีเสียก่อน อย่าเพิ่งจดจำเอาไปใช้อย่างแน่ใจโดยไม่ได้ไตร่ตรอง ให้รอบคอบ

ลองใช้งาน http://translate.google.co.th/ ดูสักพักก็ได้ครับ จะได้รู้ด้วยตนเองว่า Google เก่งขนาดไหน มักจะแปลถูกต้องหรือผิดพลาดในลักษณะใด จะได้สามารถใช้บริการของเขาได้ถูกทาง

สำหรับท่านอาจารย์ที่สอนภาษาอังกฤษ บริการแปลของ Google สามารถเป็นแบบฝึกหัดของนักเรียนได้ โดยท่านพิมพ์ประโยคภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยลงไป และให้ Google แปล งานของนักเรียนก็คือ ดูว่า Google แปลถูก-ผิดอย่างไร สมควรจะแก้ไขอย่างไรหรือไม่ งานนี้อาจจะทำขณะต่อเน็ต online หรือลอกคำแปลของ Google เอามาเป็นโจทย์ให้นักเรียนทำ จะเป็นงานเดี่ยวหรืองานกลุ่มก็ได้

ผมเข้าใจว่าในอนาคต คุณภาพการแปลของ Google ระหว่างภาษาไทย < - - > ภาษาอังกฤษ จะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ เราเองก็อาจจะสบายขึ้น

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

[983]ฟังธรรมะ 2 ภาษาจาก อจ. Brahm(ศิษย์หลวงพ่อชา)

เพิ่มเติม 10 กพ. 2553:

Talks by Ajahn Brahm

http://www.thawsischool.com/dhamma-news/49-1/009.html

* * * * *
สวัสดีครับ
ถ้าการรับรู้ของผมไม่ผิดพลาด หลวงพ่อชาเป็นพระสงฆ์ไทยที่มีลูกศิษย์ชาวต่างชาติมาบวชและกลับไปตั้งวัดสาขาในต่างประเทศมากที่สุด ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ คำตอบส่วนตัวของผมก็คือ ธรรมะที่หลวงพ่อสอนเป็นของจริงแท้ที่แก้ปัญหาให้ผู้คนได้ จึงมีคนมากมายมหาศาลทั่วโลกที่ชอบใจคำสอนของท่าน เฉพาะในเมืองไทยผมเข้าใจว่าขณะนี้ ยังมีลูกศิษย์ต่างชาติของหลวงพ่อ 2 รูปสอนพุทธศาสนิกชนอยู่ในเมืองไทย คือท่านพระอาจารย์ชยสาโร พำนัก ณ สถานพำนักสงฆ์ บ้านไร่ทอสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา และท่านพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก วัดป่าสุนันทวนาราม ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

สำหรับศิษย์หลวงพ่อที่เป็นเจ้าอาวาสวัดไทยสายหลวงพ่อชาในต่างประเทศนั้นมีหลายรูปทีเดียว

เมื่อ 2 – 3 วันก่อนแถว ๆ ซอยอารีย์ ผมได้มีโอกาสฟังธรรมเทศนาจากท่านอาจารย์พรหม วังโส ศิษย์หลวงพ่อชาที่เป็นเจ้าอาวาส วัด Bodhinyana Monastery , Western Australia ณ ที่ฟังธรรมนั้นผมได้แผ่น mp3 ที่อ่านจากต้นฉบับหนังสือธรรมะของท่านเรื่อง "Opening the Door of Your Heart" เสียงอ่านก็เป็นเสียงของท่านเอง หนังสือเรื่องนี้มีการแปลเป็นภาษาไทย ในชื่อ “ชวนม่วนชื่น “ และอ่านลง mp3 ซึ่งผมก็ได้มาด้วยเช่นกัน

ผมได้ขออนุญาตท่านอาจารย์นำ mp3 มาลงเว็บ ซึ่งท่านอาจารย์ได้เมตตาอนุญาต โดยบอกว่า “Dhamma is free

ท่านจะฟังธรรมะภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก่อนก็ตามสะดวก ได้ทั้งทักษะภาษาอังกฤษและธรรมะ งานนี้คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปแน่ ๆ ครับ

ขอเชิญครับ.....
Introduction

ก้อนอิฐที่ไม่เข้าที่เข้าทางสองก้อน
Two Bad Bricks

ความรู้สึกผิดและการให้อภัย
Guilt and Absolution

ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข
Unconditional Love

เปิดประตูใจไว้
Opening the Door of Your Heart

Marriage

ไก่กับเป็ด
the Chicken and the Duck

การอุทิศตน
Commitment

ขอบคุณข้อบกพร่อง
Gratitude

กลัวความเจ็บปวด
Fear of Pain

ปล่อยวางความเจ็บปวด
Letting Go of Pain

ไม่มีกังวล
No Worries

งานปฏิบัติธรรม
The Retreat

ความโกรธ
Anger

ปีศาจกินความโกรธ
The Anger-Eating Demon

Epilogue

หนังสือธรรมะที่น่าศึกษา

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

[982]แนะนำเว็บภาษาอังกฤษของ'อาจารย์หนูพูล บุ้งทอง'

สวัสดีครับ
อาจารย์หนูพูล บุ้งทอง สอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนบ้านดุงวิทยา จังหวัดอุดรธานี ได้จัดทำเว็บไซต์ "Newpoon - เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์-สื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ"
http://newpoon.spaces.live.com/

เมื่อ คลิกเข้าไปในเว็บ แล้ว
1. ถ้าจะตรงไปที่เนื้อหาเลย ก็คลิกที่ลิงค์ต่าง ๆ ในคอลัมน์ขวามือ อาจารย์เอาสิ่งดี ๆ ทั้งนั้นเลยครับมาให้ท่านศึกษา ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้เรียนหรือผู้สอนภาษาอังกฤษ ระดับไหนก็ตาม

2. ที่คอลัมน์กลางหน้า เลือกคลิกเรื่องที่ท่านสนใจ ซึ่งน่าจะมีหลายเรื่องทีเดียว เช่น สื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ , เอกสารแจกฟรี เป็นต้น

ขอชื่นชมอาจารย์ครับ

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

[981]เชิญอ่าน ‘พุทธประวัติ’ ที่คนไทยไม่ค่อยคุ้นเคย

เพิ่ม 7 มิย 53:
อ่าน Buddha, a story of enlightenment โดย Deepak Chopra ฉบับการ์ตูน
http://www.4shared.com/document/OZa8sziq/DEEPAK-CHOPRA-BUDDHA.html
*********
สวัสดีครับ
ตั้งแต่เด็กมาแล้ว เราได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติซึ่งส่วนใหญ่ปนด้วยปาฏิหาริย์ เราไม่รู้จริง ๆ ว่าปาฏิหาริย์นั้นจริงหรือไม่จริง และเราก็ไม่สามารถพิสูจน์สิ่งที่เราเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็เลยกลายเป็นว่า ปาฏิหาริย์บางอย่างเราอาจจะไม่เชื่อแต่เราก็อาจจะไม่กล้าพูดออกมา เดี๋ยวจะไปขัดกับคำสอนมาตรฐานของสังคมไทย คือ “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่”

ผลที่ตามมาก็คือพุทธประวัติที่เราได้อ่านมักจะมีอยู่ 2 เวอร์ชั่น คือ เวอร์ชั่นดั้งเดิมแบบปนปาฏิหาริย์ และเวอร์ชั่นใหม่แบบเอาปาฏิหาริย์ออกหมด เหลือแต่เรื่องราวที่ดูเป็นจริงได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่มีใครกล้าพูดว่าเวอร์ชั่นดั้งเดิมไม่จริง

ในขณะที่มีนักเขียนอาวุโสไทยหลายท่านนำเอาพุทธประวัติมาเขียนในรูปนวนิยาย แต่อาจจะเพราะกลัวบาปถ้าเผลอไปเขียนอะไรที่เป็นการหลู่พระพุทธเจ้าโดยไม่ตั้งใจ แต่ละท่านจึงแทบไม่ได้เขียนอะไรเติมแต่งเข้าไปมากนัก นวนิยายพุทธประวัติจึงเป็นเหมือนสารคดีมากกว่านวนิยาย

นานพอสมควรที่ผมพยายามหาอ่านนวนิยายพุทธประวัติที่มีวรรณศิลป์ ซึ่งเขียนถึงพระพุทธเจ้าในฐานะที่เป็นคนจริง ๆ ที่มีเลือดเนื้อ แต่เป็นผู้ประเสริฐที่ใช้ความพยายามอย่างสูงสุดจนบรรลุถึงสิ่งที่สูงสุดที่มนุษย์คนหนึ่งจะเข้าถึงได้ ถ้าการเขียนประวัติอันงดงามของพระพุทธเจ้าเช่นนี้เป็นการวาดภาพที่งดงาม พุทธประวัติจะเป็นภาพที่วาดยากหรือวาดง่าย?

คำถามนี้ผมก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันครับ แต่ผมขอชวนท่านผู้อ่านอ่านหนังสือพุทธประวัติเรื่องนี้ ผมเพิ่งอ่านไปได้ไม่กี่หน้า แต่ก็เห็นอะไรที่แตกต่างไปจากหนังสือพุทธประวัติที่เคยอ่านมาตั้งแต่เด็กอยู่พอสมควร

Buddha, a story of enlightenment โดย Deepak Chopra

ท่านใดอ่านจบแล้วช่วยกลับมาเขียน comment ที่ข้างท้ายนี้นะครับ ผมเองตอนนี้ยังอ่านไม่จบ ถ้าอ่านจบเมื่อใดจะมาเขียนเพิ่มเติมเช่นกันครับ

พิพัฒน์

วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

[980]ดูและดาวน์โหลดวีดิโอฟรี พร้อม script ภาษาอังกฤษ

สวัสดีครับ

หมายเหตุ 17 ตค 53: สงสัยว่า เว็บนี้จะไม่ยอมให้ดูฟรีแล้วแหละครับ !!!

ทุกท่านทราบแล้วว่า http://www.youtube.com/ มีวีดิโอมากมายนับไม่ถ้วนให้เราดูและศึกษาภาษาอังกฤษ แต่ข้อจำกัดก็คือส่วนใหญ่ไม่มี script ให้เราดู เพราะฉะนั้นถ้ายากเกินไปนักก็มักจะฟังไม่รู้เรื่อง

วันนี้ผมมีเว็บใหม่มาฝาก ที่เว็บนี้มีวีดิโอหลายประเภทให้เลือกชม มี script ภาษาอังกฤษให้อ่าน และท่านสามารถดาวน์โหลดทั้งไฟล์วีดิโอและไฟล์ script และถ้าต้องการจะเขียน comment ก็ได้ สรุปก็คือ ที่เว็บนี้ช่วยเราฝึกทั้ง listening, reading, writing, vocabulary

1. เข้าไปที่เว็บ http://en.yappr.com/welcome/Welcome.action

2. Register, ถ้า Register แล้ว ก็ Log in ได้เลย

3. เลือกประเภท หรือ Category ของวีดิโอตามต้องการ โดยคลิกที่ใต้บรรทัด Videos by category

4.เลือกความยาก-ง่าย โดยคลิกที่ Sort videos by: EasyMediumHard

5. คลิกเลือกเรื่องที่ท่านต้องการ (เมื่อเอาเมาส์ไปวาง ท่านจะสังเกตเห็นว่า มีคำอธิบายสั้น ๆ เกี่ยวกับเนื้อหาของวีดิโอ อ่านตรงนี้ก่อนคลิกก็ดีครับ)

6. ขณะชมวีดิโอจะมี script ปรากฏทางขวามือครั้งละไม่เกิน 1 ประโยค, และถ้าท่านคลิกที่คำว่า TEXT ที่ด้านล่างของจอ ก็จะปรากฏ script เต็มให้อ่าน หรือจะคลิกดาวน์โหลด script ที่เป็นไฟล์ PDF ก็ได้

7. ขณะชมวีดิโอ ถ้าท่านต้องการฟังประโยคซ้ำ ให้คลิกปุ่มที่ 2 จากซ้าย (Replay Sentence)

8. ขณะชมวีดิโอ ถ้าท่านต้องการฟังเสียงพูดชัด ๆ ที่ไม่มีเสียง soundtrack หรือเสียงดนตรีประกอบ ให้คลิกปุ่มที่ 3 จากซ้าย (Clear Voice)

9. ถ้าท่านต้องการดาวน์โหลดไฟล์วีดิโอ ซึ่งอาจจะฟังได้เรียบกว่าฟัง online เพราะไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาครบแล้วฟังไม่กะตุก (คอมพ์ของท่านต้องลงโปรแกรม RealPlayer ก่อนนะครับ) ให้เอาเมาส์วางที่จอวีดิโอ จะปรากฏแถบคำว่า Download This Video ที่ใกล้มุมบนขวาของหน้า , ดับเบิ้ลคลิกที่ Download This Video นี้, เมื่อดาวน์โหลด complete แล้ว ไฟล์วีดิโอนี้จะไปอยู่ที่ My Documents -à My Videos - -> RealPlayer Downloads

เว็บนี้ผมให้เกรด A ครับ และหวังว่าท่านผู้อ่านจะได้รับทั้งความเพลิดเพลินและทักษะภาษาอังกฤษไปพร้อม ๆ กัน

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

[979] รวมหลายเว็บดีที่ขอแนะนำ

สวัสดีครับ
ผมมีเว็บดีหลายเว็บที่อยู่ใน list ซึ่งจะเอามาแนะนำ ขอแนะนำเฉพาะ url ก่อนแล้วกันครับ ท่านใดสนใจเชิญเข้าไปสำรวจ อาจจะพบของที่ถูกใจบ้าง ไม่น้อยก็มาก หรืออาจจะเจอเว็บที่ถูกใจเอามาก ๆ ก็เป็นได้
http://www.google.com/search?hl=en&q=allintitle%3Aselected+esl+%7Esites&btnG=Search

http://www.world-english.org/

http://www.examenglish.com/

http://daily-english-activities.blogspot.com/

www.english-4u.com/topsites

http://www.engleo.com/

http://www.usingenglish.com/

http://www.voicesinthedark.com/

http://www.esldesk.com/

http://www.english-at-home.com/

http://www.esllabmiami.blogspot.com/

http://www.english-download.blogspot.com/

http://www.igetenglish.com/

http://www.eslvideo.com/

http://www.listen-to-english.com/

http://www.writingresource.org/

พิพัฒน์
gemtriple@gmail.com

[978] หนังสือพิมพ์เสียง

สวัสดีครับ
เว็บนี้: http://www.thewclc.ca/edge/
เป็นคล้าย ๆ กับหนังสือพิมพ์เสียง
ผมแทบไม่เคยเจอเว็บแบบนี้มาก่อนเลย
น่าคลิกเข้าไปดูอย่างยิ่งเลยครับ

พิพัฒน์
gemtriple@gmail.com

[977] ทำ random grammar test ทีละข้อพร้อมเฉลย

สวัสดีครับ
ภาษาอังกฤษต้อง train และ test ตัวเองอยู่เสมอ แต่ทุกคนก็ย่อมมีวันที่ขี้เกียจ แต่ถ้าขี้เกียจก็อาจจะลดการฝึก ไม่ใช่เลิก, เพราะถ้าวันนี้ลด-พรุ่งนี้อาจจะเพิ่มก็ได้-เพราะได้ฝึกต่อเชื้อไว้เรื่อย ๆ, แต่ถ้าเลิก-อาจจะขี้เกียจเริ่ม-และเลิกไปเลยจริง ๆ

เว็บนี้ http://www.easyenglish.com/ มี grammar test ให้ทำทีละข้อ, อยู่ที่ด้านขวาของ วงกลมพื้นสีเขียว QUESTION OF THE DAY
- คลิกคำตอบข้อที่ท่านเห็นว่าถูกต้อง
- คลิก Check Answer! และดูเฉลย
- คลิก Back, และคลิก Refresh
- ทำ test ข้อใหม่ที่เว็บ random มาให้ทำ

ผมชอบเว็บนี้ก็เพราะว่า
-ทำปุ๊บ รู้ผลปั๊บ ไม่น่าเบื่อ
- เว็บ random ข้อสอบมาให้ทำ ทำแต่ละครั้งจึงไม่เหมือนกัน ไม่น่าเบื่อ
- แม้จะเป็นการทำ grammar แต่ก็ได้ฝึก reading ไปพร้อมกัน
- ได้เห็นการใช้ grammar รูปแบบต่าง ๆ เป็นประโยชน์เมื่อต้องเขียนภาษาอังกฤษ คือรู้ว่าจะต้องเขียนยังไงจึงจะถูกต้อง

ถ้าวันไหนเบื่อหรือขี้เกียจ ก็แวะเข้ามาทำ test ที่เว็บนี้สัก 4- 5 ข้อก็ดีครับ ตอนนี้ทำ Favorite ไว้เลยครับ

พิพัฒน์
gemtriple@gmail.com

วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

[976] เช็คศัพท์ทีละคำ จากง่ายไปยาก (86,800 คำ)

สวัสดีครับ
ที่เว็บนี้ http://www.wordcount.org/main.php เขานำเอาศัพท์ภาษาอังกฤษกว่า 100 ล้านคำ จาก British National Corpus®, มาจัดทำเป็น word list ทั้งสิ้น 86,800 คำ โดยเรียงลำดับคำที่พบบ่อยจากมากไปน้อย เริ่มจากคำที่ 1 the, คำที่ 2 of, คำที่ 3 and… คำที่ 1000 James, คำที่ 2000 vital, คำที่ 3000 permission, เป็นต้น ไปเรื่อย ๆ จนถึงคำสุดท้าย คือคำที่ 86,800 conquistador

เมื่อท่านจะเช็คคำศัพท์ภาษาอังกฤษในคลังสมองของตนเอง
-ท่านอาจจะไล่ดูตั้งแค่คำที่ 1, 2, 3, ... ไปเรื่อย ๆ
-หรืออาจจะเริ่มที่คำลำดับใดก็ได้ตามที่ต้องการ โดยพิมพ์หมายเลขลำดับที่ เช่น 1000, 2000, 3000....ลงไปในช่อง BY RANK: และไล่เช็คคำที่ยากกว่านี้ขึ้นไปเรื่อย ๆ
-หรือท่านอาจจะพิมพ์คำใดคำหนึ่งที่ท่านรู้ลงไปในช่อง FIND WORD: และไล่เช็คคำที่ยากกว่านี้ขึ้นไปเรื่อย ๆ

ถ้าต้องการเปิดดิก ไปที่ลิงค์นี้: รวม Search Box สุดยอด Dict.

Word List นี้เป็นเครื่องมือที่ท่านสามารถใช้ test และ train ตัวเองได้เป็นอย่างดีเรื่องคำศัพท์ ท่านสามารถขยับขึ้น - ขยับลงได้ตามระดับคำศัพท์ที่ท่านรู้ และจดจำไต่บันไดขึ้นไปเรื่อย ๆ ทีละคำ... ทีละคำ
...

ฝึกกับเว็บนี้ไม่นาน จะช่วยชุบชีวิตศัพท์ที่ท่านเคยจำได้-แต่ลืมเลือนไปแล้ว; และเพิ่มจำศัพท์ใหม่ที่ยังไม่รู้ - ให้รู้และไม่ลืมง่าย ๆ

พิพัฒน์
gemtriple@gmail.com

วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

[975] วิธีหา “คำย่อ” แปลก ๆ

สวัสดีครับ
เท่าที่เคยเห็น คำย่อมี 2 แบบ คือ
1. ย่อโดยตัดคำให้สั้นลง เช่น Co. = company, Ltd. = limited
2. ย่อโดยเอาพยัญชนะตัวแรกของคำมารวมกัน (เรียกว่า ACRONYM)เช่น ASEAN = Association of South- East Asian Nations

แต่บางทีเขาก็เอาคำย่อแบบที่ 2 นี้มาใช้ทำอย่างอื่น เช่น ทำให้น่าสนใจ, ทำให้จำเนื้อความที่ต้องการสื่อสารได้ง่ายขึ้น, หรือเพื่อให้ตลกเล่น ๆ

ท่านลองดูคำย่อข้างล่างนี้เป็นตัวอย่างดูซีครับ
LOVE = Let Our Values Endure, Let Our Violence End
30 Love Acronyms and Love Abbreviations

SMART
= Specific, Measurable, Achievable, Realistic, Time-Bound (ลักษณะของวัตถุประสงค์ต้อง SMART )

FRIEND = Few Relations In Earth Never Die

PEACE=People Everywhere Are Created Equally

RICH = Reading Is a Cool Habit

HAPPY = Have A Peak Pleasure Year :-)

FAMILY
= Father And Mother I Love You

HAPPY = Honest Active Passionate Patient Young

GROW = Go Reach Our World, God Rewards Our Work

ASK = Attitude Skills And Knowledge

SAVE = Stand Against Violence Everywhere

WALK = We're All The Lord's Kids

READ = Read Educate And Develop ; Read, Enrich, Achieve, And Discover; Readers Enjoy Authors Dreams; Read Enjoy And Discover

TALK = Tobacco Affects The Lives Of Kids

WIFE = Washing, Ironing, Feeding, Etc.

NATO = No Action Talk Only

MBA = Married But Available, Masters of Business Administration

มีหลายเว็บที่ให้เราค้นหาคำย่อเหล่านี้ เช่น

http://acronyms.thefreedictionary.com/
http://www.acronymfinder.com/
http://www.abbreviations.com/
http://www.all-acronyms.com/

หรือท่านอาจจะไปที่ http://www.google.com/ แล้วพิมพ์: คำย่อที่ต้องการหาคำเต็ม acronym
ถ้าโชคดีอาจจะเจอคำย่อที่มีคำเต็มแปลก ๆ ที่น่าสนใจจดจำ ลองเล่นดูนะครับ

พิพัฒน์
gemtriple@gmail.com

วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

[974] รวมเรียงความ ‘This I Believe’

สวัสดีครับ
National Public Radio ร่วมมือกับ Atlantic Public Media เปิดโอกาสให้คนเขียนเรียงในหัวข้อ ‘This I Believe’ ความยาวไม่เกิน 500 คำส่งไปลงเว็บ และขณะนี้มีเรียงความนับหมื่นเรื่องใส่ไว้ที่เว็บนี้ http://thisibelieve.org/

ผมเข้าไปอ่านดูแล้วรู้สึกว่าได้อะไรหลายอย่าง นอกจากเนื้อหาสาระและแง่คิดที่ดีแล้ว ยังได้เห็นสไตล์การเขียนที่น่าสนใจจดจำ สามารถนำมาประยุกต์ในการเขียนไดอะรี่ส่วนตัวหรือเขียนเรื่องอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี ในที่นี้ ผมขอแนะนำลิงค์ข้างล่างนี้ครับ

ลิงค์ที่ 1: เรื่องที่มีคนอ่านมากที่สุดในสัปดาห์นี้ 25 เรื่อง มี mp3 ให้ฟังและดาวน์โหลดด้วย หลายเรื่องในลิงค์นี้น่าสนใจมาก ๆ เลยครับ
http://thisibelieve.org/dsp_Top25EssaysTW.php

ลิงค์ที่ 2: เลือกอ่านตามประเภทของเนื้อเรื่อง
http://thisibelieve.org/dsp_Browse.php

วิธีที่ 3: พิมพ์คำค้นใน Search Site ที่มุมบนขวาของหน้า

ลองอ่านดูนะครับ นาน ๆ จะเจอเรียงความดี ๆ รวมอยู่ในที่เดียวกันสักครั้ง

พิพัฒน์
gemtriple@gmail.com

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

[973] ชวนน้องร้องเพลงภาษาอังกฤษที่เว็บนี้

สวัสดีครับ
2 เว็บข้างล่างนี้มีเพลงภาษาอังกฤษประมาณ 2,000 เพลงให้ท่านฟัง, จะฟังกับลูก ๆ หรือสอนลูกศิษย์ หรือชวนน้องร้องเพลงด้วยกันก็ได้ครับ หลายเพลงมีการ์ตูน animation ประกอบ, มีเนื้อเพลงให้อ่าน, มี mp3 ให้ฟัง, มีวีดิโอให้ชม และดาวน์โหลด

-สำหรับการดาวน์โหลด mp3 ให้คลิกขวาที่ลิงค์ไฟล์ mp3, คลิกซ้าย Save Target As.. และ save
-สำหรับการดาวน์โหลดไฟล์วีดิโอ อ่านคำแนะนำที่นี่ครับ คลิก

เชิญได้เลยครับ...

เว็บที่ 1: English Child Songs
http://www.cherriyuen.com/E-Songs.php

เว็บที่ 2: เขาบอกว่าเป็น The largest collection of Kids songs on the Internet with lyrics, videos and music for 1,695 children's songs.
http://bussongs.com/

แถมอีก 1 เว็บ: English Songs for Children Age 5 Years and Up คลิก

ขณะที่เขียนเรื่องนี้ ผมไปเจอวีดิโอเพลงนี้ เพราะดีครับ เลยเอามาฝาก มีเนื้อเพลงอยู่ด้านบน และคลิกวีดิโอเพลงด้านล่างของหน้า
You’re my sunshine
หรือดูวีดิโอ YouTube ที่นี่ก็ได้ครับ คลิก

พิพัฒน์
gemtriple@gmail.com

วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

[972] บริการ Bookmark online ที่ไม่ควรพลาด

สวัสดีครับ
-เมื่อเราท่องเน็ตและพบเว็บหรือลิงค์ดี ๆที่ชอบใจและใช้บ่อย, เราก็ทำ Favorite หรือ Bookmark ไว้ แต่ปัญหาก็คือถ้าเวลา format เครื่องคอมพ์และไม่ได้ save ไว้, Bookmark หรือ Favorite ที่เก็บไว้ก็หายหมด

-หรือถ้าไปใช้เครื่องคอมพ์ของคนอื่น ทำ Bookmark ไว้ก็ไม่มีความหมายถ้าไม่ได้กลับมาใช้

-หรือบางทีถ้า URL ไม่ยาวนัก อาจจะจดลงสมุดโน้ตหรือเศษกระดาษไว้ได้, แต่ถ้าเศษกระดาษหาย...จดไว้ก็ไร้ความหมาย

-หรือบางทีตอนใช้งานไปใช้คอมพ์ตัวอื่น ไอ้ที่จดไว้ไม่ได้อยู่ใกล้ตัว... จดไว้ก็ไร้ความหมายอีกเช่นกัน

-และถ้า URL เป็นลิงค์ยาว เป็นหลายสิบหรือเกินร้อยตัวอักษร ก็ไม่มีแรงจะจดอีก หรือจดถ้าผิดเพียงตัวเดียวพอเปิดก็กลายเป็นลิงค์ตาย... จดไว้ก็ไร้ความหมายอีกเช่นกัน

ปัญหาทั้งหลายแหล่เหล่านี้ ทำให้เราเจอเว็บดีแล้วพรากจากกัน หลายครั้งที่พยายามหวนกลับไปหาก็พบเพียงความว่างเปล่า เสียดายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

เพื่อแก้ปัญหานี้ ผมขอแนะนำให้ท่าน register สมัครใช้บริการ Bookmark online ซึ่งมีหลายเว็บที่ให้บริการเช่นนี้ วิธีใช้งานก็คือเมื่อเราไปเจอเว็บหรือลิงค์ที่ถูกใจต้องการทำ Favorite หรือ Bookmark เก็บไว้, ก็เพียง copy URL ไปไว้ในเว็บที่เราสมัครนี้ และอาจจะคลิกอีก 2- 3 ครั้ง เราก็จะได้ Bookmark online เก็บไว้ใช้ได้นานเท่านาน ทันทีที่ต้องการใช้เมื่อต่อเน็ต

ผมขอแนะนำเว็บ Bookmark online สัก 1 เว็บก่อนแล้วกันครับ คือ http://delicious.com/

วิธีใช้งาน
1. ลงทะเบียนสมัคร โดยคลิกที่ Join Now ที่ด้านบนของหน้า กรอกข้อมูลเพื่อการลงทะเบียนให้เรียบร้อย

2. เมื่อเวลาจะใช้งานก็คลิกที่ Sign In ที่ด้านบนของหน้า, กรอก Username และ Password, คลิก Sign In

3. คลิก Bookmarks ที่ด้านบนของหน้า, คลิก Save a new bookmark, copy URL ของเว็บหรือลิงค์ที่ชอบใจมา paste ลงในช่อง URL, คลิก next

4. หลังจากนี้จะมี 3 ช่องให้ท่านเติม ท่านเสียเวลาตรงนี้นิดเดียว แต่จะมีประโยชน์มาก ๆ ต่อไปในอนาคต เช่น สมมุติว่า ท่านทำ Bookmark เก็บไว้เป็นร้อย ๆ ลิงค์, ข้อมูลใน 3 ช่องที่ท่านกรอกตอนนี้แหละครับ จะช่วยให้ท่านค้นหา Bookmark ที่ท่านต้องการได้เจออย่างที่ต้องการจะเจอ (ท่านที่ทำ Favorite หรือ Bookmark ด้วยวิธีปกติ อาจจะเจอปัญหาเหมือนผม คือทำไว้เยอะจัดจนเมื่อจะหาอีกที ไม่รู้ว่ามันอยู่บรรทัดไหน)
ช่อง TITLE: ให้ตั้งชื่อลิงค์ที่เจาะจงและเหมาะสมที่สุด อย่าตั้งชื่อกว้างเกินไปจนไม่รู้ชัดว่ามันคืออะไร
ช่อง NOTES: พิมพ์คำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับชื่อ TITLE
ช่อง TAGS: พิมพ์คำที่ระบุถึงเนื้อหาของลิงค์นี้ เช่น ถ้าลิงค์มีเนื้อหาเกี่ยวกับ: dictionary ศัพท์ ดาวน์โหลดmp3 ก็พิมพ์ลงไปทั้ง 3 คำนี่แหละครับ จะเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยก็ได้ โดยเว้นวรรคระหว่างคำ
-เสร็จแล้ว คลิก save

5. เมื่อกลับไปที่หน้าหลัก Bookmark ของท่าน, ถ้าท่านต้องการแก้ไข TITLE, NOTES หรือ TAGS ก็ให้คลิกที่ EDIT ใต้ชื่อ TITLE ที่ท่านตั้งไว้, ถ้าต้องการลบทิ้งลิงค์ใดที่ทำ Bookmark ไว้ ก็คลิก DELETE

6. ที่บรรทัดเดียวกับ TITLE ตัวเลขที่ปรากฏท้ายบรรทัด(ถ้ามี) คือจำนวนสมาชิกที่ทำลิงค์นี้เป็น Bookmark, ถ้าคลิกที่ตัวเลขก็จะไปยังยังหน้าที่โชว์ Username ของคนเหล่านั้น และถ้าคลิกที่ Username ใดก็ตาม ก็จะเห็น Bookmark ทั้งหมดของเขาคนนั้น, ตรงนี้ขอเรียนว่า ถ้าท่านพบว่าใครบางคนทำ Bookmark ได้น่าสนใจตรงกับสเป็กที่ท่านชอบ ก็จด Username ของเขาไว้เลยครับ เพราะในวันหน้า ท่านสามารถคลิกที่ People, Go to a User, พิมพ์ Username ของเขา ก็จะเห็น Bookmark ใหม่ ๆ ที่เขาทำเพิ่ม

7. ที่หน้าหลัก Bookmark ของท่านตรงคอลัมน์ขวามือ, ท่านจะเห็นว่า TAGS ทั้งหลายที่ท่านพิมพ์ไว้ตามข้อ 4 ข้างบน มันจะเรียงกันลงมาตามตัวอักษร คือ a ถึง z, และ ก ถึง ฮ, ถ้าท่านคลิกที่ TAG คำใด ก็จะไปยังทุกลิงค์ที่ท่านพิมพ์ TAG คำนี้ไว้ นี่แหละครับที่ผมบอกว่า ถึงจะทำ Bookmark ไว้เป็นร้อย ๆ ลิงค์ ก็สามารถคลิกเพื่อค้นกลับไปหาเจอได้ง่าย ๆ

8. ยังมีอีก 1 บริการที่น่าสนใจมาก ๆ คือ ที่มุมบนขวามือตรงช่อง Search ท่านสามารถพิมพ์คำอะไรก็ได้ที่ท่านต้องการจะค้น Bookmark ที่คนอื่นทำ TAG ไว้ แต่คำที่พิมพ์ค้นควรจะเป็นภาษาอังกฤษนะครับ

เอาละครับ ถ้าท่านสนใจจะอ่านรายละเอียดการใช้บริการเต็มรูปแบบของ delicious.com คลิกที่นี่ครับ
http://delicious.com/help/learn

เว็บที่ให้บริการการทำ Bookmark หรือ Favorite online เหมือน delicious.com ยังมีอีกหลายเว็บ ถ้าสนใจจะสำรวจและ register เชิญคลิกที่ข้างล่างนี้
Digg it
StumbleUpon
Reddit
Technorati
Yahoo
Facebook
Google
Slashdot
BlinkList

พิพัฒน์
gemtriple@gmail.com

วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

[971]เชิญทำแบบทดสอบบุคลิกลักษณะ โดย ‘ดาไลลามะ’

สวัสดีครับ
แบบทดสอบบุคลิกลักษณะนี่นะครับ ที่เขาทำขึ้นมาอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ แม้จะมีความเบี่ยงเบน คลาดเคลื่อน ผิดพลาดอยู่บ้าง แต่ถ้าว่าง ๆ เอามาทดสอบตัวเองเล่น ๆ ก็ดีเหมือนกันครับ คือ เมื่ออ่านผลที่แบบทดสอบบอก เราก็จะได้พิจารณาว่ามันจริงหรือเปล่า บางท่านอาจจะบอกว่า เรามีลักษณะอย่างไรเรารู้อยู่แล้ว ไม่ต้องให้แบบทดสอบมาบอกหรอก อันนี้ก็จริงครับ แต่ว่า... (เป็น “แต่”ที่สำคัญมาก... ) บางทีเราก็ลืมมองมัน เพราะมันอยู่กับเรานานเกินไป เราอาจจะลืมมองทั้งสิ่งที่เป็น ‘จุดแข็ง’ และ ‘จุดอ่อน’ และการที่เราใช้ชีวิต และเป็นทุกข์หรือล้มเหลวอยู่บ้างในบางเรื่อง ก็อาจจะเป็นเพราะจุดอ่อนที่เราลืมมอง ลืมเสริมลืมซ่อม ก็เป็นได้

แต่ถ้าเราอ่านผลการวินิจฉัยของแบบทดสอบบุคลิกลักษณะอย่างรอบคอบแล้ว พบว่าแบบทดสอบนี้เป็นสายวัด ที่ใช้ไม่ได้ ก็ถือว่าทำแบบทดสอบเล่นสนุก ๆ ก็แล้วกันครับ และสำหรับพวกเราที่เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง จะถือว่าเป็นการฝึก reading skill ก็ได้

2 ลิงค์แรกข้างล่างนี้ เขาบอกว่าเป็นแบบทดสอบบุคลิกลักษณะของตัวเอง โดย ดาไลลามะ (จริงหรือเปล่าไม่ขอรับรองครับ) มีให้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย
ภาษาไทย (ได้รับไฟล์จากคุณ Nantaya - ขอบคุณมากครับ)
ภาษาอังกฤษ

ส่วนเว็บนี้ มีแบบทดสอบบุคลิกลักษณะอื่น ๆ อีกหลายอย่าง ผมลองเล่นดูบ้างแล้ว สนุกดีครับ
http://www.personalityquiz.net/index.htm

ถ้าสนใจ มีแบบ personality test อีกมากมายให้ท่านทำเล่น บางเว็บสนุกดี สามารถจดจำเอาไปเล่นกับเพื่อนได้สบายมาก
จาก Google: Tests
จาก Yahoo: Online Tests

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

[970] แนะนำ listen-to-english.com (+D/L mp3)

สวัสดีครับ
เว็บ http://www.listen-to-english.com/ ช่วยเราพัฒนาทักษะการฟัง การออกเสียง คำศัพท์ แกรมมาร์ และการอ่าน ทุก ๆ สัปดาห์ที่เว็บนี้จะมีเรื่องใหม่ 2 เรื่อง ๆ ละ 3 – 5 นาทีให้เราฝึกฟังและฝึกอื่น ๆ ไปพร้อมกับฟัง ทุกเรื่องมี script ให้อ่าน mp3ที่ฟังจากเว็บนี้เป็นสำเนียงอังกฤษที่ชัดมาก

วิธีใช้
คลิกที่ Subscribe to Podcasts ที่คอลัมน์ขวามือ
-ถ้าจะฟัง online ก็ให้กด shift พร้อมคลิกที่ Play Now จะมีหน้าต่างใหม่เล่น mp3 ซึ่งท่านสามารถอ่าน script ในหน้าต่างเดิมไปพร้อม ๆ กับฟัง(ลองฝึกฟังโดยไม่ดู script ก็ดีนะครับ หรือ อ่าน script ให้รู้เรื่องก่อนแล้วค่อยคลิก Play Now)
-คลิกที่คำตัวหนาใน script เพื่อศึกษาศัพท์คำนั้น
-ถ้าจะดาวน์โหลด mp3 ก็ให้คลิกขวาที่ File Download (X:XX min / X MB) ตอนท้ายของ script , คลิกซ้าย Save Target As… และ save
-บางเรื่องมีลิงค์ Vocabulary Notes, Quiz, หรือ Exercise ที่ตอนท้ายของ script ให้คลิกศึกษาเพิ่มเติม
-ถ้าต้องการฟังย้อนหลังก็ไปที่ Monthly Archive
-ถ้าต้องการอ่าน comment หรือเขียน comment ก็ให้คลิกที่ลิงค์ชื่อเรื่อง (บรรทัดแรกของเรื่องเหนือบรรทัด Play Now) นี่เป็นโอกาสที่ดีในการฝึก writing หลังจากที่ท่านได้ฝึก listening, reading จากเว็บนี้แล้ว พยายามฝึกเขียน

ผมได้ดาวน์โหลดไฟล์ mp3 พร้อม script จากเว็บนี้และรวบรวมไว้ให้ท่านดาวน์โหลดอย่างสะดวกข้างล่างนี้ (มีไฟล์ของเดือนมกราคม 2006 – 4 กุมภาพันธ์ 2009 ไฟล์ใหม่กว่านี้ท่านก็ดาวน์โหลดเอาจากเว็บนี้แล้วกันครับ)

เชิญดาวน์โหลดได้เลยครับ...

2006 January
2006 February
2006 March
2006 April
2006 May
2006 June
2006 July
2006 August ไม่มีครับ
2006 September
2006 October
2006 November
2006 December

2007 January
2007 February
2007 March
2007 April
2007 May
2007 June
2007 July
2007 August ไม่มีครับ
2007 September
2007 October
2007 November
2007 December

2008 January
2008 February
2008 March
2008 April
2008 May
2008 June
2008 July
2008 August ไม่มีครับ
2008 September
2008 October
2008 November
2008 December

2009 January
2009 February

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

[969] คุณค่าของคติพจน์

สวัสดีครับ
ตั้งแต่วันแรกที่เราปฏิสนธิในครรภ์มารดา เราก็ใช้เทคโนโลยีที่คนรุ่นก่อนประดิษฐ์ขึ้นมา เช่น อาหารเสริมที่แม่กินที่เสริมสุขภาพของทั้งแม่และลูก และพอคลอดออกมาเป็นคนตั้งแต่วันแรกเราก็ใช้เทคโนโลยีทุกวันเรื่อยไปจนเราตาย เราใช้มันโดยไม่ต้องมีคนคะยั้นคะยอให้ใช้ ถ้าเราชอบและมีเงินพอ-เราซื้อ! สิ่งเหล่านี้ทำให้ชีวิตสะดวก สบาย มีความสุข นี่คือเทคโนโลยีทางวัตถุ

ส่วนเทคโนโลยีทางนามธรรมที่คนรุ่นก่อนเราค้นพบหรือประดิษฐ์ขึ้นมา คือคำสอนของศาสนาต่าง ๆ คำสอนเหล่านี้จะบอกเราว่า เราควรจะคิดอย่างไร – รู้สึกอย่างไร – พูดอย่างไร – และทำอย่างไร นี่เป็นเทคโนโลยีด้านในที่สำคัญไม่น้อยกว่าเทคโนโลยีด้านนอก หรือพูดให้ถูกก็คือสำคัญกว่าเสียอีก เพราะชีวิตที่ขาดเทคโนโลยีทางจิต มีโอกาสมากที่จะรู้สึกนึกคิดอย่างผิด ๆ พูดผิด ๆ ทำผิด ๆ หรือหลงไปในทางผิด

เพราะฉะนั้น การอ่านหนังสือธรรมะทุกวันจึงมีประโยชน์ หรือบางช่วงก็ถึงขั้นจำเป็นถ้าเราพบกับวิกฤตจิตใจ เมื่อเป็นเช่นนี้ในช่วงที่ชีวิตยังปกติดีอยู่ การหาให้พบคำสอน, ประโยค, คติพจน์ ที่เป็นเสมือนยาสามัญประจำบ้านเก็บใส่ตู้ใจพร้อมหยิบใช้ได้ทันท่วงทีจึงเป็นสิ่งควรทำ

หนังสือที่รวบรวมคติพจน์ของผู้รู้ ก็เป็นหนังสือธรรมะประเภทหนึ่ง ตามความเห็นของผม หนังสือเหล่านี้มีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจเนื่องจากว่า
- ผู้กล่าวคติพจน์มักเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง หรือประสบความสำเร็จ หรือมีผลงานที่คนยอมรับในด้านใดด้านหนึ่ง คำพูดของเขาจึงมีน้ำหนัก, 1 ประโยคที่เขาพูดออกมาอาจจะกลั่นมาจาก 1 ชีวิตของเขา
- คำพูดที่ยกมาไม่ใช่ตำราสอนศีลธรรมหรือคัมภีร์ในการใช้ชีวิต แต่เป็นเพียงแง่มุมหนึ่งในการมองชีวิตเพื่อที่จะใช้ชีวิตให้ถูกต้อง ในขณะที่ชีวิตอาจจะมีแง่มุมให้มองเป็นร้อยๆพันๆแง่มุม แต่สำหรับเจ้าของคติพจน์ แง่มุมที่เขามองนี้คนอื่นก็ไม่ควรเมิน เพราะมันสำคัญสำหรับเขา และมันก็อาจจะเป็นประโยชน์สำหรับเราด้วย

- การที่หลาย ๆ คติพจน์เป็นคำพูดที่มีพลัง ทำให้คนฉุกคิดพิจารณา หรือสร้างแรงบันดาลใจ ก็เพราะว่ามีการใช้พลังของภาษาเข้าไปผสม เพราะต้องไม่ลืมว่าถ้อยคำของภาษานั้นมีพลัง ถ้านำพลังของภาษาบวกกับพลังของภาษิต อาจจะกลายเป็นคำสอนที่เปลี่ยนชีวิตคนเลยทีเดียว

- เราสามารถเปรียบเทียบการที่คน ๆ หนึ่งอ่านหนังสือรวมคติพจน์ หรือ quotation เหมือนการเดินเข้าไปหาซื้อของใน supermarket หรือห้างสรรพสินค้า เราจะเลือกซื้อสิ่งที่เราจำเป็นต้องใช้, สิ่งที่ใช้ได้ไม่ยุ่งยาก, สิ่งที่จะช่วยให้ชีวิตของเราสะดวก-สบาย-แข็งแรงขึ้นในอนาคต, สิ่งที่เรารู้จักวิธีใช้และไม่ทำให้เกิดอันตรายขณะใช้ ฯลฯ การพลิกอ่านหน้าหนังสือคติพจน์ก็เช่นกัน อันดับแรกเราก็ต้องรู้ตัวก่อนว่า ชีวิตของเราควรจะระวังอะไร, ควรจะเสริมเรื่องอะไร, ควรจะตระหนักหรือพยายามในเรื่องอะไร, ควรให้กำลังใจตัวเองในเรื่องอะไร, ควรตักเตือนตัวเองในเรื่องไหน ฯลฯ เราก็เลือกอ่านหรือช็อปปิ้งคติพจน์ที่เหมาะกับเรา ซึ่งอาจจะไม่เหมือนคนอื่น

- อย่างไรก็ตามการอ่านคติพจน์ก็ต้องระวังอย่างน้อย 2 ประการ คือ
1. เจ้าของคติพจน์อาจจะให้ความสำคัญกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไปจนละเลยเรื่องอื่น เช่น เขาอาจจะเน้นว่ามีชีวิตจะต้องมีความพยายามทำงานให้สำเร็จ แต่ไม่ได้พูดเรื่องการมีจิตที่สงบไปพร้อม ๆ กับการใช้ความพยายาม คนที่อ่านคติพจน์ทำนองนี้มาก ๆ อาจจะกลายเป็นคนเครียดขึ้นสมองโดยไม่รู้ตัว
2. ต้องระวังอย่านำเอาคติพจน์มาสนับสนุนข้อเสียที่เราพยายามจะรักษาไว้ เช่น นำเอามาใช้วิจารณ์คนอื่นแทนที่จะใช้ตักเตือนตัวเอง เหมือนซื้อมีดทำครัวที่เหมาะมือมา 1 เล่ม แต่กลับเอาไปใช้ฟันคนอื่นได้อย่างเหมาะมือ

ที่เว็บนี้ yuni.com มี story, ภาษิต, คติพจน์ ให้อ่านมากมาย แต่ที่ผมอยากจะแนะนำเป็นพิเศษ คือ Quote หรือหน้าที่รวบรวมคติพจน์, เมื่อเข้าไปแล้ว:
- ให้ท่านคลิกที่ Random Quotations และคลิกที่ New – Random Quote! ไปเรื่อย ๆ คำพูดใดที่อ่านแล้วเข้าใจและเห็นว่าเป็นประโยชน์ ก็ copy ใส่ WORD เก็บไว้เลยครับ
- จะสลับคลิกที่ NEW - Random Proverb ! ก็ดีเหมือนกัน
-ถ้าต้องการอ่านคติพจน์ของท่านใดท่านหนึ่ง คลิกที่ Famous_Quotes
- ท่านที่ติดศัพท์ คลิกใช้งานที่หน้านี้ครับ เพียงวางเมาส์บนคำศัพท์ ก็จะปรากฏคำแปลศัพท์เป็นภาษาไทย
- ถ้าอ่านครั้งแรกไม่ค่อยเข้าใจ ลองพยายามอีกสักครั้งเถอะครับ แต่ถ้าพยายามอ่านด้วยตัวเองหลายครั้งแล้ว หรือให้เพื่อนช่วยอ่านแล้ว ก็ยังไม่เข้าใจ ก็ไม่เป็นไรครับ ทิ้งมันไว้ก่อนก็ได้, แล้วก็คลิก New – Random Quote! เพื่ออ่านคติพจน์ใหม่ที่เราสามารถเข้าใจได้ง่ายกว่า

ตัวผมเองขณะที่เขียนบทความนี้ ก็ลองคลิกอ่านดูอยู่พักใหญ่ ได้ copy ตอนที่ผมชอบมาให้ท่านอ่านเล่นข้างล่างนี้ ผมหวังว่าท่านจะได้อ่านและ copy ตอนที่ท่านชอบเก็บไว้เช่นกัน

ศึกษาเพิ่มเติม:
จาก Google: Quotations
จาก Yahoo: Quotations

* * * * *
"Think like a man of action, and act like a man of thought." - Henri-Louis Bergson (1859-1941) French Philosopher, Psychologist, Nobel Prize Winner

"Love cures people - both the ones who give it and the ones who receive it." - Karl A. Menninger (1893-1990) American Psychiatrist


"When one door closes, another opens. But we often look so regretfully upon the closed door that we don't see the one that has opened for us." - Helen Keller (1880-1968) American Blind/Deaf Author, Lecturer, Amorist

"Keep your fears to yourself, but share your courage with others." - Robert Louis Stevenson (1850-1894) Scottish Writer, Essayist, Poet, Novelist

"All our lauded technological progress - our very civilization - is like the axe in the hand of the pathological criminal." - Albert Einstein (1879-1955) German-born American Physicist

"You pray in your distress and in your need; would that you might also pray in the fullness of your joy and in your days of abundance." - Khalil Gibran (1883-1931) Lebanese-born American Mystic Poet, Painter

"Freedom is from within." - Frank Lloyd Wright (1869-1959) American Architect

"Power is not only what you have but what the enemy thinks you have." - Saul Alinsky (1909-1972) American Political Activist

"As I grow older, I pay less attention to what people say. I just watch what they do." - Andrew Carnegie (1835-1919) Scottish-born American Industrialist, Philanthropist

"Reflect on your present blessings, of which every man has many, not on your past misfortunes, of which all men have some." - Charles Dickens (1812-1870) British Novelist

"Action may not always bring happiness; but there is no happiness without action." - Benjamin Disraeli (1804-1881) British Statesman, Prime Minister, Author

"Life is far too important to be taken seriously." - Oscar Wilde (1854-1900) Irish Author, Poet, Wit, Dramatist

"In life we shall find many men that are great, and some that are good, but very few men that are both great and good." - Charles Caleb Colton (1780-1832) British Sportsman, Writer

"The best way to give advice to your children is to find out what they want and then advise them to do it." - Harry S. Truman (1884-1972) 33rd U.S. President (1945-53)

"No one has a right to consume happiness without producing it." - Helen Keller (1880-1968) American Blind/Deaf Author, Lecturer, Amorist

"They say a person needs just three things to be truly happy in this world: someone to love, something to do, and something to hope for." - Thomas Edward Bodett (1955~) American Author, TV Host, Radio Commentator

"Everyone is a prisoner of his own experience. No one can eliminate prejudices - just recognize them." - Edward R. Murrow (1908-1965) American Broadcaster, Journalist

"It is very easy to forgive others their mistakes. It takes more grit and gumption to forgive them for having witnessed your own." - Jessamyn West (1902-1984) American Author

"Most women's magazines simply try to mold women into bigger and better consumers." - Gloria Steinem (1934~) American Feminist, Journalist, Lecturer

"If you deceive someone, you lose one of life's greatest treasures, you lose the capacity to trust. Because without trust, love is not possible." - Osho (1931-1990) [Bhagwan Sree Rajneesh] Indian Spiritual Leader

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com